บทที่ 19
ความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่ลานด้านหลัง ทุกสายตาจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มนามว่าเนี่ยฟง ยืนจ้องมองหุ่นไม้ด้านหน้าอย่างไม่วางตา โคจรลมปราณไปที่ดาบในมือขวาไม่ถึงสี่ลมหายใจ ยกดาบขึ้นฟันออกไปด้านหน้า ปราณดาบสีฟ้าพุ่งออกไปพร้อมกันสองเล่ม เปรี้ยง ตูม ปราณดาบเล่มแรกพุ่งไปปะทะที่หน้าอกของหุ่นไม้จนเกิดรอยร้าว ปราณดาบเล่มที่สองเข้าปะทะจนเกิดการแตกออก เศษไม้พุ่งกระจายออกไป เด็กหนุ่มรีบหันหลังกลับไปมองมู่ซุนกวนที่กำลังยืนนิ่งข้าง ข้างๆคนรีบใช้อีกสามคน
“ท่านมู่ซุนกวนขอรับ”
เสียงเรียกจากเด็กหนุ่มดังมาจากลานประลอง เมื่อกันไปมองก็พบว่าเด็กหนุ่มนามเนี่ยฟงยืนยกยิ้มอยู่
“รบกวนท่านนำดาบของข้าเล่มนี้ลงประมูลได้หรือไม่ขอรับ”
“ได้แน่นอน”
มู่ซุนกวนรีบหันไปมองคนรับใช้
“พวกเจ้าทั้งสองเก็บดาบของคุณชายเอาไว้ให้ดี ให้คนส่งข่าวแจ้งออกไป อีกสิบห้าวันจะมีการประมูลดาบสลักอักขระศักดิ์สิทธิ์”
เด็กหนุ่มเนี่ยฟงยื่นดาบในมือให้แก่คนรับใช้ หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินมาที่ร้านยา ทั้งสองตรวจดูพื้นที่ทั้งหมดอีกครั้ง
“ท่านปู่ท่านต้องการจะย้ายส่วนต่างๆหรือไม่ขอรับ”
“ไม่ต้องแล้วทุกอย่างถูกจัดวางอย่างดี ไม่มีส่วนไหนต้องซ่อมอีกเพียงแค่ทำความสะอาดก็พอ”
“เช่นนั้นปล่อยไว้ให้เป็นหน้าที่ข้าเองขอรับ”
“จริงสิเจ้าไม่ได้ทานอาหารฝีมือปู่มานาน เอาเป็นว่าเจ้ารับหน้าที่ทำความสะอาดไป ส่วนปู่จะทำอาหารให้เจ้าทานเอง”
ขายชราเนี่ยกังรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวด้านหลัง เด็กหนุ่มเนี่ยฟงรับจัดการเก็บกวาดพื้นที่ด้านล่างจนหมด เวลาก็ผ่านไปเกือบสองชั่วยาม ในระหว่างนั้นชายชราเนี่ยกังก็ยกอาหารมาตั้งไว้ที่โต๊ะบ้างแล้วสองสามอย่าง ไม่ถึงหนึ่งเค่อก็ได้ยินเสียงเรียกด้านหน้า ชายชราเนี่ยกังรีบเดินไปเปิดประตูไม้ ก็พบว่ามู่ซุนกวนนำคนรับใช้มาแปดคน ขายชราเนี่ยกังเชิญมู่ซุนกวนเข้ามาในร้านยา เพียงแต่ว่ามู่ซุนกวนปฏิเสธเพราะต้องไปแจ้งเรื่องดาบให้แก่พวกที่อยู่ในเขตปกครองของผู้มีอำนาจ มาที่นี่เพียงแค่นำคนรับใช้มาช่วยทำความสะอาดที่นี่เท่านั้น
ในระหว่างที่คนรับใช้ทั้งแปดของมู่ซุนกวนทำความสะอาดร้านยา สองปู่หลานก็นั่งทานข้าวกัน ไม่นานเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นคนรับใช้ทั้งแปดคนก็ลากลับบ้านตระกูลมู่ เด็กหนุ่มเนี่ยฟงยืนอยู่ด้านหลังร้านยาด้านหน้าบ้านพักหลังใหญ่ เสียงสะบัดมือดังเป็นระยะๆอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นอักขระศักดิ์สิทธิ์ด้านในหมุนวนไปมา ไม่นานก็ค่อยๆคลุมพื้นที่ทั้งหมดหลังจากนั้นก็จางหายไป เสียงเหนื่อยหอบดังมาจากเด็กหนุ่ม ไม่นานก็ได้ยินเสียงเรียกให้ไปทานอาหาร
รุ่งเช้าเด็กหนุ่มก็นำสมุนไพรที่เก็บระหว่างทางที่ป่ามรณะออกมา ชายชราเนี่ยกังถึงกับยืนมองตัวสั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น สมุนไพรบางชนิดแทบไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มค่อยๆอธิบายไปที่ละต้นและจำนวนปี มีคุณสมบัติเป็นอย่างไร เป็นส่วนประกอบตัวยาไหนบ้าง เวลาผ่านไปจนถึงเย็นทั้งสองก็ยังคงคัดเลือกสมุนไพรกันอยู่ ผ่านไปจนถึงวันที่สามเด็กหนุ่มก็แสดงวิธีการปรุงยาอีกแบบให้แก่ชายชรา
สมุนไพรถูกวางไว้ด้านหน้าสามอย่าง อย่างแรกเป็นสมุนไพรมีกลิ่นเหม็นฉุนใบใหญ่และมีความสาก อย่างที่สองเป็นราก อย่างที่สามเป็นหัวคล้ายหัวหอม เด็กหนุ่มโบกสะบัดมือขวาหม้อเหล็กขนาดกลางก็ปรากฏที่ด้านหน้าของเด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มโยนสมุนไพรทั้งหมดไปที่หม้อ หลังจากนั้นค่อยๆส่งปราณไปที่หม้อเหล็ก ทั้งหมดค่อยๆถูกแยกออกจากกันโดยลมปราณ ไม่นานด้วยความร้อนจากปราณและการบีบอัด สุดท้ายก็ออกมาเป็นของเหลวสามอย่าง
ของเหลวทั้งสามพุ่งเข้ามาผสมกันตรงกลางหม้อเหล็ก ปราณสีฟ้าค่อยๆแยกทั้งหมดออกเท่าๆกัน สุดท้ายก็กลายเป็นเม็ดยาสองเม็ด ทันทีที่เด็กหนุ่มปรุงยาเสร็จกลิ่นหอมของเม็ดยาก็โชยออกมา เมื่อได้กลิ่นยาชายชราเนี่ยกังถึงกับตื่นตกใจมากกว่าเดิม เพราะกลิ่นของเม็ดมา มันคือเม็ดยาที่เอาไว้รักษาบาดแผล เพียงแต่ว่าสีของเม็ดยาต่างกัน เด็กหนุ่มหยิบเม็ดยาทั้งสองออกมาพร้อมกับนำมันมาให้ชายชราเนี่ยกัง
“ท่านปู่ไม่ต้องสงสัยไปขอรับ มันคือเม็ดยาเดียวกันที่ให้มู่ซุนกวนไป หากทิ้งไว้นานมันก็จะกลายเป็นสีแดงเอง”