ภาค2บทที่30 วางใจได้เลย (ฟรี)
ภาค2บทที่30 วางใจได้เลย
และตอนนี้ ผมลืมไปเลยเพราะว่าการแข่งมันมันส์เกินไป แต่ว่าเป้าหมายหลักของผมคือการที่จะได้พูดคุยโดยตรงกับผอ.เพื่อที่จะได้เลื่อนชั้นเรียน
เมื่อผมได้รับรางวัลและใบรับรองจากผอ.โดยตรงที่งานรับรางวัลแล้วผมก็ถามออกไป
“เลื่อนให้ผมไปอยู่ปีสองด้วยครับ”
“ได้เลย”
ง่ายๆอย่างนั้นแหละ
“แต่ถึงอย่างนั้น เธอชนะการแข่งขันทั้งๆที่ยังเป็นปีหนึ่งอยู่เนี่ย ไปเรียนเวทบินมาจากไหนอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่หรอกครับ ผมพึ่งเรียนหลังจากมาถึงที่นี่แหละ”
“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่เรื่องจริงแน่ๆล่ะ”
ผมถูกหัวเราะใส่ แต่มันเป็นความจริงจริงๆนะ
เพราะเหตุนี้ผมเลยได้เลื่อนมาอยู่ปีสองของสถาบันเวทแดง ฟ้า และเขียวเรียบร้อยแล้ว ยกเว้นสถาบันเวทดำที่ระบบชั้นปีมันพังทลายไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่เหลืองกับขาวที่ยังต้องไปอยู่
อันที่จริงแล้ว สถาบันเวทเหลืองก็ดูเหมือนจะมีวิธีอยู่แล้ว
ที่สถาบันเวทเหลืองแล้ว มักจะมีงานพรีเซ้นต์โครงงานอยู่เรื่อยๆ นักเรียนปีหนึ่ง(แค่สำหรับคนที่อยากจะเข้า)เริ่มที่หมวดแรกของวันแรก นักเรียนปีสองของวันที่สอง และนักเรียนระดับท็อปหรือนักเรียนปีสามก็จะไปอยู่วันที่สาม และวันสุดท้ายเป็นการพรีเซ้นต์งานวิจัยของเหล่าอาจารย์ทั้งหลาย
ว่ากันว่านักเรียนที่แสดงให้เห็นถึงผลงานวิจัยที่ประสบความสำเร็จมากๆจะได้รับการเลื่อนชั้น
และนั่นก็เป็นสิ่งที่ผมกำลังเล็งไว้อยู่
ตอนนี้การแข่งขันนั่นจบลงแล้ว และผมกำลังเตรียมตัวสำหรับการพรีเซ้นต์สำหรับสองอาทิตย์ถัดจากนี้
อย่างที่อธิบายไปตอนแรก เวทเหลืองนั้นแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ เวทดินและเวทแปรธาตุ
คนส่วนมากที่เชี่ยวชาญในเวทดินมักจะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาควบคุมผืนดินได้ดีขนาดไหน ในทางตรงกันข้าม เวทแปรธาตุนั้นไม่สามารถที่จะแสดงให้เห็นได้ในทันที ดังนั้นมันจึงเป็นการพรีเซ้นต์โครงงานและเนื้อหาของการวิจัยนั้นๆแทน
ผมคิดจะทำโครงงานเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่า “โกเลม”.... แต่ว่าผมคิดว่ามันน่าจะอยู่ในหมวดหมู่ของทั้งคู่
ปกติแล้วโกเลมนั้นอยู่ในหมวดหมู่ของเวทดิน และใช้ในสถานการณ์บางอย่างเท่านั้น เช่นการใช้แรงงานหรือการใช้พุ่งเข้าไปในแนวหน้าของศัตรูในการต่อสู้
แต่อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นแค่ตุ๊กตาดิน เมื่อผู้ควบคุมปลดปล่อยพลังเวทออกไป มันก็จะกลับไปเป็นดินเหมือนอย่างเก่า อีกอย่าง เวทนี้มันกินพลังตลอดเวลา เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะใช้มันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ผมมีไอเดียที่จะพัฒนาจุดอ่อนของโกเลมเหล่านี้แล้ว ความคิดที่จะสร้างโกเลมด้วยเหล็กที่สร้างขึ้นมาโดยเวทแปรธาตุ
ความคิดนี้มันเริ่มมาจากการที่ได้เห็นชุดเกราะเดินได้ในเมืองแห่งดาบ เจ้าเกราะเหล็กนั่นสามารถขยับได้ และไม่เหมือนกับโกเลม มันมีตัวตนอยู่ได้เรื่อยๆ
ผมคิดอยู่ว่าจะทำโกเลมคล้ายๆกับแบบนั้นจะได้รึเปล่า
ผมเริ่มโดยการสร้างเหล็กที่น่าจะกลายไปเป็นร่างกายของโกเลม
ถ้าให้ดี ก็จะต้องใช้เหล็กที่แข็งและเบา โกเลมก็จะสามารถขยับได้อย่างรวดเร็วแถมยังลดพลังเวทที่ใส่เข้าไปได้อีกด้วย
“อืม แบบนี้รึเปล่านะ?”
หลังการทดลองหลายๆอย่าง เหล็กที่ถูกสร้างขึ้นโดยเวทแปรธาตุก็โอเค แม้ว่ามันจะเบากว่าเหล็กมาก แต่ว่าความแข็งแกร่งมันมากกว่าเหล็กอีก
ถึงอย่างนั้น ถ้าผมพยายามงอมันเต็มที่ มันก็จะงอ เพราะงั้นมันยังพัฒนาได้อีก แต่ว่ามันควรที่จะแข็งแรงมากพอที่จะรับน้ำหนักของตัวเองได้
แน่นอนว่ามันจะขยับไม่ได้แน่ๆถ้าหากว่ามันไม่มีข้อต่อ
เพราะงั้นผมเลยตัดสินใจที่จะแยกมันเป็นหลายๆส่วนและประกอบเข้าด้วยกัน
หรือง่ายๆก็คือ มันก็เหมือนกับกระดูกของมนุษย์ ถ้าหากว่ามันมีข้อต่อในที่ที่จำเป็น มันก็น่าจะสามารถวิ่งได้อย่างสบายๆ
เพราะงั้น หุ่นรุ่นแรก โกเลมที่มีร่างกายเหมือนกับมนุษย์ก็เสร็จสิ้น
“..อืม ทำให้มันบาลานซ์กันยากแฮะ”
มันดูดีถ้าแค่ยืนอยู่เฉยๆ แต่ถ้ามันเริ่มขยับล่ะก็ มันก็จะดูแปลกๆ การเคลื่อนไหวของมันดูแปลกมากๆ เสียงเอี๊ยดอ๊าดก็ดังมาจากข้อต่ออีก
แกร๊ง!
และมันก็ลื่นล้มลงไปในที่สุด
“อืม ดูเหมือนจะต้องพัฒนาให้มันขยับได้ดีกว่านี้นะ”
สองอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ สมบูรณ์แบบ ที่เหลือก็แค่พรีเซ้นต์”
และผมก็นึกอะไรบางอย่างออก
“....ลืมลงทะเบียน”
ดูเหมือนว่าผมจะขยันเกินไป ผมรีบรุดไปที่สำนักงานจัดการการพรีเซ้นต์
“ยากล่ะ”
และถูกไล่ออกมาโดยคนในสำนักงานนั่น
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่รอบแรกมันมีคนเข้าสมัครเยอะเกินไปแถมตารางมันก็เต็มแล้วด้วย เพราะงั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอกนะที่จู่ๆก็จะเข้าไปแทรงกลางคันแบบนี้น่ะ รอไปพรีเซ้นต์ครั้งหน้าเถอะ”
“งั้นผมไปไม่ได้เหรอ? ของปีที่สองก็ได้”
“ส่วนที่สองก็เหมือนกันเพราะว่าคนสมัครเยอะมาก”
“แล้วของส่วนที่สามล่ะ?”
“...นักเรียนปีหนึ่งขอเข้าพรีเซ้นต์ในส่วนสามเหรอ ดูจะหลงตัวเองเกินไปล่ะมั้ง”
พนักงานคนนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบใจ
“ผมทำโกเลมรุ่นล่าสุดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน....”
“อะไรคือการที่บอกว่าไม่มีใครคาดคิดมาก่อน แค่มาตัดสินกันว่าไม่มีใครเคยคิดเนี่ย มันไม่ได้เรื่องเลยใช่มั้ยล่ะ?”
รุนแรงจังเลยนะ
“อะไรเหรอ? มีอะไรงั้นเหรอ?”
มีคนเข้ามาขัดการสนทนา เป็นชายวัยกลางคนที่ดูกำยำ เขาดูแข็งแรง ไม่เหมือนกับนักเวท เหมือนจะเป็นทหารของประเทศซักประเทศนึง อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มของเขามันดูไร้เดียงสาเหมือนกับเด็ก
“อาจารย์ล็อกเวลล์”
ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นอาจารย์ของสถาบันนี้ ก็นะ ความเป็นไปได้ก็มากถ้าดูจากอายุของเขาแล้ว
“อันที่จริงแล้ว....”
เมื่อได้ยินเรื่องราวจากพนักงานคนนั้น ล็อกเวลล์ก็พยักหน้าหงึกๆพร้อมกับพูดว่า “เข้าใจล่ะ เข้าใจล่ะ”
“ได้เลย! ไว้ใจฉันคนนีเได้เลย!”
เขาทุบหน้าอกและตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น
จะช่วยได้อย่างนั้นเหรอ?
◆ ◇ ◈ ◇ ◆