ตอนที่แล้วตอนที่ 23 ความงกนี้ได้มาจากที่ใด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 25 บททดสอบฮันเตอร์

ตอนที่ 24 โธ่! ข้าลืมไปได้ยังไง


การตัดสินย้อนกลับมาของเหนือภพนั้นเป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างมาก ตุ่นตุ๊กแกกับตระกร้านั้นอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งเมตร ทันทีที่เหนือภพเก็บตระกร้าไม้สานที่เต็มไปด้วยแร่ กรงเล็บตุ่นตุ๊กแกก็พุ่งเข้ามา

เหนือภพมองเห็นทุกท่วงท่าของมันอย่างชัดเจน แต่ว่าปฎิกิริยาการตอบสนองของร่างกายเขานั้นยังช้าเกินไป จึงทำให้ถูกกรงเล็บตุ่นตุ๊กแกข่วนใบหน้า จากเหนือคิ้วขวาจรดข้างริมฝีปากซ้ายของเขา แม้จะเป็นแค่แผลข่วนก็ทำให้เหนือกรีดร้องอย่างเจ็บปวด หงายท้องล้มตึง

ไม่น่าเชื่อว่าการเฉียดตายครั้งนี้จะทำให้เหนือภพรู้สึกได้อย่างแท้จริง ว่าความจริงแล้วเขากลัวตายมากแค่ไหน เขาพลิกตัวออกข้างขณะที่เท้าของตุ่นตุ๊กแกกระทืบลงมา เขาเหวี่ยงฟาดอีเตอร์คู่กายของเขาขณะที่ยังนอนหมอบอยู่ ปลายแหลมของอีเตอร์นั้นแทนที่จะเจาะทะลุเข้าไปในเนื้อช่วงขาของตุ่นตุ๊กแก แต่กลับกลายเป็นว่ามันเหมือนได้ฟาดเข้ากับยางจนเกิดแรงสะท้อนดีดกลับออกมา และแล้วแขนของเหนือภพเกิดเคล็ด เจ็บร้าวตั้งแต่หัวไหล่จนถึงปลายนิ้ว

‘บัดซบ!!มันตัวบ้าอะไรวะนี่’

เหนือภพเริ่มลนลาน แม้เขาไม่ค่อยได้เจอกับสัตว์อสูรมากนัก แต่ก็มีประสบการณ์ล่าสัตว์อสูรมากินบ้างแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอสัตว์อสูรที่หนังเหนียว ฟันแทงไม่เข้าเช่นนี้

เหนือภพคว้าข้าวของลุกวิ่งหนี ต้องหนีเท่านั้น เหนือภพวิ่งไปได้ไม่ถึงสิบก้าว คล้ายกับว่าตุ่นตุ๊กแกมันพัฒนาขึ้นได้จากการต่อสู้ หรือมีพลังบางอย่าง มันเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมในขณะที่ใช้กรงเล็บตะปบหลังเหนือภพ เสื้อผ้าฉีกขาด รอยแผลห้ารอยปรากฏพร้อมกับเลือดสีแดงกระฉูดออกมาจากบาดแผล ร่างของเหนือภพถูกแรงปะทะจากการโจมตีนี้ ส่งผลให้ร่างกายถลาลิ่วไปด้านหน้า

ในเสี้ยววินาทีที่เหนือภพกำลังลอยละลิ่ว กลับหัวกลับหางอยู่กลางอากาศนั้น ก็มีภาพของพี่พลปรากฏขึ้นในระยะการมองเห็นของเขา ภาพของพี่พลที่ดูเหมือนตื่นตกใจกับอะไรบางอย่าง เขาเห็นชัดเจนว่าพี่พลที่อ้าปากร้องตะโกน แต่เขากลับไม่ได้ยินอะไรเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกเหมือนตัวเองหูดับ มีเพียงเสียงหวิวๆอยู่ข้างหู และต่อให้เขาหลุดปากพูดอะไรออกมาเขาก็คงไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของตัวเอง

พอคณะฮันเตอร์ของพลเห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขาก็ตกใจอย่างมาก พวกฮันเตอร์ที่คอยดูแลเหมืองแห่งนี้รวมถึงเหมืองที่อยู่ใกล้เคียงต่างรวมกลุ่มกันมาจัดการเรื่องยุ่งยาก เนื่องมาจากมีนักขุดจากที่นี่ไปรายงานเรื่องเสียงกึกก้องในส่วนลึกของเหมือง พวกเขาไม่ได้เจอสัตว์อสูรบุกโจมตีเหมืองศิลาร้อยชั้นมานานมากแล้ว นี่จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหนือความคาดหมาย

โชคดีเหลือเกินที่พลมาตามหาเหนือภพที่เหมืองแห่งนี้ เมื่อมีเรื่องรายงานด่วนเขาจึงคาดการณ์ว่าเหนือภพคงจะติดอยู่ด้านในเป็นแน่ อีกทั้งเหมืองแห่งนี้ยังอยู่ภายใต้การดูแลของเขาด้วย เขาจึงนำพรรคพวกบุกเข้ามาช่วยเหนือภพได้ทันท่วงที

เพียงแวบแรกที่พลได้เห็นตุ่นตุ๊กแกตัวใหญ่ที่กำลังแผ่ออร่าสีม่วงออกมา พลก็มีสีหน้าเคร่งขรึม ขณะที่พรรคพวกฮันเตอร์ที่อยู่ข้างหลังต่างพากันซุบซิบทำนองว่า

“สัตว์อสูรใช้อาคมได้ นี่มันสัตว์อสูรแรงค์ E”

“ไม่สิมันกำลังจะวิวัฒนาการไปแรงค์ D”

“มันไปแอบอยู่ที่ไหนมา ถึงได้ไม่มีใครพบเห็น”

“ลุย!!”

พลออกคำสั่งด้วยความหึกเหิม พร้อมกันนั้นร่างกายของพลก็เปล่งออร่าสีทองดุจเปลวเพลิง วินาทีต่อมาหอกยาวและอาวุธอื่นๆอีกมากมายที่ไม่รู้ว่าเป็นของใครบ้าง ก็พุ่งเข้าใส่ตุ่นตุ๊กแก

การเข่นฆ่านี้เกิดขึ้นด้วยความวุ่นวาย แม้ว่าฮันเตอร์จะมีด้วยกันถึง 5 คน แต่ก็ยังยากที่จะเอาชนะตุ่นตุ๊กแกได้ในเวลาอันรวดเร็ว ท่ามกลางอุโมงค์ที่มืดสลัวด้วยแสงคบเพลิงอันน้อยนิด เหนือภพเห็นแสงสว่างที่เกิดจากออร่าหลากสี หลายรูปร่าง ที่ถูกเปล่งออกมาจากทั้งฮันเตอร์และตุ่นตุ๊กแก แลดูวูบวาบ สวยงาม และอลังการไปอีกแบบ

จู่ๆภาพที่เหนือภพเห็นก็หยุดนิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว สรรพเสียงเงียบกริบ หยดเลือดที่กระเซ็นไปทั่วก็หยุดค้าง แม้แต่แสงออร่าที่ใช้ต่อสู้ยังหยุดนิ่งอยู่กับที่ เหนือภพที่กำลังลอยลอยถลายุบนอากาศนั้น แทนที่จะพุ่งไปด้านหน้าแล้วค่อยตกลงพื้นตามกฎธรรมชาติ แต่กลับกลายเป็นว่าตัวเขาหยุดนิ่งกลางอากาศแล้วก็ตกตุบลงพื้นแบบตรงๆ

เหนือภพเกาหัวแบบงุงงนพลางหันไปมองรอบข้าง ภาพที่เขาเห็นนั้นช่างน่าตกตะลึงจนถึงขั้นต้องทำตาโตเท่าไข่ห่านเลยทีเดียว

ภาพตุ่นตุ๊กแกที่กำลังก้มตัว ยกก้นโด่ง มันยกหางขึ้นสูง ค้างอยู่ในท่าที่กำลังจะฟาดโจมตีลงมา

ภาพฮันเตอร์หนุ่มคนหนึ่งกำลังจับหอกเหล็กสีดำ และเอี้ยวตัวไปข้างหลังกำลังจะพุ่งหอกเข้าใส่ก้นของตุ่นตุ๊กแก

ภาพพี่พลค้างอยู่กลางอากาศ เขากำลังทะยานตามฮันเตอร์ไป โดยมือขวาทำท่าเหมือนจะช่วยเสริมแรงดันหอก

และภาพของฮันเตอร์คนอื่นๆที่ต่างก็หยุดชะงักอยู่ในท่าการสู้แบบต่างๆ ทุกคนหยุดนิ่งยกเว้น...เขา

“พี่พลฮะ ทุกคนๆ เป็นอะไรไป”

เหนือภพกลับมามองสำรวจตัวเอง ก็พบว่าร่างกายเขายังคงมีบาดแผลตามตัว เลือดก็ยังไหลตามปกติ ทุกอย่างเป็นอย่างที่มันเป็นมาก่อนหน้านี้ แม้แต่แร่หนึ่งสีก็ยังคงอยู่ในมือของเขา

ในขณะที่เขากำลังหันซ้ายหันขวามองหาตะกร้าแร่ของเขาอยู่นั้น เขาก็มองเห็นโต๊ะรูปร่างแปลกตัวหนึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่ที่กำลังเกิดการต่อสู้ มันมี 4 ขาเหมือนโต๊ะที่บ้านของเขา แต่มันกลับทำมาจากวัสดุคล้ายเหล็กกับกระจก ข้างหลังโต๊ะมีเก้าอี้สีดำตัวหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะทำมาจากหนังอะไรบางอย่าง อีกทั้งพนักพิงก็ดูสูงกว่าปกติไปมาก ของแบบนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

จู่ๆ เก้าอี้ก็หมุนกลับมาอย่างรวดเร็ว เหนือภพตกใจมากที่เห็นว่ามีคนนั่งอยู่ในเก้าอี้ตัวนั้นด้วย

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ เหนือภพ”

เหนือภพสะดุ้งที่ได้เจอกับชายหนุ่มแต่งกายประหลาดแถมยังพูดอะไรประหลาดๆ

ความจริงแล้วชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าเหนือภพนั้น เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาดี สวมแว่นตาบางใส แต่งกายสะอาดเนี้ยบด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีดำ กางเกงสแล็กสีดำ สวมทับด้วยเสื้อสูทเข้ารูปสีน้ำเงินเข้ม รองเท้าหนังสีดำขัดมันเงาวับ แน่นอนว่าเครื่องแต่งกายทั้งหมดของเขานั้นเรียบกริบและดูดี

ชายหนุ่มผู้นี้ลุกจากเก้าอี้อย่างนุ่มนวล และเดินอย่างสง่างามมาตรงหน้าเหนือภพ เขายื่นมือออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง

“เอ๊ะ อย่านะ ข้าไม่ให้ นี่แร่ของข้า”

เหนือภพรีบถอยหนีอย่างรวดเร็วราวกลับกลัวว่าจะถูกแย่งชิงสิ่งของ

“อ๊ะ ขอประทานโทษด้วยนะครับ พอดีผมลืมไป คุณคงไม่รู้จักสิ่งนี้สินะ”

ชายหนุ่มประหลาดทำมือเช่นเดิมยื่นไปด้านหน้าแล้วพูดต่ออีกว่า

“การทำแบบนี้เรียกว่าการเช็คแฮนด์ครับ เพียงคุณจับมือผมเอาไว้ก็ถือว่าเป็นการแสดงความรู้จักกันครับ”

“เป็นแบบนี้นี่เอง”

เหนือภพพยักหน้าเข้าใจพลางยื่นมือไปจับกับชายประหลาด และชายประหลาดก็เข้ามาสวมกอดเขา ทำให้เหนือภพตกใจรีบดีดตัวออกอีกครั้ง เพราะไม่คุ้นชินกับการกอดของผู้ชาย

“เจ้าจะทำไร!”

“อย่าได้ตกใจไปครับ การจับมือแสดงถึงการทำความรู้จักเรียกว่าการเช็คแฮนด์ และการกอดแสดงถึงมิตรภาพครับ ไม่ต้องกลัวครับ ไม่มีอะไร คุณกอดผม ผมก็กอดคุณ ...ลองดูใหม่สิครับ”

ชายในชุดประหลาดยื่นมือไปอีกครั้งเหนือภพก็ทำการยื่นไปจับอย่างคนหัวไว ก่อนตรงเข้าสวมกอดชายในชุดประหลาดอย่างงงงวย

“คุณคงจะสงสัยสินะครับว่า ผมเป็นใคร ผมมาจากสภาสุริยัน ได้รับหน้าที่เป็นผู้ชี้นำให้กับคุณเหนือภพครับ คุณสามารถเรียกผมว่าเต็งหนึ่ง หลังจากนี้ขอฝากตัวด้วยนะครับ”

ชายในชุดประหลาดพูดจบก็ก้มหัวลงเล็กน้อย ซึ่งมันทำให้เหนือภพที่กำลังจับต้นชนปลายไม่ถูกนั้นก้มหัวตามแบบงงๆ

“ผู้ชี้นำ!”

จากนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขา

‘โธ่ ข้าลืมไปได้ยังไง นี่ข้ายังไม่ได้ไปวัดปราณอาคมเลย’

เหนือภพมีสีหน้าท้อแท้รู้สึกว่าเขาพลาดบางอย่างที่สำคัญไป แท่นจ้าวอาคมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วงชีวิตนี้ทำได้แค่ครั้งเดียวแท้ๆ เขาคงหมดหวังแล้ว

----------------------------------------------------------------------------------------------------

เป็นยังไงบางครับ ได้เจอผู้ชี้นำสักที เย้! (ผู้ชี้นำคนนี้ไม่ธรรมดานะครับ ขอบอก 5555)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด