ตอนที่ 27 กรุณาเติมเงิน
เย็นวันนี้โรงหมอเงียบเหงาเหมือนเช่นเคย เหนือภพตื่นขึ้นมาเพียงลำพัง เขาเริ่มคุ้นเคยกับที่นี้แล้ว การรอไม่มีประโยชน์อะไร เขาจึงรีบลุกจากเตียงเพื่อจะได้รีบกลับบ้าน แต่มือที่กำลังบาดเจ็บของเขากลับปัดขวดยาที่ตั้งอยู่ข้างตัวตกลงพื้น
จู่ๆ ขวดยาก็หยุดค้างอยู่กลางอากาศ
“อีกแล้วหรอ”
เหนือภพแปลกใจที่ผู้ชี้นำมาหาเขาติดกันถึงสองครั้งในวันเดียว
“สวัสดีครับเหนือภพ เจอกันอีกแล้วนะ”
“ท่านเต็งหนึ่ง ทำไม..”
“อย่าเพิ่งถาม เข้าเรื่องเลยก็แล้วกันครับ ผมยังไม่ได้มอบพลังให้คุณเลย แต่เนื่องจากคุณไม่มีปราณอาคม ผมจึงใช้ความครีเอทเล็กน้อย”
ยังไม่ทันที่เหนือภพจะได้พูดอะไร ผู้ชี้นำเต็งหนึ่งก็ยื่นวัตถุสี่เหลี่ยมขนาดเท่าสองฝ่ามือของเหนือภพ มันบางเฉียบและดูเงางาม
“รับไปสิ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเก่งขึ้น”
“มันคืออะไร อาวุธงั้นเหรอ ข้าไม่เคยเห็นอาวุธแบบนี้มาก่อน”
“สิ่งนี้เรียกว่าแท็บเล็ตครับ”
“ทะ แทบ เป็ด มันจะทำให้ข้าใช้ปราณอาคมได้หรือเปล่า”
“แท็บเล็ตครับ ไม่ใช่แทบเป็ด สิ่งนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้คุณกลายเป็นฮันเตอร์ที่แข็งแกร่ง แต่ไม่ใช่ด้วยอาคมหรอกครับ ไม่ต้องห่วงครับ แม้จะไม่สามารถใช้ปราณอาคมได้ แต่คุณก็สามารถพัฒนาได้อย่างแน่นอน”
ผู้ชี้นำเต็งหนึ่งยิ้ม แม้จะมีกฎห้ามเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของมนุษย์ระหว่างผู้มีพรสวรรค์กับไม่มีพรสวรรค์ แต่ว่ามันยังมีช่องว่างของกฎอยู่ ช่องว่างที่เขาสามารถทำให้เหนือภพแข็งแกร่งขึ้น แต่ความแข็งแกร่งจะต้องได้มาด้วยความพยายามของเหนือภพเอง
ตลอดเวลาช่วงที่ผ่านมาเขาทำการศึกษากฎระเบียบของโลกใบนี้ ขอเพียงที่ไม่ใช่การฝืนกฎ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ด้วยอำนาจของตำแหน่งเทพผู้ชี้นำของเขา หรืออาจจะพูดให้พอเข้าใจง่ายๆในแบบฉบับของเขา โลกใบนี้ก็คือเกมเกมหนึ่ง ส่วนตัวเขาก็คือหนึ่งในผู้ดูแลระบบเกม ขอเพียงไม่ขัดต่อผู้สร้างเกม เขาก็สามารถสร้างกฎหรือระบบขึ้นมาเพื่อสนับสนุนผู้เล่นอย่างเหนือภพได้
เขาเรียกวิธีการนี้ว่า Pay to win
การจ่ายเพื่อความแข็งแกร่ง แต่มันก็มีข้อจำกัดบางอย่าง มันจำเป็นต้องมีตัวกลางในการเชื่อมต่อระบบนั้น นั่นก็คือแท็บเล็ต เขาใช้เวลาในการคิดเพื่อสร้างระบบนี้นานพอสมควร แต่เนื่องจากเวลาที่เขตสุริยันนั้นไวกว่าโลกนี้มาก เมื่อเขากลับมาหาเหนือภพอีกครั้ง เหนือภพจึงคิดเพียงว่าเขาช่างกลับมาเร็วนัก
“มาใกล้ๆนี่ ผมจะสอนคุณเปิดใช้งานมัน...”
เหนือภพทำตามที่ผู้ชี้นำบอกทุกอย่างอย่างว่าง่าย ใช้เวลาไม่นานเขาก็สามารถใช้งานเจ้าสิ่งที่เรียกว่าแท็บเล็ตได้
“คุณต้องใช้เงินเติมเข้าไปในระบบเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นพ้อย เพื่อที่จะซื้อสินค้าภายในนั้นมาพัฒนาตัวเอง ...มีแต่เงินที่จะทำให้คุณแข็งแกร่ง ถ้าจะให้พูดง่ายๆในภาษาของคุณก็ประมาณว่า จงเติมเงินซะ แล้วเจ้าจะเก่งขึ้น”
จากนั้นผู้ชี้นำก็สอนวิธีเรียกและเก็บแท็บเล็ตให้แก่เหนือภพ เหนือภพตื่นเต้นมากสามารถเรียกแท็บเล็ตออกมาจากตราสัญลักษณ์ที่ข้อมือได้ และก็สามารถเก็บมันเข้าไปได้เหมือนเดิม ช่างสะดวกอะไรอย่างนี้
“อย่าลืมนะ เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับระหว่างเราสองคน ผมไปก่อนล่ะ” จากนั้นผู้ชี้นำก็หายวับไป
เคล๊ง เสียงขวดแก้วตกพื้นแตกกระจาย
“จงเติมเงินซะแล้วเจ้าจะเก่งขึ้น...งี่เง่า”
เหนือภพล้อเลียนคำพูดของผู้ชี้นำอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก เงิน เงิน เงินเชียวนะ เหนือภพรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างมาก เมื่อพูดถึงเวลาที่ต้องเสียเงิน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถระงับความสงสัยภายในใจได้อยู่ดี แค่ลองดูสักหน่อยคงไม่เสียเงินหรอกมั้ง
เหนือภพครุ่นคิดมองสิ่งที่เรียกว่าแอปพลิเคชันที่อยู่ภายในหน้าจอแท็บเล็ต ก่อนจะแตะมันลงไปที่แอปพลิชันที่เรียกว่าตลาดอย่างลังเล แต่สุดท้ายเขาก็เปิดมันขึ้นมา
“นี่ข้าต้องเอาเงินมาจ่ายให้กับวัตถุโง่ๆแบบนี้หรอ เฮอะ! ไม่มีวันซะหรอก”
เหนือภพไม่สบอารมณ์อย่างมากขณะมองข้อความที่ว่า
-*-*- กรุณาเติมเงินเข้าสู่ระบบ เพื่อเปิดใช้งาน ร้านค้าออนไลน์ -*-*-
เหนือภพกัดฟันแตะลงไปที่หน้าจอหวังว่า เงินที่ต้องเติมสู่ระบบนั้นเป็นปริมาณที่เล็กน้อย ไม่เกิน 1 เหรียญทองแดง
“เห้ย!! นี่กะจะปล้นกันรึไง!! ไอ้ผู้ชี้นำซังกะบ๊วย ข้าจะสาปแช่งเจ้า ขอให้เจ้าอดอยาก ยากจน เมียไม่มี เป็นหมัน พ่อแม่ไม่รัก….”
เหนือภพด่ากราดอย่างหัวเสียเมื่อเห็นตัวเลือกที่อยู่บนหน้าจอ มันมีเพียง 3 ตัวเลือก และทุกตัวเลือกก็ทำเอาเขาแทบจะกระอักเลือดออกมา
-*-*- จ่าย 500 เหรียญทองแดง ได้รับ 500 พ้อย จ่ายครั้งแรกได้พ้อยสองเท่า
-*-*- จ่าย 1 เหรียญเงิน ได้รับ 10,000 พ้อย จ่ายครั้งแรกได้พ้อยสองเท่า
-*-*- จ่าย 1 เหรียญทอง ได้รับ 1,000,000,000 พ้อย จ่ายครั้งแรกได้พ้อยสองเท่า
แค่ราคาต่ำสุด ก็ทำให้เขาสาหัสแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวเลือกที่สูงที่สุด เนื่องจาก 10,000 เหรียญทองแดงเท่ากับ 1 เหรียญเงิน และ 100,000 เหรียญเงินก็เท่ากับ 1 เหรียญทอง
‘แค่ 500 เหรียญทองแดง ข้ายังไม่มีปัญญาเลย’
เหนือภพโมโหจนตัวสั่น
โป๊ก!
มีก้อนแข็งบางอย่างตกใส่กลางศรีษะของเขา ความเจ็บปวดที่สุดบรรยายนี้ถูกกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตาหนึ่งหยดในทันที มันเป็นเรื่องที่ประหลาด เหนือภพเงยหน้ามองข้างบนนอกจากหลังคากระเบื้องที่ไม่มีวี่แววชำรุดแล้ว ก็ไม่น่าจะมีอะไรหล่นลงมาใส่หัวของเขาได้
แต่เมื่อเขาหันมองไปรอบๆ ก็เตะตาเข้ากับถุงสีแดงที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเขานัก ถุงสีแดงนั้นมีกระดาษสีแปลกๆและข้อความที่เขาอ่านได้ ข้อความนั้นทำให้สีหน้าของเขาปรากฏความเขินอาย ในแววตามีความละอายใจอยู่หลายส่วน
< ถึงผมไปแล้วก็ใช่ว่าผมจะไม่ได้ยินสิ่งที่คุณพูด เงินในถุงถือเป็นของขวัญ แล้วก็ช่วยด่าผมให้น้อยๆหน่อย >
เหนือภพยิ้มกว้างมือสั่นอย่างไม่อยากจะเชื่อหลังจากเปิดถุงสีแดงออกดู มันมีแสงประกายสีเงินสะท้อนออกมาวิบวับ
‘นี่มันเหรียญเงิน!!’
เหนือภพรีบปิดถุง แล้วยัดลงไปในอกเสื้อในทันที แต่ว่าเขายังรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงยัดลึกลงเข้าไปอีกจนมันอยู่ระหว่างเป้ากางเกง
‘คงไม่มีใครสังเกตเห็นว่าข้าซ่อนเงินมหาศาลเอาไว้หรอกนะ’
เหนือภพมีท่าทีลุกลี้ลุกลน ยิ่งเขาตัวให้เป็นปกติ ท่าทางพิรุธก็ยิ่งแสดงออกมา ท่าทางหวาดระแวงตลอดการเดินทางตั้งแต่โรงหมอจนถึงบ้านนั้นมีคนสงสัยมากมาย แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจนัก
เหนือภพตบหน้าตัวเองหลายครั้งอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็นเท่าไหร่นัก แต่เขาก็ไม่กล้าเปิดถุงเงินซ้ำ เขากลัวว่ามันจะเป็นเพียงแค่ฝัน เขามีท่าทางประหลาดด้วยการนอนกุมถุงเงินที่เป้าของตัวเองอยู่แบบนั้น ความตื่นเต้นนี้ทำให้เขาไม่ได้หลับไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน
จนฟ้ารดา แม่ของเหนือภพผู้ซึ่งสังเกตเห็นลูกชายนอนกุมเป้าตุงอยู่เช่นนั้น เธอจึงเอ่ยขึ้นอย่างอายๆว่า
“ภพลูก แม่คิดว่าเจ้าก็โตแล้ว กลิ่นจันทน์บ้านเหนือก็เป็นเด็กสาวที่ดีเพียบพร้อม ทั้งยังแอบมีใจให้เจ้า แม่คิดว่าจะสู่ขอนางให้กับลูกดีไหม”
เหนือภพที่กำลังอิดโรยถึงกับตาสว่าง
“ข้าไม่ได้อยากแต่งงานสักหน่อยแม่”
จากนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไปข้างหลังบ้านอย่างรวดเร็ว ท่าทางลูกชายที่รีบออกไปในสายตาของผู้เป็นแม่ทำให้ผู้เป็นแม่ยิ้มกว้าง ก่อนจะพึมพำขึ้นว่า
“พี่ปฐพี ลูกของเราโตแล้วนะ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”
แม้ว่าฟ้ารดาจะเดินไปไหนไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าเธอจะตัดขาดกับโลกภายนอก เธอสามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยรถเข็นไม้ และเธอก็ยังมีเพื่อนเก่าแวะเวียนมาเยี่ยมอยู่บ้าง เธอจึงรู้ข่าวคราวของเพื่อนเก่าที่ชื่อ ‘จันทร์เพ็ญ’ และจันทร์เพ็ญก็มีลูกสาวหน้าตางดงามที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเหนือภพ เธอชื่อ ‘กลิ่นจันทน์’