บทที่ 57: การตัดหญ้า (3)
วิลเลียมออกไปแล้ว
สิ่งที่เหลืออยู่ทั้งหมดถูกโยนให้ลอทเนอร์เป็นคนจัดการ
ในฐานะลอร์ดผู้ล้ำค่า เขาไม่สามารถปล่อยให้เวลาอันแสนล้ำค่าของเขาหมดไปกับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อถึงวัน…
ท่านลอร์ดของเมืองแห่งรุ่งอรุณสวมใส่เสื้อคลุมสีดำและยืนอยู่ใต้หน้าผาทอดสายตาออกไปยังทุ่งหญ้าโล่งอันไร้ที่สิ้นสุด สายลมพัดผ่านเอื่อยๆ ต้นหญ้าสูงและเหล่าดอกไม้พริ้วไหวไปตามสายลม ทำให้รู้สึกสบายใจและมีความสุข
วิลเลียมกำลังขี่ม้าสีดำมุ่งหน้าไปทางพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินซึ่งเปลี่ยนท้องฟ้าให้เป็นสีแดง เขากระชับขาเล็กน้อยในขณะที่ควบม้าไปยังทิศเหนือ
การขี่ม้าด้วยความเร็วทำให้รู้สึกดี โดยเฉพาะเมื่อเป็นการขี่บนทุ่งหญ้าโล่งที่เขาเป็นเจ้าของเอง เขาไม่ถูกรบกวนโดยความรู้สึกน่ารำคาญอย่างการรอไฟจราจรเหมือนอย่างตอนขับรถสปอร์ต
ทั้งอาณาจักรเหล็กและอาณาจักรลาวาดำอยู่ทางตอนเหนือของทุ่งหญ้านี้ เมืองแห่งรุ่งอรุณนั้นอยู่ประมาณ 150 กิโลเมตรห่างจากชายแดนของทั้งสองอาณาจักร
ส่วนสำหรับทุ่งหญ้านั้น มีหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่ที่นี่ เช่น ชาวโถวเหยิน, มนุษย์หมาป่า, ก็อบลิน, คนแคระ, และมนุษย์เงือกที่อาศัยอยู่ริมทะเลสาบ
อันที่จริง ไม่สำคัญว่าเมื่อไหร่ที่ทวีปทั้งหลายแยกออกจากกันหรือเมื่อไหร่ที่โลกแยกออกเป็นหลายๆ ทวีป…
ในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหลายในทั้งโลกนี้ จำนวนของมนุษย์เงือกนั้นสูงที่สุด
กลุ่มคนตัวเล็กที่เหวี่ยงตรีศูนย์ไปมานั้นเลือดเย็นที่สุดแล้ว พวกเขาเป็นเผ่าที่น่าปวดหัวที่สุดเพราะพวกเขาฆ่าทุกคนที่พวกเขาเห็น ถ้าคู่ต่อสู้ของพวกเขาอยู่ในกลุ่มเล็กๆ พวกเขาจะโจมตี และถ้าอยู่ในกลุ่มใหญ่ พวกเขาจะวิ่งหนีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น!
พวกเขายังถูกเรียกว่า ‘นักฆ่าพันธุ์ใหม่’ อีกด้วย
เมื่อเกมนี้เปิดให้ลองเล่นครั้งแรก ผู้เล่นมากมายชอบที่จะเข้าไปในป่าเพื่อการผจญภัยในตอนกลางคืน และเหล่าผู้เล่นพวกนั้นทุกคนก็ถูกฆ่าโดยมนุษย์เงือกหลายฝูง
พวกเขาจะปรากฎตัวใกล้กับทะเลสาบ, แม่น้ำ, มหาสมุทร, แหล่งน้ำทุกที่ นอกจากว่าแหล่งน้ำเหล่านั้นจะถูกครอบครองโดยสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่า พวกเขาจะอยู่ในอาณาเขตของมนุษย์เงือก
ท้องฟ้ามืดลง
วิลเลียมเคลื่อนไหวไปด้วยความรวดเร็วผ่านทุ่งหญ้าบนม้าของเขา ในขณะที่เขาเคลื่อนผ่านแม่น้ำแห่งหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงแหลมๆ เสียงหนึ่ง
ในเวลาต่อมา
เสียงตะโกนมากมายดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เสียงกรีดร้องเหล่านั้นแซ่ซ้องขึ้นพร้อมกันทำให้เกิดคลื่นอัลตร้าโซนิคชนิดหนึ่งขึ้น ซึ่งมีผลทำให้คนเกิดอาการเวียนหัวตาลาย ภายในเวลาสั้นๆ เสียงเหล่านั้นก็กระจายไปทั่วทุ่งหญ้าสร้างความตื่นกลัวให้ผู้คน
ม้าศึกที่วิลเลียมขี่อยู่ตื่นตกใจเล็กน้อย มันรู้สึกได้ถึงอันตรายและกำลังวิ่งเร็วขึ้นๆ เรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม
ดวงตาสีแดงคู่แล้วคู่เล่าก็ปรากฏขึ้นทั้งสองข้างของเส้นทางที่พวกเขาใช้
เขามองไปด้านหน้า
เขาไม่อาจมองเห็นปลายทาง!
ครึ่งหนึ่งของโลกใบนี้มีดวงตาสีแดง และตอนนี้มันเติมเต็มพื้นที่ทุกส่วนไปหมดแล้ว
ริมแม่น้ำในป่าตอนกลางคืนเป็นถิ่นของมนุษย์เงือก!
“โว้ว” วิลเลียมดึงเชือกและลงจากม้าอย่างมั่นใจแทนที่จะเดินต่อไปข้างหน้า
ถัดมา เขาตบก้นของม้าเบาๆ ม้าศึกหันหลังกลับและเริ่มวิ่ง วิลเลียมหัวเราะสรวลเบาๆ “วิ่งช้าๆ พวกมันไม่ได้ตามล่าเจ้า”
“ปลาน้อย เจ้าต้องการจะฆ่าเราหรอ?” วิลเลียมดึงตะขอของเขาออกมาและจ้องไปรอบๆเขาอย่างเลือดเย็น
เมื่อเงือกหลายตัวเห็นหน้าและหูของเขา พวกมันหยุดนิ่งราวกับไม่ได้คาดหวังอาหารตรงหน้าว่าจะเป็นเอลฟ์ตนหนึ่ง!
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครตอบวิลเลียม
แม้ว่ามนุษย์เงือกจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา ภาษาของพวกมันซับซ้อนและยากที่จะเรียนรู้ มีเงือกเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่ได้เรียนภาษาที่ใช้ทั่วไปบนแผ่นดิน
เสียงกรีดร้องอีกเสียงดังขึ้น
เพียงพริบตา
จำนวนของมนุษย์เงือกรอบตัววิลเลียมก็เพิ่มขึ้นราวกับน้ำท่วม ทุกตัวถือตรีศูล
เสียงตะโกน, เสียงวิ่ง, เสียงชนกัน และเสียงดังมากมายนับไม่ถ้วนเข้าสู่หัวของวิลเลียม
ทุกๆ อย่างตรงหน้าเขาดูเหมือนจะหายไป และถูกแทนที่ด้วยเงือกจำนวนล้นหลาม…
ในขณะนี้มนุษย์เงือกล้อมเขาไว้แล้ว
วิลเลียมผู้ยั่งคงยืนนิ่งจู่ๆ ก็ดีดนิ้ว
ปัง!
พลังสีฟ้าอ่อนพุ่งไปรอบทิศทางและมนุษย์เงือกกว่าร้อยหายไปในทันที
ถ้าใครได้เห็นมัน พวกเขาจะรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาถูกทำให้ลอยตัวกลางอากาศในขณะที่วิญญาณของพวกเขาถูกผลักออกจากร่าง นอกจากวิญญาณจำนวนน้อยที่กลับเข้าร่างเดิม ที่เหลือก็กลายเป็นเถ้าถ่าน
เวทย์วิญญาณ!
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันอีกครั้ง
มันเป็นอะไรที่น่ากลัวสุดยอด
มันไม่ใช่อะไรที่เวทมนต์ธรรมดาจะสามารถเทียบเทียมได้
โดยเฉพาะต่อมนุษย์เงือกกลุ่มนี้ มันเทียบได้กับทักษะของพระเจ้าเลยทีเดียว
“ชิ!” มนุษย์เงือกตัวหนึ่งที่สูงเกือบ 1 เมตรเปิดปากออก เผยให้เห็นฟันอันแหลมคมของเขา เขาจ้องไปยังวิลเลียมที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเดือดพล่าน พลังการต่อสู้ของเขาประทุออกมารอบตัวเขาแผ่ไปทั่วพื้นที่
วิลเลียมหรี่ตาของเขาลง ระดับกลาง!
เมื่อเห็นเช่นนี้ เขาจึงรุดไปด้านหน้าด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น มนุษย์เงือกรู้สึกแค่เพียงสายตาที่มาจากดวงตาของวิลเลียมและทุกอย่างก็ถูกแทนที่ด้วยความมืด วิลเลียมจับหัวของมันไว้แล้ว แรงผลักที่แข็งแกร่งโยนมนุษย์เงือกลงพื้นอย่างไม่ใยดี!
ปัง
กระดูกถูกบดขยี้, น้ำจากสมองกระจายเป็นชิ้นเล็กๆ สั่นหยุกหยิกและหยุดการเคลื่อนไหวในทันที…
โจมตีแบบคริติคอล
ยิงจุดตาย
ค่าความเสียหาย 2410 แต้ม
เป้าหมายตายแล้ว
ความได้เปรียบที่มาพร้อมกับแต่ละสายพันธุ์นั้นยากที่จะอธิบาย มนุษย์เงือกที่อยู่ระดับเดียวกันแน่นอนว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อ่อนแอที่สุดในโลก ไม่สำคัญว่าสายเลือดของพวกเขาจะสูงแค่ไหน มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเพิ่มคุณสมบัติหลายๆ อย่างให้ตัวเอง…
“ร่างเล็กๆ ของเจ้ามีค่าพลังชีวิตที่เจ้าไม่ควรมี ในเมื่อเจ้าสามารถมีค่าพลังชีวิต 2410 แต้ม เจ้าก็ไม่ควรที่จะกลัวการระเบิด แต่มันช่างน่าเวทนาที่เจ้ามีเพียงแค่สายเลือดที่สูงส่ง” วิลเลียมเม้มปาก
ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางไม่ใช่แค่ความท้าทายต่อฝ่ายตรงข้ามที่เลเวลสูงกว่า มันมีทางอีกอื่นเช่นกัน
การท้าทายคู่ต่อสู้ที่เลเวลสูงกว่าไม่ใช่แค่เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่หาดูยากมากมายอะไรเช่นกัน
ถ้าอย่างนั้น ผู้เล่นใหม่จะสู้กับอะไร?
โดยปกติพวกเขาจะรับภารกิจลอบฆ่าหรือหา NPCมนุษย์สักคนที่มีเลเวลสูงกว่ามาสู้ด้วย
อย่างไรก็ตาม…
มนุษย์…
ไม่สำคัญว่าระดับสายเลือดของพวกเขาจะเป็นอะไร โดยปกติพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ดังนั้นหลังจากผู้เล่นฆ่า NPC พวกเขาจะถูกรุมทำร้ายจนตายโดยคนอื่น
ผู้เล่นสามารถฟื้นคืนชีพได้
วิลเลียมทำไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกวิธีที่ง่ายกว่า
เขากำลังจะจัดการเผ่าเงือกที่มีสมาชิกอย่างน้อยหลายพันตนด้วยตัวคนเดียว
ตราบใดที่ความโชคดีของเขาไม่แย่มาก แน่นอนว่าเขาจะสามารถฆ่าเงือกระดับกลางที่มีสายเลือดระดับแกรนด์มาสเตอร์สามตนได้สบายๆ แม้แต่เงือกระดับอีปิคก็เป็นแค่เงือกที่ไม่ได้เรื่อง
เขาไม่สามารถทำให้เงือกกลุ่มนี้กลัวได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงสองครั้ง
พวกเขารู้ความสามารถของตัวเองดี ทุกครั้งที่พวกเขาโจมตีอาหารระหว่างทาง พวกเขาก็จะสูญเสียคนไปเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามอัตราการเกิดและเติบโตนั้นเร็วยิ่งกว่าเร็ว!
ถ้ามันไม่ใช่เพราะว่าความสามารถโดยเฉลี่ยทั่วไปของพวกเขานั้นต่ำเกินไป มนุษย์เงือกเหล่านี้ก็อาจจะสามารถครอบครองทั้งจักรวาลนี้ได้เลย…
มนุษย์เงือกกลุ่มแล้วกลุ่มเล่ากระชับอาวุธของพวกมันแน่น แล้วพุ่งเข้าหาวิลเลียมอย่างเป็นฟืนเป็นไฟ พวกเขาไม่ได้สนใจว่าพวกเขาจะทิ้งบาดแผลไว้ให้เขา มันก็นับว่าดีแล้วถ้าพวกเขาจะสามารถคลานบนหลังวิลเลียมและกัดเขาได้
อย่างไรก็ตาม เกราะพลังการต่อสู้ของวิลเลียมนั้นแข็งราวกับหิน
เขาเป็นเหมือนกับหิงห้อยในความมืดที่ดึงดูดทุกความสนใจเมื่อมนุษย์เงือกตัวแล้วตัวเล่าวิ่งเข้ามาหา แต่ทั้งหมดกับถูกโยนกลับไปโดยเกราะพลังการต่อสู้ตัวแล้วตัวเล่า
เพราะความรู้สึกที่ชนกับเกราะนั้นเหมือนกับเวลาชนเข้ากับกำแพง เหล่าเงือกจึงรู้สึกตาลายหลังจากกระเด็นกลับออกมา
“เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะพังเกราะนี้ได้ แน่นอนอยู่แล้ว มันดูแย่เกินไปที่เอลฟ์ระดับรีเจนดารีตนหนึ่งจะมาทรมานเงือกตัวน้อยๆ” วิลเลียมถือดาบของเขาด้วยสองมือส่งพลังการต่อสู้ไปบนดาบของเขาก่อนจะเริ่มหมุนไปมาอย่างรวดเร็ว
กังหันลม!
มันเป็นทักษะหนึ่งที่สร้างขึ้นด้วยตัวเอง
มันไม่มีทักษะเพิ่มเติมใดๆ
มันใช้การเปลี่ยนความเร็วของคนที่ใช้เท่านั้น…
ทักษะนี้เป็นทักษะธรรมดาๆที่สามารถใช้งานได้ง่ายมากเหมือนกับเครื่องตัดหญ้า ทุกศพล้วนถูกฟันเข้าที่เอว เลือดไหลรินลงสู่แม่น้ำ
“ฆ่า!”
“ปัง” วิลเลียมหันกลับมาและใช้มีดสั้นในการป้องกันตัว ร่างกายของเขายังคงอยู่กับที่ไม่ขยับและมนุษย์เงือกที่ตะโกนว่า ‘ฆ่า’ ถูกโยนออกไปโดยพลังการโจมตีของเขา และสลายหายกลายเป็นปลาในมหาสมุทรโดยทันที
อย่างไรก็ตาม ด้วยความรวดเร็ว วิลเลียมมองเห็นมนุษย์เงือกที่สูง 1.5 เมตร ร่างเล็กๆ ของมันเต็มไปด้วยมัดกล้าม
“ชิชะ นั่นมันปลากล้ามนี่”
เพียงการจัดการแค่ครั้งเดียว
เขาก็ได้รับข้อมูลของเงือกตนนี้
เขาเป็นระดับกลางที่มีสายเลือดแกรนด์มาสเตอร์
“เจ้าอยากจะวิ่งหนี? ไม่…” วิลเลียมรู้เกี่ยวกับมนุษย์เงือกอย่างดี การรู้ว่าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กนี้จะโจมตีอีกครั้ง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำการใช้ดาบคู่ต่อไปและฆ่าเงือกตัวอื่นๆอย่างต่อเนื่อง
มนุษย์เงือกเหล่านี้ไม่สามารถฟังเกราะของเขาได้ เขามีพลังการต่อสู้และสเตมินามากเกินไป
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากวิลเลียมฆ่าเงือกไปหลายระลอกอย่างง่ายดาย มนุษย์เงือกเหล่านั้นก็ยังคงโจมตีเขาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม วิลเลียมนั่นกระชับการป้องกันของเขาและเพียงหันกลับหลัง ก่อนจะแทงทะลุเขาไป
ดาบพุ่งทะลุร่างของมนุษย์เงือกตัวนั้น พลังจากการพุ่งผลักร่างของเขาให้กระเด็นออกไป เลือดมากมายกระจายเต็มพื้นที่โดยรอบ มนุษย์เงือกอีกที่อยู่ด้านหลังถูกสังหารในทันที
ตรีศูลที่ใช้ในการโจมตีทะลุเกราะพลังการต่อสู้และพุ่งเฉียดคอของวิลเลียมไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิลเลียมจะฆ่ามนุษย์เงือกที่มีสายเลือดแกรนด์มาสเตอร์ไปแล้ว เกราะของเขาที่ใช้พลังการต่อสู้ถึง 1200 หน่วยก็ยังถูกทำลาย เขาต้องการอย่างน้อย 5 วินาทีในการเปิดใช้เกราะพลังการต่อสู้อีกครั้ง
ทันทีทันใด
มนุษย์เงือกจำนวนนับไม่ถ้วนก็กระโจนเข้าใส่เขาทันที พวกมันรุมล้อมรอบเขา และกองใส่กันจนทำให้เกิดเป็นภูเขาเล็กๆ อันหนึ่ง