บทที่ 11
โลกแห่งจิตวิญญาณของเนี่ยฟง ชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดสีน้ำเงินดวงตาสีฟ้ายืนงุนงงอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ไม่นานได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา เป็นลุ่ยกงที่เดินเข้ามานั่นเอง ทันทีที่ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินพบเห็นว่าเป็นผู้ใดเดินเข้ามาก็รีบคุกเข่าลงอย่างเร่งรีบ
“คารวะท่านเทพมังกรอัสนี”
“เหอะ เจ้ายังจดจำข้าได้ด้วยรึ”
“ขอ ขอรับ”
“ไม่ใช่ว่าเจ้าคิดจะครอบครองพื้นที่ที่เป็นของข้าหรืออย่างไร”
ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินตัวสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว
“ข้า ข้า”
“ช่างเถอะถึงอย่างไรตอนนี้เจ้าก็ตกตายไปแล้ว เป็นเพียงอสูรในพันธสัญญาของเด็กผู้หนึ่ง เช่นเดียวกับข้า”
“ขอรับ”
“เจ้ามีนามหรือไม่ เจ้าเด็กน้อย”
“ข้ามีนามว่าหลินฉีขอรับ ท่านเทพมังกรอัสนี”
“อืม ข้ารู้ว่าเจ้ามีเรื่องสอบถามมากมายว่าเหตุใดวิญญาณสถิตข้าถึงหายไป ข้าจะบอกเจ้าทีหลังเพียงแต่ว่าตอนนี้เจ้ายินดีรับใช้เด็กหนุ่มผู้นี้หรือไม่”
“ข้าเต็มใจขอรับ”
ลุ่ยกงแสยะยิ้มโบกสะบัดมือขวาแก่นพลังปราณธาตุอัสนีหลายสิบลูกก็ปรากฏออกมา หลินฉีถึงกับจ้องมองดวงตาลุกวาว
“เพียงแค่นี้เจ้าคงตัดผ่านระดับถึงระดับสีแดงได้ เจ้านำมันไปดูดซับเถอะ”
“ขอบคุณท่านเทพมังกรอัสนีขอรับ”
ด้านนอกเนี่ยฟงทำการดูดซับวิญญาณพร้อมกับแก่นพลังปราณ แปลกประหลาดโดยส่วนมากแล้วแก่นพลังปราณหาได้ดูดซับได้ต้องนำไปเป็นส่วนประกอบการปรุงยาหรือต้องใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์แปรสภาพเป็นพลังปราณเพื่อดูดซับ แต่เนี่ยฟงสามารถดูดซับได้โดยตรงเรื่องนี้เนี่ยฟงก็ยังไม่ทราบถึงความแปลกประหลาดนี้
ระดับพลังลมปราณของเนี่ยฟงอยู่ในขั้นสีม่วงขั้นเจ็ดอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังช้ากว่าคนอื่นอยู่ดีหากเป็นคนอื่นคงข้ามระดับไปหลายขั้นแล้ว เหตุเพราะจุดชีพจรของเนี่ยฟงนั้นแปลกประหลาดและพรสวรรค์ที่ต่างจากคนอื่นมากนัก หลังจากดูดซับแก่นพลังปราณจากหมดเนี่ยฟงก็มุ่งหน้าไปที่จุดที่อสรพิษฟ้าอยู่ เมื่อมาถึงพบว่าอสรพิษฟ้าได้ตกตายไปแล้วเนี่ยฟงจึงใช้ดาบในมือผ่าเข้าไปที่บริเวณศีรษะเพื่อนำแก่นพลังปราณออกมา
เนี่ยฟงและถลกเอาหนังออกมา พร้อมกับฝ่าเอาดีของอสรพิษฟ้าออกมาด้วย หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นเนี่ยฟงก็ทะยานขึ้นไปบนเขาเมื่อเข้ามาด้านในถ้ำเนี่ยฟงก็จัดการเก็บสมุนไพรทั้งหมดที่ถึงเวลาเก็บเกี่ยวไว้ที่แหวนที่ตอนนี้เป็นสีเทาแล้ว หลังจากนั้นก็ออกมาจากถ้ำ วาดอักขระศักดิ์สิทธิ์เพื่อปิดบังถ้ำไว้โดยเนี่ยฟง ใส่ลูกเล่นเข้าไปเพิ่มนิดหน่อย หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานลงจากเขามุ่งหน้ากลับหมู่บ้านเมฆหมอก
ระหว่างทางเนี่ยฟงไม่ลืมที่จะเก็บสมุนไพรต่างๆในป่าแต่ก็ยังคอยหลีกเลี่ยงกับสัตว์อสูรระดับสูงถึงแม้จะมีลุ่ยกงอยู่ด้วยก็ตาม เนี่ยฟงยังจัดการกับศัตรูเก่านั้นก็คือสัตว์อสูรประเภทต่อและผึ้ง เนี่ยฟงจะจัดการสังหารโดยการใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์กักพวกอสูรไว้ในจุดเดียวแล้วซัดพลังปราณสายฟ้าเข้าทำลาย เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เมื่อจัดการเสร็จเนี่ยฟงไม่ลืมที่จะเก็บน้ำผึ้งหลายสิบรังไว้ในแหวนสำหรับนำไปเป็นส่วนประกอบของการปรุงยา เนี่ยฟงใช้ช่วงกลับนานกว่าที่คาดคิด เมื่อออกจากป่ามรณะเนี่ยฟงก็พบว่าพื้นที่เขาพยัคฆ์เปลี่ยนไปไม่น้อยสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ที่เขตเขาพยัคฆ์ดูมีมากกว่าเดิมจนผิดปกติ อีกอย่างบริเวณต้นไม้ใหญ่มีรอยกรีดของกรงเล็บขนาดใหญ่ เนี่ยฟงจึงเอ่ยถามลุ่ยกง
“ท่านลุ่ยกง ท่านว่าที่นี่มันแปลกประหลาดหรือไม่ขอรับ”
“อืมระวังตัวไว้หน่อยก็แล้วกันเจ้าเด็กน้อย ข้าว่าที่นี่มีบางอย่างผิดปกติอาจมีสัตว์อสูรขนาดใหญ่อยู่แถวนี้ก็เป็นได้”
ในระหว่างที่เนี่ยฟงคุยกับลุ่ยกงอยู่นั้น เนี่ยฟงก็รับรู้ถึงบางอย่างทางด้านขวามือของตนเป็นเสียงเหยียบกิ่งไม้และแรงสั่นสะเทือนของพื้นดินของสัตว์อสูรขนาดใหญ่ เนี่ยฟงจ้องมองทิศทางขวาไม่นานก็พบเจอกับสัตว์อสูรขนาดใหญ่เป็นหมีขนสีแดง ดวงตาซ้ายบอดเพราะได้รับบาดเจ็บร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผล