บทที่ 8
หลังจากตื่นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้มากมายจากบันทึกทั้งสี่เล่ม ใช้เวลาฝึกฝนอยู่นานเกือบสองปีแต่เวลาด้านนอกผ่านพ้นไปถึงไม่ถึงเดือน ซึ่งตอนนี้เนี่ยฟงมีพลังลมปราณอยู่ในขั้นสีน้ำเงินขั้นสาม
วิชาหลอมรวมลมปราณอยู่ที่ระดับเชี่ยวชาญขั้นต้นแม้ไม่ต้องนั่งฝึกลมปราณก็สามารถรวบรวมลมปราณได้ คัมภีร์วิชาตัดสายฟ้าเนี่ยฟงฝึกถึงระดับผลิดอกขั้นสูง ทุกครั้งที่เนี่ยฟงใช้วิชาจะทิ้งประกายแสงสีฟ้าเอาไว้ มีเพียงการปรุงยาและอักขระศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่เนี่ยฟงยังอยู่ในระดับแตกหน่อขั้นต้นเท่านั้น เพราะความรู้ความเข้าใจของเนี่ยฟงตอนนี้ยังอยู่ต่ำเกินไป อีกทั้งเพราะขาดคนชี้แนะ ไม่นานชายหนุ่มคนเดิมที่เนี่ยฟงเคยพบเจอก็ปรากฏตัวอีกครั้ง
“ผ่านไปสองปีเจ้ามาถึงระดับนี้น่าพอใจยิ่งนักนั้นคงเป็นเพราะระดับพรสวรรค์ของเจ้า แต่เจ้ายังขาดผู้ชี้แนะในการปรุงยาและอักขระศักดิ์สิทธิ์”
เนี่ยฟงถึงกับลุกขึ้นยืนจ้องมองชายหนุ่มผู้นั้นด้วยความสงสัย
“พี่ชาย ท่านกล่าวอันใดเหตุใดท่านจึงกล่าวเวลาผ่านไปสองปี แล้วระดับพรสวรรค์ที่ท่านกล่าวตัวข้าสงสัยนัก ไม่ใช่ว่าตัวข้ามีพรสวรรค์เพียงระดับสีขาวหรอกหรือขอรับ”
“เหอะ หากเจ้ามีพรสวรรค์ระดับสีขาวจริงเวลาเพียงเท่านี้เจ้าจะมีระดับลมปราณถึงขั้นสีน้ำเงินขั้นสามรึ”
“ข้า”
“เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง เอาละถึงเวลาที่เจ้าจะต้องกลับไปแล้ว ข้ามีของจะมอบให้เจ้า เมื่อเจ้าตื่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาเราคงได้พบกันอีก”
เมื่อสิ้นเสียงชายผู้นั้นเนี่ยฟงก็หมดสติลง
“เจ้าหนู เจ้าหนู”
เสียงเรียกของใครบางคนทำให้เนี่ยฟงลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อลืมตาขึ้นเนี่ยฟงพบว่าตัวเองนอนเปลือยกายอยู่ในบ่อขนาดใหญ่ในป่ามรณะ เนี่ยฟงลุกขึ้นสำรวจตัวเองพบว่าร่างกายสูงใหญ่ขึ้นกว่าเดิมและมีแหวนสีดำอยู่ตรงนิ้วนางข้างขวาเป็นลวดลายสายฟ้า ไม่นานเนี่ยฟงก็ได้ยินเสียงอีกครั้ง
“เจ้าตื่นแล้วสินะ ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่ตื่นขึ้นมาเสียแล้ว”
เนี่ยฟงถึงกับตื่นตกใจหันซ้ายกันขวาหมุนรอบตัวเองไปมา
“เสียงของใครกัน”
ไม่นานก็มีแสงสีฟ้าพุ่งออกมาจากด้านหลังเป็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่รูปร่างลักษณะลำตัวยาวเหมือนงู มีเขี้ยวขนาดใหญ่หนึ่งคู่อยู่ที่บริเวณขากรรไกรด้านบน มีหนวดยาวลักษณะเหมือนกับไม้เลื้อย และมีแผงคอเหมือนกับของสิงโตอยู่บน คอ คาง และข้อศอก มีเกล็ดสีฟ้าและสายฟ้าปรากฏรอบตัวมีสี่ขาและกรงเล็บขนาดใหญ่ดวงตาสีแดงจ้องมองเนี่ยฟง เนี่ยฟงถึงกับตื่นตกใจล้มลงไปนั่งกับพื้น
“มัง มังกร”
สัตว์อสูรมังกรสีฟ้าจ้องมองเนี่ยฟง ไม่นานก็กลายร่างเป็นชายหนุ่มผมสีฟ้าดวงตาสีแดงสวมใส่ชุดสีฟ้าเดินเข้ามา
“ข้าเป็นสัตว์อสูรระดับสัตว์เทพเป็นอสูรพันธสัญญาของเจ้า นามของข้าคือลุ่ยกงอดีตเคยเป็นเทพมังกรอัสนีผู้ปกครองเขตป่ามรณะแห่งนี้”
เนี่ยฟงถึงกับจ้องมองชายหนุ่มผมสีฟ้าด้วยความตกใจ
“เหตุ เหตุใดท่านถึงได้มาเป็นอสูรพันธสัญญาของข้าได้ขอรับ”
“เรื่องนั้นเพราะระดับพรสวรรค์ของเจ้ามันสูงกว่าคนปกติบนโลกใบนี้มากนัก อีกทั้งตัวตนของเจ้าช่างแปลกประหลาด และข้าเบื่อที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป”
“เช่นนั้นข้าขอถามระดับพรสวรรค์ที่แท้จริงของข้าได้หรือไม่”
“เรื่องนั้นข้าคงบอกเจ้าไม่ได้ เพราะใครบางคนในตัวเจ้าอยากปิดบังเอาไว้”
“ท่านรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร”
“ตัวข้าบอกสิ่งใดเจ้าไม่ได้มาก เพราะยังไม่ถึงเวลา ข้ารับปากชายผู้นั้นให้มาสอนในสิ่งที่เจ้ารับมา เพราะข้าแอบมองดูเจ้าอยู่นานแล้วเช่นกัน”
“นี้”
“เอาเถอะตอนนี้เจ้ารีบหาเสื้อผ้ามาสวมใส่เสียก่อนเถอะข้าอุจาดตายิ่งนัก”
“ข้าหาได้มีสิ่งใดในร่างกาย แล้วข้าจะนำเสื้อผ้ามาสวมใส่จากที่ไหน”
“เจ้าลองส่งลมปราณไปที่แหวนสีดำในนิ้วนางข้างขวาของเจ้าสิ”
เนี่ยฟงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ทดลองส่งลมปราณไปที่แหวนสีดำพบว่าเหมือนมีมิติขนาดใหญ่คล้ายดังที่เนี่ยฟงเคยอยู่มีเสื้อผ้าสองสามชุดอยู่ด้านในมีมีดสั้น ดาบ และหน้าไม้อาวุธที่เนี่ยฟงนำติดตัวเข้ามา เนี่ยฟงทดลองโบกสะบัดมือขวาพร้อมกับคิดที่จะนำเสื้อผ้าออกมาหนึ่งชุดไม่ถึงหนึ่งลมหายใจก็มีเสื้อผ้าสีเทาอยู่ในมือขวาของเนี่ยฟง เนี่ยฟงรีบเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็วลุ่ยกงเมื่อรับรู้ว่าเนี่ยฟงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เอ่ยออกมาอีกครั้ง
“ข้ามีบางอย่างจะมอบให้เจ้า”