ตอนที่ 40 แค่ไม่กี่ครั้งจะนับเป็นอะไรได้
“ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าอยากเจอหน้าเมียข้า”
พรวด
ทานธรรมถึงกับสำลักเหล้าน้ำผึ้งแล้วก็พ่นเหล้าทั้งหมดออกมาด้วยความตกใจ เขาจ้องมองศิษย์น้องสามด้วยใบหน้าจริงจัง ที่นี่คือที่ไหน ที่นี่ไม่ใช่หอร้อยบุปผาหรอกหรือ มันเป็นสถานที่ที่ผู้ชายผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่มีการยึดถือคำว่าผัวเมีย แต่เจ้าเด็กนี่….
“เธอไปแล้ว”
ทานธรรมเลือกตอบปัดไปอย่างเสียไม่ได้ ถึงเขารู้ก็บอกไม่ได้ เขาถอนหายใจออกมาขณะย้อนคิดถึงเหตุการณ์ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า
ทานธรรมเดินมาหน้าห้องของเหนือภพเป็นปกติทุกวัน เจ็ดแล้วมาแล้วที่เหนือภพยังไม่ฟื้นจนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้ ที่สำคัญเขาเป็นห่วงน้องสาวของเขาเช่นกัน พราวจันทร์เป็นคนที่ถือตัว เยือกเย็น มีผู้ชายมากมายทั้งในกลุ่มภราดา ขุนนาง รวมถึงพวกราชวงศ์ต่างก็อยากแต่งงานกับเธอทั้งนั้น เธอไม่สนใจใครเลย แต่กลับยอมพลีกายเพื่อผู้ชายคนหนึ่ง ทานธรรมขบคิดเช่นนี้มาตลอดจนเข้าวันที่เจ็ด ในที่สุดเขาก็นึกคำพูดของพราวจันทร์เมื่อ 6 ปีก่อนได้ ตอนที่เขาเจอร่างของเธอรวมกับศพของเด็กสาวที่ถูกฆ่าในตอนนั้น
เธอเอาแต่พร่ำเพ้อคำว่า ‘พี่ภพ’ ซ้ำ ๆ พอได้สติเธอก็เอาแต่ตามหาเด็กผู้ชายที่ชื่อเหนือภพ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ จนกระทั่งพวกเขาพบศพเด็กชายวัยเดียวกันที่ลอยตามน้ำมา ศพนั้นเปื่อยยุ่ยไปเยอะแล้ว แต่ก็พอดูออกว่าเป็นคนรูปร่างล่ำสันสูงใหญ่ เธอจึงเชื่อว่าเหนือภพตายไปแล้ว
ตั้งแต่นั้นมาเธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอไม่ร้องไห้อีกเลย และกลายเป็นคนเยือกเย็น พูดน้อย ถึงแม้จะดูร่าเริงแต่กลับแฝงไปด้วยความคิดที่ยากจะหยั่งถึง เธอหันมาเรียนรู้วิชาทุกอย่างอย่างบ้าคลั่ง และเพื่อไม่ให้เธอหมกมุ่นจนเกินไป เขาจึงรับเธอเป็นน้องสาวบุญธรรม แล้วก็ดูแลอย่างดีเหมือนพี่น้องคลานตามกันมา นั่นจึงทำให้เธอค่อย ๆ กลับมาเป็นเหมือนสาวน้อยคนอื่น ๆ
สุดท้ายกลายเป็นว่าเหนือภพคือเด็กผู้ชายที่เขาส่งไปหาอาจารย์ แล้วเขาก็ดันลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท เพิ่งจะจำได้ในตอนนี้นี่เอง เพราะความทรงจำของเขานั้นมีปัญหาแต่เด็ก เป็น ๆ หาย ๆ ไม่อาจควบคุมได้ ทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนสองบุคลิกที่มีความทรงจำรวมกันบ้างแยกกันบ้าง
ทานธรรมมองไปยังห้องของเหนือภพ ขณะที่ประตูถูกผลักออกมาพร้อมกับร่างแน่งน้อยของพราวจันทร์ เธอมีท่าทางอ่อนแรง เพราะตลอดเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืนมานี้เธอต้องช่วยคลายพิษของว่านกระทิงคลั่งให้เหนือภพทั้งวันทั้งคืน โดยมีทานธรรมเป็นคนช่วยส่งข้าวส่งน้ำ
เมื่อทานธรรมเห็นพราวจันทร์เดินเซพิงขอบประตู เขาก็พุ่งตัวเข้าไปประคอง
“ค่อย ๆ เดิน มาเถอะให้พี่อุ้มเจ้าไปส่งที่ห้อง”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่”
พราวจันทร์ส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง
“เจ้าจะดื้อไปทำไม ไปพักก่อน”
“ข้าจะต้องรีบไปเตรียมงานที่เมืองนิรันดร์กาล เสร็จงานที่นั่นค่อยว่ากันอีกที”
พราวจันทร์ทำท่าจะเดินจากไป ทานธรรมจึงถามขึ้นอย่างสงสัย
“เขาไม่ใช่คู่หมั้นเจ้าที่เจ้าตามหามาตลอดหรอกหรือ ทำไมต้องแยกจากกันด้วย รอให้เขาตื่นก่อนสิ”
พราวจันทร์ส่ายหน้าโดยมีน้ำตาคลอในดวงตาคู่สวย ด้วยศักดิ์และฐานะของเธอในตอนนี้ไม่อาจทำอะไรตามใจได้ เธอเป็นคนที่กตัญญูรู้คุณคน หากยังไม่ได้ตอบแทนเธอก็ไม่อาจเลือกความสุขของตัวเองมาเป็นที่ตั้ง ในตอนนี้เธอเป็นจ้าวตึกบุปผา และการมีคู่ครองจะส่งผลกระทบต่องานใหญ่ของภารดา
“งั้นก็ตามใจเจ้าเถอะ พี่จะไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ข้าพักอีกสักหน่อยก็พอแล้ว พี่ต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูแลเขา ด้วยนิสัยของเขา ตื่นมาคงโวยวายแน่”
เพียงแค่คิดพราวจันทร์ก็อมยิ้มแล้ว นั่นเป็นยิ้มที่ทานธรรมไม่เคยเห็นมาก่อน
“แล้วข้าควรจะตอบเขาว่ายังไง ให้เขาตัดใจจากเจ้าหรือ”
“เมื่อก่อนข้าเป็นคนไล่ตามเขา เพราะในใจข้ามีเขา หากในใจเขายังมีข้าอยู่จริง สักวันเขาก็ต้องหาข้าจนเจอ พี่อย่าบอกเขาก็แล้วกันว่าข้าเป็นใคร”
ทานธรรมเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“แล้วพี่ควรจะบอกเขาว่ายังไงดี ถ้าเจ้าให้พี่คิดเอง พี่คิดไม่ออกหรอกนะ”
“ที่นี่คือหอคณิกา ก็แค่สัมพันธ์ทางกายไม่กี่ครั้งจะนับเป็นอะไรได้”
พราวจันทร์พูดทิ้งท้ายเพียงแค่นั้น แล้วเธอก็เดินจากไป
“ห๊ะ เธอพูดว่าอะไรนะ”
“ที่นี่คือซ่อง ก็แค่เอากันไม่กี่ครั้งจะไปสำคัญอะไร”
ทานธรรมในสภาพเมามายตอบเหนือภพตามตรง นี่คือข้อมูลที่เขาประมวลมาจากพราวจันทร์ เหนือภพได้ยินเช่นนั้นก็หน้าแดงควันออกหู
“เธอพูดแบบนั้นจริงดิ”
“ข้าจะโกหกเจ้าไปทำไมกัน”
“นางมาร ! เธอมันโจรปล้นสวาท ท่านบอกข้าทีว่านางมารนั่นอยู่ที่ไหน เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ข้าจะไปจัดการเอง”
เหนือภพรู้สึกว่าเขาต้องจัดการเรื่องนี้ให้ถูกต้อง ถึงอย่างไรผู้หญิงคนนั้นก็นับว่าเป็นเมียเขาแล้ว แม่สอนให้เขารักและเคารพผู้หญิงมาโดยตลอด ถึงเขาจะไม่ค่อยเชื่อฟังแม่ก็เถอะ แต่มีเรื่องหนึ่งที่แม่มักย้ำเขาอยู่บ่อย ๆ เป็นผู้ชายหากทำเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงก็ควรที่จะรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง
แต่ส่วนที่สำคัญจริง ๆ คงเป็นความรู้สึกประหลาดในใจเขามากกว่า มันรู้สึกคุ้นเคย และรู้สึกโหยหาเธออย่างประหลาด เขาอยากเจอเธออีกครั้ง
เหนือภพกุมหน้าอกตรงหัวใจที่กำลังเต้นรัว ทำไมเขาถึงรู้สึกโกรธขนาดนี้เมื่อรู้ว่าเธอพูดจาตัดรอนเช่นนั้น
“เป็นเพราะท่าน”
เหนือภพมองค้อนผู้เป็นศิษย์พี่ใหญ่ จากนั้นก็สะบัดหน้าหนีอย่างไม่พอใจ
“ทำไมศิษย์พี่ใหญ่ไม่รั้งเธอไว้”
“ห่ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ เห้ยยย”
ทานธรรมงุนงง แล้วเขาก็ต้องตาสว่างเมื่อเหนือภพฉกไหเหล้าน้ำผึ้งไปจากเขา แล้วก็ยกขึ้นกระดกเพื่อย้อมใจ
มันเป็นความรู้สึกที่หวิว ๆ เจ็บปวดในใจแบบที่อธิบายออกมาไม่ถูก เหนือภพไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับความรู้สึกนี้ จึงก็ได้แต่ดื่มเหล้าน้ำผึ้งเข้าไปอึกใหญ่ อึกแล้วอึกเล่า จนกระทั่งเหล้าน้ำผึ้งหมดไห จากนั้นค่อยยื่นไหคืนให้กับศิษย์พี่ใหญ่
“เหล้าข้าา...” ทานธรรมครางออกมาขณะจ้องเข้าไปในไห จนตาแทบจะแนบสนิทกับปากไห
เหนือภพออกจากห้องพักเดินหักเลี้ยวไปตามเส้นทางภายในของอาคารไม้ผสมหินแสนหรูหรา ในยามสายเช่นนี้มีผู้คนให้เห็นเบาบาง มีเพียงแค่ข้ารับใช้ที่ทำงานทั่วไปเท่านั้น หญิงคณิกาส่วนใหญ่ของหอร้อยบุปผามักจะนอนในเวลากลางวัน แล้วตื่นมาทำงานในเวลากลางคืน
“นี่ศิษย์น้องสาม เจ้าจะไปไหน อาจารย์บอกให้ข้าดูแลเจ้า หากต้องการอะไรก็บอกข้ามาได้เลย ไม่มีอะไรที่ข้าแก้ไขให้เจ้าไม่ได้ ยกเว้นเรื่องผู้หญิงคนนั้นเพียงคนเดียวที่ข้าจนปัญญาจริง ๆ”
“ท่านพูดเองนะ”
เหนือภพเอ่ยขณะที่ลูบท้องตัวเองไปมาเป็นสัญญาณว่าศิษย์พี่ต้องพาเขาไปหาอะไรกิน แต่ก่อนที่พวกเขาจะพากันจากไป เขาก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา
“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านเห็นแมวดำที่อยู่ข้างกายข้าในคืนนั้นหรือเปล่า”
“อ๋อ เจ้าแมวนั่นอยู่ที่เรือนในกับพวกสาว ๆ แต่ที่นั่นเป็นพื้นที่หวงห้ามสำหรับหญิงคณิกาเท่านั้น พวกเราเข้าไปไม่ได้ต่อให้คนในจะพาเข้าไปก็เถอะ”
เหนือภพพอได้ยินนั้นเขาก็รู้สึกหายหิวทันที ความสนใจของเขาไปอยู่ที่เงิน 100 เหรียญทองมากกว่า ดังนั้นต่อให้เป็นนรกมีหรือจะห้ามเขาได้
“เรือนในที่ว่า มันอยู่ทางไหนศิษย์ที่ใหญ่”
“นู่น ไปทางนู้น”
พูดจบทานธรรมก็ถอนหายใจออกมา เจ้าเด็กนี่เป็นอย่างที่อาจารย์พูดในจดหมายไม่มีผิด ทั้งดื้อรั้นและเอาแต่ใจเป็นที่สุด
เหนือภพพุ่งตัวไปทางเรือนในของเหล่าคณิกาอย่างรวดเร็วโดยไม่ทิ้งร่องรอย เขาเป็นเสมือนสายลมหอบหนึ่งที่ผ่านมา เขาเข้าไปถึงลานพื้นหินกว้างแห่งหนึ่ง ที่นี่คือลานกลางแจ้งสำหรับซ้อมการแสดงของสาว ๆ มีตัวอาคารปิดล้อมรอบทุกด้าน ข้าง ๆ ลานมีน้ำตกจำลองเล็ก ๆ และสวนไผ่สีเขียวสดแซมรูปปั้นหินแสนน่ารัก ช่างส่งเสริมความสุนทรีย์ยิ่งนัก แต่สายตาของเหนือภพกลับจ้องมองไปที่ตรงกลางลาน เขาเห็นหญิงสาวรับใช้สามสี่คนกำลังนั่งป้อนปลาให้แมวตัวใหญ่ยักษ์ที่กำลังแกล้งทำท่าทางออดอ้อน
เหนือภพพุ่งตัวเข้าไปกอดรัดแมวดำยักษ์ทันที
“ว๊ายยย”
“เมี๊ยว”
ทานธรรมกำลังตามเหนือภพเข้ามาเพราะความหวังดี แต่เขากลับถูกผู้พิทักษ์สาวคุ้มกันเรือนในเข้าจู่โจมเสียก่อน แม้พวกเธอจะรู้จักว่าเขาเป็นใคร มีตำแหน่งอะไร แต่หอร้อยบุปผาก็มีกฎบางอย่างที่ห้ามก้าวล่วง ต่อให้เป็นจ้าวตึกของกลุ่มภารดาก็ห้ามล่วงละเมิด ดังนั้นทานธรรมจึงถูกกล่าวหาว่าเป็นหนุ่มโรคจิตไปโดยที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรสักนิด ท้ายที่สุดเขาก็จำใจต้องหลบหนีไปอีกทางหนึ่ง
เหนือภพอุ้มแมวดำเอาไปส่งที่สำนักงานฮันเตอร์ ซึ่งแมวดำก็ยินยอมทำตามข้อตกลงที่มันเคยตกลงกับเหนือภพไว้ เขารับเงินรางวัล 100 เหรียญทองแล้วก็เดินจากไป
เมื่อสำนักงานฮันเตอร์พาแมวดำไปส่งที่บ้านพันเพชร แต่แมวดำถึงบ้านเพียงไม่กี่นาทีมันก็หนีหายออกมาอีกครั้ง โดยไม่มีใครรู้ว่ามันหายไปไหน
ณ สวนป่าพะยูง
เหนือภพนั่งห้อยขาอยู่บนกิ่งไม้พะยูงต้นสูงใหญ่ ที่นี่คือสวนป่าพะยูงของเมืองสินธุ พวกเขาปลูกไม้ชั้นดีทิ้งไว้สำหรับเก็บเกี่ยวใช้สอย โดยปกติจะไม่มีผู้คนเข้ามาที่นี่ เหนือภพจึงชอบที่นี่มาก มันเงียบสงบ ร่มรื่นและก็เป็นส่วนตัว
เหนือภพนำแท็บแล็ตออกมาจากตราสัญลักษณ์ แล้วเขาก็เห็นข้อความที่ผู้ชี้นำฝากไว้หลายวันก่อน
เต็งหนึ่ง No.1 : < ต่อไปตัวเลือกสินค้าจะเกิดขึ้นแบบสุ่มนะครับ >
เต็งหนึ่ง No.1 : < ระบบใหม่คือ กงล้อหรรษา ในส่วนนี้คุณจะสามารถกดสุ่มสิ่งของประเภทต่าง ๆ ที่มีอยู่บนแผ่นดินนี้ ซึ่งสิ่งของทั้งหมดจะมีตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงระดับที่ราชวงศ์เลือกใช้ แต่ขอให้คุณพึงระวังไว้ว่าคุณจะมีสิทธิ์ในการหมุนกงล้อเพียง 3 ครั้งในรอบ 15 วัน จากนั้นสิทธิ์ในการหมุนวงล้อก็จะถูกล้างค่า กลับมาเป็น 3 รอบอีกครั้งใน 15 วันถัดไป ไม่สามารถสะสมยอดได้ >
เต็งหนึ่ง No.1 : < สิ่งที่ได้จากการสุ่มหมุนกงล้อให้แต่ละครั้ง จะมีด้วยการสองแบบคือคุณได้สินค้านั้นแบบฟรี ๆ กับคุณต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้านั้น อาจจะมีรางวัลพิเศษบ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อย ส่วนรางวัลพิเศษที่ว่าคืออะไรนั้น คุณต้องลองเสี่ยงดูครับ สุดท้ายนี้ก็ขอให้คุณรักษากติกาเดิมอย่าได้ติดต่อหาผม ผมเองจะติดต่อไปหาคุณเอง และที่สำคัญเชื่อมั่นในตัวผม ผมไม่ยอมไม่ให้คุณเสียเปรียบอย่างแน่นอน โชคดีครับ >
เต็งหนึ่ง No.1 : < ^_^ >