ตอนที่แล้วตอนที่ 66 ถอดออกมาสิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 68 คนขี้ขโมย

ตอนที่ 67 พังมันซะเลย


อีกด้านของครอบแก้วเมื่อสางลำไพรกับทศพลหนีมาได้สักระยะหนึ่งก็ไปพบกับทีมปักษาหงส์ทองและเตชินท์เข้าโดยบังเอิญจึงเกิดการปะทะขึ้น ทว่าสางลำไพรกลับต้องพ่ายแพ้ให้กับทีมปักษาหงส์ทองของบุษย์น้ำทองไปอย่างง่ายดาย เพราะเตชินท์ที่เป็นสมาชิกของทีมนิรันดร์กาลกลับแปรพักตร์ เขาฉวยโอกาสยามที่สางลำไพรเผลอ แล้วเข้าโจมตีครั้งเดียวด้วยการสับต้นคอจนสลบ ทำให้วิชาอาคมที่เธอเรียกออกมาสลายหายไปทั้งหมด

บุษย์น้ำทองมองเตชินท์ด้วยสายตารังเกียจและดูแคลน แม้เขาจะช่วยเธอ แต่เขาก็นับว่าเป็นคนทรยศ เพื่อนร่วมทีมก็ยังลงมือได้อย่างไม่ลังเล เธอไม่ชอบคนแบบนี้

“คนอื่นจะมองข้ายังไงข้าไม่สน แต่เจ้าจะมองข้าเช่นนั้นไม่ได้ เพราะทุกอย่างที่ข้าทำล้วนทำเพื่อเจ้า”

คำตอบของเตชินท์นั้นหนักแน่นและเต็มไปด้วยความจริงใจ แต่บุษย์น้ำทองหาได้รู้สึกอันใดไม่ เธอไม่ต้องการให้เตชินท์ติดตามดังนั้นจึงแยกทีมของตนเองออกมา แต่เตชินท์ก็เลือกที่จะติดตามไปอย่างเงียบ ๆ หน้าที่ของเขาคือปกป้องเธอตามที่หัวใจต้องการเพียงเท่านั้น

หลังจากที่ทีมปักษาหงส์ทองได้สร้อยเพิ่มมาอีกห้าเส้นจากทีมนิรันดร์กาล รวมทั้งหมดเป็นหกเส้น พวกเธอก็ถูกทีมนาคราชที่ซุ่มรออยู่ใต้คูน้ำโจมตี ขณะกำลังจะผ่านเขตคูน้ำ เพื่อเข้าไปยังเขตใจกลางมหาวิหาร ปราณนาคราชถูกใช้ออกมาอย่างเต็มกำลัง ปรากฏเป็นภาพร่างของนาคราชที่พุ่งขึ้นมาโจมตีทีมของบุษย์น้ำทองอย่างดุเดือดดุเดือด

และขณะที่ทีมปักษาหงส์ทองและทีมนาคราชปะทะกันอยู่นั้น ทีมเทพเจ้าที่ถือว่าตัวเองแข็งแกร่งสุดก็เข้ามาร่วมวงด้วย แต่การเข้ามาร่วมวงในครั้งนี้พวกเขาไม่ได้คิดจะมาชุบมือเปิบ แต่พวกเขากลับให้ความร่วมมือกับทีมปักษาหงส์ทอง เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดของเหล่าตระกูลครุฑ

สมาชิกตระกูลที่มีปราณครุฑทั้งหลายต่างเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าพวกตนเก่งกล้าไร้ผู้ต่อกร แต่พวกเขาก็มีจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวที่สำคัญ นั่นคือจำนวนทายาทในแต่ละรุ่นช่างน้อยนิดจนน่าใจหาย บางทีพวกเขาก็แอบอิจฉาตระกูลนาคราชที่แม้จะไม่อาจสร้างทายาทนาคราชห้าเศียรขึ้นมาได้ แต่พวกเขาก็มีทายาทมากมายเหลือเกิน ดังนั้นต่อให้ภารกิจระดับสูงจะสำคัญเช่นไร ทว่าความสัมพันธ์ของสายเลือดปราณครุฑชั้นสูงสำคัญกว่านั้น

เมื่อตระกูลนาคราชต้องเผชิญกับการต่อสู้แบบ 6 ต่อ 3 พวกเขาก็ไม่อาจรับไหว นั่นบีบให้พวกเขาต้องถอนตัวกลับไปตั้งหลักเพื่อหาโอกาสกลับมาอีกครั้ง

เหนือภพให้ไร้ชื่อที่มีความสามารถในการสะกดรอยเร่งติดตามทีมนิรันดร์กาล แต่สุดท้ายก็ต้องมาเจอว่าเธอสลบไสลอยู่ พอไถ่ถามก็ได้ความว่าพวกเธอถูกคนในทีมของตัวเองทรยศ สร้อยภารกิจทั้งหมดน่าจะตกอยู่ในมือของทีมปักษาหงส์ทองแล้ว

เหนือภพเร่งติดตามไปก็พบเพียงซากปรักหักพังและร่องรอยความเสียหายที่เกิดจากการต่อสู้รุนแรงที่บริเวณคูน้ำ เมื่อเขาเข้าไปถึงเขตของมหาวิหารโบราณก็ถูกทีมเทพเจ้าโจมตีจากระยะไกล ทำให้เหนือภพต้องรีบหาที่กำบังตัวเอง เขาถอยออกมาอย่างไม่มีทางเลือก

“เจ้าพวกบ้านั่น บีบบังคับกันเกินไปแล้ว”

เหนือภพบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิด เมื่อเขาไม่สามารถบุกเข้าในเขตวิหารได้ การโจมตีจากบนฟ้าเป็นอะไรที่ยากจะป้องกัน อีกทั้งการโจมตีนั้นยังมาจากคนคนเดียว ซึ่งพญานาคออกความคิดว่า เขาน่าจะเป็นคนสายเลือดเผ่าครุฑที่มีลักษณะเด่นในการโจมตีจากบนฟ้าเป็นทุนเดิม หากไม่สามารถเด็ดปีกมันได้ก็ยากที่จะหาคู่ต่อกร

“ทำไมเจ้าไม่ให้นังหนูหมอผีนั่นช่วย ต่อให้เป็นเผ่าครุฑหากไม่มีของขลังกันภูตผี ก็แย่ไม่ต่างพวกเราเหมือนกัน”

พญานาคออกความคิดเห็นอย่างตั้งใจ แม้มันจะเก่งกาจมากเพียงใด แต่การต่อสู้ในสมรภูมิบนฟ้าเป็นอะไรที่มันไม่ถนัด นั่นทำให้เหนือภพจ้องมองพญานาคที่ขดตัวเป็นวงกลม วางท่าทางสมกับเป็นผู้อาวุโสที่น่านับถือ ผิดกับท่าทางที่ผ่านมาที่นอกจากหาเรื่องแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

เหนือภพย่นคิ้วอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

“แต่นางจะยอมร่วมมืองั้นหรือ ก็เจ้าเล่นกินแขนข้างหนึ่งของเพื่อนนางไป ถ้านางยังเป็นคนปกตินางย่อมไม่ยอมแน่ เผลอ ๆ อาจจะฆ่ากันตายพอดี”

เหนือภพจึงตัดความคิดที่จะร่วมมือกับสางลำไพรไปโดยสิ้นเชิง ความแค้นของอิสตรีเป็นสิ่งที่น่ากลัว ดังนั้นเขาไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวดีกว่า

“ทำไมไม่ให้พวกข้าช่วยล่ะ”

หนึ่งในทีมนาคราชเอ่ยขึ้นเบื้องหลังเหนือภพ เขาทำให้เหนือภพแปลกใจไม่น้อย แต่พญานาคกลับไม่แสดงท่าทีตกใจอะไร ราวกับว่ามันสัมผัสได้ตั้งนานแล้วว่ามีทีมอื่นอยู่ด้วย เมื่อเหนือภพคิดย้อนดูก็คิดออกว่าก่อนหน้านี้พญานาคดูเหมือนจะทำตัวให้น่าเคารพที่แท้ก็เพราะสาเหตุนี้

“หลานคำนับผู้อาวุโส”

ลูกหลานตระกูลนาคราชทั้งสามกล่าวขึ้นพร้อมก้มกราบพญานาคตัวโตอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยความรู้สึกเคารพเทิดทูนสุดใจ

พญานาคผงกเศียรรับด้วยท่าทางนิ่งสงบ จากนั้นก็พูดกับพวกเขาอย่างใจดี

“เด็กดี ปู่จะให้ของขวัญแก่พวกเจ้า”

พูดจบพญานาคก็ทำการสลัดเกล็ดที่ทรงคุณค่าของตนออกไปสามเกล็ด พวกมันลอยเข้าไปหาบุตรหลานตระกูลนาคราชทั้งสามคน

เหนือภพยืนอึ้งรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้เกล็ดพญานาคจะไม่มีประสิทธิภาพเท่าแก้วจันทรกาล แต่มันก็ให้ผลที่ต่างกัน แก้วจันทรกาลสามารถแก้สารพัดพิษจากสัตว์ร้าย ป้องกันงู ดลบันดาลให้งูทำตามสั่งได้ มันมีอำนาจที่ส่งเสริมจิตสมาธิทำให้ควบคุมพลังอาคมได้ง่าย ส่วนเกล็ดของพญานาคเป็นโล่เกราะชั้นเลิศที่ยิ่งกว่าเกล็ดอสูรกริมเสียอีก เหนือภพต้องลงทุนลงแรงไปมากมายจนแทบจะสิ้นลมเพื่อทำให้เกล็ดพญานาคหลุด แต่นี่พวกเขาทั้งสามกลับได้รับไปอย่างง่ายดาย

เหนือภพนิ่วหน้าเมื่อเห็นว่าพญานาคเอาแต่สนใจทีมนาคราช ส่วนทีมนาคราชก็เอาแต่เข้าหาเอาอกเอาใจพญานาคอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาดูเหมือนจะไม่สนใจการแข่งขันมากนัก นี่ก็เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้นการประมูลรอบนี้จะสิ้นสุดลง ดังนั้นเหนือภพจะไม่ยอมสูญเงินค่าสมัครไปเปล่า ๆ แน่

เหนือภพไม่คิดต่อว่าหรือตัดพ้อพญานาค ถึงอย่างไรพญานาคก็ไม่ได้ถือว่าเป็นลูกน้องหรือสมาชิกในทีม ช่วยก็ดีแต่ถ้าไม่ช่วยเขาก็แค่ต้องพยายามให้มากกว่าเดิมเท่านั้น ส่วนเฮงเฮงที่หายตัวไปอย่างประหลาดก็ทำให้เหนือภพเป็นกังวล

เหนือภพกับไร้ชื่อออกสำรวจรอบบริเวณนั้น จากที่สังเกตการณ์โจมตีของทีมเทพเจ้าจะมาจากดาดฟ้ามหาวิหารโบราณ พวกเขาหลบซ่อนอยู่บนจุดสูงสุดบนนั้นแน่ ถ้าเช่นนั้นวิธีแก้ไขก็ง่ายแสนง่าย ก็แค่ทำลายวิหารบ้านั่นทิ้งซะ

แต่จะทำลายมหาวิหารได้คงต้องเข้าใกล้วิหารอีกสักนิด และทางเดียวที่จะเข้าใกล้วิหารได้โดยไม่ถูกโจมตีก็คือทางน้ำ มหาวิหารถูกสร้างขึ้นโดยมีคูน้ำล้อมรอบ มันเป็นคูน้ำลึกที่มีสีดำคล้ำมีกลิ่นสาบเล็กน้อย หากดูจากโครงสร้างคูน้ำดังกล่าวน่าจะเคยเป็นทางน้ำที่ใช้ในการสาธารณูปโภคที่น่าจะเชื่อมต่อเข้าไปถึงใจกลางของมหาวิหาร ขอเพียงแค่เขาเข้าไปถึงตรงนั้นแล้วทำลายแกนโครงสร้างหลักของมหาวิหาร หากมันไม่ถล่มลงมาก็ให้รู้ไป

“ไร้ชื่อ นายช่วยล่อพวกมันให้ที ข้าจะลงไปยังคูน้ำนั่น”

เหนือภพหาที่เหมาะ ๆ ก่อนจะรวบรวมกำลังทั้งหมดของร่างกายลงไปยังน่องทั้งสองข้าง ก่อนจะพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็ว แค่เพียงเขาเคลื่อนตัวเพียงเล็กน้อยขนนกอาคมสีทองนับร้อยเส้นก็พุ่งลงมาจากฟากฟ้า พวกมันพุ่งเข้าหาเหนือภพต่อเนื่อง ต่อให้เหนือภพหนังเหนียวเพียงใดก็อาจเกิดบาดแผลสาหัสได้ เนื่องจากขนนกอาคมที่คมกริบเหล่านั้น

ทว่าความเร็วของขนนกยังช้ากว่าความเร็วของเหนือภพ เขาออกแรงวิ่งสุดกำลังซึ่งนำกลุ่มขนนกไปก้าวหนึ่งเสมอ ทำให้ขนพุ่งตกลงมาพลาดเป้าก่อให้เกิดการระเบิดด้านหลังเหนือภพแทน ฝุ่นควันตลบอบอวลจากการระเบิดนับร้อยครั้งบดบังทัศนียภาพของผู้คนโดยรอบ แต่มันไม่อาจถูกปกปิดจากสายตาของบุรุษหนุ่มแห่งตระกูลสุบรรณเวนไตย

ดวงตาของ ‘บรรพต’ เปล่งประกายสีทองเจิดจ้า ภาพของเหนือภพปรากฏชัดในดวงตาคล้ายกับว่าเขาได้เข้าไปจ้องมองอยู่ใกล้ ๆ

บรรพตขยับร่างกายพลางเปล่งพลังปราณอาคมประจำสายตระกูลเวนไตย บังเกิดเป็นภาพร่างของพญาครุฑสยายปีกก่อนจะสะบัดปีกไปด้านหน้าเพื่อปล่อยขนนกอาคมที่มีอานุภาพร้ายกาจกว่าชุดแรก เมื่อขนนกหนึ่งเส้นปะทะเข้ากับพื้นดินก็สามารถแหวกพื้นให้กว้างกว่าหนึ่งเมตรเลยทีเดียว

สิ่งปลูกสร้างที่ขวางขนนก ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นหรือกำแพงก็ล้วนถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง เหนือภพวิ่งซิกแซกไปมา มีหลายครั้งที่เขาหลอกล่อให้ขนนกอาคมที่พุ่งติดตามมาไปชนกับสิ่งปลูกสร้างแทน เหนือภพทำแบบนี้จนกระทั่งสามารถกระโดดลงไปในคูน้ำได้สำเร็จ ขณะที่ขนนกอาคมที่ตามมาปะทะเข้ากับผิวน้ำ เกิดเป็นระเบิดตูมตามต่อเนื่องนับร้อยครั้ง จนทำให้ขอบตลิ่งหินสองฝั่งคูน้ำถล่มลงมา จากนั้นบรรพตก็จำต้องหยุดมือเมื่อเขาไม่สามารถเห็นเหนือภพอีก

“เจ้าทำรุนแรงเกินไปหรือเปล่า ขืนเขาตายขึ้นมันคงไม่ดีต่อตัวพวกเราหรอกนะ”

‘ลมกรดขาว’ เอ่ยขึ้นอย่างเป็นกังวล

“ตายรึ หากเป็นเช่นนั้นก็ดี ข้าจะไม่ได้ไม่ต้องเปลืองแรง บรรพตเจ้าคิดว่าเล็บมือที่ข้าทำมาใหม่สวยหรือไม่”

‘ลินดา’ ตัวแทนจากสำนักงานฮันเตอร์เอ่ยขึ้นพร้อมกรีดนิ้วมือเรียวงามกับเล็บที่ถูกทาด้วยสีชมพูสดใสขึ้นมาให้ทุกคนดู

บรรพตพยักหน้าแล้วพูดสั้น ๆ อย่างขอไปที

“ก็ดี”

“เจ้าชอบมันสินะ ครั้งหน้าเจ้าคิดว่าข้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนกว่านี้ดีหรือเปล่า”

“อืม”

“เจ้าคิดว่าระหว่างสีชมพูกุหลาบ สีชมพูฟลามิงโก สีชมหวานเย็น และก็สีชมพูอมส้ม เจ้าคิดว่าสีไหนสวย แต่ข้าคิดว่าใช้สีชมพูกุหลาบผสมสีชมพูบานเย็นนิดหน่อยน่าจะดีกว่า เจ้าคิดว่ามันจะเหมาะกับข้าไหม”

“เหมาะ”

“ดีเลย งั้นข้าจะเพิ่มสีพีชเข้าไปอีกหน่อย”

“เฮ้อ ประสาทกันทั้งทีม เตือนอะไรก็ไม่ฟัง”

ลมกรดขาวผู้มีสีขาวเกือบทั้งตัว คุณชายแห่งตระกูลชวดสีขาวกำลังนอนตะแคงเท้าคางแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ เมื่อต้องมานั่งฟังผู้หญิงพูดมากที่พูดได้ทั้งวัน พูดวนอยู่แต่เรื่องเดิม ส่วนอีกคนก็พูดน้อยจนเขาคิดว่ากำลังคุยอยู่กับหุ่นไม้

ครืน ครืน

เสียงแปลกประหลาดและการสั่นไหวของสิ่งปลูกสร้างที่พวกเขาพักอยู่ ทำให้ลมกรดขาวที่นอนเท้าคางอยู่ถึงกับสะดุ้ง แขนที่ใช้รองรับหัวสีขาวของเขาถูกแรงสั่นสะเทือน จนหลุดออกจากตำแหน่งเดิม จนหัวของเขาเกือบตกกระแทกพื้น ส่วนลินดาก็กรีดร้องตกใจแล้วก็เงียบเสียงไปอย่างรวดเร็ว

“เกิดอะไรขึ้นค่ะเนี่ย ทำไมมหาวิหารถึงสั่นไหวได้ นั่น ดูนั่นสิเจ้าคะ มหาวิหารกำลังถล่มลงมาเจ้าค่ะ”

พิธีกรพูดจบ ภาพมหาวิหารขนาดใหญ่ก็ถูกฉายขึ้นบนครอบแก้ว ทำให้ทุกคนได้เห็นพร้อมกัน การสั่นสะเทือนนี้คล้ายว่าถูกทำลายจากภายใน

โครงสร้างของมหาวิหารค่อย ๆ พังทลายจากภายใน เสาต้นกลางแตกหักแล้วก็ค่อย ๆ ทรุดตัวลง ลุกลามขยายตัวต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดตัวมหาวิหารก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ เกิดเสียงดังราวฟ้าถล่มสะท้อนกังวานไปทั่วบริเวณ รัศมีความเสียหายจากการถล่มของมหาวิหารมีรัศมีกว้างกว่าแปดร้อยเมตร จากซากอารยธรรมที่ยังคงความงดงามกลายเป็นภูเขาซากหินสีขาวนวลขนาดใหญ่

ตึง !

คลื่นจากกองหินขนาดมหึมาแผ่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง ต้นไม้ที่อยู่รอบ ๆ วิหารต่างถูกคลื่นหินคลื่นหินโถมซัดจนหักโค่นระนาว ไม่กี่วินาทีจากนั้นฝูงสัตว์อสูรผู้พิทักษ์พื้นที่ก็แตกกระจายกันออกมา ไม่ว่าจะเป็นอสูรหมีขาว อสูรเต่ายักษ์ อสูรปลาบก และตัวอื่น ๆ อีกมากมายที่ยังหลบซ่อนอยู่ ทว่าในตอนนี้พวกมันไม่มีที่หลบซ่อนอีกแล้ว เช่นเดียวกับเหล่ามนุษย์ที่กำลังต่อสู้กันอยู่รอบ ๆ ต่างก็แตกฮือออกมากันครบทั้ง 11 ทีม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด