บทที่ 3 เพียงแค่นอนหลับ
บทที่ 3 เพียงแค่นอนหลับ
หมอหลิงกลับมายังตำหนักของเจ้าสำนักกุนจวินอย่างรีบร้อน เมื่อเห็นเจ้าสำนักกุนจวินกำลังเดินมา เขาก็รีบเดินเข้าไปหาแล้วโค้งคำนับ พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างไม่อยากเชื่อว่า
“ท่านเจ้าสำนักแย่แล้ว! เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เมื่อตอนที่ข้าออกไปจากตำหนัก เห็นคนทั้งสำนักนอนหลับกันหมด และเอ่อ...ไม่เพียงแค่นั้น ข้าออกไปดูนอกสำนักมาก็ไม่ต่างกัน ข้าเกรงว่า...อาจจะเป็นกันทั่วทั้งเมืองหลวง!”
กุนจวินรู้สึกว่าเรื่องนี้ไร้สาระเกินไป เขาฝากหมอหลิงไปดูบุตรชายของตนที่กำลังนิทราอยู่ ก่อนที่เขาจะออกไปจากตำหนักพร้อมภาพที่เห็นไม่ต่างจากที่หมอหลิงเล่า เจ้าสำนักกุนจวินตัดสินใจเหาะไปสำรวจบริเวณโดยรอบ
จากระดับพลังของเขานั้นใช้เวลาแค่เจ็ดวันก็ไปทั่วทั้งทวีปได้แล้ว กุนจวินกลับมาพร้อมกับผู้คนที่ตื่นขึ้นมาพอดิบพอดี พวกเขามีท่าทีงุนงงสงสัย จากนั้นพวกเขาก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหล่าผู้ฝึกยุทธในสำนักต่างตะหนกในทันที
“บัดซบ เกิดไรขึ้น? ทำไมข้าถึงหลับได้ พะ...พลังก่อนหน้านี้นั้นราวกับว่าจะครอบคลุมโลกใบนี้เลย!”
“ชะใช่แล้ว! ท้องฟ้าเป็นสีม่วง แล้วยังมีฟ้าผ่าอีก เท่านั้นยังไม่พอ ดวงจันทร์ และอาทิตย์ขึ้นมาพร้อมกันราวกับว่า เหมือนแย่งชิงอะไรกันซักอย่าง และโอ้อวดพลังกันเพื่อดึงดูดบางสิ่งอีกด้วย!”
“หรือว่า!...เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับการกำเนิดบุตรของท่านเจ้าสำนักกุนจวิน!”
“บ้าน่า! มนุษย์คนไหนบ้างเกิดมาก็จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ขนาดนี้ บางคนเกิดมายังไม่ขนาดนี้เลย”
“แต่เจ้าอย่าลืมสิว่าผู้ที่เกิดมานั้นคือผู้ใด? คือบุตรของท่านเจ้าสำนักกุนจวินเชียวนะ! ท่านเป็นดั่งเทพเซียนของพวกเรา ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับท่านย่อมเป็นไปได้ และยิ่งเป็นบุตรของท่านแล้วด้วยอาจจะเกิดผู้สร้างตำนานคนที่สองด้วยก็ได้”
ผู้คนต่างพูดคุยกันอย่างบ้าคลั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขายกเรื่องนี้ขึ้นมาคุยกันไม่หยุดหย่อน แต่พวกเขาเชื่อกันว่าบุตรของเจ้าสำนักกุนจวินต้องเป็นผู้สืบทอดที่ยอดเยี่ยมของเจ้าสำนักกุนจวินตำนานของทวีปนี้ได้แน่ เพราะอัจฉริยะส่วนมากที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่มากมากมายมหาศาล จะทำให้เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดกันทั้งนั้น แต่บุตรของเจ้าสำนักกุนจวินนั้น มันมากเกินไป!
บางคนตอนที่ถือกำเนิดก็ทำให้บ้านข้างๆเกิดเพลิงไหม้ได้ หรือทำให้เกิดหิมะในระยะร้อยลี้ และมีคนที่กำเนิดขึ้นมาพร้อมกับปรากฏการณ์ระฆังสีทองที่อยู่บนฟ้าขึ้นมา
ปัจจุบันก็เป็นศิษย์อันดับหนึ่งของสำนักลิขิตสวรรค์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในรอบร้อยปี และเป็นศิษย์ของเจ้าสำนักกุนจวินอีกด้วย แต่บุตรของเจ้าสำนักนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมันยิ่งใหญ่มาก มันราวกับเทพเจ้ามาจุติมาบนโลกมนุษย์ที่ทำให้โลกมนุษย์เกิดความวุ่นวาย!
เมื่อเจ้าสำนักกลับมา แล้วเห็นว่าผู้คนตื่นกันหมด ก็ไปสอบถามเหล่าผู้อาวุโสด้วยความอยากรู้
เหล่าผู้อาวุโสตอบกลับไปด้วยความเคารพ พร้อมกับเล่าเรื่องทั้งหมดที่พวกเขาเห็น มันทำให้เจ้าสำนักกุนวินถึงกับตกตะลึง และหัวเราะออกมาอย่างยินดี ที่บุตรชายของเขาเกิดมาพร้อมปรากฏการณ์พิเศษ มันทำให้เขาภาคภูมิใจมาก แล้วรีบไปหาบุตรของตนที่ตำหนัก เมื่อหมอหลิงเห็นว่าเจ้าสำนักกลับมาแล้วก็ขอตัวลาทันที
เจ้าสำนักโบกมือไปในเชิงเชิญให้ไปอย่างไม่ใส่ใจ เพราะความสนใจอยู่ที่บุตรชายของเขาไปจนหมดสิ้นแล้ว หลังจากตรวจสอบบุตรชายของตน แต่กลับไม่พบอะไรที่พิเศษแม้แต่น้อย เหมือนกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างปกปิดไว้
ถึงเจ้าสำนักกุนจวินจะตรวจไม่พบสิ่งใดพิเศษในตัวบุตรชายของตน แต่เขาก็ตื่นเต้นอย่างมาก เพราะด้วยประสบการณ์ และสายตาอันแหลมคมของเขานั้น สามารถบอกได้เลยว่าบุตรชายของตนไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
หลังจากเหตุการณ์คลอดบุตรในวันนั้น สามวันก็จัดพิธีศพให้ฮูหยินของเขาอย่างยิ่งใหญ่ โดยให้คนรอบนอกสามารถเข้าร่วมได้ คนที่เข้ามานั้นมากมายมหาศาลไม่ว่าจะเป็นสหายของเจ้าสำนัก และของฮูหยิน หรือคนที่ต้องการมาประจบเอาใจโดยการมาพูดปลอบใจต่างๆนานา
แต่ในสายตาของเจ้าสำนักเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำปลอบเหล่านั้น สิ่งที่สามารถเยียวยาหัวใจของเขาได้ก็คือบุตรของเขาเท่านั้น เขาพูดกับแขกอย่างสุภาพกับทุกคนแม้ว่าสถานะของเขาจะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่เขาก็เป็นคนไม่ถือตัว มันมีคำกล่าวที่ว่าคนที่ยิ่งใหญ่จะไม่เอาความสำเร็จในอดีตมาพูดโอ้อวดในปัจจุบัน
12 ปีผ่านไป
สำนักลิขิตสวรรค์ ภายในตำหนักแห่งหนึ่งมีเด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำเงินยาวงามสง่า สวมอาภรณ์สีดำดูลึกลับ ใบหน้าที่เยาว์วัยประดับไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขจากการนอนหลับ เด็กหนุ่มผู้นี้คือกุนไท่ เป็นบุตรชายเพียงผู้เดียวของเจ้าสำนักกุนจวิน ตอนนี้อายุได้สิบสองขวบปีแล้ว
กุนไท่เป็นเด็กที่ไม่ค่อยออกจากห้องนอนสักเท่าไหร่ จะออกมาแค่เดือนละครั้งเท่านั้น ทำให้กุนจวินนั้นต้องมาดูบุตรชายด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อมาดูบุตรของตน กุนไท่ก็นอนหลับเพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำสิ่งใดเลย เนื่องจากความกังวลของกุนจวินทำให้เขาต้องพาหมอหลิงมาดูอาการ
แต่ไม่พบปัญหาใดเกี่ยวกับกุนไท่เลย แต่สิ่งที่ทำให้กุนจวิน และคนในสำนักต้องประหลาดใจนั้นคือ กุนไท่ไม่เคยบ่มเพาะเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมีการบ่มเพาะที่รวดเร็ว ระดับพลังระดับแรกนั้นคือ ระดับพลังมนุษย์มีทั้งหมด 12 ขั้น
กุนไท่เพียงนอนหลับ และไม่ได้รับการฝึกแต่อย่างใด แต่กลับมีพลังถึงระดับพลัง มนุษย์ ขั้น 5!