ตอนที่ 70 เจ้าทำได้ ข้าก็ทำได้
“จะรุมกันแบบนี้เลยใช่มั๊ย เอาเส่ พวกเจ้าทำได้ข้าก็ทำได้”
เหนือภพเลียนแบบการกระโจนขึ้นฟ้าของไนท์อาว โดยการใช้กำลังขาที่มีมากมหาศาลของเขาดีดตัวขึ้นฟ้าในทันที
ตึง!!
ชั่วพริบตาเดียวเขาก็ลอยอยู่บนฟ้าสูงจากพื้นดินถึง 10 เมตร จากการกระโดดเพียงครั้งเดียว
เหนือภพมองฝูงบินไนท์อาวนับสิบพุ่งตัวลงไปตำแหน่งที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้า เสียงตูมตามดังถี่อย่างต่อเนื่องกว่าสิบครั้ง ฝุ่นควันฟุ้งตลบอบอวลไปทั่ว ขณะที่ร่างของเขากำลังดิ่งลงสู่พื้น เขาคิดจะกระโดดหลบแต่ทว่า...
“เห้ย ข้าลืมไป จะลงยังไงหว่า”
เขาลืมคิดไปว่าถ้าหากเขากระโดดสูงขนาดนั้น ทางเดียวที่จะลงได้ ก็มีแต่รอให้ตัวเองตกลงไปกระแทกพื้นเท่านั้น
“อ๊าาา!”
เหนือภพร้องเสียงหลง ขณะที่ร่างกายทิ้งดิ่งลงพื้นโลกอย่างรวดเร็ว จู่ๆเขาก็มีความคิดดีๆแล่นเข้ามาในหัวสมองน้อยๆอย่างทันท่วงที
‘ในเมื่อเจ้าไนท์อาวทำได้ เขาก็ต้องทำได้สิ การทิ้งดิ่งพุ่งชนโลกเหมือนปลายธนูยักษ์แบบนั้น’
จากนั้นเหนือภพก็ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงข้างล่าง ทำให้แรงตกพุ่งลงเร็วขึ้น เหนือภพกะระยะห่างระหว่างพื้นกับเขาให้สั้นลงก่อนจะกระทืบลงไปอย่างสุดแรง
แรงกระทืบของเหนือภพแม้จะไม่รุนแรงจนทำให้พื้นดินยุบเสียหายเป็นวงกว้างเทียบเท่ากับไนท์อาวปีกใหญ่ แต่แรงกระแทกของเขาก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่าไนท์อาวทั้งสิบที่กระจุกตัวกันอยู่เบื้องล่างจุกจนเคลื่อนไหวไม่ได้ ไปชั่วขณะ
และแล้วเหนือภพก็ไม่ลังเลที่จะถอนขนพวกมันแต่ละตัว ท่ามกลางเสียงกรีดร้องแหลมเล็กอันเจ็บปวด เสียงเหล่านี้ดังก้องไปทั่วป่า
สีหน้าของเฮงเฮงที่กำลังประคองซวยซวยอยู่ถึงกับซีดลง เมื่อเห็นการกระทำของเหนือภพ เด็กที่ดูหน้าซื่อๆแต่ไม่คิดว่าเวลาลงมือจะโหดร้ายถึงเพียงนี้ ส่วนฮันเตอร์อีกสามคนที่เหลือนั้นไม่มีทีท่าแปลกใจ พวกเขารู้สึกเพียงว่า
‘ดี! สมแล้วกับที่เป็นเด็กคลั่งพันเหรียญ’
เมื่อฝูงบินไนท์อาวปีกใหญ่ถูกเหนือภพจัดการถ่วงเวลาไว้ได้ หน่วยบุกทะลวงที่นำโดยพลและอรุณ ก็ได้บุกทะลวงเปิดทางลึกเข้าไปเรื่อยๆ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็จัดการเหล่าไนท์อาวองครักษ์สองตัวที่พิทักษ์ปากรังของนางพญาไนท์อาวลงได้สำเร็จ
แต่กว่าจะชนะได้ก็ไม่ง่ายนัก ฮันเตอร์กลุ่มของหัวหน้าไทสูญเสียฮันเตอร์แรงค์ E กับแรงค์ Fไปหลายคน และยังมีอีกหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจเคลื่อนไหวได้ในเร็วๆนี้
ส่วนคนที่สามารถสู้ต่อได้มีเพียงแค่ฮันเตอร์แรงค์ E ระดับแนวหน้า 4 คน หากรวมหัวหน้าไท พล และอรุณไปด้วย ก็จะมีเพียงแค่ 7 คนเท่านั้นที่จะต้องเข้าไปสู้กับนางพญาไนท์อาวโดยเร็ว เพราะหากล่าช้าเกินไปนางพญาไนท์อาวก็จะให้กำเนิดไนท์อาวขึ้นมาเพิ่มจำนวนได้ตลอดเวลา
ตราบใดที่นางพญายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาและหมู่บ้านรอบข้างก็จะไม่มีทางปลอดภัย
“ไม่รู้ทางฝั่งเหนือภพจะเป็นยังไงบ้าง ถ้าได้พวกเขามาช่วยอีกแรง การสู้กับนางพญาก็คงง่ายขึ้น”
อรุณเอ่ยขึ้นขณะนั่งพักรอฟื้นปราณอาคม นั่นจึงทำให้ทุกคนในกลุ่มเริ่มเป็นกังวล แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของไนท์อาวทางด้านเหนือภพ มันร้องดังออกมาอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานจนทำให้พวกเขาทั้งกลุ่มรู้สึกขนลุกซู่
“ข้าคิดว่าเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เป็นห่วงพวกไนท์อาวพวกนั้นดีกว่า ป่านนี้คงโดนถอนขนหมดตัวแล้วมั้ง”
พลเอ่ยขึ้นอย่างขำๆ เขาพอจะนึกภาพออกว่าเกิดอะไรขึ้นกับไนท์อาวปีกใหญ่พวกนั้น ขนของพวกไนท์อาวปีกใหญ่มีราคาสูงมากในท้องตลาด มีหรือที่เด็กรักเงินยิ่งชีพอย่างเหนือภพจะยอมพลาดโอกาสนี้
เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าเหนือภพจะสามารถคลี่คลายปัญหาได้ไวขนาดนั้น พวกไนท์อาวปีกใหญ่เป็นสัตว์อสูรประเภทบินได้ที่รับมือได้ยากมาก มันเป็นพวกสร้างความเสียหายที่รุนแรงอย่างถึงที่สุด ฮันเตอร์ส่วนใหญ่ที่ออกล่ารังไนท์อาวล้วนต้องสิ้นชื่อเพราะพวกปีกใหญ่มานักต่อนักแล้ว
และการเอาพวกหนังเหนียวไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอย่างเหนือภพไปสู้กับพวกนั้น ก็เป็นความคิดที่ดีอย่างมาก เขารู้สึกนับถือหัวหน้าไทยิ่งขึ้น ไม่คิดว่าหัวหน้าจะมองจุดเด่นจุดด้อยของเหนือภพได้เฉียบขาดขนาดนี้
ไม่กี่นาทีจากนั้น เหนือภพก็ไล่ต้อนไนท์อาวสิบกว่าตัวที่อยู่ในสภาพไร้ขน มาทางกลุ่มใหญ่ของหัวหน้าไท พวกมันยังคงมีชีวิตอยู่ ท่าทางของพวกมันสั่นเครือไปด้วยความหวาดกลัว พวกมันไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าทำไมเจ้าเด็กป่าเถื่อนนี่ถึงไม่ฆ่ามันสักที ทรมานมันอยู่ได้
แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าเหนือภพไม่อยากฆ่า แต่เขาไม่สามารถฆ่าได้ มันเป็นชะตาชีวิตที่น่าหงุดหงิดสำหรับคนไร้พรสวรรค์ แต่จะให้คนอื่นๆฆ่าก็ไม่ได้อยู่ดี
เนื่องจากการที่เขาได้คุยกับฮันเตอร์เฝ้ายามเมื่อคืน ทำให้เขารู้มาว่าตราสัญลักษณ์ฮันเตอร์ที่ข้อมือนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์แรงค์เท่ๆเพียงอย่างเดียว แต่มันยังสามารถบันทึกข้อมูลการฆ่าสัตว์อสูรเอาไว้ได้ด้วย ยิ่งฆ่าได้มากเท่าไหร่ก็จะได้รับแต้มผลงานไปแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของล้ำค่าหรือเงินทองที่สำนักงานใหญ่แต่ละแห่ง และเขามีความตั้งใจอย่างมากที่จะให้เหนือฟ้าเป็นคนฆ่าพวกมัน เพื่อที่เธอจะได้มีผลงานเยอะๆ
“เหนือฟ้าน้องพี่ พี่เอาของมาฝาก จัดการฆ่าพวกมัน แล้วกอบโกยผลงานไปสู่อนาคตอันรุ่งโรจน์ของพวกเรากันเถอะ”
เหนือภพบอกน้องสาวอย่างอารมณ์ดี แต่นั่นกลับทำให้สองฝาแฝดถึงกับขนลุกซู่ มองไปทางเหนือฟ้า เด็กสาวตัวเล็กๆที่พยักหน้ารับ ‘อื้อ’ อย่างว่าง่าย
“นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว”
“นั่นสิ เด็กผู้หญิงตัวน้อยน่ารัก แต่กลับฆ่าพวกมันได้ลงคอ”
และแล้วฝาแฝดทั้งสองก็ถอยห่างจากเหนือภพและเหนือฟ้าไปไกล พวกเขารู้สึกว่าจิตสำนึกของพี่น้องคู่นี้มันแปลกประหลาดเกินไป
แต่หากฝาแฝดทั้งสองได้เผชิญเหตุการณ์เลวร้ายเช่นที่เหนือฟ้าเผชิญพรายอสูรมาก่อนหน้า ก็จะรู้ดีว่าหากไม่ฆ่าสัตว์อสูร สัตว์อสูรก็ฆ่าเรา ไม่ว่าผิดหรือถูกที่ทำไปก็เพื่อที่เอาชีวิตรอด แม้ลึกๆในใจเหนือฟ้าจะไม่ชอบการฆ่าฟัน แต่ถ้าเรายังอยากมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ การรบราฆ่าฟันก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้คนเราแข็งแกร่งขึ้นและมีชีวิตอยู่ต่อไปกับคนที่เรารักได้