TQF:บทที่ 717 งานประลองการสกัดยา (4)
TQF:บทที่ 717 งานประลองการสกัดยา (4)
“อาจารย์ปู่ นายน้อย ในที่สุดพวกท่านก็มา งานประลองการสกัดยาจะเริ่มแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ” มหาผู้อาวุโสรีบแจ้งสถานการณ์ให้พวกเขาฟัง
“จะเริ่มแล้วเหรอ”
ตาแก่ซอมซ่อเหล่มองลูกศิษย์พลางถามขึ้นด้วยท่าทีไม่เป็นเดือดเป็นร้อน “ซุนเอ๋อน้อย เจ้าจะไปหรือไม่”
“ไปสิ ต้องไปอยู่แล้ว แต่พวกเจ้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวข้าตามไปหาพวกเจ้า” ตอนนี้ในใจของโม่ซวนซุนแค่อยากตามหาคนรักเท่านั้น ส่วนงานประลองการสกัดยาอะไรนั่นเขาไม่สนใจเลยสักนิด
“เรื่องนั้น….”
มหาผู้อาวุโสยิ้มเฝื่อนๆ “นายน้อย ผู้อาวุโสจากสำนักต่างๆรอท่านกับอาจารย์ปู่อยู่ ข้าว่าทุกท่านไปก่อนดีกว่ามั้ย”
“พวกเขาอยากจะพบข้า?”โม่ซวนซุนขมวดคิ้ว เขาไม่รู้เลยว่าฐานะนายน้อยวิหารสวรรค์ทำให้เขาเป็นที่เฝ้ารอของเหล่าปีศาจเฒ่ามาตั้งนานแล้ว ทุกคนล้วนอยากพบหน้าเขา
โม่อู๋เซอรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ สถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ไปไม่ได้ จึงช่วยกล่อม “ซุนเอ๋อ ในเมื่อเป็นเช่นนี้เราไปพบหน้าพวกเขาที่งานประลองก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ”
“ก็ได้” แม้ว่าโม่ซวนซุนจะไม่ค่อยอยากเสียเวลาของตัวเองไป แต่คำสั่งของอาจารย์เขายังพอจะรับได้อยู่
“อาจารย์ปู่ นายน้อย เชิญ….”
เพิ่งจะมาถึงโถงวิหารสวรรค์สาขา นั่งเก้าอี้ยังไม่ทันจะอุ่นก็หายตัวไปอีกแล้ว
บ้านตระกูลฟาง
ฟางซูหยุนเฝ้าอยู่ที่ตึกเล็กเพียงลำพัง รอการปรากฏตัวของหลานสาว
ไม่นานนักก็มีร่าง 2 ร่างปรากฏตัวขึ้น ฟางซูหยุนถอนหายใจด้วยความโล่งอก มองพวกนางและเอ่ยขึ้น “โชคดีพวกเจ้าออกมาแล้ว ถ้าไม่ออกมาอีกได้พลาดงานประลองแน่”
“เฮ่ะๆ ฮูหยินฟาง สบายใจได้ ข้ากับคุณหนูจำได้น่า จะพลาดโอกาสนี้ไปได้ยังไง” หยูเฮงน้อยหรี่ตา
ฟางซูหยุนพยักหน้านิดหน่อยและหันไปมองคนข้างๆ “เสี่ยวเสี่ยว เจ้าไปดูมั้ย”
“ก็แค่การประลองเท่านั้น” น้ำเสียงของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวนิ่งเรียบอย่างมาก “ให้หยูเฮงน้อยเข้าร่วมไปก่อน ข้ายังไม่ปรากฏตัว รอตอนบ่ายก่อนข้าค่อยไปดูเรื่องสนุก”
“เจ้าจะยังไม่ปรากฏตัวตอนนี้?”
ฟางซูหยุนประหลาดใจ คิดไปคิดมานางก็พยักหน้า “งั้นข้าไปกับหยูเฮงน้อยด้วย”
“ไม่ต้องหรอกท่านย่า ให้หยู่เฮงน้อยไปเองก็ได้ ให้นางเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ให้คนจำไม่ได้ก็พอ”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวปฏิเสธข้อเสนอของท่านย่าเสียงเบา หยูเฮงน้อยพยักหน้าและเอ่ยขึ้น “ฮูหยินฟางวางใจเถอะ ข้าพาสาวใช้ไปแค่ 2 คนก็พอ”
“เรื่องนั้น…” ฟางซูหยุนกังวลอยู่นิดหน่อย
“ท่านย่า ท่านวางใจเถอะ หยูเฮงน้อยไม่เป็นอะไรหรอก” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวปลอบใจนาง ก่อนจะกรอกสายตาและเอ่ยขึ้น “ท่านย่า ไม่อย่างนั้นท่านพาพี่ชายพี่สาวไปกับหยูเฮงน้อยมั้ย”
“พวกเราเหรอ….”
ฟางซูหยุนชะงักไปนิดหน่อยและพยักหน้า “ได้ งั้นพวกเราไปกับหยูเฮงน้อยนั่นแหละ มีคนดูแลก็น่าจะดีกว่า”
“อิอิ เยี่ยมไปเลย เราไปกันเถอะฮูหยินฟาง”
หยูเฮงน้อยจูงฟางซูหยุนออกไปอย่างมีความสุข เหลือเฉิงเสี่ยวเสี่ยวไว้ที่ตึกเล็กเพียงคนเดียว
ผ่านไปไม่นานผู้เฒ่าหยิงก็ปรากฏตัวขึ้น ประสานมือ “คุณหนู…..”
“คุณหนู….”
ขันทีชราอาเฟิงก็มาอยู่ตรงหน้านางเช่นกัน ทั้ง 2 รอรับคำสั่งจากนาง
สายตาเฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองไปที่อาเฟิงก่อน และถามขึ้น “อาเฟิง พวกมันเป็นไงบ้าง”
“คุณหนูวางใจเถอะ พวกเขาล้วนคอยเฝ้ามองอยู่รอบๆลานกว้าง ไม่เป็นที่สังเกตของผู้คน” อาเฟิงตอบ
“งั้นก็ดี” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้าและเบือนสายตาไปที่ผู้เฒ่าหยิง “คุณหนู คนบ้านสามยังไม่มีทีท่าว่าจะลงมือในตอนนี้ แต่ลมปราณพวกเขายังไม่เสถียรนัก มีโอกาสลงมือได้ทุกเมื่อ”
“น่าจะใกล้แล้วล่ะ”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพูดอย่างใช้ความคิด สายตาทอดไปยังทิศบ้านสาม ค่อยๆคลี่มุมปากออกด้วยรอยยิ้มเย็น “ไม่เคยเห็นคนที่โง่ได้ขนาดนี้เลย เก็บเขาไว้ก็เอาแต่สร้างปัญหาไม่หยุด ไม่เก็บจะดีกว่า”
“คุณหนูพูดถูก คุณผู้ชายเข้าวังไปพอดี พวกเราถอนเนื้อร้ายก้อนนี้ให้เขาเลยมั้ย” กับคนที่ยอมขายแม้กระทั่งตระกูลตัวเอง ผู้เฒ่าหยิงรู้สึกเหยียดจากใจ
“เดี๋ยวตอนที่พวกเจ้าลงมือระวังตัวด้วย อย่าลงมือหนักเกินไป แม้อาจจะต้องมีคนตาย แต่พยายามไม่ให้ตายจะดีกว่า แน่นอนว่าถ้าตายไปแล้วก็ช่วยไม่ได้ เข้าใจมั้ย”
ทั้ง 2 มองหน้ากันและเข้าใจความหมายของนางทันที จึงพยักหน้าพร้อมกัน
ตั้งแต่ที่ผึ้งหยกส่งข่าวให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่คิดที่จะไว้ชีวิตบ้านสามอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ใช้โอกาสนี้กำจัดไปเลยก็ดี วันหน้าจะได้ไม่สร้างปัญหาอะไรอีก
“คุณหนู พวกเขาเริ่มลงมือแล้ว”
----------------------------