ตอนที่ 28 วันนี้เป็นวันดีจริง ๆ
กลางดึกคืนนั้น
“เอาไงดี”
เหนือภพพูดคุยอยู่กับตัวเองขณะจ้องมองแท็บแล็ตในมือ วัตถุดิบลับนี้น่าสนใจมาก แต่ว่าเขาต้องใช้เงินจำนวนมากมาแลกกับมัน
สินค้า : เหงือกข้างซ้ายของเงือกวารี
ที่มา : มหาสมุทรมืด
สรรพคุณ : ทำให้สามารถหายใจใต้น้ำได้เหมือนปลา มีผลตลอดชีวิต
คุณภาพ : สูง
ราคา : 9,000,000,000 พ้อย
เหนือภพคิดอยู่นาน จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจซื้อมา เพราะเขาผ่านประสบการณ์เลวร้ายที่เกี่ยวกับน้ำมามาก และหากเขาต้องประสบชะตากรรมเช่นนั้นอีก เขาก็อยากเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
เขารอเพียงครู่เดียวก็มีกระรอกตัวหนึ่งคาบถุงเล็ก ๆ สีแดงมาให้เขา จากนั้นเหนือภพก็ก่อไฟย่างเหงือกปลาที่มีขนาดเพียงนิ้วหัวแม่มือนั้น ยังไม่ทันที่เหนือภพจะได้กลืนเหงือกปลาในปาก เขาก็ลุกขึ้นเก็บของเตรียมเข้าเหมืองอีกครั้งโดยไม่สนใจนอนพัก เขาตั้งใจว่าจะต้องหาแร่สามสีและสี่สีให้ได้ เพื่อชดเชยกับเงินที่เพิ่งสูญเสียไป
“ขยันดีนะพ่อหนุ่ม ขอให้โชคดีได้แร่เยอะ ๆ”
“ขอบคุณครับ”
เหนือภพจ่ายเงินให้ฮันเตอร์เฝ้าเหมืองอย่างรวดเร็วเช่นเคย บรรยากาศในเหมืองช่วงกลางดึกก็ไม่ต่างจากตอนกลางวันมากนัก นักขุดมากมายต่างผลัดกันขุดแทบจะตลอดเวลา
ในครั้งนี้เหนือภพเลือกเส้นทางใหม่ เขาเลือกเส้นทางที่ถูกบุกเบิกใหม่ โดยสังเกตจากสีของผนังหิน และจำนวนนักขุดที่มีหนาแน่นเป็นพิเศษ เส้นทางใหม่นี้น่าจะถูกขุดขึ้นมาในเวลาไม่เกินหนึ่งปี ดังนั้นสายแร่ในนี้จึงยังหลงเหลืออยู่มาก เสียอย่างเดียวคือคู่แข่งนักขุดก็มากมายเช่นกัน แต่เหนือภพหากลัวไม่
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้หนู..”
“ถ้าไม่อยากตาย”
“ที่นี่พวกเราจองแล้ว”
นักขุดรุ่นเก๋าล่ำบึ๊กสามคนหยุดขุดแล้วหันมาขู่เหนือภพ พวกเขาจับจองคูหาที่อยู่ลึกที่สุดไว้แล้ว ส่วนคูหาอื่น ๆ ก็มีนักขุดจับจองไว้หมดแล้วเช่นกัน
เหนือภพหันมองรอบด้าน ที่นี่มีนักขุดเจ้าเก่าจำนวนนับร้อย ดังนั้นเหนือภพจึงไม่อยากก่อเรื่องวุ่นวายอะไร เขาจึงถอยตัวออกไปหาผนังหินที่ยังว่างอยู่ท่ามกลางผู้คน พื้นที่ที่เหนือภพยืนอยู่มีนักขุดขนาบสองข้าง พวกเขาขุดอยู่ตลอดเวลาราวกับต้องการแสดงให้เห็นว่า
‘ข้าขุดตรงนี้อยู่ อย่ามายุ่ง’
เหนือภพจึงจำเป็นต้องขุดเฉพาะพื้นที่ที่เหลือตรงหน้า พื้นที่ที่ว่ามีความกว้างประมาณ 60 เซนติเมตรเท่านั้น แต่เหนือภพก็ไม่เรียกร้องอะไร เขาเพียงยิ้มมุมปาก จากนั้นก็เริ่มขุด ขุด แล้วก็ขุด
“เฮ้ย ไอ้นี่”
“อะไรวะ”
“...............”
เสียงเซ็งแซ่ดังมาจากนักขุดรอบด้าน เมื่อพวกเขาเห็นว่าเจ้าหนุ่มหน้าใหม่คนนั้นหายลับเข้าไปในเส้นทางใหม่ที่เขาสร้างขึ้นมาจากพื้นที่เพียงไม่ถึงเมตร
“มันทำได้ยังไง”
เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ เนื่องจากชั้นหินใต้เหมืองแห่งนี้มีความแข็งมาก กว่าพวกเขาจะขุดสร้างเส้นทางใหม่ที่มีความลึกได้หนึ่งกิโลเมตรนี้ พวกนักขุดนับร้อยก็ต้องใช้เวลาเป็นปีในการช่วยกันเบิกทาง แต่เจ้าหนุ่มนี่กลับใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงขุดสร้างเส้นทางลึกลงเข้าไปจนไม่เห็นตัวเสียแล้ว
“ไปพวกเรา”
นักขุดรุ่นเก๋าหลายคนชวนกันจะเข้าไปในเส้นทางที่เหนือภพบุกเบิกขึ้นมาใหม่ แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเข้าไป เหนือภพก็โผล่หัวออกมาซะก่อน
“หยุด ! ใครเข้ามาเจอดีแน่ อยากได้ที่ขุดใหม่ ๆ ก็ไปขุดเส้นทางเองสิ”
เหนือภพพูดจบก็ทำหน้าขึงขังเป็นการข่มขวัญ และมันก็ได้ผลไม่มีใครตามเขาเข้ามาอีกเลย และต่อให้พวกเขาจะมายืนออกันอยู่หน้าคูหาก็ไม่สามารถมองเห็นข้างในได้ เพราะเหนือภพขุดสร้างเส้นทางเป็นแนวฟันปลา เส้นทางที่หยักไปมานี้ทำให้คนภายนอกไม่สามารถเห็นภายในได้เลย
“หึ นึกว่าจะแน่”
เหนือภพกลับเข้ามาในคูหาที่เขาเพิ่งขุดขึ้นมา ภายในนี้เขาขุดขยายเป็นวงกลมขนาดใหญ่ เนื้อหินภายในนี้มีสายแร่สองสีเป็นจำนวนมาก แต่เหนือภพไม่อยากเสียเวลาไปกับแร่สองสีอีกแล้ว ด้วยจำนวนกองทัพนักขุดที่พร้อมจะแห่เข้ามาแย่งขุดเมื่อเจ้าของที่เดิมไม่อยู่ บีบบังคับให้เหนือภพต้องขุดค้นหาของราคาแพงที่สุด โดยใช้เวลาน้อยที่สุด
“เห้อ แร่สามสีจ๋า เจ้าไปอยู่ที่ไหน รู้มั้ยว่า.. เอ๊ะ !”
จู่ ๆ เหนือภพก็รู้สึกตัวร้อนวูบวาบ ฝ่ามือทั้งสองข้างสั่นระริกจนอีเตอร์หลุดมือ เขารู้สึกได้ว่าเหล็กไหลในตัวเขากำลังเกิดปฏิกิริยาบางอย่างกับผนังหินตรงหน้า
“นี่มัน...”
เหนือภพมองผนังหินที่อยู่ห่างออกไปไม่เกินหนึ่งฝ่ามือ ความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น
แต่เหนือภพตกใจเกินไป เขาขยี้ตาแล้วก็หลุดจากภวังค์ ความวูบวาบทั้งหลายหายไปจากตัว เมื่อลืมตามองอีกทีสิ่งที่เขารู้สึกเมื่อครู่ก็ไม่มีอีกแล้ว เหนือภพลงมือขุดผนังหินเบื้องหน้าเพื่อคลายความสงสัย และแล้วเขาก็ค้นพบสะเก็ดแร่สามสี ที่ติดค้างซอกหินอยู่เพียงปลายก้อย
“เรื่องจริงหรอนี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เหนือภพหยุดการขุดทั้งหมดแล้วมานั่งกุมขมับอยู่กลางโถงเล็ก ๆ เคียงข้างคบเพลิงเพียงหนึ่งอัน เขานั่งคิดอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมง จนในที่สุดก็เหมือนมีใครมาจุดประกายในสมองของเขา
“รู้แล้ว ต้องเป็นเพราะเหล็กไหลตัวของเราแน่เลย ราชันย์พิภพก็ต้องควบคุมพวกแร่ธรรมดาได้สิ ไหนลองใหม่สิ”
“แร่สามสี แร่สามสีจ๋า แร่สามสีออกมาหน่อย แร่สามสี...”
เขาเพ่งสมาธิและพูดกับตัวเองราวกับคนเพ้อ ทว่ามันกลับได้ผล ร่างกายของเขาเริ่มร้อนวูบวาบอีกครั้ง เขาตั้งใจเพ่งต่อไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิด เขาไม่สามารถเรียกสายแร่สามสีออกมารวมกันได้
ทว่าสิ่งที่เขาเห็นเมื่อหลับตาลงในความมืดกลับเป็นจุดสีต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นบนผนัง จุดสีที่ว่าก็คือแร่มีสี ในคูหาที่เขาอยู่มีจุดสองสีหนาแน่น จุดสามสีที่เขาเห็นมีจำนวนน้อยกว่า ทั้งยังอยู่ลึกไปเนื้อหิน
เหนือภพค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจให้ช้าลง เมื่อลืมตาขึ้นดวงตาของเขาก็แปรเปลี่ยนสีส้มทอง ทำให้ความสามารถในการเพ่งจิตมองหาแร่ยังคงอยู่
“โอ้ ขอบคุณสวรรค์”
เหนือภพลงมือขุดด้วยอารมณ์เบิกบาน จนกระทั่งสายแร่สามสีหมดลง เขาจึงรู้ตัวว่าขุดจนคูหาลึกเข้าไปอีกเกือบสิบห้าเมตร เขาตื่นเต้นมากกับแร่สามสีเต็มตะกร้าจนไม่อยากขุดแร่ธรรมดาเพื่อเติมเต็มตะกร้าอีกใบ
เหนือภพคว้าตะกร้าสุดหวงแล้วก็วิ่งออกไปหาพ่อค้าที่อยู่หน้าทางเข้าถ้ำ โดยมีเสียงฮือฮาของนักขุดตลอดเส้นทาง
ณ ร้านรับซื้อแร่หน้าเหมือง เวลาบ่ายโมง
“พี่ ๆ ทั้งหมดนี้เท่าไหร่”
เหนือภพวางตะกร้าลงหน้าร้านรับซื้อแร่ แล้วก็ยืนเท้าสะเอวยิ้มกว้างราวกับคนบ้า
“ขี้อวดจริงนะ”
เหนือภพหันมองใต้หล้าที่พูดแดกดันเขา ทั้งยังกำลังวางตะกร้าที่เต็มไปด้วยแร่สองสีลงข้าง ๆ เขาถึงสองตะกร้า
“ใครขี้อวดก็ยังไม่แน่” เหนือภพพูดจบก็ยิ้มเยาะเล็กน้อย
“ลองมาพนันกันมั๊ยล่ะ ของใครมีมูลค่ามากกว่ากันก็ถือว่าชนะ”
ใต้หล้ายึดอดแกร่งขึ้นอย่างผ่าเผยมั่นใจ เหนือภพได้ยินดังนั้นก็เห็นช่องทางหารายได้เสริม เขาจึงต่อรองไปว่า
“ถ้าข้าชนะ เจ้าต้องยกรายได้ของแร่สองตะกร้านั่นให้ข้า กล้ารึเปล่า”
“เฮอะ ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าข้าชนะ ข้าไม่เอาอะไรทั้งนั้น แต่เจ้าต้องเปลี่ยนไปใช้อีเตอร์อันใหม่”
ใต้หล้าพูดพลางเหลือบมองอีเตอร์สุดเก่าของเหนือภพด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอย่างล้ำลึก ในฐานะทายาทตระกูลขุดแร่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด เขาย่อมรักและทะนุถนอมอีเตอร์ยิ่งชีพ แค่เขาเห็นอีเตอร์มีรอยเพียงนิดเดียว เขาก็จะอุ้มมันวิ่งไปหาช่างซ่อมภายในวันนั้นเลย
เหนือภพเลิกคิ้วสูง
‘แปลกคน ทำไมไม่อยากได้เงินทอง อ้อ เพราะเจ้านี่สินะที่ทำให้ทุกคนในเหมืองใช้อีเตอร์ใหม่กันหมด แล้วทำไมต้องมายุ่งกับของตกทอดของข้า ฝันไปเถอะ’
“ตกลง”
“ดี”
“ทั้งหมด 18,000 เหรียญเงินขอรับ”
“ฮ่า ๆ ๆ ขอบใจ”
ใต้หล้ารับเงินมาจากพ่อค้าด้วยอารมณ์เบิกบาน เขามั่นใจว่าชนะแน่ ถึงเหนือภพจะมีแร่สามสีวางทับอยู่ข้างบน แต่เขาก็เชื่อว่าข้างใต้ตะกร้านั่นส่วนใหญ่ต้องเป็นแร่หนึ่งสี หรือไม่ก็แร่สองสีแน่
พ่อค้ารับซื้อแร่หันมาพิจารณาตะกร้าแร่ของเหนือภพ โดยการเทตะกร้าลงไปในถาดโลหะขนาดใหญ่
“ไม่จริง”
ใต้หล้ากระโจนเข้าไปคุ้ยแร่ในถาดด้วยตัวเอง แต่ไม่ว่าจะตะกุยตรงจุดไหน เขาก็พบว่ามันคือแร่สามสีทั้งหมด
“ทั้งหมด 60,000 เหรียญเงินขอรับ”
พ่อค้านำเงินมอบให้เหนือภพอย่างนอบน้อม ส่วนเหนือภพนั้นกำลังยิ้มจนปากแทบจะฉีกออกจากกัน
“วันนี้เป็นวันดีจริง ๆ ข้าจะได้เงิน 78,000 เหรียญเงินเลยหรอนี่ อู้ว เงินเยอะขนาดนี้ข้าถือไม่ไหวจริง ๆ”
เหนือภพแกล้งพูดหยอกล้อใต้หล้า ส่วนใต้หล้าก็ได้แต่ยื่นเงินให้ด้วยดวงตาเชือดเฉือน
“ดูไว้ซะ นี่แหละผลงานของตระกูลนักขุดที่ไร้เทียมทาน”
“นี่เจ้า...”
ยังไม่ทันที่ใต้หล้าจะได้ตอบโต้อะไร ก็มีเสียงดุดันแทรกขึ้นเสียก่อน
“จะเลิกเล่นได้รึยังฮึ ใต้หล้า”
“ท่านอา”
ใต้หล้าถึงกับหน้าเสียเมื่อเห็นอาแท้ ๆ ของตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับผู้ชายล่ำบึ๊กอีกเกือบสามสิบคน พวกเขาทั้งหมดล้วนตัวใหญ่และสูงกว่าเขา
อาของใต้หล้ามีชื่อว่า ใต้ศิลา เขาคือนักขุดขั้นเทพคนหนึ่งของตระกูลใต้ หลายปีมานี้เขาวางมือจากการขุดแร่ทั่วไปแล้ว เพราะเขาถูกจัดอยู่ในระดับชั้นนักขุดพิเศษของตระกูล นาน ๆ ทีเขาถึงจะนำทีมนักขุดออกไปสำรวจ หรือขุดหาสิ่งมีค่าที่จำเพาะเจาะจงเท่านั้น
และในครั้งนี้เขาก็ได้รับมอบหมายจากท่านตาทวดให้มาค้นหาแร่ห้าสีในเหมืองแห่งนี้ แม้ว่าเหมืองแห่งนี้จะนับว่าเป็นเหมืองภายใต้อิทธิพลของตระกูลใต้ ลูกหลานตระกูลใต้ไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่นต่างเคยมาขุดที่นี่จนถึงขั้นเชี่ยวชาญ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปแร่ห้าสี สี่สี สามสี ก็เริ่มลดจำนวนลงจนยากที่จะหาแร่สี่สีได้ในปัจจุบัน
แต่เนื่องจากผู้มีอำนาจหลายฝ่ายในแคว้นนี้กำลังบีบตระกูลใต้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ท่านตาทวดจึงออกคำสั่งให้ใต้ศิลาไปขุดหาแร่ห้าสีให้ได้ หากได้แร่หกสีก็ยิ่งดี เพราะตระกูลใต้จะได้กลับมามีอำนาจต่อรองอีกครั้งหนึ่ง
“ใต้หล้า เจ้าต้องไปกับข้า”
“ไปไหนครับ ท่านอา”
“ก็ไปขุดแร่น่ะสิ ส่วนเจ้าก็คือเหนือภพสินะ”
เหนือภพที่กำลังนับเงินหลายหมื่นเหรียญเงินอยู่ สะดุ้งเล็กน้อยที่ได้ยินคนเรียกชื่อเขา
“ท่านรู้จักข้าหรอ”
“แน่นอน ข่าวคราวเรื่องนักขุดแปลกหน้ายอดฝีมือน่ะ ดังกระฉ่อนไปทั่วเหมืองแล้ว ครั้งนี้มาเจอเจ้าด้วยก็ดี ข้าอยากจะให้เจ้าเข้าร่วมทีมกับเรา”
“ข้าหรอ ทำไมต้องเป็นข้า แล้วถ้าข้าเข้าร่วมข้าจะได้อะไร”
เหนือภพมีสีหน้างุนงง เขาไม่เข้าใจเลย ใต้หล้ามองเขาเป็นคู่แข่งตลอดเวลา แต่ท่านอาใต้ศิลากลับอยากชวนเขาเข้าร่วมทีม
‘คิดจะแกล้งข้าหรอ หรือจะแย่งเงินจากข้ากัน’