บทที่ 15
ข่าวถูกลือไปทั่วทั้งหมู่บ้านเมฆหมอกและลุกลามไปทั่วทั้งในเขตดินแดนแห่งสายลม ถึงการตัดสินใจประกาศออกจากตระกูลเนี่ยของเนี่ยกังและเนี่ยฟง อีกทั้งยังมีข่าวลือว่าเนี่ยกังตอนนี้ระดับพลังไปถึงสีส้มขั้นหนึ่งแล้ว หลังจากติดปัญหาที่ระดับสีน้ำตาลขั้นเก้าอยู่นานหลายสิบปี แน่นอนหากว่าเนี่ยกังยังอยู่ที่หมู่บ้านเมฆหมอกจะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ เมื่อมีข่าวลือถึงเนี่ยกังผู้เป็นปู่ มีหรือหลานชายเจ้าของฉายาคุณชายขยะจะไม่มี หลายคนคิดว่าเนี่ยฟงตกตายไปในเขาพยัคฆ์เสียแล้ว เพราะหายเข้าไปบนเขาหลายปี
ทั้งสองคนปู่และหลานชายหาได้สนใจในข่าวลือที่เกี่ยวกับตน ทั้งสองเดินทางเข้ามาในใจกลางเขตปกครองดินแดนแห่งสายลม ที่นี่แบ่งออกเป็นส่วนๆมีทั้งหมดห้า ส่วนชั้นในสุดเป็นเขตปกครองของผู้มีอำนาจในการปกครอง ชั้นที่สองเป็นเขตของเหล่าอาจารย์ของสำนักพยัคฆ์สายลมและนักรบที่มีความสามารถ ชั้นที่สามเป็นเขตของการซื้อขาย การเปิดร้านโรงเตี๊ยม ร้านอาหาร สินค้าต่างๆไม่ว่าจะถูกกฎหมายหรือไม่จะถูกรวบรวมไว้ที่นี่ ชั้นที่สี่เป็นเขตชาวเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ชั้นที่ห้าเป็นเขตการเกษตรมีพื้นที่ใหญ่ที่สุด
ทันทีที่ทั้งสองเดินเข้ามาเมืองก็ถูกสอบถามโดยทหารหน้าป้อมถึงการเข้าเมืองของทั้งสอง เนี่ยกังแจ้งต่อทหารหน้าป้อมที่หน้าทางเข้าเมือง แจ้งว่าอยากจะเปิดร้านขายยา อีกทั้งยังได้อยู่ใกล้ชิดหลานชายที่จะเข้าศึกษาในสำนักพยัคฆ์สายลม แน่นอนว่าเมื่อกล่าวว่าจะให้หลานชายเข้าศึกษาที่สำนักทหารที่ได้ยินล้วนแล้วแต่หันมาจ้องมองเนี่ยฟงด้วยความสงสัย
“น้องชายเจ้าจะเข้าศึกษาที่สำนักพยัคฆ์สายลมจริงรึ เจ้ามีพรสวรรค์ถึงระดับสีน้ำเงินขึ้นไปรึ ที่จะสามารถเข้าศึกษาในสำนักพยัคฆ์สายลมได้”
“ข้าว่าพวกเจ้าทั้งสองกลับไปเสียเถอะที่นี่คงไม่เหมาะ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
พวกทหารที่ได้ยินเนี่ยกังเอ่ยถึง จะส่งหลานชายเข้าเรียนที่สำนักพยัคฆ์สายลม ก็กล่าววาจาดูถูกต่างๆนานา อีกทั้งยังหัวเราะเสียงดังลั่น กลายเป็นที่ขบขันแก่ทหารในป้อม เนี่ยฟงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายศีรษะไปมาพร้อมกับหันมามองเนี่ยกังที่ยืนยกยิ้มอยู่
“พี่ชายตัวข้าหาได้มีพรสวรรค์ระดับสีน้ำเงิน ข้ามีเพียงพรสวรรค์ระดับสีขาวเท่านั้น แต่ตัวข้าทำเช่นนี้ได้”
สิ้นเสียงเด็กหนุ่มนามว่าเนี่ยฟงก็โบกสะบัดมือขวา ประกายสายฟ้าก่อตัวกันเป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสวยงามไม่น้อย หลังจากนั้นก็กลายเป็นเกราะสีฟ้าที่มีประกายสายฟ้าอยู่ ทหารทั้งหลายล้วนแล้วแต่ยืนจ้องมองด้วยความตื่นตัว
“หากพวกท่านทั้งหมดสามารถทำลายมันลงได้ ข้าจะขอไม่เข้าเรียนที่สำนักพยัคฆ์สายลมขอรับ แต่หากพวกท่านทำไม่ได้รบกวนเปิดทางให้ข้ากับปู่ของข้าด้วยขอรับ”
ทหารมากมายล้วนแล้วแต่เคยเห็นชุดอักขระศักดิ์สิทธิ์มาจำนวนไม่น้อยเช่นกัน แต่ชุดอักขระศักดิ์สิทธิ์ของเด็กหนุ่มต่างออกไป มันดูใสกว่าและมีประกายสายฟ้าอยู่ แน่นอนว่ามีทหารหลายนายอยากลองดู เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ทหารสามนายทดลองซัดฝ่ามือของไปที่เกราะสีฟ้าด้านหน้า ผลที่ได้รับมาคือ ทั้งสามคนต่างได้รับบาดเจ็บที่ฝ่ามือจนมีรอยไหม้ปรากฏให้เห็น ความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่ หลังจากนั้นไม่นานเนี่ยฟงก็หันไปพยักหน้าให้กับเนี่ยกัง
เนี่ยกังรีบก้าวเดินออกมาด้านหน้าโบกสะบัดมือขวา ขวดยากระเบื้องสีขาวนวลก็มาอยู่ในมือของเนี่ยกัง หลังจากนั้นเนี่ยกังก็เปิดจุกเทยาออกมาสามเม็ด เดินเข้าไปหาทหารทั้งสามที่ได้รับบาดเจ็บ ขยี้เม็ดยาไปที่ฝ่ามือของทหารทั้งสาม ไม่ถึงหนึ่งเค่อฝ่ามือที่เป็นแผลรอยไหม้ก็จางหายไป เนี่ยกังยกยิ้มเอ่ยวาจาเสียงดัง
“ข้าจะหาเช่าที่สำหรับเปิดร้านยา พวกท่านพอมีแนะนำหรือไม่”