บทที่ 54 : ระบบลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่
เวลาผ่านไป วิลเลียมได้เข้ามาในโลกของเกมนี้กว่าห้าเดือนแล้ว เวลาที่เหลือสำหรับเขาก็ลดลงเรื่อยๆ
ทะเลสาบสายรุ้งเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ดึงดูดเหล่าอสูรเวทย์และอสูรป่า
เขาเป็นเหมือนกับคนเลี้ยงสัตว์ที่ขยันขันแข็งที่กำลังเก็บเกี่ยวขนแกะอย่างสนุกสนาน
หลังจากที่เขากำจัดอสูรเวทย์กลุ่มล่าสุดก็ผ่านมากว่าสองอาทิตย์แล้ว และเขาก็ไม่ได้พบเห็นอสูรเวทย์ตนใหม่อีก
มันค่อนข้างเศร้านิดหน่อย เพราะว่าเนื้ออสูรเวทย์เหล่านั้นได้มอบให้กับกองทัพไปหมดแล้ว…
วิลเลียมนั่งบนเก้าอี้โยกพร้อมกับเนื้อชิ้นหนึ่งในมือ เขาโยนเนื้อไปให้ลูกหมีทั้งสามเป็นครั้งคราวเหมือนเล่นกับสุนัข ลูกหมีทั้งสามที่เมื่อยืนตัวตรงแล้วจะสูงกว่าหนึ่งเมตรกำลังกระโดดและต่อสู้เพื่อแย่งอาหารกัน เขาถามออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ “ยังไม่มีอสูรเวทย์ปรากฏที่ทะเลสาบสายรุ้งใช่ไหม?”
น็อกซ์พยักหน้า “ไม่มีแล้วครับ อสูรเวทย์ที่มีสติปัญญาต่างกลัวที่จะเข้ามาใกล้ทะเลสาบสายรุ้งอีกครั้ง”
“ดีแล้ว ส่งมนุษย์หน้าใหม่ 100 คนไปยังทะเลสาบสายรุ้ง และส่งคนไปสร้างท่าเรือและทางขึ้นภูเขาด้วย” วิลเลียมยืนขึ้น ก่อนจะไปยังระเบียงที่ถูกปกคลุมไปด้วยเถาองุ่น
เขามองไปยังเมืองที่ถูกขยายนับสิบครั้งและตอนนี้อาจได้รับการพิจารณาเป็นเมืองเล็กๆ ก่อนจะอุทานออกมาว่า “การก่อสร้างเมืองกำลังจะสิ้นสุดลง และจะมีคนอีกมากที่ไม่มีงานทำ”
“การทำฟาร์มและการตกปลานั้นเป็นเรื่องของธุรกิจ เมื่อถึงเวลา ก็แค่ประกาศเรื่องนี้ออกไป เพียงเท่านั้นก็จะมีพลเมืองไปตกปลา!”
“ท่านลอร์ดทรงเฉลียวฉลาด” น็อกซ์หัวเราะ
วิลเลียมสะบัดมือครั้งหนึ่ง ก่อนที่น็อกซ์จะออกไปถ่ายทอดคำสั่ง
“โฮก...” หมีใหญ่คำรามอย่างกระทันหัน มันสาวเท้าตรงมาด้านหน้า
“หยุดนะ!” วิลเลียมรีบหยุดยั้งมันเอาไว้
หมีใหญ่หยุดลงตรงเท้าของวิลเลียม มันเงยหน้าขึ้น ดวงตาดูงุนงงเหมือนกำลังจะกล่าวว่า “ทำไมท่านไม่อุ้มแล้วเล่นกับข้าล่ะ?”
ปากวิลเลียมกระตุก ในช่วงสี่เดือนก่อน หมีใหญ่ หมีสอง และหมีสามโตจนจะสูงเกือบหนึ่งเมตรและหนักประมาณ 50 กิโลกรัมเนื่องจากการให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แล้วเขาจะอุ้มมันได้อย่างไรในเมื่อตอนนี้มันตัวใหญ่มาก?
แม้ว่าหมีที่โหดเหี้ยมเหล่านี้จะเป็นอสูรเวทย์และต้องใช้เวลาในการเติบโตถึงแปดเก้าปีเหมือนกับมนุษย์และเอลฟ์ แต่พวกเขาก็สามารถพัฒนาตนเองได้ล่วงหน้าตราบใดที่ได้ทานอาหารที่มีเวทมนตร์ทุกวัน
“เจ้าเบื่อหรอ? มานี่สิ ตามเราไปปูถนนกัน” วิลเลียมออกไปข้างนอกพร้อมกับลูกหมีทั้งสาม หมีจอมโหดเป็นอสูรเวทย์ธาตุดินและกำเนิดขึ้นด้วยเวทมนตร์ธาตุดิน พวกมันอยู่ในเลเวล 15, 14, และ 13 ตามลำดับ และทั้งสามยังเป็นอสูรเวทย์ที่เข้าสู่ระดับเริ่มต้น
พลังของพวกมันอยู่ในระดับปานกลาง แต่ก็ไม่มีปัญหาถ้าจะกลั่นแกล้งมนุษย์ในเลเวลเดียวกัน
และเวทมนตร์ธาตุดินนั้นดีต่อการทำให้ถนนมั่นคงแข็งแรง
เพื่อนตัวน้อยทั้งสามเดินตามวิลเลียมไปตามถนนที่มีคนพลุกพล่านและออกไปยังนอกเมือง
ตามคำแนะนำของท่านลอร์ดวิลเลียม หมีทั้งสามได้ทำงานอย่างหนักเพื่อร่ายเวทย์ในการสร้างถนนที่เพิ่งโค่นต้นไม้ออกไป!
ลูกหมีสามตัวตบลงบนผืนดินด้วยอุ้งมือพร้อมกัน ก่อนพื้นที่ตรงหน้าจะถูกปกคลุมไปด้วยเวทย์ธาตุดิน หลังจากนั้นไม่นานดินโคลนก็แข็งตัวและเรียบมากกว่าเดิม
ถูกต้องแล้ว
นี่คือการ ‘ปู’ ถนนแล้วจริงๆ
“ใช่ๆๆ มันต้องยื่นออกมาตรงนี้ ใช้เวทย์ตรงนี้เลย”
“เฮ้ หมีสาม ทำไมเจ้าถึงคำรามล่ะ? เราขอให้เจ้าใช้เวทย์ธาตุดิน ไม่ใช่ให้ใช้หมีน้อยคำราม เห็นมั้ย ดอกไม้กับต้นไม้ถูกเจ้าทำลายไปหมดแล้ว มันจะส่งผลต่อความสวยงามนะ”
“หมีสอง มานี่” ปากวิลเลียมกระตุก เขาวิ่งไปคว้าหูของหมีสองแล้วลากกลับมา แต่เพื่อนตัวนี้นั้นแสนซุกซนเป็นที่สุด และอยากจะเข้าไปในป่าทุกครั้งที่ออกมาข้างนอก
“ดูพี่ใหญ่ของพวกเจ้าสิว่าเขายอดเยี่ยมและประพฤติตัวดีแค่ไหน วันนี้เขาจะได้อาหารพิเศษ!”
หลังจากที่วิลเลียมพูดคำว่า ‘อาหารพิเศษ’ หมีใหญ่ก็หูผึ่งและหัวเราะคิกคักอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ใช้อุ้งเท้าขนาดใหญ่ตบลงบนพื้นเพื่อทำให้เวทมนตร์ปกคลุมไปทั่วพื้นดินและทำงานอย่างขมักเขม้น
โดยปกติแล้วเส้นทางบนภูเขาในป่ามักจะไม่ได้ใช้งานมากนัก แม้ว่าจะต้องสร้างขึ้นให้แข็งแรง แต่ปูด้วยทรายและหินก็เพียงพอแล้ว
แต่ทุกๆครั้งที่ฝนตก ล้อรถจะทิ้งรอยลึกไว้บนถนน
ลูกหมีทั้งสามนั้นกินและนอนตลอดทั้งวัน พวกมันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน วิลเลียมจึงต้องหาอะไรให้พวกมันทำ
ในตอนนี้ พวกเขาได้สร้างถนนไปสู่เหมืองมิทริลเรียบร้อยแล้ว มันกว้างประมาณเก้าเมตร แม้ว่าจะมีรถวิ่งสวนกันก็ไม่มีปัญหา
ส่วนตอนนี้พวกเขากำลังสร้างถนนไปสู่เหมืองแร่เหล็ก
สำหรับถนนในเมืองแห่งรุ่งอรุณนั้นไม่จำเป็นจะต้องใช้ลูกหมีทั้งสามในการสร้าง
สุดท้ายแล้วหินในเหมืองเหล็กก็เหมาะสำหรับการใช้เป็นแผ่นหิน นอกจากการทำเหมืองทุกวันแล้ว เหล่าออร์คที่ทำงานอย่างหนักและไม่ต้องจ่ายค่าแรงให้นั้นก็ผลิตหินก้อนใหญ่ออกมาจนนับไม่ถ้วน
ช่างฝีมือบางคนจะทำงานในจุดที่ใกล้กับเหมืองแร่และนำพวกมันกลับมาพร้อมกับรถม้า ดังนั้นถนนของเมืองแห่งรุ่งอรุณจึงต้องถูกปูด้วยแผ่นหิน
ไม่เพียงแต่จะทำให้ถนนแข็งแรงเท่านั้น ยังเพิ่มความหรูหราอลังการอีกด้วย
สามชั่วโมงต่อมา
วิลเลียมบิดขี้เกียจ ก่อนจะนำลูกหมีทั้งสามที่อ่อนล้ากลับไปยังเมือง วันนี้เขาปูถนนไปได้ 500 เมตร เขายิ้มอย่างภูมิใจที่บรรลุเป้าหมายไปได้เยอะเลยทีเดียว
เขามองไปยังกำแพงเมืองที่เสร็จสมบูรณ์ซึ่งมีความสูงถึงเจ็ดเมตรและกว้างถึงสามเมตร พื้นผิวของกำแพงดำมืดดั่งน้ำหมึก และไม่ว่าจะมองจากระยะไกลหรือระยะใกล้ ผู้คนก็จะคิดว่ากำแพงของเมืองแห่งรุ่งอรุณทำจากเหล็กกล้า…
อย่างไรก็ตาม
ข้างในกำแพงเมืองนั้นเต็มไปด้วยก้อนหินและมีเพียงด้านในและด้านนอกของกำแพงเมืองเท่านั้นที่ถูกทาด้วยน้ำมันเหล็ก มันดูน่าเกรงขามและอาจจะทำให้ศัตรูจำนวนมากที่จะเข้ามาโจมตีตกใจกลัวได้
ในความจริงแล้ว ความสามารถในการป้องกันของมันสูงกว่ากำแพงหินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ประตูจะเสร็จสมบูรณ์ตอนไหน?” วิลเลียมมองไปยังประตูทิศใต้
“ท่านลอร์ด มันจะเสร็จสมบูรณ์ภายในแปดวัน ไม่สิ ภายในห้าวันครับ” เมื่อช่างฝีมือมนุษย์เห็นว่าท่านลอร์ดมาตรวจสอบงาน เขาก็ตัดสินใจได้ทันทีที่จะทำงานให้เสร็จภายในห้าวันแม้ว่าจะต้องทำงานล่วงเวลาก็ตาม
“ดีมาก เสร็จภายในแปดวันก็พอแล้ว” วิลเลียมตบไหล่เขาเบาๆเพื่อให้กำลังใจ
วิลเลียมไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรให้มากความ
ในฐานะเจ้าเมือง, ครึ่งเอลฟ์ที่หล่อเหลา, และท่านลอร์ดแห่งอาณาเขต เขาเป็นผู้ที่ทรงเกียรติที่สุดในเมืองแห่งรุ่งอรุณแห่งนี้
เขาเป็นมาสเตอร์ของโทรลอย่างบลัดดี้ครัชเชอร์
เขาเป็นเจ้านายของเหล่าหมีจอมโหด
เขาเป็นท่านลอร์ดของเอลฟ์สายเลือดบริสุทธิ์ห้าร้อยตน
ด้วยเกียรติยศที่ติดตัวมามากมาย เหล่าพลเรือนทั้งหลายจะไม่ยกย่องเขาได้อย่างไร?
เสมือนว่าเขามีรัศมีรอบๆกาย ในทุกๆที่ที่เขาไปชาวเมืองมักอดไม่ได้ที่จะชื่นชมสรรเสริญกิริยาท่าทางที่งดงามของเขา
เขาทำให้ผู้คนตื่นเต้นเกินกว่าจะนอนหลับเพียงแค่พูดคุยกับพวกเขา
ในโลกใบนี้เต็มไปด้วยระบบชนชั้น แม้ว่าประชาชนทั้งหลายจะมายังค่ายฝ่ายกลาง แต่พวกเขาก็ยังไม่เปลี่ยนนิสัยท่าทางเมื่อเจอกับชนชั้นสูง วิลเลียมจะไม่บอกกล่าวกับพวกเขาว่าความเท่าเทียมคืออะไร
เขาจะแผ่ขยายเกียรติยศของเขาให้ครอบคลุมไปทั้งเมืองแห่งรุ่งอรุณ และแม้กระทั่งดินแดนที่กว้างขวางขึ้น
แม้ว่าเมืองนี้จะถูกสร้างขึ้นโดยพลเมืองทุกคน แต่เมื่อเมืองทั้งเมืองเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว ผู้คนจะสรรเสริญว่าเป็นเกียรติยศของท่านลอร์ด และลืมกระทั่งว่าพวกเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งของความพยายาม เพราะพวกเขาจะคิดว่าสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ท่านลอร์ดมอบให้
พวกเขาจะมีงานที่ดีเช่นนี้ได้อย่างไร หากท่านลอร์ดไม่ซื้อพวกเขามายังที่นี่?
พวกเขาจะมีบ้านเป็นของตนเองได้อย่างไร หากไม่ได้รับความเมตตาจากท่านลอร์ด?
ยิ่งไปกว่านั้น ท่านลอร์ดยังจ่ายค่าแรงแทนการหลอกลวงพวกเขาด้วยขนมปังดำราคาถูก
และที่สำคัญที่สุด พวกเขาเกือบทั้งหมดนั้นเป็นทาสที่ถูกเปลี่ยนสถานะไปเป็นพลเรือน นี่คือสิ่งที่ท่านลอร์ดมอบให้ และเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขายอมทำงานล่วงเวลา
วิลเลียมสามารถเอาชนะใจของผู้คนจำนวนมากด้วยเงินทอง, คำพูด, และของกำนัล
สำหรับพลเมืองที่ทุกข์ทรมานจากความยากลำบากเหล่านี้ วิลเลียมจำเป็นต้องบริจาคให้บ้าง ซึ่งหลายคนจะจดจำความเอื้ออาทรนี้ไปตลอดชีวิตและพวกเขาจะสวดภาวนาให้เขาในใจ
"ระบบลอร์ดนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ..."