ตอนที่ 63 เก็บกู้ของดี
ณ บริเวณที่ปักหลักของกลุ่มผู้รอดชีวิตเป็นพื้นที่เตียนโล่ง แม้มันจะเคยเป็นป่าริมฝั่งน้ำมาก่อน แต่ตอนนี้มันกลายสภาพเป็นที่ราบกว้างแสนเฉอะแฉะไปเสียแล้ว
“หัวหน้าอสูรกริมนั่น มันไปแล้วจริงๆใช่มั๊ย”
“ใช่”
“จริงๆนะหัวหน้า”
“อืม”
“ไม่กลับมาแล้วแน่นะ”
เหนือภพเซ้าซี้ถามหัวหน้าไทจนหัวหน้าไทคร้านจะตอบ เขาส่ายหัวเบาเบาแล้วก็เดินจากไป
เมื่อเหนือภพแน่ใจแล้วว่าเขาจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับความซวยใดใดอีก เขาก็ตรงดิ่งไปหาพี่พลและอรุณทันที ทั้งสามคนซุบซิบกันเพียงไม่นานก็พากันเฮโลกลับมาที่ริมฝั่งท่ามกลางสายตาฉงนของคนอื่นๆ
คนสามคนกำลังช่วยกันกู้คืนสิ่งของขึ้นมาอย่างเอาจริงเอาจัง สิ่งที่เหนือภพกอบกู้ขึ้นมาส่วนใหญ่ล้วนเป็นเครื่องมือ เครื่องครัว กระทะหม้อไหจานชามที่แม้ว่าจะไม่ครบ แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ทำให้เขาต้องลำบาก อย่างมากก็แค่ทำให้รู้สึกพะรุงพะรังขณะเดินทางนิดหน่อยเท่านั้น
ส่วนอรุณนั้นเก็บกู้แต่อาวุธ ในใจเขารู้ดีว่าพวกเขาจำเป็นต้องเดินทางตัดผ่านป่า และมีอาวุธยิ่งมากก็ยิ่งดี การต่อสู้กับสัตว์อสูรมันทำให้สิ้นเปลืองอาวุธอย่างมาก ต่อให้อาวุธนั้นทำมาจากเหล็กไหลที่มีคุณสมบัติล้ำเลิศ แต่หากเจอเข้ากับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง มันก็อาจเสียหายหรือพังทลายไป
ดังนั้นในหัวของอรุณจึงมีแค่อาวุธโดยไม่เกี่ยงประเภท สิ่งอื่นใดเขาแทบจะไม่ชายตามอง
ทางด้านพลนั้น ดูเหมือนเขาจะมีเทพแห่งโชคคอยช่วย เพราะเขาเจอแต่ของสำคัญและมีราคา แต่เหมือนเทพองค์นั้นกลับกลายเป็นมารปลอมตัวมา เขาจึงจบลงด้วยความโชคร้าย
ของมีราคาพวกนั้นใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ชุดเกราะเกล็ดอสูรก็อยู่ในสภาพขาดรุ่งริ่ง ยาชั้นเลิศก็เปียกจนละลาย อาวุธต่างๆที่พบก็เสียหายจนหมดสภาพ
พลจึงเลือกเก็บเพียงแผ่นไม้ที่มีรอยแตกมาแผ่นหนึ่ง เพื่อแก้เขิน
“อะไรกัน เป็นถึงฮันเตอร์ที่แข็งแกร่งได้แผ่นไม้แข็งๆมาแผ่นเดียวเนี่ยนะ”
เหนือภพเอ่ยขึ้นโดยที่ตามตัวห้อยอุปกรณ์เครื่องครัวพะรุงพะรัง แลดูน่าตลกขบขัน
“ข้าคิดว่า ท่านควรจะพิจารณาตัวเองนะ ดูท่าตำแหน่งรองหัวหน้าคงต้องเปลี่ยนคนแล้วละ ฮ่าๆ”
อรุณเอ่ยขึ้นอย่างขบขัน สภาพเขาก็ไม่ต่างจากเหนือภพเท่าไหร่นัก แต่ต่างตรงที่เขาดูเท่สมกับเป็นฮันเตอร์ รอบชุดจิ้งจอกของเขาเต็มไปด้วยศาสตราวุธหลากหลายชนิด เขาเดินเชิดหน้ากลับสู่กลุ่มใหญ่ ตามด้วยเหนือภพที่ดูมีความสุขฮัมเพลงด้วยจังหวะสนุกสนาน พลางควงตะหลิวในมือไปอย่างเบิกบานใจ ในหัวของเหนือภพคิดแต่ว่า วันนี้จะต้มหรือผัดอะไรให้เหนือฟ้ากินดี
พลยิ้มแห้งๆขณะมองแผ่นไม้ขนาดใหญ่กว่าสองเมตรในมือ ก่อนจะแบกมันไปด้วย หากเขาเดินไปตัวเปล่ามันจะดูแปลกพิกลอยู่ จะพิเศษหรือไม่ก็ช่างหัวมัน เอาไว้รองนอนก็ได้ ดีกว่านอนบนพื้นดินเป็นไหนๆ
“น้องพี่ เจ้าหิวหรือยัง พี่จะทำให้อะไรให้เจ้ากินดีไหม”
เหนือภพในสภาพที่สวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล มีเลือดไหลซิบๆ และแบกข้าวของพะรุงพะรัง ทรุดตัวคุกเข่าลงต่อหน้าเด็กสาวตัวน้อยที่เห็นได้ชัดว่าใบหน้ามีร่องรอยของคราบน้ำตาอยู่
ดวงตากลมโตของเหนือฟ้าสั่นระริก แวววาวไปด้วยหยาดน้ำตา ใบหน้าที่บูดเบี้ยวแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อย เธอเบะปากเล็กน้อยก่อนจะตรงเข้าสวมกอดชายตรงหน้า แขนเล็กๆของเธอโอบรัดต้นคอของพี่ชายเอาไว้แน่น
“พี่ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องร้องไห้น้า”
เหนือภพตั้งใจจะลูบหัวน้องสาวเพื่อปลอบโยน แต่เมื่อเห็นว่ามือเปื้อนเลือดที่ไหลซิบๆออกมา เขาจึงเช็ดเข้ากับชายกางเกงพี่พลที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างหน้าไม่อาย แล้วนำมาลูบหัวเหนือฟ้าเบาๆอย่างอ่อนโยน
เหนือฟ้าก็มีสภาพไม่น่าดูเช่นกัน เธอสวมใส่ชุดสุดสวยที่ตอนนี้เปื้อนและเปียกโชก เท้าเล็กๆเปลือยเปล่า ผมเผ้ายุ่งชี้ฟู เหตุการณ์นี้มันหนักหนาเกินไปสำหรับเด็กหญิงน่ารักวัย 6 ขวบ
“ฮือๆ พี่บ้า พี่เลว ถ้าพี่ตายแล้วหนูจะทำยังไง อือๆ”
เหนือฟ้าร้องไห้โฮหนักขึ้น สองมือน้อยๆทุบตีพี่ชายตัวเองอยู่แบบนั้น เหนือภพได้แต่ยิ้มแล้วพยายามปลอบใจน้องสาว เขาไม่คิดว่าน้องสาวจะห่วงเขามากแบบนี้ นานๆทีน้องสาวจะเข้ามากอดเขาด้วยตัวเอง
‘มีความสุขจัง คราวหน้าเจ็บหนักอีกสักหน่อยก็คงได้’
เหนือภพดูมีความสุขหลังจากถูกน้องสาวบังคับให้สัญญากับเธอว่าจะไม่เข้าไปเสี่ยงอันตรายแบบนี้อีก ห้ามรักเงินมากกว่ารักตัวเอง ห้ามโน่นห้ามนี่สารพัด เหนือภพได้แต่รับปากเออออตามน้องสาวไป เขารับปากได้ทั้งนั้นแหละ แต่จะทำตามได้รึเปล่ามันก็เป็นอีกเรื่อง
เหนือภพก่อกองไฟนั่งทำอาหาร วัตถุดิบที่ใช้ก็คือซากพรายอสูรที่มีอยู่เกลื่อนกลาด วันนี้จะทำอาหารให้น้องสาวกินให้พุงกางไปเลย ไม่ว่าจะเป็นแกงลูกชิ้นเนื้อพรายอสูรที่กำลังเดือดปุดๆอยู่ในหม้อ พรายอสูรทอดที่กำลังส่งกลิ่นหอมอบอวลในกระทะ นอกจากนั้นยังมีซุปกระดูกพรายอสูรที่เขากำลังเคี่ยวอยู่ภายในหม้ออีกใบ ในขณะที่รอบข้างของเขามี อรุณและพลยืนเฝ้ามองน้ำลายไหลย้อย ด้วยความอยากกินใจจะขาด
“ข้าขอดูแผ่นไม้นี้ได้หรือไม่”
กัปตันเรือถามพลหลังจากที่เขาสังเกตเห็นแผ่นไม้ที่พลนั่งทับอยู่นาน มันให้ความรู้สึกคุ้นตานัก
“ตามสบายเลย”
พลเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ เขาสนใจอาหารของเหนือภพมากกว่า ไม่ว่าเขาจะต่อรองยังไงเหนือภพก็ยังใจแข็งไม่ยอมให้เขากินก่อนแม้แต่น้อย บอกแต่ว่าให้รอก่อน