ตอนที่ 72 ปราณของพล
อรุณขว้างซัดหอกของตัวเองออกไปด้วยความเร็วสูง การพุ่งตัวของหอกทำให้เกิดเสียงอากาศถูกฉีกกระชาก รัศมีความร้อนที่แผ่กระจายออกมาถึงกับทำให้หลายคนร้อนวูบขณะหอกเคลื่อนผ่านไป
เส้นแสงปราณอาคมสีทองที่โอบล้อมหอกบิดม้วนเป็นเกลียว พร้อมๆกับที่ลำหอกหมุนคว้านดุจสว่าน เกิดเป็นกระแสลมหมุนรุนแรง
แม้แต่หัวหน้าไทยังต้องหยุดการโจมตี พลางเคลื่อนตัวออกห่าง เขาปล่อยให้หอกโมกขศักดิ์ของอรุณแทงผ่านเข้าไปปักค้างอยู่ที่ขาขวานางพญาไนท์อาว หอกโมกขศักดิ์ที่ปักค้างอยู่นั้นกำลังหมุนคว้านแบบสว่านที่นิ่งอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไปด้านหน้าหรือด้านหลัง
นี่คือความน่ากลัวของปราณหอกพิฆาตเทพของอรุณ ปราณอาคมที่ไม่ได้สร้างความเสียหายรุนแรงในการโจมตีแบบทีเดียวตาย แต่เป็นการสร้างความเสียอย่างต่อเนื่องในระยะยาวจากภายในร่างกาย ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดที่โดนเข้าไปก็จะเหมือนถูกไฟร้อนๆค่อยๆเผาผลาญจากภายใน ร่างกายจะค่อยๆถูกเผาไหม้จากภายในสู่ภายนอก
หอกโมกขศักดิ์เป็นปราณที่เหมาะสำหรับการตัดกำลังของสัตว์อสูรที่มีขนาดใหญ่และมีระดับความอันตรายสูง แต่ถึงกระนั้นการใช้งานในแต่ละครั้งก็ยากที่จะสำเร็จ หากเป้าหมายไม่อยู่นิ่งหรือผู้ใช้ไม่มีเวลาร่ายรำมากพอ
อึดใจต่อมา เสียงกรีดร้องทุกข์ทรมานของนางพญาไนท์อาวก็ดังขึ้น มันรู้สึกได้ว่าภายในร่างกายมีอะไรกำลังหมุนคว้านอยู่ และที่ขาด้านขวาของมันก็เหมือนมีเปลวไฟร้อนที่กำลังเผาผลาญ
นางพญาไนท์อาวทนไม่ได้อีกต่อไป มันใช้ปีกตบลงไปที่หน้าขาอย่างรุนแรงๆซ้ำๆ จนหอกของอรุณที่หมุนคว้านอยู่นั้นกระเด็นพุ่งออกมาปักเข้ากับโคนต้นไม้ใหญ่
กี๊ซซซ
นางพญาไนท์อาวเดือดดาลอย่างถึงที่สุดแล้ว ออร่าสีดำแผ่กระจายออกจากตัวมันจนปกคลุมทั่วบริเวณ ทำให้ฮันเตอร์ที่อยู่โดยรอบเริ่มอึดอัด ยกเว้นเพียงเหนือภพ อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนไร้พรสวรรค์ ไร้ปราณอาคม จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีนี้ และเขาก็ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของสัตว์อสูรด้วย
ในสายตาของผู้มีพรสวรรค์นั้น พวกเขาจะเห็นว่าออร่าปราณดำของสัตว์อสูรหนาแน่นขึ้นมากจนน่ากลัว มันกระพือปีกเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถสร้างคมมีดสายลมที่โบกพัดไปทางใด สายลมมีดก็จะเชือดเฉือนทุกๆสิ่งที่อยู่ในระยะโจมตีอย่างไร้ความปรานี
ฮันเตอร์ที่หลบไม่พ้น ร่างกายก็จะถูกตัดเป็นส่วนๆ ต้นไม้ใบหญ้าถูกตัดเป็นส่วนๆจนจำเค้าโครงเดิมไม่ได้
พลเห็นแบบนั้นก็กัดฟันกรอด เขาดึงถุงหนังที่อยู่ข้างกาย ด้านในบรรจุบางอย่างเอาไว้ พลดื่มเข้าไปด้วยท่าทางกระหาย ก่อนจะโยนถุงทิ้งไป
บังเอิญว่าเหนือภพวิ่งเข้ามาทางนั้นพอดี ถุงหนังดังกล่าวจึงฟาดเข้าที่หน้าของเหนือภพ เขาหยิบขึ้นมาดมฟุดฟิดก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจว่า
“น้ำผึ้ง! มันทำให้คนคึกขนาดนั้นเลยหรอ”
เหนือภพมองดูพี่พลที่ตอนนี้กำลังดูคึกเป็นอย่างมาก เขาพุ่งทะลวงไปถึงตัวนางพญาไนท์อาว โดยไม่สนคมมีดสายลมที่กำลังเชือดเฉือนชุดเกราะหมีของเขา แม้แต่หัวกะโหลกหมีที่สวมใส่อยู่ก็ถูกเฉือนออก จนเห็นใบหน้าที่แท้จริงของพล
ใบหน้าคมเข้มดุดันสมชายชาตรีมือยกสูงขึ้นเหนือหัว ท่าทางเริ่มดูอืดอาดยืดยาด ทันใดนั้นปราณอาคมสีทองจากร่างกายของเขาก็แผ่ซ่านออกมาด้านนอก ก่อร่างเป็นรูปอุ้งมือหมีขนาดใหญ่ ปรากฏขึ้นเหนือฟากฟ้า ก่อนมันจะตบลงมาดังเปรี้ยงในจังหวะพร้อมเพรียงกับพลที่ตบมือออกไปด้านหน้าเช่นกัน
ร่างกายของนางพญาไนท์อาวกระเด็นกระดอนกลิ้งไปด้านหนึ่ง เศษขนกระจุยกระจายออกมา
พลไม่หยุดเพียงเท่านั้น ท่าทางที่บ้าคลั่งดุจหมีบ้าพาเขาเคลื่อนตัวอุ้ยอ้ายไปด้านหน้า ตามนางพญาไปติดๆ แล้วเขาก็กระโดดขึ้นสูง เพื่อกระโดดเข้าทับนางพญาไนท์อาว พร้อมๆกับปราณอาคมสีทองรูปหมียักษ์สีทองที่มีขนาดใหญ่ๆพอกับนางพญาไนท์อาว ปรากฏขึ้นข้างหลังของพล
หมีอาคมตัวดังกล่าวได้กระโดดทับนางพญาไปติดๆ เกิดเป็นเสียงดังตึงจนพื้นดินสะเทือนสั่นไหว ร่างของนางพญาไนท์อาวถูกกดลึกลงไปในเนื้อดินเกือบครึ่งตัว
พลไม่คิดเว้นจังหวะให้สัตว์อสูรตัวนี้ได้หายใจแม้แต่วินาทีเดียว เขากระโดดขึ้นสู่ฟ้าแล้วทิ้งตัวลงมาแทงข้อศอกลงที่ทรวงอกนางพญาไนท์อาว เสียงกระดูกหักลั่นดังกร๊อบ ร่างหมีอาคมใหญ่ยักษ์ของพลคว้าจับขาสองข้างของนางพญาไนท์อาวแล้วเหวี่ยงทุบกับพื้นซ้ายขวาซ้ายขวาอย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางสีหน้าหวาดเสียวของฮันเตอร์แรงค์ E บางคน ที่เห็นพลทำแบบนั้นแล้ว ก็รีบหันมาดูเหนือภพที่กำลังยำไนท์อาวองครักษ์ปีกใหญ่อยู่อย่างเมามัน พวกเขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าการต่อสู้บ้าบิ่นป่าเถื่อนของเหนือภพนั้นได้มาจากใคร
ขนาดเหนือภพไม่เคยเห็นพี่พลต่อสู้แบบจริงจังมาก่อนก็ยังอึ้ง รูปแบบการต่อสู้ของพี่พลทำให้เขารู้สึกชื่นชอบถึงขนาดฝึกเลียนแบบท่าทาง โดยใช้ไนท์อาวองครักษ์ปีกใหญ่เป็นตัวทดสอบ แล้วเหนือภพก็เลียนแบบทุกอย่างที่พลทำได้เกือบจะสมบูรณ์แบบ
พลหวังจะทำการปิดฉากด้วยการหมุนเหวี่ยงร่างของนางพญาไนท์อาวไปรอบๆกว่า 20 รอบด้วยความเร็วสูง จากนั้นก็เหวี่ยงมันขึ้นสู่ฟ้า
เบื้องบนนั้นมีหมัดเทวะสีทองของหัวหน้าไทที่กำลังง้างกำปั้นค้าง รอเวลาประเคนหมัดปราณอาคมที่มีความกว้างกว่า 20 เมตร เขาต่อยสวนนางพญาไนท์อาวที่พุ่งเข้ามาทันทีอย่างไร้ความปรานี
เสียงร่างกายถูกบดขยี้ดังสนั่น
ร่างอันใหญ่โตของนางพญาไนท์อาวพุ่งดิ่งลงมากระแทกพื้นเบื้องล่าง เหล่าฮันเตอร์เริ่มร่างปราณอาคมที่รุนแรงของตน
ฮันเตอร์ที่อยู่เบื้องล่างรอร่ายปราณอาคมที่รุนแรงที่สุด หากนางพญาไนท์อาวตกลงมาเมื่อไหร่พวกเขาจะทำการ โจมตีซ้ำด้วยพลังแห่งความสามัคคี ถึงจะดูเหมือนเป็นหมาหมู่ก็เถอะ แต่นั่นก็เป็นเพียงโอกาสเดียวที่จะปลิดชีวิตของนางไนท์อาวได้
แต่เหนือภพกลับมองต่างออกไป เขารู้สึกว่านางพญาไนท์อาวไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น แม้เขาจะไม่สามารถมองปราณอาคมของสัตว์อสูรเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของมันได้เฉกเช่นผู้มีพรสวรรค์ แต่ประสบการณ์และลางสังหรณ์ภายในใจเขาบอกอย่างชัดเจนว่านี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น