ตอนที่ 15 เหมืองโบราณ
“เจ้าแน่ใจหรอว่าที่เหมืองมหาลาภมีสายแร่หกสีอยู่จริง”
คุณชายถามด้วยท่าทางแบบผู้มีอำนาจ ในขณะที่เขาโอบกอดสาวงามไว้ตลอดเวลา
“แน่ใจขอรับ ข้าเคยไปเฝ้าหน้าเหมืองแถวนั้นเกือบสิบปี จึงเคยได้ยินข่าวลือมามากมาย ปกติคนที่รู้มักจะไม่มีใครปากโป้งหรอกนะขอรับ”
“หึ นั่นสิ แล้วเจ้าคิดยังไงถึงมาบอกข้า”
เมื่อฮันเตอร์วัยกลางคนเห็นแววตาดุดันน่ากลัวของคุณชาย เขาก็ถึงกับสั่นน้อย ๆ ในขณะตอบ
“เพราะข้าหวังว่า.. ถ้าข้าบอกข้อมูลนี้แก่คุณชาย คุณชายก็จะเมตตาไว้ชีวิตครอบครัวข้าและช่วยยืดเวลาชดใช้หนี้ให้ข้า”
“ข้อมูลแค่นี้ ไม่พอหรอก”
“คือว่า… ถ้ายังงั้นข้าก็จะบอกทุกอย่างให้คุณชาย แต่ข้อมูลพวกนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจยืนยันได้นะขอรับ”
“ว่ามา”
“มีคนลือกันว่าในชั้นลึกสุดของแต่ละเหมืองมีสายแร่อยู่ เหมืองเขี้ยวหนุมานมีสายแร่ทองคำ เหมืองหยกขาวมีสายแร่หยกหมื่นปี เหมืองอัคนีมีสายแร่เพชรสีชมพู เหมืองศรีหมอกมีสายแร่พลอยหลายอย่างตัดสลับกัน และก็เหมืองแร่หลวงไพศาลมีสายแร่ห้าสีขอรับ”
“งั้นหรือ เห็นแก่ความจริงใจของเจ้า ข้ายกหนี้ให้ก็แล้วกัน”
เมื่อคุณชายพูดจบแล้วเขาก็หันมาคีบอาหารต่อโดยไม่สนใจฮันเตอร์ตรงหน้าอีก
“ขอบพระคุณขอรับคุณชาย”
“จะอยู่หาพระแสงอะไรอีก คุณชายท่านจบธุระกับเจ้าแล้ว ไสหัวไปซะ”
หญิงสาวผู้มีริมฝีปากและเล็บสีแดงสดเอ่ยปากไล่ฮันเตอร์วัยกลางคนอย่างไม่ไยดี จากนั้นเธอก็หันกลับมาฉอเลาะเสียงหวานกับคุณชายราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้
“อร่อยมั๊ยคะคุณชาย นี่ค่ะของโปรดของท่านเลย”
“อืม”
“คุณชายจะส่งคนไปขุดหาแร่ตามคำร่ำลือหรือคะ”
“ไม่ใช่ตอนนี้ มันหาไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก”
“ทำไมหรอคะคุณชาย หรือว่าท่านกลัวว่า…. เอ๊ะ สุราหมด เจ้าน่ะมานี่หน่อย ไปเอาสุรามาเพิ่มสองไห ให้ไวเลยนะ”
“ขอรับ”
เหนือภพโค้งรับคำแล้วรีบไปที่ห้องครัวอย่างไว
‘บร๊ะ อีกนิดเดียวเองเกือบได้ฟังแล้ว จะมาหมดทำไมตอนนี้’
ท้ายที่สุดแล้วเหนือภพก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีก
กลางดึกคืนนั้นเหนือภพนั่งคิดตรึกตรองอยู่เพียงครู่เดียว แล้วเขาก็ออกจากโรงเตี๊ยม พุ่งตรงไปยังพื้นที่เหมืองในเขตเมืองโกงกางพร้อมกับอีเตอร์คู่กายของเขา
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลากลางดึก แต่บริเวณเหมืองของที่นี่ก็ยังคงดูครึกครื้น โคมไฟวางตั้งส่องสว่างทั่วบริเวณตั้งแต่หน้าถ้ำยาวไปจนถึงภายในถ้ำ พ่อค้าแร่ก็ดูเหมือนจะตั้งกระโจมรับซื้ออยู่ที่นี่ตลอด 24 ชั่วโมง และก็มีชาวบ้านเดินสวนทางเข้าออกเหมืองตลอดเวลาเช่นกัน
เหนือภพเลือกเดินเข้าไปคุยกับฮันเตอร์ที่เฝ้าปากทางเข้าเหมืองก่อนเป็นลำดับแรก
“ลุงครับ ที่นี่ชื่อเหมืองอะไรหรอ”
“คนต่างถิ่นสิท่า นี่คือเหมืองศิลาอำพัน”
“อ้าว ไม่ใช่แฮะ”
“เจ้าจะไปที่เหมืองไหนล่ะ”
“ข้าอยากไปที่เหมืองมหาลาภ เหมืองเขี้ยวหนุมาน เหมืองหยกขาว เหมืองอัคนี เหมืองศรีหมอก และก็เหมืองแร่หลวงไพศาลครับ”
เมื่อเหนือภพพูดจบประโยค ลุงฮันเตอร์ก็หัวเราะออกมา จากนั้นก็แนะนำเหนือภพด้วยความหวังดี
“เหมืองพวกนั้นน่ะส่วนใหญ่อยู่ในเขตเหมืองหลวงนู่น ถึงจะมีบางส่วนอยู่ที่เมืองอื่น แต่เจ้าก็เข้าไปไม่ได้อยู่ดี”
“ทำไมล่ะครับ”
“เหมืองพวกนั้นเป็นเหมืองได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ถ้าอยากเข้าไปก็ต้องซื้อสัมปทานจากองค์จ้าวแคว้นเสียก่อน”
“ใช้เงินเท่าไหร่ครับ”
เหนือภพไม่สนใจอยากรู้ว่าสัมปทานคืออะไร เขาสนใจแค่ว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะเข้าไปได้ ส่วนลุงฮันเตอร์นั้นก็ทำได้เพียงส่ายหัวให้กับความบ้านนอกของเหนือภพ
“ข้าก็ไม่รู้แน่ชัดหรอก แต่ที่แน่ ๆ มันคงไม่ต่ำกว่า 10,000 เหรียญทอง”
“ห๊ะ !”
เหนือภพรู้สึกเหมือนจะเป็นลม มันมีอาการหวิว ๆ ในอกของเขา เมื่อลุงฮันเตอร์เห็นเหนือภพมีอาการเช่นนั้นก็นึกเอ็นดูเหนือภพขึ้นมา
“นั่นแหละ ใครจะไปจ่ายไหว ไหน ๆ ก็มาแล้วก็มาขุดที่เหมืองศิลาอำพันก่อนก็ได้นะ ค่าเข้าคนละ 1 เหรียญเงิน”
เหนือภพยังไม่หายตกใจ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถึงกับหน้าเผือดสี
‘อะไรกัน แค่เหมืองธรรมดา ๆ เก็บตั้ง 1 เหรียญเงินเลยหรอ ขูดรีดเกินไปแล้ว เหมืองที่หมู่บ้านข้าเก็บแค่ 1 เหรียญทองแดงเอง’
“เอ่อ คือว่า….”
“เฮอะ อิดออดจริง ถ้าไม่มีปัญญาจ่ายก็ไปขุดฟรีที่เหมืองโบราณรกร้างเลยไป๊”
ลุงฮันเตอร์เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้วเหมือนกัน เจ้าหนุ่มนี่ดูเหมือนจะเรื่องมากไม่น้อย
“เหมืองโบราณรกร้าง ?”
เหนือภพตาเบิกโพลงเมื่อเขานึกได้ว่าเคยรับปากอะไรไว้กับองค์หญิงบุษย์น้ำเพชร เขาจะต้องตามหาแร่สี่สีให้เธอ แต่แผนที่ของเหมืองโบราณที่เธอเคยมอบให้เขา ตอนนี้มันสูญหายไปแล้ว
“เอ่อ ลุงพอจะรู้มั๊ยว่าเหมืองโบราณที่ลุงว่าไปทางไหน”
“อุบ๊ะ ! นี่ข้าประชด ยังจะซื่อบื้ออีก เหมืองโบราณรกร้างน่ะเข้าฟรีก็จริง เข้าไปแล้วก็อยู่ที่นั่นตลอดกาลเลย”
“ใครมันจะไปขุดแร่ต่อเนื่องได้นานตลอดกาล”
“ข้าหมายถึง ตาย สิเจ้าโง่ในนั้นอันตรายมากเลย แต่ก็ช่างเถอะ สรุปว่าข้าไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”
“โธ่ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้สิครับ ข้าลาก่อนล่ะ”
แล้วเหนือภพก็กลับไปที่โรงเตี๊ยมด้วยเป้าหมายใหม่ในใจ เขาจะทำงานเก็บเงินไปพร้อม ๆ กับการสืบข่าวเกี่ยวกับเหมืองโบราณ จากนั้นเขาก็จะไปขุดหาแร่สี่สีไปขายให้องค์หญิงบุษย์น้ำเพชร แล้วเขาก็จะมีเงินมีทองและมีความภาคภูมิใจที่จะกลับไปหาแม่และน้องสาว
แต่ก่อนอื่นเขาต้องติดต่อขอความช่วยเหลือจากองค์หญิงก่อน เพราะเธอเคยพูดเองว่าถ้ามีปัญหาก็ให้บอก
----------------------------------------------
ผู้ส่ง - เหนือภพ
ที่อยู่ผู้จัดส่ง - โรงเตี๊ยมสำราญใจ เมืองโกงกาง
ผู้รับ - องค์หญิงบุษย์น้ำเพชร
ที่อยู่ผู้รับ - พระราชวัง
เรียนองค์หญิง ข้าทำแผนที่หาย ท่านช่วยส่งแผนที่เหมืองโบราณมาให้ข้าหน่อยละกัน
ขอบคุณมาก
ลงชื่อ เหนือภพ
นักขุดเหมืองผู้แข็งแกร่ง
----------------------------------------------
หนึ่งเดือนต่อมา ณ ม้านั่งข้างสวนสาธารณะ
“เย้ ! เจอของมีประโยชน์สักที”
สินค้า : ใบหญ้าฝาดเฝื่อน
ที่มา : ยอดเขาแหลมแดนหิมะ
สรรพคุณ : ช่วยข่มเส้นประสาทรับความเจ็บปวดทั่วร่างกาย แต่ผลการยับยั้งความเจ็บปวดจะลดลงเมื่อกินของหวาน
คุณภาพ : ต่ำ
ราคา : 100,000 พ้อย
เหนือภพซื้อใบหญ้าฝาดเฝื่อนจากแท็บแล็ตด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่เขาได้มีโอกาสเลือกซื้อวัตถุดิบลับจากแท็บแล็ต แล้วนี่ก็นับเป็นวัตถุดิบแรกที่เขาเห็นว่าน่าสนใจ
เหนือภพนำใบหญ้าฝาดเฝื่อนมาบรรจงห่อเนื้อเค็มที่เขาชอบพกติดตัว เมื่อห่อเรียบร้อยเขาก็กัดกินทั้งอย่างนั้นเลย รสชาติฝาดขมติดลิ้นเมื่อผสมผสานกับรสเค็ม คลุกเคล้าด้วยกลิ่นสาบของพืชสด เหนือภพจึงจบมื้อของว่างด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
จากนั้นเขาก็เดินมุ่งหน้าไปที่ร้านทำอาวุธ แต่เขาคงรีบร้อนไปหน่อย
พลั่ก !
“โอ๊ย !”
ชายหนุ่มท่าทางเจ้าสำอางล้มกระแทกลงไปกับพื้นอย่างแรง
“คุณชาย เป็นอะไรมากมั๊ย เจ้ากล้าดียังไงถึงเดินชนคุณชายของข้า”
ชายคนนั้นรีบเข้าไปประคองคุณชายของเขาแล้วก็ชี้หน้าเหนือภพ จากนั้นพวกลูกน้องอีกสิบคนก็เข้ามาล้อมเหนือภพทันที
แต่เหนือภพยังนิ่งเฉย เขาพยายามไกล่เกลี่ยด้วยเหตุผลก่อน
“ข้าไม่ได้ตั้งใจ เขาก็ไม่ได้ถือว่าเจ๊ากันไปละกัน”
“ถุย รู้มั๊ยว่าข้าเป็นบุตรของใคร คิดจะจากไปง่าย ๆ งั้นรึ”
คุณชายเจ้าสำอางถ่มเลือดลงพื้นแล้วก็ยืดตัวด้วยความกร่างเยี่ยงนักเลง เหนือภพเห็นแล้วก็เชื่อไม่ลงว่าเขามาจากตระกูลผู้ดีจริง ๆ เขาว่าจิตใจเขาหยาบช้าแล้วนะ แต่เจอคนที่จิตใจหยาบช้ายิ่งกว่า
‘เห้อ เดี๋ยวนี้แค่รวยก็นับว่าเป็นคุณชายได้แล้วหรอ มิน่าถึงได้มีคุณชายเกลื่อนเมือง อย่าให้ข้าได้เป็นคุณชายบ้างละกัน’
ไม่ว่าเหนือภพจะคิดเช่นไร แต่เขาก็ต้องแสดงออกอย่างผู้มีอารยธรรม
“ข้าขอโทษ”
“เสแสร้ง คิดว่ามันจะจบง่ายหรอห๊ะ !”
คุณชายเจ้าสำอางคิดว่าตัวเองมีพวกมากจึงไม่เคยกลัวใคร ในจังหวะที่เขากำลังจะสำแดงอาคมนั้น ก็พอดีมีลูกน้องเข้ามากระซิบบอกเรื่องสำคัญเสียก่อน
“คุณชาย มีข่าวมาว่าชุดของสะสมกาน้ำชาที่เราจะเอาไปมอบให้แม่นางหยาดทิพย์ถูกคนต่างเมืองซื้อตัดหน้าไปแล้ว”
“อะไรนะ ! มันเป็นใครกัน ไปพวกเรา ไปดูหน้ามันหน่อยสิ กล้าดียังไงมาแย่งชิงของของข้า”
แล้วพวกคุณชายเจ้าสำอางก็พากันเดินจากไปโดยไม่ไยดีเหนือภพอีกเลย
“เจ้าพวกนี้มันยังไง คิดว่าตัวเองสำคัญมากเรอะ ช่างเถอะ ไร้สาระ”
เหนือภพตัดเรื่องขุ่นมัวออกไปจากจิตใจด้วยการภาวนาตามที่พระอาจารย์เคยสอน แล้วเขาก็ภาวนาไปตลอดทางจนถึงร้านทำอาวุธ
เขาได้คุยกับหัวหน้าช่างทำอาวุธเพียงไม่นาน อารมณ์โมโหก็ย้อนกลับมากระแทกใจอีกครั้ง
“พี่ให้มันแซงคิวข้าได้ยังไง” เหนือภพเดือดดาล
“เห็นใจข้าเถอะนะ ข้าสู้อิทธิพลของพวกนั้นไม่ได้จริง ๆ นี่เขาก็เพิ่งมารับของไป ตอนนี้ข้าก็ว่างทำชุดเกราะให้เจ้าแล้วนะ อย่าโกรธข้าเลย”
“เพิ่งมารับ ? อย่าบอกนะว่ามันคือพวกคุณชายจอมกร่างที่มีลูกน้องล้อมหน้าล้อมหลังนั่น”
หัวหน้าช่างทำอาวุธได้แต่พยักหน้าอย่างจนใจ
“อีกเดือนหนึ่งค่อยมาเอานะ”
“เห้อทำไงได้ล่ะ ถ้าพี่ทำเสร็จเมื่อไหร่ก็ส่งข่าวให้ข้าละกัน ข้าอยู่ที่โรงเตี๊ยมสำราญใจ”
“ได้สิ”
“แล้วอย่าให้ใครมาแซงคิวข้าได้อีกล่ะ ไม่งั้นข้าที่แหละจะพังร้านท่าน” เขากำชับซ้ำอีกครั้ง
จากนั้นเหนือภพเดินไปร้านขายขนมพื้นถิ่นอบแห้งเพื่อส่งไปเป็นของว่างให้แม่และเหนือฟ้า เสร็จแล้วค่อยกลับโรงเตี๊ยม
ร้านนี้มีขนมน่ารักจุ๋มจิ๋มมากมายที่มีขายเฉพาะที่เมืองโกงกางเท่านั้น เหนือภพคิดว่าแม่กับน้องสาวคงจะชอบ และกลิ่นจันทน์ก็คงจะชอบเช่นกัน คิดได้ดังนั้นเหนือภพก็บิดขนมชิ้นหนึ่งแล้วโปรยลงไปในลำคลองเล็ก ๆ ที่ไหลตัดผ่านเมือง
‘หวังว่ามันจะไหลไปถึงเจ้านะ กลิ่นจันทน์’