เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 883 ยักษ์สวรรค์ (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 883 ยักษ์สวรรค์ (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
ได้ยินเสียงเรียกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ฟางหยวนบินเข้าไปโดยไม่ลังเล
โม่ตันซานตัดสินใจเช่นเดียวกัน
“สร้างค่ายกล ยักษ์สวรรค์!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะโกนขณะที่วิญญาณจำนวนมากส่องประกายขึ้น จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนถูกปกคลุมด้วยแสงสีเงินขนาดใหญ่
ฟางหยวนกับโม่ตันซานรีบบินเข้าไปในดวงแสงและพบกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนยืนอยู่รอบๆจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา พวกเขาไม่ได้สนใจโม่ตันซานมากนักแต่กำลังประเมินฟางหยวนในร่างผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนด้วยความอยากรู้อยากเห็น
จิตวิญญาณแผ่นดินหยางหลาไม่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนร่างของฟางหยวน
ในความเป็นจริงเขารู้สึกพอใจเล็กน้อย
หลังจากทั้งหมดมันหมายความว่าฟางหยวนมีทัศนคติที่ดีต่อมนุษย์ขน
“ไม่ใช่เวลาที่จะพูดคุย เราสามคนจะเป็นกำลังรบหลักในการต่อสู้นี้” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าว
หลังกล่าวจบคำ แสงสีเงินจึงแปรเปลี่ยนเป็นของเหลวสีเงิน
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากระโดดไปรอบๆพร้อมกับตะโกนเสียงดัง “ยักษ์สวรรค์! ยักษ์สวรรค์! ยักษ์สวรรค์!”
เมื่อตะโกนครบสามครั้ง ของเหลวสีเงินพลันก่อตัวเป็นรูปร่าง
ในเวลาเดียวกันแสงสีเงินก็ส่องประกายขึ้นบนร่างกายของฟางหยวน โม่ตันซาน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา และผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งหมด
สุดท้ายของเหลวก็เปลี่ยนเป็นของแข็ง มันกลายเป็นยักษ์โลหะสูงหลายสิบเมตรที่มีสามหัวหกแขน
เมื่อยักษ์โลหะเปิดเปลือกตาขึ้น กลิ่นอายราวกับเทพปีศาจก็แผ่พุ่งออกมา
“นี่...นี่คือค่ายกลโบราณในรูปแบบของการต่อสู้!” ฟางหยวนที่อยู่ภายในสามารถมองเห็นวิสัยทัศน์เดียวกับยักษ์โลหะ
ไห่เจิ้งตกใจมากขณะที่ใบหน้าของฉินไป่เฉิงปรากฏความประหลาดใจเล็กน้อย
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะและกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ “ค่ายกลวิญญาณอมตะยักษ์สวรรค์ของข้าเป็นค่ายกลในรูปแบบการต่อสู้อันดับสองของโลกใบนี้ ความแข็งแกร่งของพวกเราที่อยู่ที่นี่จะผสานเป็นหนึ่งทั้งจิตวิญญาณและพลังงานอมตะ พวกเรายังสามารถสื่อสารกันด้วยความคิด”
ด้วยวิธี้นี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัวท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฉินไป่เฉิงอีกต่อไป
ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฉินไป่เฉิงอาศัยรากฐานทางจิตวิญญาณของเขาสะกดข่มจิตวิญญาณของเป้าหมาย
แต่ตอนนี้จิตวิญญาณของฟางหยวนกับคนอื่นๆหลอมรวมเข้าด้วยกัน ดังนั้นการสะกดข่มทางจิตวิญญาณของฉินไป่เฉิงจึงส่งผลกระทบไม่มากนัก
“น่าสนใจ ผู้ใดจะคิดว่ายักษ์สวรรค์จะอยู่ในมือของบรรพชนผมยาว” ฉินไป่เฉิงจ้องมองยักษ์โลหะด้วยสายตาชื่นชม
“นี่คือค่ายกลวิญญาณอมตะในรูปแบบของการต่อสู้ มันอยู่บนจุดสูงสุดบนเส้นทางแห่งค่ายกลที่สามารถหลอมรวมความแข็งแกร่งของพวกเขา แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ค่ายกลนี้สูญหายไปในแม่น้ำแห่งกาลเวลาเมื่อนานมาแล้ว ผู้ใดจะคิดว่าข้าจะได้เห็นมันกับตาของตนเอง” ไห่เจิ้งถอนหายใจ “แต่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก บรรพชนผมยาวเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ เขาสามารถครอบครองสิ่งนี้”
“หยุดถอนหายใจแล้วไปจัดการมัน” ฉินไป่เฉิงออกคำสั่ง
ใบหน้าของไห่เจิ้งกลายเป็นแข็งค้าง เขามองฉินไป่เฉิงและกล่าวด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าต้องการให้ข้าต่อสู้กับยักษ์สวรรค์เพียงลำพังงั้นหรือ? เราต่างรู้ว่ายักษ์สวรรค์มีความแข็งแกร่งของผู้อมตะสิบคน”
ฉินไป่เฉิงเย้ยหยัน “เจ้ารู้ดี ข้ากำลังจัดการกับหม้อหลอมรวมและไม่สามารถเข้าสู่การต่อสู้ ตอนนี้เป็นเวลาที่เจ้าจะแสดงคุณค่าของตนเอง ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าเอาชนะยักษ์สวรรค์ เพียงถ่วงเวลาไว้ชั่วขณะ นี่คงไม่ยากเกินไปสำหรับเจ้าถูกต้องหรือไม่? หากเราประสบความสำเร็จ ไม่เพียงข้าจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้า ข้ายังจะต่ออายุขัยให้เจ้าอีกด้วย”
เสียงของฉินไป่เฉิงเต็มไปด้วยแรงกดดัน ขณะเดียวกันเขาก็เสนอผลประโยชน์ที่ไห่เจิ้งไม่สามารถปฏิเสธ
ไห่เจิ้งเข้าใจว่าฉินไป่เฉิงกำลังใช้เขาเป็นโล่ แต่กระทั่งเขาจะโกรธ เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากต้องเชื่อฟังคำสั่งของฉินไป่เฉิงเท่านั้น
“ส่งพลังงานอมตะของพวกเจ้าให้กับยักษ์สวรรค์” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาออกคำสั่งและตะโกน “ยักษ์สวรรค์ โจมตี!”
ยักษ์สีเงินพุ่งเข้าโจมตีฉินไป่เฉิงโดยตรง
ฉินไป่เฉิงยังยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมและพยายามยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหม้อหลอมรวม
ไห่เจิ้งมองยักษ์สวรรค์ด้วยการแสดงออกที่หนักหน่วงก่อนจะสะบัดมือออกไป
ไข่มุกสีดำที่มีหมูป่านอนอยู่ภายในถูกส่งออกมา
หมูป่าตัวนี้คือสัตว์อสูรบรรพกาลที่มีพลังการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้อมตะระดับเจ็ด หากกล่าวให้ชัดเจนมากขึ้น มันคือคุกทมิฬ คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหกของเผ่าไห่
ไห่เจิ้งเก็บหมูป่าบรรพกาลไว้ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้
“บึม”
เสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อยักษ์สวรรค์ชนกับหมูป่าบรรพกาล
หมูป่าบรรพกาลกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ศีรษะของมันแตก เขี้ยวข้างหนึ่งของมันหัก
อีกด้านหนึ่ง ยักษ์สวรรค์ก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวและมีหลุมเล็กๆอยู่บนหน้าอกของมันแต่ในไม่ช้าหลุมบนหน้าอกของมันก็ฟื้นฟูขึ้นราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ฟางหยวนกับคนอื่นๆรู้สึกว่าพลังงานอมตะของตนถูกนำไปใช้ในกระบวนการนี้
“ร่างที่อ่อนแอของข้าเปลี่ยนผู้อมตะเหล่านี้ให้เป็นคนงี่เง่า บัดซบ!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนใหม่ตำหนิคนก่อนหน้า
เขาไม่พอใจกับการโจมตีครั้งนี้
แม้ยักษ์สวรรค์จะมีข้อได้เปรียบแต่มันใช้พลังงานอมตะมากเกินไป
ชัดเจนว่าการโจมตีนี้ไม่สามารถแสดงพลังอำนาจที่แท้จริงของยักษ์สวรรค์ เหตุผลส่วนใหญ่เป็นเพราะผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเป็นอ่อนแอ
“โม่ตันซาน เจ้าจะเป็นผู้นำในการโจมตีครั้งนี้” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะโกนด้วยความโกรธและออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่ไร้ปรานี “ใช้ท่าไม้ตายของเจ้า!”
“เข้าใจแล้ว” โม่ตันซานตอบกลับด้วยใบหน้าเคร่งเครียด หลังจากสามลมหายใจเขาจึงสามารถกระใช้ท่าไม้ตายของตน
ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ ระเบิดคลื่นพลังปราณ!
ในมุมมองของไห่เจิ้ง เขาเห็นศีรษะข้างขวาของยักษ์สวรรค์เปลี่ยนเป็นสีดำเหมือนน้ำหมึกขณะที่พลังงานอันเย็นเยียบทะลักออกมา
นี่ทำให้ไห่เจิ้งรู้สึกถึงอันตรายและต้องการเรียกหมูป่าบรรพกาลให้กลับไปหาเขา แต่ในจังหวะนี้ศีรษะสีดำของยักษ์สวรรค์กลับอ้าปากกว้าง
“ครืน...”
คลื่นเสียงที่รุนแรงกระจายออกไปทุกทิศทางแต่พลังงานส่วนใหญ่พุ่งไปที่หมูป่าบรรพกาล
หมูป่าบรรพกาลที่มีพลังการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้อมตะระดับเจ็ดถูกโจมตีด้วยคลื่นเสียงภายในเวลาสามลมหายใจก่อนที่ร่างของมันเกิดการระเบิดและตายอย่างน่าอนาถ
“พลังนี้!” ใบหน้าของไห่เจิ้งกลายเป็นซีดเผือด
ฟางหยวนรู้สึกสนใจ ‘ค่ายกลโบราณนี้สามารถขยายพลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะได้ถึงระดับนี้จริงๆ’
โม่ตันซานและผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนต่างรู้สึกยินดีและมีความสุขกับผลลัพธ์นี้
พวกเขาเริ่มคาดหวังถึงชัยชนะ
แม้การโจมตีครั้งนี้จะต้องจ่ายด้วยพลังงานอมตะจำนวนมหาศาล แต่ผลลัพธ์ของมันก็คุ้มค่ามาก
หัวใจของไห่เจิ้งจมดิ่งลง ต่อหน้ายักษ์สวรรค์ตนนี้ แม้เขาจะมีวิญญาณอมตะศรทมิฬ มันก็ไร้ประโยชน์
แต่ในไม่ช้าความเกลียดชังก็เข้ามาแทนที่
‘แม้หมูป่าบรรพกาลจะตายไปแล้วแต่ข้ายังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะคุกทมิฬ!’ ไห่เจิ้งส่งคุกทมิฬออกไป
คฤหาสน์วิญญาณอมตะมีทั้งพลังโจมตีและป้องกัน มันไม่ต่างจากป้อมปราการเคลื่อนที่
ท่าไม้ตายอมตะ โม่หินเมฆาดาว!
ท่าไม้ตายอมตะ โล่ภูผา!
ท่าไม้ตายอมตะ สวรรค์ผนึกปฐพี!
ภายในยักษ์สวรรค์ ผู้อมตะสามคนใช้ท่าไม้ตายอมตะพร้อมกัน
แขนสามคู่ของยักษ์สวรรค์เคลื่อนไหวทันที