ตอนที่แล้วตอนที่ 21 ข้าไม่ใช่โจร แค่มาตามหาแมว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 23 เป็นเจ้า ?

ตอนที่ 22 ถ้าคิดจะทำชั่ว ก็อย่าได้ร้องขอชีวิต


เหนือภพลืมไปเสียสนิทเลยว่าเขามาที่นี่ทำไม สิ่งที่เขาคิดได้คือคำสั่งสอนของอาจารย์ที่ลอยขึ้นมาในหัว

“วิชาความรู้ที่ข้าสอน อย่านำไปใช้ในทางที่ผิด หมั่นทำแต่กรรมดี ลดกรรมชั่ว สิ่งไหนควรให้อภัยได้ก็ให้อภัย ใช้พลังความสามารถที่มีปราบปรามอธรรม อภิบาลคนดี ปกป้องผู้คนจากเหล่าสัตว์ร้าย”

เขาไม่รู้หรอกคนไหนคือคนดี คนไหนคือคนชั่ว แต่เขารู้แน่ก็คือไอ้ศรีวะรานี่มันไม่ใช่คนแล้ว มันคือสัตว์นรกมาเกิดชัด ๆ

เหนือภพเกร็งกล้ามเนื้อนิ่งนานจนพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 6 แล้วเขาก็สัมผัสได้ถึงความปวดร้าวบนกล้ามเนื้อขวา มันเริ่มปวดตุบเนื่องจากใกล้จะเกินขีดจำกัดแล้ว

เขาเหวี่ยงกำปั้นออกไป 45 องศา ในทิศทางลานกว้างของคฤหาสน์ เขารู้ได้จากการสัมผัสเสียงต่อสู้อันครึกโครมด้านบน

บรึ้ม !!!

เสียงกระแทกอากาศราวกับอุกกาบาตตกลงมา กำปั้นที่กระแทกเข้าไปในอากาศ ก่อเกิดคลื่นกระแทกคล้ายระลอกน้ำระเบิดออก แม้จะไร้สีแต่ก็สัมผัสได้ถึงคลื่นที่ถูกบีบออกมา กระจายเป็นวงกว้าง

พลังกำปั้นระดับ 6 ของเหนือภพทำให้คุกใต้ดินแหวกกว้างกว่าร้อยเมตร คฤหาสน์หายไปครึ่งหลัง พันศรีวะราและพันเพชรที่กำลังสู้กันอยู่อย่างดุเดือดถึงกับชะงักหันมามองด้วยใบหน้าซีดเผือด โดยเฉพาะพันศรีวะราที่ยืนอยู่ใกล้รัศมีระเบิดของพลังทำให้เขารับพลังหมัดอากาศของเหนือภพเข้าไปเต็ม ๆ โชคดีแล้วที่เขายังชะตาไม่ถึงฆาต

พันศรีวะราถึงกับเข่าทรุดลงไปอย่างอ่อนแรง ฉี่แทบราดออกมาเมื่อเขาคิดว่าพันเพชรนำคนมีฝีมือระดับนี้มาด้วย ยังไม่ทันที่เขาจะอ้อนวอนร้องขอความเมตตา ดวงตาก็พลันเบิกกว้างพลางพึมพำออกมาอย่างโล่งอก

“น้องพี่ ในที่สุดเจ้าก็มาช่วยแล้ว พวกมันกำลังจะฆ่าพี่ น้องต้องฆ่ามันให้พี่นะ”

พันศรีวะราเอ่ยปากบอกชายหนุ่มอายุอ่อนกว่าหลายปี ที่จู่ ๆ ก็กระโดดเข้ามายืนปักหลักใช้อาคมต้านพลังของเหนือภพให้เขา จนโล่อาคมมีรอยแตกร้าวปรากฏให้เห็น

ทันทีที่เขาปลดโล่ออก ขุนศรีไชยะ น้องชายของพันศรีวะราก็กระอักเลือดออกมา เข่าทรุดลงแบบพี่ชาย ขณะเงยหน้ามองเหนือภพที่เพิ่งกระโดดขึ้นมาจากห้องใต้ดิน

“พี่ข้าทำอะไรผิด ทำไมผู้ทรงพลังของกลุ่มภราดาจึงต้องการชีวิตเขา”

ศรีไชยะเป็นขุนที่คอยปกป้องเมืองหลวงมาช้านาน เขาเคยต่อสู้กับคนจากกลุ่มภารดามาหลายต่อหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอผู้ทรงพลังอย่างแท้จริง การโจมตีด้วยแรงอัดอากาศเป็นหลักวิชาที่กลุ่มภารดาใช้ มันคือทักษะต่อสู้ด้วยกายภาพที่เน้นใช้แรงอัดกระแทก ต่อให้มีอาคมป้องกันก็ใช่ว่าจะรอดพ้น ตราบใดที่คนเรายังหายใจด้วยอากาศก็ย่อมไม่มีทางหนีพ้นหมัดอัดอากาศนี้

“หลบไป พี่ชายของเจ้าได้กระทำการป่าเถื่อน เขาสมควรถูกพิพากษา”

เหนือภพตอบกลับด้วยใบหน้าเฉยชา ราวกับว่าอารมณ์ของเขาถูกสะเทือนไปถึงก้นบึ้งของหัวใจจนมันขาดสะบั้นออกมา

สีหน้าของศรีไชยะดำมืดลงขณะมองพี่ชายเพียงคนเดียวของเขาด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งรัก ทั้งเกลียด ทั้งชิงชัง และเป็นห่วง เขารู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้หมายถึงอะไร คงหนีไม่พ้นรสนิยมอันแปลกประหลาดของพี่ชายเขาแน่นอน

“ท่านพี่ ทำไมท่านถึงยัง….”

ขุนศรีไชยะเต็มไปด้วยโกรธและก็เสียใจขนไม่อาจพูดมันออกมาได้ ในฐานะพี่ชายเขาทำหน้าที่ได้ดีมาก แต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งพี่เขากลับถูกจัดอยู่ในประเภทที่หยาบช้าที่สุด

ศรีวะราหน้าดูแตกตื่นทันทีเมื่อได้ยินชื่อ ภราดา สองมือสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ก็พยายามกดข่มเอาไว้ เหลือเพียงความโกรธที่แสดงผ่านดวงตา

‘เพราะอะไรพวกมันถึงมาที่นี่ได้ ทั้งที่ข้าได้จัดการนังหมูสกปรกที่เป็นสายลับไปหมดแล้ว มันไม่ควรมีใครรู้เรื่องนั้น’

ทุกคนต่างรู้ดีว่ากลุ่มภารดาทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องผู้ไร้พรสวรรค์ พวกเขาเป็นพวกนอกกฎหมาย เป็นศาลเตี้ยที่จะคอยลงทัณฑ์เหล่าคนที่กระทำเรื่องเลวร้าย แต่พวกเขาไม่เคยทำตามอารมณ์ พวกเขาจะลงทัณฑ์เหล่าคนชั่วร้ายที่จำนนต่อหลักฐานเท่านั้น

และพันเพชรที่ตั้งใจมาจัดการพันศรีวะราโดยอ้างเรื่องแมวพระราชทานที่หายไป แต่เมื่อเห็นกลุ่มภราดาเข้ามาร่วมด้วย เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อ กองทหารขมังเวทย์ของพันเพชรนับสิบคนจึงค่อย ๆ ถอนตัวออกไปตามคำสั่งอย่างเงียบ ๆ

เหนือภพเดินเข้ามาใกล้สองพี่น้อง ฝ่ามือของเขาปัดใส่อากาศอย่างเร็วและแรง เกิดเป็นคลื่นแรงกระแทกอากาศผลักร่างของขุนศรีไชยะที่บังร่างของพี่ชายอยู่ กระเด็นออกไปไกลกว่าสิบเมตรโดยที่เขาไม่อาจต่อต้านได้เลย

แม้ผิวกายภายนอกของเขาจะยังดูดีไร้รอยบาดแผล แต่ความจริงแล้วอวัยวะภายในของเขาบอบช้ำมาก บางส่วนฉีกขาดจนไม่อาจฟื้นตัวได้ หากเขาไม่มีปราณอาคมอยู่ในระดับแรงค์ D ก็คงจะตายไปตั้งแต่ตอนนี้เลย

เหนือภพไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาใช้เท้าขวาเหยียบลงไปบนขาขวาของพันศรีวะรา แม้พันศรีวะราจะต้านด้วยอาคมแต่ก็ไม่ได้ผล เสียงแตกหักของกระดูกดังขยี้หัวใจยิ่งนัก กระดูกขาแหลกละเอียดในทันที ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันทุกข์ทรมานของพันศรีวะรา

เมื่อเหนือภพได้ยินเสียงกรีดร้อง เขาจึงค่อย ๆ เริ่มได้สติ แววตาของเขาสั่นไหวเล็กน้อยก่อนสูดลมหายใจเข้าออกเพื่อทำให้จิตสงบ เสียงเทศนาของพระอาจารย์กลับมาดังก้องในใจเขา แน่นอนว่าเขารู้ดี คนเราไม่ควรตัดสินความเป็นความตายของใคร เขาไม่ควรตัดสินทุกอย่างด้วยอารมณ์ แต่ควรตัดสินด้วยความเป็นธรรม

การหยุดการโจมตีของเหนือภพสร้างความงุนงงแก่เหล่าทาส ชาวบ้านธรรมดา ผู้เคราะห์ร้าย รวมถึงสายลับกลุ่มต่าง ๆ ที่พากันขึ้นมาจากคุกใต้ดินได้สักพักแล้ว

พวกเขาต่างภาวนาในใจให้เหนือภพฆ่าไอ้ชั่วนี้ให้ตายเพื่อแก้แค้นสิ่งที่มันทำกับพวกเขา

“ฆ่ามัน !”

“ฆ่ามันให้ตายเถอะ ได้โปรด”

“ใช่ ฆ่ามัน !”

เสียงของพวกเขาดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จนแทบอยากจะวิ่งเข้ามาลงมือด้วยตัวเอง แต่เหนือภพก็ยังไม่ทำอะไรต่อ

ขุนศรีไชยะรู้สึกโล่งอก ถึงพี่ชายเขาจะเลวยังไง เขาก็ยังอยากให้พี่ชายรอดชีวิตอยู่ดี ส่วนพันศรีวะรานั้นก็ยังดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอด

“ปล่อยข้าเถอะ เจ้าอยากได้อะไรข้าจะให้หมดเลย เงินทอง ผู้หญิง หรือนังหมูสกปรกพวกนั้น ข้าให้ ข้าให้หมดเลย”

พันศรีวะรายกมือไหว้อย่างสั่นกลัว ขณะที่พยายามเขยิบร่างกายออกห่างจากเหนือภพ

สีหน้าของเหนือภพกลับมาสงบเยือกเย็นขณะผายมือไปทางกลุ่มผู้ถูกจองจำ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“แล้วคนพวกนั้นล่ะ”

พันศรีวะราเริ่มยิ้มตัวเอง เขามีทางรอดแล้ว

“ท่านอยากได้หรอ ได้สิ ข้าให้ เอาไปเลย ขอแค่ไว้ชีวิตข้าก็พอ”

แต่เหนือภพกลับส่ายหน้า

“คนพวกนั้นย่อมต้องเคยขอความเมตตาจากเจ้าเช่นกัน แล้วเจ้าทำอย่างไรกับพวกเขา แล้วยังมีหน้ามาขอชีวิตกับข้าเนี่ยนะ”

เหนือภพจ้องเข้าไปในแววตาของพันศรีวะราด้วยแววตาลึกล้ำ จนทำให้พันศรีวะราเริ่มกลัว ภาพเก่า ๆ ในอดีตของเขาย้อนกลับมาในห้วงสำนึก ภาพที่เขาลงมือทรมานผู้หญิงแต่ละคนค่อย ๆ ย้อนกลับมาในหัวสมองของพันศรีวะรา แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกผิดแต่อย่างใด

“มันก็แค่พวกไร้ค่า โชคดีแค่ไหนแล้วที่มันยังสร้างความสุขให้แก่คนชั้นสูงอย่างพวกเราได้ ท่านปล่อยข้าสิ ข้าสอนให้ท่านได้นะ แล้วท่านจะรู้สึกว่าการฟังเสียงร้องของพวกไร้ค่ามันมีความสุขแค่ไหน”

“หืม”

เหนือภพหรี่ตาลง เจ้านี่มันโรคจิตเกินเยียวยาจริง ๆ เหนือภพยังคงเงียบขณะจ้องหน้าพันศรีวะราท่ามกลางเสียงด่าทอของเหล่าผู้เคราะห์ร้ายที่กำลังรุมด่าพันศรีวะราดังขึ้นเรื่อย ๆ

เหนือภพส่ายหน้าราวกับสงสาร ขณะจับร่างพันศรีวะราโยนขึ้นฟ้า แล้วเหนือภพก็กระโดดตามขึ้นไปฟาดเตะร่างอ้วนฉุของพันศรีวะราลงมาเบื้องล่างอย่างแรง

ตู้ม !!!

พื้นดินยุบตัวลง ร่างอ่อนปวกเปียกนอนลึกอยู่ที่ใจกลางแอ่งกระทะที่มีรัศมีสี่เมตร เหนือภพหลับตาลง ความจริงแล้วเขาตั้งใจจะตามด้วยท่าถุงเงินร่วงหล่น แต่ก็ตัดใจไม่ทำ ไม่ใช่เพราะเขาเมตตา หรือปรานี แต่มันจะตายอยู่แล้วต่างหาก

เหนือภพก้มมองไปยังพันศรีวะราที่นอนอยู่ก้นหลุม เห็นได้ชัดว่าพันศรีวะรากำลังพยายามพูดอะไรบางอย่าง

“ข้าขอสาปแช่งเจ้า”

เขาพูดออกมาอย่างอ่อนแรง แต่สายตายังคงเต็มแน่นไปด้วยความเคียดแค้น

“คำสาปแช่งของคนชั่วช้า ฟ้าดินไม่ฟังหรอก และอย่าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้า ก่อนที่เจ้าจะตายเจ้าควรจะได้รู้ซึ้งว่า ความรู้สึกตายทั้งเป็นนั้นเป็นยังไง”

เหนือภพกระโดดลงไปลากร่างอ้วนฉุขูดไปตามพื้น ก่อนจะเหวี่ยงมันลงไปในหลุมที่ทะลุต่อกับห้องขังใต้ดิน

“ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะทำให้คนอย่างมันได้ชดใช้กรรมแล้ว ยังไงก็เอ็นดูมันหน่อยละกัน”

พูดจบเหนือภพก็เดินออกมาอย่างไม่ยี่หระ ส่วนพวกเหยื่อผู้โชคร้ายต่างส่งเสียงร้องอย่างพอใจ แล้วก็พากันวิ่งกรูเข้าไปหาพันศรีวะราราวกับฝูงผีดิบที่หิวโหยการแก้แค้น มันเป็นภาพที่ไม่น่าดูสักนิด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด