ตอนที่ 100 เหนือภพจอมลามก
เหล็กไหลเป็นวัตถุธรรมชาติที่มีชีวิตเฉกเช่นแร่มีสี พวกมันจะตื่นตัวเมื่อพบเจอกับผู้มีปราณอาคม แล้วมันก็จะหลบหนีไป แต่เหล็กไหลจะมีข้อแตกต่างจากแร่มีสี คือเมื่อมันพบเจอ
ผู้มีอาคมที่มีพลังสอดคล้องกับตัวมันเอง มันจะเข้าหาผู้มีปราณอาคมคนนั้น แล้วเข้าไปผสานในร่างกาย เพื่อปกป้องและเสริมสร้างปราณอาคมให้ผู้มีพรสวรรค์คนนั้นแข็งแกร่งขึ้น แต่หากมันเกิดขึ้นตามขั้นตอนทางธรรมชาติ มันจะไม่สร้างความเจ็บปวดให้มนุษย์แต่อย่างใด
หากเกิดความเจ็บปวดขึ้นก็คงจะเกิดจากสาเหตุเดียวเท่านั้น เหล็กไหลเป็นปฏิปักษ์กับผู้ซึมซับ ซึ่งอาจจะเกิดกับผู้มีพรสวรรค์บางครั้งบางคราว กรณีที่ผู้มีพรสวรรค์คนนั้นฝืนซึมซับเหล็กไหล โดยที่เหล็กไหลชิ้นนั้นไม่มีความยินยอมพร้อมใจ เหล็กไหลนั้นก็จะทำร้ายคนผู้นั้นจนตาย แล้วก็จะหลบหนีไปสถิตอยู่ในธรรมชาติตามเดิม
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเหนือภพนั้นเกินกว่าที่ตำราจอมปราชญ์จะมีคำตอบในเรื่องนี้ อาจพูดได้ว่ากรณีแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ว่าได้ เพราะผู้ไร้พรสวรรค์ไม่เคยได้รับความสนใจจากเหล็กไหลมาก่อน
แต่ในตำราจอมปราชญ์กลับมีระบุไว้ว่า มีข่าวลือตามแคว้นต่าง ๆ ว่ากลุ่มภารดาระดับแกนนำมีเหล็กไหลในครอบครอง นั่นคงเป็นสาเหตุที่พวกเขาแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้มีพรสวรรค์ ส่วนวิธีการครอบครองเหล็กไหลโดยผู้ไร้พรสวรรค์นั้นไม่มีปรากฏ
“กลิ่นจันทน์ข้าตัดสินใจได้แล้วล่ะ”
คำพูดอันอ่อนแรงราวกับว่าเหนือภพกำลังจะสั่งเสียอะไรบางอย่าง เสียงของเขาทำให้กลิ่นจันทน์ถึงกับสะท้อนใจ
“พี่ อย่าคิดทำอะไรบ้า ๆ นะ”
“ข้ารู้ว่าความคิดของข้ามันบ้า แต่มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ตอนนี้ข้าจะทำอะไรได้”
น้ำเสียงของเหนือภพนับวันยิ่งแหบแห้งขึ้นทุกวัน เพราะเขาต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดนานหลายชั่วโมง แน่นอนเขาไม่ได้อยากร้อง แต่การร้องมันทำให้เขารู้สึกทรมานน้อยลง
“พี่ภพ พี่ต้องฟังข้า และเชื่อในตัวข้า ข้าสัญญาว่าข้าจะช่วยพี่ให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร หากทำไม่สำเร็จข้าขอตายไปพร้อมพี่ ไม่ให้พี่เหงาเมื่อเดินทางไปปรโลก แต่ตอนนี้พี่อย่าเพิ่งคิดสั้นนะ พี่ต้องสู้”
เหนือภพขมวดคิ้วมุ่นพลางจ้องมองกลิ่นจันทน์ คำพูดฟังดูซึ้งนะ สำหรับคนคิดสั้น แต่ว่า...
“ใครบอกว่าข้าอยากตายกัน ข้าแค่คิดว่าเงิน 4,000 เหรียญทองนั้น ข้าได้มีโอกาสจับมันแค่ช่วงสั้น ๆ ข้าคิดว่าข้าต้องรอดกลับไปให้ได้ แล้วไปเอาขูดรีดเอาเงิน 4,000 เหรียญทองนั้นมาอยู่ในมือข้าอีกครั้งให้ได้”
กลิ่นจันทน์ถึงกับหมดคำพูดไปเลยทีเดียว
สามเดือนต่อมา
“พี่ภพ พี่ภพ ทายสิว่าวันนี้ข้าไปเจออะไรมา”
กลิ่นจันทน์กลับมาอยู่ข้างกายเหนือภพอย่างกระตือรือร้น
“เจอทางออกแล้วหรอ”
“ใช่เลย พี่รู้ได้ไง”
“ก็เจ้าเจอทางออกทุกวันอยู่แล้วนี่”
เหนือภพไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะกลิ่นจันทน์มักจะขุดเจอทางใหม่ ๆ อยู่เป็นประจำทุกวัน และเธอก็มักจะกลับมาเล่าให้ฟังอย่างกระตือรือร้นเช่นนี้เสมอ แต่เส้นทางเหล่านั้นล้วนไม่ใช่เส้นทางที่แท้จริง เพราะแค่กลิ่นจันทน์ไปสำรวจได้เพียง 2-3 วัน เธอก็จะเจอทางตันเสมอ
“มันไม่เหมือนที่แล้ว ๆ มาหรอกนะ มันมีทางออกจริง ๆ”
“ยังไงหรอ”
“ข้าขุดออกไปเจอก้นหุบเหวแห่งหนึ่ง มันเหมือนเป็นก้นบ่อน้ำลึกที่แห้งแล้ว มันไม่ใหญ่มาก มีผาหินล้อมรอบทุกด้าน แต่ถ้าแหงนหน้าขึ้นข้างบนนะ ก็จะเจอท้องฟ้า ท้องฟ้าของจริงเลยนะพี่”
เมื่อเห็นกลิ่นจันทน์กระตือรือร้นจนถึงขีดสุดเช่นนั้น เหนือภพก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
“มันสูงแค่ไหน ถ้าเราจะปีนขึ้นไป”
“ก็ประมาณสัก…. เดี๋ยวนะขอข้าคิดก่อน อืม คงประมาณเท่ากับระยะทางจากบ้านพี่ไปบ้านข้าน่ะ”
“ห๊ะ ! มันสูงขนาดนั้นเชียว”
กลิ่นจันทน์พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ระยะทางจะมากแค่ไหนก็ช่าง แค่เธอได้เห็นท้องฟ้า เธอก็มีความหวังแล้ว
“พี่ไม่ต้องห่วง ข้าไปค้นหาวิธีขึ้นไปจากที่นี่ได้แล้ว เดี๋ยวรอข้าสะสมกระดูกให้ได้มากพอ จนถึงตอนนั้นพี่ก็น่าจะหายดีแล้วเราก็จะได้ออกไปจากที่นี่แล้ว”
เหนือภพเห็นใบหน้ามอมแมมที่ดูราวกับขอทานของเธอ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงคิดว่าท่าทางแบบนี้ดูน่ารักดี ไม่พูดพร่ำทำเพลง เหนือภพเอื้อมดึงกลิ่นจันทน์ลงมานอนทับบนอกเขาและก็โอบกอดเธอไว้ในทันที
“อุ๊ย !”
“เป็นไรไปเล่า คนกันเอง”
“คนลามกมันต้องโดนดี นี่แหนะ”
กลิ่นจันทน์หยิกมือเหนือภพที่กำลังบีบจับก้นเธออย่างเคลิบเคลิ้ม
“โอ๊ย !”
“ไม่ต้องมาสำออยเลยพี่ภพ ข้ารู้นะว่าพี่อาการดีขึ้นแล้ว ไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นอ่อนแออีกแล้ว”
“เจ้ารู้ได้ยังไง”
เหนือภพแปลกใจมาก เพราะเขาคิดว่าตัวเองแสดงละครได้แนบเนียนแล้วเชียว
“ก็ดูที่เหล็กไหลนั่นสิ ตอนนี้มันลดเหลือแค่หนึ่งเซนติเมตรเท่านั้น แล้วสีหน้าพี่มันก็เริ่มดูมีเลือดฝาดมากกว่าแต่ก่อน แสดงว่าพี่อาการดีขึ้นแล้ว และถ้าเหล็กไหลนี่ซึมซับเข้าไปจนหมดเมื่อไหร่ พี่คงจะหายดีแล้วล่ะ”
จบการวิเคราะห์ของกลิ่นจันทน์ เหนือภพก็พ่นลมหายใจออกมาด้วยความเซ็ง จะมีอะไรรอดหูรอดตาของเธอได้บ้างไหมนะ ช่วงหลังๆนี้เขารู้สึกดีขึ้นจริง ๆ ความเจ็บปวดแม้มีมากแต่ก็ไม่นานอีกแล้ว
ที่สำคัญคือเขารู้สึกได้ว่าเรี่ยวแรงที่หายไปกำลังกลับคืนมา และมีท่าทีว่าคงจะกลับคืนมามากกว่าเก่าเสียด้วย
‘หึ เนื้อสัตว์อสูรดี ๆ ที่ข้าอุตส่าห์ซื้อมากินประทังชีวิต มันคงจะกักเก็บสรรพคุณสุดเริ่ดเอาไว้ในกล้ามเนื้อ เพื่อรอตอนข้าหายสินะ ดีล่ะ ถือว่าไม่ขาดทุนแล้ว ฮ่า ฮ่า’
ไม่ว่าเหนือภพจะคิดอะไรในใจ แต่ใบหน้าเขาก็ยังคงพยายามสุดฤทธิ์ที่จะแสดงละครว่ากำลังเหนื่อยอ่อนอย่างแสนสาหัส
“เช็ดตัวให้ข้าหน่อยสิ”
น้ำเสียงอ่อนแรงช่างขัดกับดวงตาสดใสแวววาวคู่นั้น กลิ่นจันทน์เห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ส่ายหัวกับตัวเอง
“เฮ้อ ได้สิ เดี๋ยวข้ามา”