ตอนที่แล้วคาถาที่ 35 : Go back to hell 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปคาถาที่ 37 : อิฐคนเดิม

คาถาที่ 36 : Go back to hell 2


 

ผมกับไอ้คีย์รีบพาตัวไอ้อิฐฝ่าวงล้อมออกจากคนที่มามุงดูอย่างรวดเร็วเพื่อพาไปที่รถ

พอมาถึงรถของไอ้คีย์ต่างคนก็รีบเข้าไปข้างใน โดยมีเพื่อนคนอื่นวิ่งตามมาด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับไอ้อิฐกันแน่ เพราะแต่ละคนเห็นก็แค่ไอ้อิฐล้มลงไปกองกับพื้นแล้วมีผมกับไอ้คีย์ช่วยกันพยุงตัวมันออกมา

“แมท มึงแน่ใจนะ ว่ามันไม่ต้องไปโรงพยาบาล” ผมถามไอ้แมทอีกทีเพื่อความชัวร์ขณะปิดประตูรถ ผมเห็นเลือดสีดำที่ไอ้อิฐสำลักออกมาแล้วกลัวแทนเลย ไม่รู้ว่ามีอะไรบาดเจ็บภายในหรือเปล่า

“หมอก็รักษาไม่ได้หรอกอาการแบบนี้ ไปคอนโดกูเร็ว” ไอ้แมทพูด ตอนนี้รถของไอ้คีย์มีไอ้แมทเข้ามานั่งแทนที่ใยไหมทางด้านหน้า

“ไหมกลับรถผมไปก่อนนะ เร็น มึงเอารถกูไปส่งกี้กับเพื่อนกี้หน่อย กูฝากด้วย” ไอ้แมทพูดจบก็โยนกุญแจรถตัวเองผ่านกระจกรถส่งให้เร็น

“เฮียอิฐเป็นไรคะ เฮียชา” กี้ถามผมด้วยความเป็นห่วง ผ่านกระจกรถที่เปิดระบายอากาศอยู่

“มันไม่ค่อยสบาย กี้กับเพื่อนกลับไปก่อนเถอะ ไหมฝากคนอื่นด้วยนะ” ผมบอกน้องไป ประโยคหลังหันไปคุยกับไหมแทน ไหมพยักหน้ารับมองผ่านกระจกรถไปที่ไอ้อิฐด้วยความเป็นห่วงเพื่อนไม่ต่างกัน

“ไอ้คีย์ออกรถเลย” ไอ้แมทพูดเร่ง

มือผมยื่นไปหยิบทิชชูที่ไอ้แมทส่งให้จากทางด้านหน้ามาซับเลือดสีดำที่ไอ้อิฐไอออกมาอีกระรอก ผมสังเกตที่คอมันยิ่งดูเลวร้ายไปกันใหญ่ เส้นเลือดใหญ่ชัดเจนมาก มันเป็นสีดำสนิทและแพร่กระจายออกมาจากจุดสองจุดที่คอ ซึ่งเป็นเหมือนต้นตอสาเหตุที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ผมจำได้ว่าเมื่อสองสามวันก่อนยังแซวมันเล่น เรื่องคอแดงเป็นจ้ำเหมือนปานเพราะพาสาวเข้าห้องอยู่เลย ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้

ไอ้คีย์ขับรถมาถึงคอนโดแมทธิวอย่างรวดเร็ว ผมกับไอ้แมทช่วยกันพาไอ้อิฐล่วงหน้าขึ้นไปที่ห้องก่อน ขณะที่ไอ้คีย์เอารถไปจอดที่ลานจอดรถของคอนโด ไม่ช้าผมกับไอ้แมทก็พาไอ้อิฐขึ้นมาที่ห้องได้สำเร็จ ไอ้แมทดูท่าทีลนลานจนทำอะไรไม่ถูก มันเดินไปหยิบหนังสือบนชั้นหนังสือมาเปิดพร้อมกับโยนหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่าลงบนเตียงนอน เมื่อพบว่าไม่ใช่หนังสือเล่มที่ตัวเองต้องการ ส่วนตัวผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่รอให้มันเจอหนังสือที่มันต้องการสักที

“กูเจอแล้ว !” ไอ้แมทร้องออกมา

“แล้วต้องทำไง ไอ้อิฐเป็นไรวะ แล้วมันจะหายหรือเปล่า” ผมถามมันรัว ๆ

ไอ้แมทไม่ตอบผมกลับมาสักคำถาม มันก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมือมัน สักพักมันก็เงยหน้าขึ้นแล้วสั่งผม

“ถอดเสื้อมันออก แล้วจับมัดไว้กับเก้าอี้ กูอยากรู้ว่าเราเหลือเวลาแค่ไหน”

“หมายความว่าไง” ผมถามมันกลับ ทำไมต้องถอดเสื้อแล้วจับมัดกับเก้าอี้ด้วย เหลือเวลาแค่ไหน นี่มันหมายความว่ายังไงเนี่ย ไอ้อิฐจะเป็นยังไง

“อย่าเพิ่งถาม ทำตามที่กูบอกเร็ว กูไปเตรียมของก่อน” ไอ้แมทพูดพร้อมวิ่งเข้าไปในโซนครัวของคอนโด ที่มันเก็บพวกข้าวของพวกสมุนไพรต่าง ๆ เอาไว้ตอนที่ผมมาฝึกใช้เวทมนตร์กับมัน

ผมรีบทำตามที่แมทธิวบอก รีบลากเก้าอี้คอมที่วางอยู่แถวนั้นแล้วจับตัวไอ้อิฐมานั่งกลางห้อง พร้อมกับหาผ้าหรืออะไรแถวนั้นที่พอจะมัดมันให้อยู่กับเก้าอี้ไม่ให้ล้มได้มาพันไว้รอบตัว พอหลังจากถอดเสื้อไอ้อิฐออกแล้วผมถึงรู้ว่ามันให้ทำไปทำไม บนร่างกายช่วงบนของไอ้อิฐมันช่างเป็นภาพที่ผมเห็นแล้วอดสยองไม่ได้ เส้นเลือดแตกระแหงออกมาจากจุดสองจุดบริเวณลำคอมันเป็นสีดำนูนขึ้นมา ลักษณะคล้าย ๆ อาการของโรคงูสวัดแต่นี่ดูสยดสยองกว่ามาก ทิศทางของเส้นเลือดสีดำที่นูนแตกระแหงออกมาดูมีทิศทางที่แน่นอน มันมีทิศแผ่กระจายไปยังบริเวณหน้าอกด้านซ้าย ... ด้านที่มีหัวใจเต้นอยู่

“ไอ้แมท ! จะทำอะไรก็ทำเร็ว กูทำตามที่มึงบอกเสร็จแล้ว” ผมตะโกนเรียกไอ้แมท เดินวนไปวนมาด้วยความเป็นห่วง ไอ้อิฐ มันไม่น่าเข้ามายุ่งเรื่องของผมเลย อดโทษตัวเองไม่ได้ว่าเป็นเพราะผมแท้ ๆ ที่ทำให้มันต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติแบบนี้

ไอ้แมทรีบวิ่งมาพร้อมกับถือของหลายอย่างจากโซนครัวติดมือมาด้วย หลังจากที่ผมได้ยินเสียงดังขลุกขลักเหมือนคนรื้อของอะไรสักอย่างอยู่พักหนึ่ง เจ้าตัวมาถึงก็มองร่องรอยเส้นเลือดสีดำที่แตกระแหงบนตัวของไอ้อิฐ มันทำหน้าตกใจพอสมควรไม่ต่างอะไรกับตอนที่ผมเห็นครั้งแรก แมทธิวหยิบสมุนไพรอะไรบางอย่างสีเขียวที่มันทุบ ๆ ใส่ถ้วยมาโปะที่ลำคอของไอ้อิฐก่อนหันมาคุยกับผม

“พวกเราเหลือเวลาไม่มากแล้ว ถ้าพิษมันเข้าถึงหัวใจเมื่อไร ร่างของไอ้อิฐจะกลายเป็นของมันโดยสมบูรณ์แน่ แล้วถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครหยุดได้ เท่ากับว่าพวกแม่มดดำจะได้ตัวไอ้อิฐไป และพิธีที่มันจะทำในวันจันทรปราคายิ่งง่ายเข้าไปอีก” ไอ้แมทพูด

“มันที่มึงว่านี่หมายถึงใคร” ผมถามไอ้อิฐด้วยความสงสัย สิ่งที่มันอยู่ในตัวผมยังกำจัดออกไม่ได้เลย นี่แม่มดดำมันปล่อยตัวอะไรไม่รู้มาอยู่ในตัวเพื่อนผมอีกแล้ว

“ตามหนังสือที่กูอ่าน ลักษณะทีไอ้อิฐมันเป็น สิ่งที่อยู่ในตัวไอ้อิฐคือลิเวียธาน บาปแห่งความริษยา หนึ่งใน 7 ปีศาจ ที่เป็นตัวแทนมหาบาปของมนุษย์”

“อะไรนะ !” ผมร้องออกมาอย่างตกใจ

มีปีศาจในเทพนิยายปรัมปราโผล่มาอีกตัวแล้ว นี่มันมีอีกกี่อย่างเนี่ยที่มันมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ เท่าที่เจอทุกวันนี้ผมก็แทบจะคิดว่าอยู่ในฝันไปแล้ว สิ่งที่อยู่ในตัวผมคือจิตวิญญาณบางส่วนของซาตานมันจะออกมาเมื่อตอนผมโกรธหรือโมโหเอามาก ๆ ของไอ้อิฐมันคงไม่ต่างกันถ้าผมเดาไม่ผิด ยิ่งมีสิ่งที่เป็นเหมือนน้ำมันอยู่ในตัว เพียงแค่โยนเชื้อเพลิงนิดเดียวไฟมันก็ติดได้ง่าย ๆ ไม่แปลกใจเลยที่มันทำตัวแบบนั้นออกไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

“ฟังกูนะ มึงช่วยกูเอาเกลือโรยรอบเก้าอี้ตัวนี้เป็นวงกลม แล้วจุดเทียน 7 เล่มวางไว้รอบ ๆ” ไอ้แมทพูด

ผมรีบช่วยไอ้แมททำตามที่มันบอก เกลือสีขาวถูกโรยไว้ที่พื้นรอบ ๆ เป็นวงกลมล้อมเก้าอี้ที่ไอ้อิฐนั่งอยู่ พอทำเสร็จผมก็ช่วยไอ้แมทจุดเทียนต่อ ผมรู้สึกถึงความผิดปกติของบรรยากาศรอบ ๆ ห้องนี้ มันดูโหวงเหวงพิกล ถ้ามองออกไปด้านนอกของคอนโดไอ้แมท กลุ่มเมฆสีดำก้อนใหญ่กำลังลอยมาทางนี้ อีกไม่ช้าจะต้องมีฝนเทลงมาแน่ ๆ บรรยากาศเหมือนวันที่ผมกลายเป็นปีศาจแล้วฆ่าคนอย่างเลือดเย็นไม่มีผิด ได้แต่หวังว่าไอ้แมทมันจะทำสำเร็จ มันต้องช่วยไอ้อิฐให้ได้

“ไอ้แมท ! มันไอเลือดสีดำออกมาอีกแล้ว มึงดูดิ เส้นเลือดสีดำมันแพร่กระจายไปที่หัวใจเร็วกว่าเดิมอีก” ผมบอกไอ้แมท หลังจากจุดเทียนเสร็จมองไปที่ตัวไอ้อิฐ ตอนนี้เส้นเลือดสีดำมันแตกระแหงมาถึงบริเวณหน้าอกแล้ว

“จะเสร็จแล้ว ๆ” ไอ้แมทพูดหลังจากจุดเทียนแท่งสุดท้ายเสร็จ พร้อมกับหยิบหนังสือเล่มที่มันเลือกอยู่นานขึ้นมาอ่านต่อว่าจะต้องทำยังไงบ้าง

“ไอ้อิฐเป็นไงบ้าง” เสียงไอ้คีย์ดังขึ้นมาพร้อมกับร่างของมันที่วิ่งเข้ามาภายในห้อง ตามมาด้วยเสียงปิดประตูดังปั้ง พอมันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนตัวไอ้อิฐก็ร้องอุทานออกมา

“เชี้ยไรวะน่ะ !”

“รูรั่วที่มึงไปอุด มันไม่เวิร์คว่ะคีย์ มีหลุดออกมาได้ด้วย แถมไม่ใช่แค่วิญญาณธรรมดา แต่เป็นถึงปีศาจ” ไอ้แมทพูดขณะสายตายังก้มอ่านหนังสืออยู่

ที่ไอ้คีย์หายไปทำภารกิจหลาย ๆ วัน หลังจากกลับมา มันก็มาเล่าว่าภารกิจที่ไปทำกับพี่ฟองเป็นภารกิจปิดรูรั่วจากนรกที่พวกแม่มดดำไปทำพิธีเปิดนรกเอาไว้ ไอ้แมทจึงพอรู้เรื่องและเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บ้าง เห็นว่าพิธีกรรมที่พวกแม่มดดำทำครั้งล่าสุดมีคนตายเป็นสิบคนเลย พวกยมทูตจึงต้องตามไปเก็บวิญญาณหลุดออกมากมาย แต่ตัวไอ้คีย์และยมทูตคนอื่นก็คงไม่คิดเหมือนกันว่านอกจากวิญญาณแล้วจะมีอย่างอื่นหลุดออกมาด้วย

“กูไม่เคยทำพิธีอะไรแบบนี้เหมือนกันนะ แต่ต้องลอง คราวไปช่วยพี่พิมพ์ในกระจกยังสำเร็จเลย คราวนี้ก็ต้องได้” ไอ้แมทพูด ผมกับไอ้คีย์เลยพยักหน้าตาม

“พวกมึงมายืนเป็นวงกลมรอบตัวไอ้อิฐแล้วพูดตามกู จำไว้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าหยุดสวด”

ผมกับไอ้คีย์ทำตามที่ไอ้แมทว่า พวกเราเดินมาหยุดอยู่หลังเทียนล้อมตัวไอ้อิฐไว้ พร้อมท่องบทสวดในภาษาที่ตัวเองไม่เข้าใจตามไอ้แมทไปเรื่อย ๆ สายฝนด้านนอกคอนโดเริ่มเทลงมา เสียงฟ้าผ่ากับเสียงฝนเริ่มทำให้ผมได้ยินเสียงไอ้แมทไม่ค่อยถนัด แต่มันก็พยายามพูดเสียงให้ดังขึ้น

พรึบ ... เปรี้ยง !

ไฟกลางห้องดับลงพร้อมกับเสียงฟ้าผ่า ไอ้แมทหันมามองผมประมาณว่าไม่ต้องสนใจ แต่ผมสังเกตหลังจากมองผ่านกระจกคอนโด ตึกที่อยู่ตรงข้ามก็ไฟดับเหมือนกัน พื้นที่บริเวณนี้ไฟดับทั้งหมด ตอนนี้ทั้งห้องจึงเหลือแค่เทียนทั้ง 7 เล่มที่คอยให้แสงสว่างเท่านั้น

“จุ๊ ๆ ทำอะไรกันเนี่ย”

เสียงที่ดังขึ้น ดังมาจากปากของไอ้อิฐ พร้อมกับตัวมันที่ได้สติขึ้นมา นั่นทำให้ผมเกือบจะหยุดท่องบทสวดตามไอ้แมทด้วยความดีใจที่เพื่อนฟื้น แต่สายตาของร่างที่อยู่ตรงหน้าผม มันทำให้รู้ว่านั่นไม่ใช่อิฐ แต่เป็นปีศาจที่อยู่ในตัวมันต่างหาก ไอ้อิฐแสยะยิ้มขึ้นมาพร้อมกับหันมองรอบตัว

“พล่ามกันเข้าไป พล่ามไปอีก อีกไม่ช้าร่างนี้ก็ต้องเป็นของข้า ตัวของแกก็เหมือนกัน ไม่ดีใจเหรอ ที่จะได้เป็นผู้นำของพวกแม่มดดำ”

พรึบ ... เทียนแท่งที่หนึ่งดับไปทั้ง ๆ ที่ภายในห้องไม่มีลมแม้แต่น้อย

ใบหน้าของไอ้อิฐหันมาทางผม ดวงตาทั้งคู่ของมันจ้องมาอย่างน่ากลัว ผมแทบจะหลบสายตาคู่นั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่มันกดดันจนทำให้ผมต้องหันไปทางอื่น ก่อนเสียงของไอ้อิฐจะเปลี่ยนไปกลายเป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง คนที่ผมเคยทำไม่ดีไว้กับเธอมากมายเหลือเกิน

... เค้ก

“จำเสียงนี้ได้ไหม รู้ไหมว่าผู้หญิงที่แกเคยนอนกกอยู่ช่วงหนึ่งตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”

สิ่งที่ไอ้อิฐพูดทำเอาผมกลืนน้ำลาย พวกปีศาจชอบเล่นกับความรู้สึกมนุษย์จริง ๆ ทำไมผมจะจำบาปที่ผมเคยทำไว้กับเค้กจนย้อนกลับมาทำร้ายตัวผมเองไม่ได้ ผู้หญิงที่ผมเคยทำร้ายเขาและเขากลับมาทำร้ายผมจนชีวิตเกือบพัง

“เธอนอนอยู่ในโรงพยาบาลบ้า เพ้อถึงนายทุกวัน นายเคยคิดถึงเธอบ้างไหม”

“ทำไมนายใจร้ายขนาดนี้”

ภาพตรงหน้าผมเริ่มเปลี่ยนไป สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าคือห้องของผู้ป่วยคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นผมเผ้ารุงรัง ทั้งมือและขาถูกผ้าสีขาวมัดไว้ให้ร่างอยู่ติดกับเตียงเพื่อไม่ให้อาละวาด ร่างนั้นทุรนทุรายร้องเรียกแต่ชื่อผมวนไปวนมา จนมีพยาบาลเอาเข็มฉีดยามาฉีดจนสลบไป ผมรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ผมสงสาร

สงสารเค้กเหลือเกิน ...

“ไอ้ชา ! ท่องต่อ”

เสียงตะโกนเรียกทำให้ผมสะดุ้งจากภวังค์ ภาพที่เห็นตรงหน้ากลับกลายเป็นไอ้อิฐที่แสยะยิ้มส่งให้ผม มันมองผมกลับมาด้วยความสมเพช ไม่รู้น้ำตาผมไหลออกมาตอนไหน ผมรู้สึกผิดเหลือเกิน แต่ก็พยายามตั้งสติท่องบทสวดตามไอ้แมทต่อ ไอ้อิฐไม่หยุดแค่นั้น มันหันหน้าไปทางไอ้แมทก่อนพูดอะไรบางอย่างออกมา

“ส่วนแก ลึก ๆ แกเกลียดแม่ตัวเองจะตาย เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว ! แกเกลียดแม่ตัวเองที่ทำให้พ่อแกต้องตาย เด็กชายตัวน้อย ๆ ที่ต้องเสียพ่อไปเพราะแม่ต้องการที่จะปกป้องหนังสือของตระกูล น่าสงสารสิ้นดี”

ปฏิกิริยาของไอ้แมทเปลี่ยนไปทันที ผมไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นจะทำให้ไอ้แมทหยุดท่องบทสวดลงได้ มันเป็นคนบอกให้คนอื่นอย่าหยุดสวดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแท้ ๆ แต่ตอนนี้ตัวมันเองกลับหยุดไปซะดื้อ ๆ คำพูดนั้นคงกระทบจิตใจมันพอสมควร

“น้าแกก็ใช่ย่อย ทรยศได้กระทั่งแม้แต่พี่สาวและหลานตัวเอง หึ ช่างเป็นครอบครัวที่สุขสันต์เสียจริง”

“ไอ้แมท !” ไอ้คีย์ตะโกนเรียกไอ้แมท ตัวมันเองตอนนี้เรียกเคียวยมทูตออกมา ผมเริ่มไม่ไว้ใจกับสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว ไอ้แมทมันคุมตัวเองไม่อยู่แน่ ๆ มันนิ่งไปเกือบนาทีแล้ว ผมเองก็เดินออกจากตำแหน่งที่ตัวเองยืนอยู่เข้าไปเขย่าตัวไอ้แมทที่ยืนนิ่งเงียบอยู่กับที่ ไอ้แมทดูเหม่อลอย น้ำตาไหลพรากออกมา

พรึบ ... เทียนเล่มที่สองดับไป

ตามมาด้วยเล่มที่สามและเล่มที่สี่

“ไอ้แมท ! ท่องต่อ” ผมเรียกมันพร้อมเขย่าตัว

พรึบ ... เล่มที่ห้าและเล่มที่หกก็ดับตามไปด้วย

ตอนนี้เหลือเพียงเทียนแท่งสุดท้ายที่ส่องให้ความสว่างเพียงน้อยนิด

ร่างของไอ้อิฐค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน มันปลดผ้าที่ผมมัดตัวมันกับเก้าอี้ออกอย่างง่ายดาย สายตาคู่นั้นหันมาจ้องพวกผม ไอ้คีย์เองก็ถอยออกมายืนรวมตัวกับผมและไอ้แมทแล้ว ผมไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นต่อไป แต่ตอนนี้สถานการณ์มันดูชักจะเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว

ไอ้แมท ! มีสติสักทีสิวะ ...

พรึบ ... และแล้วเทียนเล่มสุดท้ายดับไป ...

เหลือไว้แต่เพียงความมืดที่ปกคลุมไปทั่วห้อง ...

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด