บทที่ 33 ฆ่าเต่าเพลิงปีศาจ
บทที่ 33 ฆ่าเต่าเพลิงปีศาจ
ทันทีที่อ่านข้อความคำว่า “ถอย” ทุกคนก็รีบหยุดการโจมตี เพื่อป้องกันการระเบิดพลังของเต่าเพลิงปีศาจ จากนั้นค่อยกลับไปโจมตีใหม่
หากเราเลือกไม่ถอย และยังโจมตีมันต่อไปเรื่อยๆ ช่วงจังหวะที่มันระเบิดพลังออกไป ยากแก่การหลบจริงๆ แม้นักกีฬาอาชีพระดับ Top 5 ยังไม่มั่นใจว่าตนจะหลบได้อย่างแม่นยำ 100%
อีกอย่าง ดาเมจจากการระเบิด ไม่ใช่ว่าจะรับเข้าไปได้แบบชิลล์ๆ ระบบเกมไม่ได้โง่ หากคุณเปิด สกิลต้านทานการผลักถอย เพื่อที่จะสามารถโจมตีได้ต่อ คุณต้องได้รับผลกระทบตรงนี้อย่างหนักหน่วงแน่นอน
ตัวอย่างเช่น ซาโด ที่เปิดใช้ สกิลวิถีอันธพาล เข้าสู่ลมพายุคลั่งของฮาร์ปปี้ มันคลั่ง สถานะของมัน + ทุกอย่าง ไม่ว่าจะ ATK DEF SPD เข้าไปในพายุคลั่งแล้วออกมาด้วยเข่าพิฆาต แปปเดียว แปปเดียวเท่านั้นจริงๆ HP เหมือนโดนดูดไปดื้อๆ 40 กว่า%
แต่บางทีหากว่าบอสตัวนี้เป็นบอสตัวสุดท้าย กำจัดมันเสร็จก็สามารถจบดันได้ การทำแบบนี้ก็ถือว่าเราฉลาดไปอีกแบบ
หากทำเสียตอนนี้ ยังเหลืออีกหลายด่าน ยาHP มีการคูดาวน์ในการใช้ อย่าลืมว่าเกม The Killer Arena ไม่มีนักบวช มาฮิลเลือดให้คุณนะ ทุกอย่างของเกมต้องอาศัยฝีมือในการบังคับควบคุม หลบหลีก สกิลพื้นฐานต่างๆเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นแล้ว การสอบเข้าค่ายฝึกนักกีฬาอาชีพ เค้าจะเน้นเรื่องทักษะพื้นฐานเหล่านี้ไปทำไมกัน
ทุกคนถอย ยกเว้นบังเคน เพราะตัวละครของเขาถอยตลอดเวลาอยู่แล้ว ที่บอกให้ทั้ง 3 คนถอย เพราะบังเคนเองกำลังจะลงมือ หากบังเคนลงมือ แล้วบอกให้ทั้ง 3 ถอย เกรงว่าจะไม่ทันการ
ระหว่างพิมพ์ออกไปว่า “ถอย” สกิลที่จะทำการโจมตีออกไป ก็ร่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว สกิลภูเขาดอกหญ้า
ท่าใหญ่ Lv.60 สกิลภูเขาดอกหญ้าถูกใช้งานออกมา สกิลภูเขาดอกหญ้ามีผลทำให้ลอยเช่นกัน เหมือนกับ สกิลลาวาจุดปะธุ
แต่ถ้าหากว่า จู่ๆ เราใช้ สกิลภูเขาดอกหญ้าขึ้นมาใส่ เต่าเพลิงปีศาจ รับลองได้ว่า ภูเขาดอกหญ้าอันนี้ จะไม่ทำให้เต่าเพลิงปีศาจลอยขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะว่าอะไร ? คำตอบง่ายๆเลย คือ บอสมีสถานะขี้โกงที่ทำให้ไวต่อการร่ายสกิล
หากมันยังมีสติอยู่ ไม่ถูกทำให้ลอยสูงเกินไป การจะใช้ สกิลภูเขาดอกหญ้าใส่มัน ไม่ใช่เรื่องง่าย ระหว่างกำลังร่ายสกิล มันคงหนีออกจากช่องรัศมีตรงนั้นแล้ว ถ้ามันไม่ไวต่อการร่ายสกิลเช่นนี้ คงโดนผู้เล่นทั่วไปกำจัดเอาง่ายๆอย่างแน่นอน
การฆ่าบอส ยังไงก็คือ การฆ่าบอส ไม่ได้ง่ายเสมอไป ขึ้นชื่อว่าบอส มันย่อมเหนือคาด และ ขี้โกง ถ้าไม่เหนือคาด และ ขี้โกง ผู้เล่นออนไลน์หน้าไหนๆ ก็สามารถจัดการกับบอสได้อย่างสบายๆ ถ้าบอสฆ่าได้ง่ายจะไปสนุกอะไร? เกมสนุกได้ เพราะมีความท้าทาย
ภูเขาดอกหญ้าพุ่งขึ้นใส่ใต้ท้องของเต่าเพลิงปีศาจ ครั้งนี้มันไม่ลอยขึ้นแล้ว มันรับดาเมจมากเกินไปจนสถานะขี้โกงของมันได้กลับมาทำงานอีกครั้ง
ทันทีที่กระทบกับภูเขาดอกหญ้า มันเพียงแค่รับดาเมจไปเท่านั้น แต่ สกิลของมันยังสามารถใช้งานออกมาได้อย่างต่อเนื่อง สกิลพิภพเลื่อนลั่น ท่าเก่งของบอส
ตัวของมันแทบไม่ได้ขยับจากการโดนท่าใหญ่ Lv.60 ของจอมเวทย์กึ่งธาตุ แล้วจู่ๆพื้นดินก็เกิดอาการสั่นสะเทือนขึ้นมา การใช้งาน สกิลพิภพเลื่อนลั่นของเต่าเพลิงปีศาจ รวดเร็วเสียยิ่งกว่ารวดเร็ว รับดาเมจภูเขาดอกหญ้าปุ๊บ สกิลพิภพเลื่อนลั่นออกมาปั๊บ
เหตุผลที่บังเคนให้ถอยออกมาก่อน คือ จุดนี้ จุดที่มันทำการ Counter Attack ใส่เราแบบกะทันหัน ซาโดกับมิร่าก็รู้ตัวแล้วว่าอีกไม่นานมันจะเอาคืนเรา ทั้ง 2 ต่างกำลังเตรียมตัวถอยเช่นกัน แต่ข้อความของบังเคนกลับขึ้นมาก่อน จึงรีบถอยทันที
จุดนี้เป็นจุดของการเล่นทีมเวิร์คเช่นกัน ทีมเวิร์คที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีการสั่งการที่มากมาย ดั่งคำที่ว่า “มองตาก็รู้ใจ” แต่การจะได้คำว่า มองตาก็รู้ใจมานั้น ใช่เรื่องง่ายเสียที่ไหนกัน
ขณะต่อสู้ ทุกคนต้องคำนวณทุกอย่าง คำนวณการคูดาวน์สกิลของตนเอง คำนวณการโจมตีที่คาดไม่ถึงของบอส คำนวณจังหวะการโจมตีร่วมกัน คำนวณการใช้สกิลของพวกเดียวกันเอง สิ่งเหล่านี้ คือ ประสบการณ์
การจะได้ประสบการณ์เหล่านี้ ต้องผ่านการเล่นด้วยกันอย่างมากมาย เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี ยิ่งนานยิ่งเข้าขา ยิ่งนานยิ่งรู้ใจ ทีมเดียวกันรู้ใจกัน ทีมฝั่งตรงก็ข้ามอาจรู้ใจเราด้วยเช่นกัน เราต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
สกิลพิภพเลื่อนลั่นใช้ออกมาอย่างแนบเนียนและรวดเร็ว แต่ทุกคนรู้สึกชินกันหมดแล้ว อีกไม่นานเชื่อว่า บอสคงมีทีเด็ดอะไรที่มากกว่าพิภพเลื่อนลั่นอย่างแน่นอน แม้จะซ้ำๆเดิมๆ แต่ สกิลพิภพเลื่อนลั่น หากดูถูกมันแม้แต่นิดเดียว อาจถึงชีวิตเลยก็ได้ ยิ่งเป็นการใช้ออกมาจากเต่าเพลิงปีศาจ ยิ่งดูถูกไม่ได้
พื้นผิวด้านล่างแตกกระจาย ดิน และ หินต่างๆ ยกตัวพุ่งขึ้นฟ้า จู่โจมใส่เป้าหมายภายในรัศมี ทุกคนต่างพากันหลบอย่างแม่นยำ
เพียงแค่หลบเศษซากเหล่านี้ไม่ได้ยากเท่าไหร่นัก แต่เต่าเพลิงปีศาจ หลังจากใช้สกิลพิภพเลื่อนลั่นออกมาแล้ว มันก็ไม่ได้นอนอยู่เฉยๆ สกิลไฟสะบั้น ของจอมเวทย์กึ่งธาตุ ถูกใช้งานออกมา
ไฟรูปจันเสี้ยวพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และมีจำนวนมากกว่าเดิมถึงหลายเท่าตัว ไฟเหล่านี้เล็งไปยังช่องว่างของการหลบพิภพเลื่อนลั่น
การหลบในครั้งนี้จึงเริ่มตึงมือขึ้นเล็กน้อย ขุนช้างพลาดโดนไป 1 ครั้ง ตัวละครกระเด็นกลับหลังทันที + กับโดนเศษซากของพิภพเลื่อนลั่นเข้าไปด้วย HP ลดไปถึง 12% ทีเดียว ถือว่าเจ็บแสบอยู่เหมือนกัน
แต่ซาโดและมิร่า ทั้ง 2 ไม่ได้พลาด ตัวละครที่พวกเขาบังคับ ต่างหลบสกิลของเต่าเพลิงปีศาจได้ทั้งหมด
ฟินิกซ์ถลาลมใช้งานออกมา เปิดช่องทางการโจมตีให้กับทั้ง 3 อย่างรวดเร็ว สกิลบาทาข้างถนนเมื่อคูดาวน์เสร็จ ซาโดจึงเปิดใช้งานทันที BPMAGIC พอทรงตัวได้ ก็รีบขึ้นขี่ไม้กวาดเช่นกัน ส่วน Mammoth อาจตามมาช้าเล็กน้อย เนื่องจากพึ่งเก็บตัวหลังจากโดนโจมตีเข้าเป้าไป 1 ดอก
สกิลวายุมังกรคู่ ใช้งานออกไปอย่างรวดเร็ว ดาบคู่ร่ายรำ ตวัดมังกรคู่ออกไปจู่โจมปีศาจเต่าเพลิงอย่างรวดเร็ว
มังกรคู่บินไปเคียงข้างกับ BPMAGIC ส่วน007ZA วิ่งบ้างกระโดดบ้าง ด้วยสกิลบาทาข้างถนน ไม่นานนักก็เข้าสู่ระยะโจมตีของเต่าเพลิงปีศาจอีกครั้ง
ทั้ง 4 คน ร่วมกันสู้แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ บังเคนก็เริ่มสั่งการน้อยลง บางทีก็ไม่ได้สั่งการอะไรเลย ไม่ใช่ว่าไม่อยากสั่ง แต่ต้องการรอดูท่าทีว่า ขณะไม่ได้สั่งการ การเล่นของพวกเขาเป็นอย่างไร ดีขึ้นหรือเปล่า?
ผลของมันต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่ยังไม่สุด บางจังหวะยังขาดไปบ้างเล็กน้อย ยังต้องการเวลาในการปรับจูน ความเร็วมือของบังเคนมีไม่มาก เขาไม่ต้องการเสียเวลาในเรื่องการสั่งการ เขาต้องการที่จะสั่งการให้น้อยที่สุด เพื่อประโยชน์ของทีม และ ทำให้จุดอ่อนของตัวเองเล็กลงไปอีก
เลือดส้มแล้ว เลือดแดงแล้ว ไม่นานนักบอสก็เกิดอาการบ้าคลั่งขึ้น เนื่องจาก HP ของมันเหลือเพียงแค่ 10% แล้วเท่านั้น
ด้วยความที่มันคลั่ง จะมีการโจมตีหลายรูปแบบออกมา จุดนี้ต้องเฝ้าระวังมันให้ดี เพราะระบบได้ตั้งค่าให้ เต่าเพลิงปีศาจ สุ่มสกิลขึ้นมาใช้ 2-3 สกิลในขณะที่มันบ้าคลั่ง
เริ่มแรกหลังจากมันบ้าคลั่ง มันทำการลุกขึ้นมายืน 2 ขาก่อน พร้อมทั้งคำรามออกไป ร่างของมันค่อยๆย่อส่วนเล็กลงจนมีขนาดใหญ่กว่าตัวละครเหล่านี้ไม่มากนัก
ขณะมันคลั่งเราจะไม่สามารถจู่โจมมันได้ จนกว่าการแอ๊คชั่นของมันจะหมดไป เดิมทีกระดองของมันที่อยู่ด้านหลัง ก็ค่อยๆย่อตามส่วนของร่างกาย และ กลับเปลี่ยนตำแหน่งมาอยู่ในมือด้านซ้าย กลายเป็นโล่ประจำตัวของมันไปแล้ว ส่วนแผ่นหลังของมันมีดาบคู่ปรากฏออกมาในแนวไขว้
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทุกคนจะไม่เริ่มชิงลงมือก่อนในจังหวะนี้ เพราะว่ายังไง ก็ไม่สามารถชิงโจมตีมันก่อนได้อย่างแน่นอน
เต่าเพลิงปีศาจที่เปลี่ยนร่างแล้ว จะมีความเร็วโจมตีเหนือตัวละครทั้งหมดทั้งปวง ทุกคนจึงรอรับมือมันโดยไม่พลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว
หลังการแอ๊คชั่นของมันช่วงบ้าคลั่งจบปุ๊บ ร่างของมันสั่นไหวปั๊บ ! “สกิลเงาวูบไหว”
ทุกคนรู้ตัวทันที เป้าหมายหละ คือ ใคร? ไม่นานนักร่างของมันก็ปรากฏออกมา และมาแบบสับปลับเสียด้วย เป้าหมาย คือ 007ZA “สกิลหมัดอัปเปอร์คัต” การออกท่าไวกว่าอัปเปอร์คัตแบบปกติ
อันธพาลปกติมักใช้เหล็กในมืออัปเปอร์คัต แต่การอัปเปอร์คัตของเต่าเพลิงปีศาจ ใช้การอัปเปอร์คัตด้วยโล่ในมือของมัน
หากให้หลบการโจมตีขี้โกงเช่นนี้ นักกีฬาอาชีพยังพอหลบได้บ้าง แต่ซาโดในตอนนี้ยังไม่ถึงขึ้นที่จะสามารถ มา 10 หลบได้หมด แต่หากเปลี่ยนเป็นเรื่องการป้องกันละก็ ทันแน่นอน
หมัดอัปเปอร์คัตเสยเข้ามาปลายคาง เดิมที สกิลหมัดอัปเปอร์คัต ออกท่าไวอยู่แล้ว ยิ่งอยู่ในมือของเต่าเพลิงปีศาจ พูดว่าไวยังน้อยไป ต้องบอกว่า แสง เลยต่างหาก โล่เสยใส่ปลายคาง แต่เหล็กในมือขวาของ 007ZA เข้าป้องกันไว้ได้ทัน
บอสกับตัวละคร หากตีกันธรรมดา แรงปะทะบอสย่อมมีเยอะกว่า หากเราตีธรรมดาใส่บอส บอสป้องกันได้ ไร้ผลกระทบใดๆ แต่ถ้าหากบอสตีใส่เรา เราป้องกันได้ แต่อาจเกิดแรงกระแทกสั่นสะเทือนเล็กน้อย
ด้วยระบบที่ตั้งค่าพลังโจมตีของบอสไว้สูง จึงเกิดแรงสั่นสะเทือนเช่นนี้ขึ้น เพื่อก่อกวนผู้เล่น และในจังหวะตอนนี้ ไม่ต้องพูดถึง หมัดอัปเปอร์คัต Vs การป้องกันด้วยเหล็กธรรมดาๆ ลอยสิครับ!! แต่ 007ZA ไม่ยอมลอยง่ายๆด้วยจังหวะนี้
สกิลวิถีอันธพาล ถูกใช้งานออกมา ร่างกายแดงก่ำ ไร้ผลผลักปลิว รับดาเมจน้อยลง ในเมื่อ 007ZA ไม่ปลิว บอสจึงไม่ต้องเคลื่อนที่ตามต่อ แล้วศอกก็ตามมาติดๆ แต่ซาโดมีการกดสกิลที่รวดเร็ว หลังจากวิถีอันธพาลแล้ว เข่าพิฆาตก็เข้าถึงตัวของเต่าเพลิงปีศาจ ก่อนที่ศอกจะเข้าถึงใบหน้าของ 007ZA
เต่าเพลิงปีศาจในตอนนี้ ไม่ได้มีน้ำหนักพันกว่ากิโลเหมือนเดิมแล้ว รับเข่าพิฆาตเข้าไปเต็มๆ ร่างของมันกระตุก และ ลอยขึ้นจากพื้นนิดหน่อย มิร่าและขุนช้างรู้สึกตัวได้ไว ทั้ง 2 ต่างรีบเข้าช่วยซาโดอย่างรวดเร็ว สกิลบอลพลังเวทย์ สกิลดวงวิญญาณ สกิลดาบคู่จันทร์เสี้ยว
โพล๊ะๆ ๆ ๆ ตู๊มมมมม !!
“ว่องไว” คำเดียวที่จะมอบให้เต่าเพลิงปีศาจในร่างคลั่ง คือ “ว่องไว” เพราะสกิลทั้งหลายที่รวดเร็วทันใจ ยังแพ้ให้กับความรวดเร็วของมัน
สกิลถอดจิต ดาเมจทั้งหมดที่ขุนช้าง และ มิร่า กดใช้ไป จู่โจมใส่ร่างเปล่าๆที่ไร้จิต เข้าเป้าทุกดอก แต่ HP ของเต่าเพลิงปีศาจไม่ลด แถมมันยังก่อร่างขึ้นเองอย่างรวดเร็วจากตำแหน่งด้านหลังของร่างเปล่า
ดวงจิตก่อร่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โล่ในมือกลับไปอยู่ด้านหลัง ดาบคู่เปลี่ยนมาแทนที่ในมือ แถมเป็นดาบคู่แบบติดไฟเสียด้วย ดาบของมันในตอนนี้ สง่างามและเท่สุดๆ ถึงขนาดที่ตาของขุนช้างลุกวาวเมื่อเห็นดาบเล่มนี้
ดาบคู่ไฟตวัดไปซ้าย ไปขวา พลังรูปจันเสี้ยวในรูปแบบเดียวกันกับไฟสะบั้น ออกมาจู่โจมอย่างรวดเร็ว ทุกคนจำเป็นต้องหลบหลีกมันอย่างเร็วไว
แต่บังเคน คือ ข้อยกเว้น เขาไม่ต้องหลบหลีกใดๆ เขาทำการหามุม และ รีบร่ายสกิลออกมาในจังหวะนี้ จังหวะที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาปิดบัญชีเต่าเพลิงปีศาจได้
สกิลลำแสงวายุ เป็นสกิลที่รวดเร็วทันใจ ดาเมจอยู่ในระดับเกือบสูง ลมพายุสีทองม้วนออกจากคฑาอย่างรวดเร็ว และพุ่งไปยังตำแหน่งของ เต่าเพลิงปีศาจ ต่อให้มันจะเร็วขนาดไหนก็ไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ทันอย่างแน่นอน
เพราะการโจมตีนี้ เล็งยิงมาจากจุดตายของมัน ถ้าพูดง่ายๆคือ มุมมองที่ผู้เล่นไม่สามารถมองเห็นในช่วงวินาทีนั้น
เฟี๊ยยววววววววววววววววววว !!
กว่ามันจะหันมา การโจมตีก็เข้าถึงตัวของมันแล้ว ลำแสงสีทองม้วนเข้าใส่ข้างเอวมันอย่างแม่นยำ ขุนช้างและมิร่า บังคับตัวละครรอเก็บตกทันที
แต่ทว่าขณะมันปลิว มันยังสามารถปล่อยดาวกระจายออกมารอบตัวได้ BPMAGIC และ Mammoth จึงต้องหลบดาวกระจายเหล่านี้ ทำให้การโจมตีขาดตอน ไม่สามารถตามเข้าไปต่อสกิลได้
ขุนช้างและมิร่า จำเป็นต้องบังคับตัวละครหลบดาวกระจายเหล่านี้ แต่ทางฝั่งของซาโด เขาบังคับ 007ZA เข้าถึงตัวของเต่าเพลิงปีศาจเรียบร้อยแล้ว
ดาวกระจายที่เต่าเพลิงปีศาจปล่อยออกมา เป้าหมายหลักไม่ใช่ 007ZA แต่ก็ยังมีลูกหลงผ่านมาบ้าง เพราะการปล่อยดาวกระจายของมัน ไม่ได้เล็งจุดใดจุดหนึ่ง แต่เป็นการปล่อยออกมารอบๆตัว ซึ่งซาโดสามารถบังคับตัวละครเคลื่อนที่ผ่านได้อย่างคล่องแคล่วฉับไว
ระหว่างเหลือ 2 ช่องตัวสุดท้าย สกิลโซ่ล็อคคอใช้งานออกมาทันที หลังจากนี้ไม่ต้องบรรยายถึงมันอีกต่อไป คลื่นลูกใหญ่จากบังเคน มิร่า และขุนช้าง ซัดเข้าใส่มันอย่างพร้อมเพรียงกัน
ช่วงเวลาที่มันโดนล็อคคอ 1 วินาทีตรงนั้น มันไม่สามารถทำอะไรได้ แถมดาเมจที่มันรับเข้าไปยัง *2 อีก ซาโดก็ไม่ได้ลืมกด สกิลช้ำใน ตามต่อ และสลัดออกมาจากมันอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักการต่อสู้กับเต่าเพลิงปีศาจก็จบลง มันล้มลงไปนอนพร้อมกับดาบไฟในมือของมันทั้ง 2 เล่ม
Item จากบอส ในดันเจี้ยน จะตกลงมากองที่พื้นทั้งหมด และทุกคนสามารถเก็บได้ แต่ Item จากบอสโลก จะเด้งเข้าตัวอัตโนมัติ จะไม่มีการหล่นลงพื้น เพราะว่า ส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันโจรขโมยของ และอีกอย่างเราสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้เฉลี่ย Item หรือ ให้ Item เด้งเข้าหัวหน้าปาร์ตี้คนเดียว
อย่างเมนี่ล่าสุด เธอไม่ได้ตั้งค่าเฉลี่ย Item ไม่ใช่ว่าเธออยากจะเก็บของไว้คนเดียว แต่เธอไม่ได้คิดมากตรงส่วนนี้ และเธอไม่คิดด้วยว่าซาโดและเหมยจะคิดมาก ด้วยฐานะของเธอ ดูมีความน่าไว้ใจและน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากอยู่แล้ว ซาโดก็ทราบในจุดนี้ดี จึงไม่ได้ทำการคัดค้านใดๆ