ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 883 ยักษ์สวรรค์ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 885 โจมตีและป้องกัน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 884 สายลับ (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 884 สายลับ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะคุกทมิฬพุ่งเข้าเผชิญหน้ากับยักษ์สวรรค์ในที่สุด

เป็นเพียงเวลานี้ที่แขนสามคู่ของยักษ์สวรรค์เกิดการเปลี่ยนแปลง

แขนคู่แรกเปิดออกและสร้างโม่หินเมฆาดาวที่ใหญ่โตกว่าขนาดปกติถึงหกเท่าขณะที่ความเร็วในการหมุนวนเพิ่มขึ้นหกสิบส่วน

แขนคู่ที่สองยกขึ้นระดับหน้าอกและเปลี่ยนเป็นโล่สีน้ำเงินขนาดใหญ่ มันกระทั่งสูงกว่ายักษ์สวรรค์หลายสิบเมตร

แขนคู่สุดท้ายแขวนอยู่ด้านล่างและสร้างม่านแสงโปร่งใสขึ้นรอบๆ

คฤหาสน์วิญญาณอมตะคุกทมิฬพุ่งเข้าปะทะโม่หินเมฆาดาว

โม่หินเมฆาดาวเริ่มบดขยี้สิ่งแปลกปลอมทำให้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามคฤหาสน์วิญญาณอมตะคุกทมิฬยังสามารถเคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้าได้ราวกับกระทิงป่าที่บ้าคลั่ง

ยักษ์สวรรค์ใช้โล่สีน้ำเงินเป็นการป้องกันด่านที่สอง

คุกทมิฬพุ่งชนโล่ยักษ์หลายครั้งก่อนจะสามารถทะลวงผ่านเข้าไป

แต่หลังจากผ่านการป้องกันสองด่านแรก คุกทมิฬก็เหลือพลังเพียงสามสิบส่วนเท่านั้น

เมื่อคุกทมิฬพุ่งชนม่านแสง มันก็สูญเสียพลังอำนาจทั้งหมดและพุ่งชนหน้าอกของยักษ์สวรรค์ราวกับลูกธนูที่หมดแรงและไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายตรงข้าม

แม้คุกทมิฬจะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะ มันก็ถูกควบคุมโดยไห่เจิ้งเพียงผู้เดียว

ตามหลักการ ยิ่งมีผู้อมตะมากเท่าใด คฤหาสน์วิญญาณอมตะก็จะสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจได้มากเท่านั้น

แต่ยังมีความแตกต่างระหว่างทั้งสองฝ่าย

คฤหาสน์วิญญาณอมตะไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับเส้นทางการบ่มเพาะของผู้อมตะแต่ค่ายกลวิญญาณอมตะจำเป็นต้องพึ่งพาผู้อมตะที่อยู่บนเส้นทางเดียวกันหรือใกล้เคียงกันเพื่อปลดปล่อยพลังอำนาจสูงสุด

ยักษ์สวรรค์จะทำงานได้ดีที่สุดหากผู้อมตะที่อยู่ภายในบ่มเพาะบนเส้นทางเดียวกัน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือฟางหยวนเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งดวงดาว โม่ตันซานเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเป็นการคงอยู่ที่เฉพาะเจาะจง สำหรับผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน พวกเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม

นี่ทำให้ยักษ์สวรรค์ไม่สามารถแสดงพลังอำนาจที่แท้จริงของมันออกมา

อย่างไรก็ตามยักษ์สวรรค์เป็นค่ายกลวิญญาณอมตะบนจุดสูงสุด มันมีข้อจำกัดไม่มากนัก

จากบันทึกในประวัติศาสตร์ ค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้ส่วนใหญ่ค่อนข้างเข้มงวด โดยทั่วไปมันเป็นเรื่องยากที่จะสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะชนิดนี้

จุดอ่อนดังกล่าวทำให้พวกมันสูญหายไปในแม่น้ำแห่งกาลเวลา

“บึม บึม บึม บึม...”

ฉินไป่เฉิงทุ่มเทความสนใจทั้งหมดกับท้องฟ้าด้านบน

เขายกแขนขึ้นทั้งสองข้างราวกับกำลังคว้าบางสิ่ง

การกระทำของฉินไป่เฉิงทำให้ท้องฟ้าระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับกระจกแตกและเผยให้เห็นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วน ภายใต้พลังงานลึกลับบางอย่าง วิญญาณเหล่านี้ถูกดึงดูดเข้ามาหาฉินไป่เฉิง

อีกด้านหนึ่ง ผู้อมตะลึกลับกับเทพธิดาเจียงหยูก็พยายามคว้าวิญญาณเหล่านี้เอาไว้เช่นกัน

“พวกเขาพยายามยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมของข้า เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาประสบความสำเร็จ มิฉะนั้นแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะถึงจุดจบ!” จิตวิญญาณแผ่นดนหลางหยากรีดร้องด้วยความกังวล

แต่มันไร้ประโยชน์

แม้ยักษ์สวรรค์จะสามารถปิดกั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะคุกทมิฬ แต่ก็ไม่สามารถหยุดการก่อกวนของมัน

หลายครั้งที่ยักษ์สวรรค์ถูกควบคุมโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาให้เข้าใกล้ฉินไป่เฉิง ไห่เจิ้งจะใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะคุกทมิฬขัดจังหวะเขาเสมอ

“บึม!”

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรงขณะที่วิญญาณอมตะปรากฎตัวขึ้นเป็นครั้งแรก

“ดี!” ฉินไป่เฉิงอุทานด้วยความสุข

เขายื่นมือออกไปคว้ามันเอาไว้ แม้วิญญาณอมตะดวงนี้จะเป็นของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาแต่มันก็ไม่สามารถต่อต้านการจับกุมของฉินไป่เฉิง

เห็นได้ชัดว่าฉินไป่เฉิงมีวิธีการพิเศษที่สามารถขโมยวิญญาณอมตะของผู้อื่น

เมื่อวิญญาณอมตะดวงนี้ถูกปล้นชิง แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

คลื่นยักษ์ปรากฎขึ้นในมหาสมุทร แผ่นดินส่วนหนึ่งล่มสลาย พื้นที่ของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาหดตัวลงขณะที่น้ำทะเลและสิ่งมีชีวิตในบริเวณนี้ถูกบังคับให้เคลื่อนเข้าสู่จุดศูนย์กลาง

“ฉินไป่เฉิงได้รับวิญญาณอมตะเพียงดวงเดียวแต่มันกลับส่งผลกระทบรุนแรงถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ?” ฟางหยวนรู้สึกตกใจมาก

“หยุด! หยุดเขาเร็วเข้า!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเริ่มตื่นตระหนก

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเต็มไปด้วยความกังวลเช่นกัน แต่คุกทมิฬยังก่อกวนพวกเขาอยู่ไม่ห่าง ดังนั้นยักษ์สวรรค์จึงไม่สามารถเข้าใกล้ฉินไป่เฉิง

วิญญาณอมตะถูกปล้นชิงไปอีกครั้งขณะที่ภัยพิบัติทุกประเภทก่อตัวขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและพรากชีวิตของมนุษย์ขนจำนวนนับไม่ถ้วนจากทั้งสามทวีป

นี่คือสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาจะประสบเมื่อเกิดการต่อสู้ระหว่างผู้อมตะ

เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ฟางหยวนมั่นใจในการคาดเดาของตนมากขึ้น

แดนศักด์สิทธิ์หลางหยามีพื้นที่กว้างใหญ่กว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปอย่างไม่สามารถเปรียบเทียบ แต่มันก็ยังเป็นเพียงแดนศักดิ์สิทธิ์

จิตวิญญาณหลางหยาสามารถทำเรื่องนี้ได้อย่างไร?

ตอนนี้ฟางหยวนรู้แล้วว่ามันเกิดจากผลกระทบของการหลอมรวมพลังงานแห่งเต๋าจำนวนมากเข้ากับแดนศักดิ์สิทธิ์

เขาคิด ‘ดูเหมือนจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะมีวิธีการพิเศษที่สามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะเข้ากับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ด้วยวิธีนี้พลังงานแห่งเต๋าส่วนหนึ่งของวิญญาณอมตะจะผนวกเข้ากับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและขยายพื้นที่ของมัน’

‘แต่ตอนนี้ฉินไป่เฉิงกำลังปล้นชิงวิญญาณอมตะจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหม้อหลอมรวม นี่ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาสูญเสียพลังงานแห่งเต๋าและเริ่มพังทลายลง’

ฟางหยวนคาดเดาได้ถูกต้อง

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมที่ถูกผนึกไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาช่วยเพิ่มพื้นที่และทรัพยากรมากมายให้กับสถานที่แห่งนี้

เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมเช่นกันที่ทำให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสามารถเลี้ยงดูผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจำนวนมาก

แต่มันยังมีข้อเสียที่ไม่สามารถเคลื่อนย้าย กล่าวคือหม้อหลอมรวมถูกผูกมัดไว้กับแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างสมบูรณ์

หากมันถูกย้ายออกไป พื้นที่ของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะหดตัวลง แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะพบกับความสูญเสียร้ายแรง

นี่คือเหตุผลที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายินดีใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้ยักษ์สวรรค์มากกว่าใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมในการต่อสู้

“หลีกทาง!” ยักษ์สวรรค์ยกมือขึ้นและตบคุกทมิฬออกไปก่อนจะก้าวยาวๆเข้าไปหาฉินไป่เฉิง

แต่หลังจากนั้นคุกทมิฬก็ยังบินกลับมากีดขวางยักษ์สวรรค์อีกหลายสิบครั้ง

ไห่เจิ้งไม่สามารถหลีกเลี่ยงความวุ่นวายนี้และต้องเสี่ยงด้วยทุกสิ่ง

แม้คุกทมิฬจะประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ ไห่เจิ้งก็ต้องกัดฟันทน

“ไร้ประโยชน์! ข้ายังรบกวนพวกเจ้าได้อีกนาน คฤหาสน์วิญญาณอมตะเกิดจากวิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วน ตราบเท่าที่วิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางยังไม่ถูกทำลาย มันก็ยังสามารถใช้งาน หากคฤหาสน์วิญญาณอมตะถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย มันจะถูกเรียกว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้อย่างไร?” ไห่เจิ้งเย้ยหยัน

“เจ้าพูดถูก!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเห็นด้วยกับคำกล่าวของไห่เจิ้ง

ไห่เจิ้งกลายเป็นมึนงง

หลังจากชั่วครู่ เขาจึงตระหนักว่าวิญญาณอมตะของคฤหาสน์วิญญาณอมตะคุกทมิฬเริ่มถูกปรับแต่งโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

ไห่เจิ้งกล่าวได้ถูกต้อง หากคฤหาสน์วิญญาณอมตะถูกทำลายได้โดยง่าย มันจะถูกเรียกว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้อย่างไร

ด้วยตรรกะนี้ แม้คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหม้อหลอมรวมจะสูญเสียวิญญาณอมตะหลายดวงให้กับฉินไป่เฉิง แต่ตราบเท่าที่มันยังไม่สูญเสียแกนหลัก มันก็ยังสามารถใช้งาน

“ฮ่าฮ่าฮ่า อีกสิบห้านาที พวกเจ้าจะพบจุดจบที่น่าอนาถ หม้อหลอมรวมของข้ายังมีผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนสองคนเฝ้าดูแลอยู่ แล้วพวกเจ้าจะสามารถขโมยคฤหาสน์วิญญาณอมตะของข้าได้อย่างไร?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาประกาศชัยชนะด้วยความมั่นใจ

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีรากฐานที่ลึกซึ้ง จนถึงตอนนี้ยังมีผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่ยังไม่แสดงตัวออกมา

แต่นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล คฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมมีความสำคัญต่อแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แน่นอนว่าต้องมีบางคนคอยปกป้องมันอยู่

อย่างไรก็ตามฉินไป่เฉิงกลับเผยรอยยิ้มชั่วร้าย “เจ้าแน่ใจงั้นหรือ?”

ก่อนที่เขาจะกล่าวจบคำ ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนสองคนก็บินลงมาจากท้องฟ้าและแสดงความเคารพต่อฉินไป่เฉิง “คารวะท่านฑูต”

ความจริงก็คือผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนสองคนที่ถูกทิ้งไว้ปกป้องคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวมเป็นสายลับจากนิกายเงาที่แฝงตัวอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา!

ด้วยความช่วยเหลือจากพวกเขา คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหม้อหลอมรวมจึงถูกปล้นสะดมจนมาถึงจุดนี้