ตอนที่ 78 ประมูลคืออะไร
“ที่นี่ไงพี่ภพ”
กลิ่นจันทน์และเหนือภพพากันมายืนอยู่ตรงหน้าเวทียกสูงแห่งหนึ่ง ที่นี่คือเวทีประมูล ไม่ว่าใครมีสิ่งของล้ำค่าเพียงใดก็สามารถนำมาเสนอประมูลได้ โดยไม่ต้องห่วงว่าจะถูกโกงหรือถูกลักขโมย เพราะทุกด้านของเวทีประมูลจะมีฮันเตอร์แรงค์ E มากฝีมือ เฝ้าอารักขาอยู่ถึงด้านละ 5 คน
ทั้งสี่ด้านของเวทีมีที่นั่งรับรองลูกค้ามั่งคั่งได้นับ 200 คน และไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดา ขุนนาง ฮันเตอร์ แม่ทัพ ทหาร ช่างศิลป์ หรือแม้แต่ราชวงศ์ เมื่อมาอยู่ที่นี่ต่างก็ต้องอยู่ภายใต้กฎของการประมูลอย่างเท่าเทียมกันทุกคน
“พี่จะเอาอะไรมาขายบ้าง”
“ขนปีกไนท์อาวอย่างเดียวก็คงได้เงินเยอะแล้ว นี่ดูสิ”
แล้วเหนือภพก็ปลดห่อผ้าขนาดใหญ่จากหลังลงมาอวดกลิ่นจันทน์ แต่เขากลับต้องแปลกใจเสียเองเมื่อกลิ่นจันทน์ไม่มีปฏิกิริยาตื่นเต้นดีใจอะไรเลย เธอเพียงแต่ยืนกวาดตามองไปทั่วตัวเหนือภพอยู่อย่างนั้น
“พี่ภพ ข้าว่า..พี่ขายให้หมดทั้งตัวเลยดีกว่า”
“ห๊ะ! ว่าอะไรนะ”
เหนือภพเด้งตัวออกห่างกลิ่นจันทน์ในทันที
“ข้าหมายถึงพวกของมีค่าของพี่น่ะ ขายเปลี่ยนเงินให้หมดเลยดีกว่า”
“ทำไมล่ะ”
“จากประสบการณ์ของข้าที่ผ่านมา ข้าว่าโชคชะตามักจะเล่นตลกกับเราเสมอ และหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น สิ่งของนอกกายพวกนี้เราคงรักษาไว้ได้ยาก สู้เปลี่ยนเป็นเงินดีกว่า เราสามารถพกติดตัวได้ง่ายและแอบซ่อนได้ดีกว่า ดูอย่างข้านี่..”
แล้วกลิ่นจันทน์ก็ถอดรองเท้าหนังของเธอออก ข้างในนั้นมีเหรียญเงินซ่อนอยู่ 2 เหรียญ
“นี่คือเงินที่ข้าเก็บซ่อนไว้ตอนเป็นสาวรับใช้อยู่ที่หอร้อยบุปผา แล้วข้าก็ยังแบ่งเงินซ่อนเงินไว้ที่อื่นอีกนะ”
“ที่ไหนหรอ”
เหนือภพถามด้วยความซื่อ นี่ถือเป็นความรู้ใหม่ของเขาเลยทีเดียว ปกติเขาไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนแบบนี้ เพราะเขาแข็งแกร่งมากพอ ไม่เคยมีใครกล้ามาแย่งชิงสิ่งของจากเขา เขาจึงไม่จำเป็นต้องซ่อนอะไร
“พี่อยากรู้จริงๆหรอ”
จู่ๆกลิ่นจันทน์ก็บิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย เธอจะกล้าพูดออกไปได้อย่างไรว่าเธอซ่อนเงินเอาไว้ที่ใต้ร่มผ้า
“หึ ไม่บอกก็ไม่เป็นไร พี่มันไม่สำคัญอยู่แล้วนี่”
เหนือภพมองท่าทางเขินอายของกลิ่นจันทน์แล้วก็นึกมันเขี้ยวอยากแกล้งขึ้นมาทันใด
“ก็ ก็..”
“นี่เจ้าหนูตรงนั้นน่ะ ตกลงจะมาขายอะไรรึเปล่า”
จู่ๆก็มีเสียงแหบห้าวแทรกขึ้นมา เขาคือเจ้าหน้าที่ของเวทีประมูล เขามีหน้าที่ตรวจประเมินสิ่งของก่อนขึ้นประมูลจริง เหนือภพได้ยินดังนั้นก็เปลี่ยนสีหน้ากลับเป็นจริงจังอีกครั้ง
“ขาย ข้าขายสิ นี่ๆทั้งหมดนี่เลย”
“เดี๋ยวค่ะ เดี๋ยวพวกเรามาใหม่นะคะ”
กลิ่นจันทน์รีบพูดแทรกพลางดึงตัวเหนือภพออกมา
“อ้าว ทำไมล่ะ มีอะไร”
กลิ่นจันทน์ไม่ตอบคำถาม เธอดึงตัวเหนือภพไปที่ร้านค้าเล็กๆแห่งหนึ่งที่อยู่ในตรอกตรงกันข้าม จากนั้นเธอก็บอกให้เหนือภพขายของจำพวกสมุนไพรที่เหนือภพขนมามากเกินไป และยังแนะนำให้เหนือภพซื้อยารักษาบางอย่างให้ครอบคลุมอีกด้วย
ขายของส่วนเกิน ซื้อของจำเป็นที่ขาดหาย จะว่าไปแนวคิดแบบนี้ก็ถูกจริตของเหนือภพเหมือนกัน เขาจึงไม่ได้คัดค้านอะไร ได้แต่ทำตามที่กลิ่นจันทน์บอกทุกอย่าง เมื่อเสร็จภารกิจจัดเตรียมของแล้วทั้งคู่ก็พากันกลับไปขายของพิเศษที่เวทีประมูลอีกครั้ง
สิ่งที่เหนือภพนำขึ้นประมูลนี้นับว่าพิเศษมากจนถูกจัดเป็นรายการดาวเด่นอันดับหนึ่งประจำวันนี้เลยทีเดียว
“เคาะครั้งที่ 3 ขนปีกไนท์อาวปีกใหญ่ 153 อัน ราคา 3,000 เหรียญเงิน”
“เคาะครั้งที่ 3 ขนปีกนางพญาไนท์อาว 20 อัน ราคา 2 เหรียญทอง”
แม้ในใจของเหนือภพจะมีความเสียดายนิดๆ ที่ขนปีกนางพญาไนท์อาวเสียหายไปบางส่วน บางส่วนก็แบ่งให้คนในทีม เหลือตกเป็นของเขาเพียง 20 อัน แต่เขาก็ดีใจมากๆ ที่มันขายได้ราคาแพงขนาดนี้ หากเขาได้มีโอกาสเป็นเจ้าเมืองละก็ เขาคงเปิดฟาร์มปศุสัตว์เลี้ยงนางพญาไนท์อาวเป็นแน่แท้
“เห้ย เหรียญทอง! ข้าจะมีเหรียญทองเป็นของตัวเองแล้ว”
เหนือภพดีใจมาก แม้เขาจะต้องจ่ายส่วนแบ่งบางส่วนให้แก่เวทีประมูล แต่หลังเสร็จสิ้นการประมูลทุกอย่างแล้ว เขาก็ยังได้เงินเป็นกอบเป็นกำอยู่ดี
การประมูลในวันนี้นับเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆแก่เหนือภพเป็นอย่างมาก เขาเฝ้ามองของมีค่าหลายๆอย่างที่มีคนนำมาประมูล ไม่ว่าจะมีมูลค่าน้อยหรือมาก แต่ทุกอย่างก็ล้วนขายได้ บางทีนี่อาจจะเป็นวิธีการหาเงินที่ง่ายและปลอดภัยกว่าการต่อสู้ในสังเวียนเถื่อนเสียอีก
“ขอบใจเจ้ามากที่แนะนำสถานที่ดีๆอย่างนี้ให้กับข้า ฮ่าๆ”
เหนือภพดีใจจนโผเข้ากอดกลิ่นจันทน์อย่างลืมตัว แต่กลิ่นจันทน์ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เธอเพียงแต่ยืนนิ่งพลางอมยิ้มด้วยความเขินอาย ใบหน้าแดงซ่านไปหมดแล้ว
ท่ามกลางบรรยากาศยามเย็น พระอาทิตย์กำลังจะลับเหลี่ยมเขา แสงสีส้มส่องประกายเป็นฉากหลังของกลิ่นจันทน์ แสงนี้สะท้อนผมสีน้ำตาลอ่อนของเธอจนดูคล้ายผมสีทอง ผิวนวลผ่องก็มีประกายวิบวับสะท้อนจากหยาดเหงื่อที่ไหลมาถึง แก้มแดงระเรื่อ กลิ่นกายสาวน้อยและดวงตากลมโตคล้ายบ่ออำพันที่ลึกสุดหยั่งที่กำลังมองสบตากับเขานั้น ทำให้เหนือภพถึงกับหยุดหายใจไปชั่วครู่
‘เจ้างดงามขนาดนี้เลยหรอ ทำไมข้าไม่เคยสังเกตเจ้าเลย’
“พี่ภพ พี่ภพ พี่ภพ”
“ห๊ะ”
“รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะค่ำแล้วนะ”
กลิ่นจันทน์สะกิดเรียกเหนือภพเป็นนานสองนานกว่าเขาจะรู้สึกตัว พวกเธอยังต้องไปที่ร้านทำอาวุธอีกที่ หากชักช้าเกรงว่าร้านจะปิดไปเสียก่อน
“อ้อ ไปกันเถอะ”
ใช้เวลาเดินเท้าเพียงแค่ไม่กี่นาที กลิ่นจันทน์ก็พาเหนือภพมาถึงร้านของช่างทำอาวุธที่มีชื่อเสียงในเมือง เธอรู้จักที่นี่ก็เพราะมีลูกค้าผู้ร่ำรวยชอบไปคุยโวโอ้อวดกันในหอร้อยบุปผา และเธอก็มักจะชอบเรียนรู้และจดจำมานั่นเอง
“ถึงแล้วพี่ภพ”
“ดี! เข้าไปกันเลย”
ร้านทำอาวุธแห่งนี้เป็นร้านที่ถูกจัดแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นหน้าร้านที่จัดแต่งอย่างหรูหรา มีการจัดวางอาวุธชั้นเลิศไว้บนผ้ากำมะหยี่สีแดงอย่างดี เอาไว้ต้อนรับลูกค้าที่มาเยี่ยมชมร้าน
ส่วนที่สองคือส่วนของโรงงานผลิตอาวุธ ที่นี่มีแต่ช่างทำอาวุธฝีมือดี แต่ละคนร่างกายกำยำ เนื้อตัวเหม็นเหงื่อไคลจากการทุบ ตี หลอมโลหะ พวกเขาไม่สนใจดูแลตัวเองเท่าไหร่นัก สิ่งที่พวกเขาสนใจมีเพียงอาวุธชั้นเลิศที่ต้องทำอย่างไร้ที่ติเท่านั้น
นอกเหนือจากการผลิตอาวุธแล้ว พวกเขายังรับซ่อม แก้ไข ปรับแต่ง อาวุธชุดเกราะทุกชนิดอีกด้วย
เหนือภพจับมือกลิ่นจันทน์เดินเข้าร้านไปอย่างสง่าผ่าเผย ถึงพวกเขาจะแต่งตัวซอมซ่อยังไงก็ช่าง เขารวยซะอย่าง ตอนนี้กระเป๋าหนังของเขาเต็มไปด้วยเหรียญเงินมากมาย แถมยังมีเหรียญทองอีกด้วย