ตอนที่แล้วตอนที่ 18 คนของมัจฉาสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 โรงหมอ

ตอนที่ 19 อสูรรูปร่างมนุษย์


องค์หญิงกำมือแน่น เธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว ร่างกายสะบักสะบอม ผมเผ้ายุ่งเหยิง ชุดราคาแพงขาดวิ่นและเปรอะเปื้อน เธอไม่เคยต้องอยู่ในสภาพนี้มาก่อน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอมีองครักษ์เงาคอยคุ้มกันตลอดเวลา ไม่มีใครสามารถแตะต้องเธอได้ แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป แม้แต่เวตาลก็ยังเอาชนะชายผู้นั้นไม่ได้ และถ้าหากองครักษ์ของราชวงศ์ยังรับมือไม่ได้นั่นก็แสดงว่าบุคคลผู้นั้นต้องเป็นคนจากตระกูลที่มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่แน่นอน

ในท้ายที่สุดเธอก็เริ่มคลายมือออกพลางหันไปยังเวตาลที่กำลังได้รับบาดเจ็บหนักจากการถูกบุรษชุดน้ำเงินเข้มโจมตี

“ขออภัยด้วยองค์หญิงที่ข้าปกป้องท่านไม่ได้ ข้าสมควรตาย”

“เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้ากินยานี่ซะก่อน แล้วค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที”

แม้ว่าองค์หญิงจะมีจิตใจคับแคบโหดร้าย แต่นางก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล เธอรู้ดีว่าอะไรควรยุ่งและอะไรไม่ควรยุ่ง การที่นิกายมัจฉาสวรรค์ออกหน้าเอง แล้วเธอยังดึงดันที่จะเข้าไปยุ่งให้ได้นั้นมีแต่จะหาเรื่องให้กับตนเอง

“พรุ่งนี้ พวกเรากลับเมืองหลวงกัน”

องค์หญิงพูดอย่างคนที่ตัดใจได้ เธอตัดสินใจแล้วว่าจะกลับไปฝึกตนให้หนักกว่านี้ ความสูงส่งและความหยิ่งผยองนั้นจะมั่นคงได้ด้วยการค้ำยันจากความแข็งแกร่งที่แท้จริง

จากนั้นเธอที่เดินลุยลงไปในกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก

การตัดสินใจขององค์หญิงทำให้ชายชุดคลุมเทาเข้มแปลกใจ แต่ก็ก้มหน้ารับคำสั่งแต่โดยดี เขาเดินติดตามผู้เป็นนายลงน้ำไปเช่นกัน

“อ้าว พี่คีรี”

องค์หญิงน้อยแห่งแคว้นอมตะนครส่งเสียงร้องเรียกพยัคฆ์คีรีที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำด้วยท่าทางน่ารักไร้เดียงสา

“พี่ก็มาล่าสัตว์อสูรเหมือนกันใช่ไหมคะ”

เมื่อองค์หญิงพูดจบก็เคลื่อนตัวกระโดดไปตามโขดหินเพื่อไปอยู่ฝั่งเดียวกับพยัคฆ์คีรี

พยัคฆ์คีรีเองก็ไม่รู้จะตอบเช่นไร หากจะบอกว่าตามมีนามา เขาก็อายเกินกว่าที่จะบอกให้ใครรู้เรื่องนี้ จึงพยักหน้ารับอย่างขอไปที

“ข้าล่าสัตว์อสูรกบได้ตัวหนึ่ง แต่โชคร้ายที่ข้าซัดมันตกน้ำไปเลยหาศพมันไม่พบ แล้วพวกเจ้าล่ะได้ตัวอะไรมา”

“ข้าหรอ ท่านลองทายสิว่าข้าล่าตัวอะไรได้”

ท่าทางนางรักขี้เล่นขององค์หญิงทำให้พยัคฆ์คีรีอมยิ้ม พยัคฆ์คีรีไม่รู้เลยว่าพวกเธอเพิ่งไปไล่ล่าสังหารคนมา อีกทั้งเธอและองครักษ์ต่างก็พากันไปล้างตัวในแม่น้ำมาแล้ว คราบดิน คราบเลือด ถูกชะล้างไปจนแทบมองไม่เห็น

ดังนั้นพยัคฆ์คีรีจึงสังเกตเห็นเพียงว่าทั้งองค์หญิงและองครักษ์ของเธอต่างมีเนื้อตัวเปียกปอน เสื้อผ้ายับยู่ยี่ มีรอยแผลถลอกตามตัวแลดูมอมแมมคล้ายกับเด็กที่เพิ่งไปเล่นซนที่ไหนมาเท่านั้น

“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง ข้าไม่ได้ไปกับเจ้า เจ้าเป็นถึงองค์หญิงยังทำตัวเป็นเด็กเช่นนี้ อย่าได้ล้อเล่นกับข้าอีกเลย บอกข้ามาเถอะ”

“ท่านก็รู้ว่าข้าไม่ชอบการต่อสู้ ข้าแค่ตามเวตาลมาล่าอสูรรูปร่างมนุษย์ก็เท่านั้นเอง”

“ใช่ขอรับ ท่านพยัคฆ์คีรี แต่โชคร้ายที่มันหลบหนีไปได้”

เวตาลตอบกลับไปอย่างนิ่งขรึมแฝงแววประชดประชันบางอย่าง

“อสูรรูปร่างมนุษย์งั้นเหรอ” พยัคฆ์คีรีตาเป็นประกายสนใจ

“เจ้าพวกนั้นหายากมากไม่ใช่หรอ ทำไมถึงปรากฏตัวที่นี่ได้ หรือว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นที่นี่ ไม่ได้ข้าต้องรายงานท่านปู่ พวกเจ้าก็มาด้วยกันสิ”

พยัคฆ์คีรีจึงชักชวนองค์หญิงและองครักษ์ให้เดินทางกลับไปพร้อมกับเขา

“ได้สิ พี่คีรี”

เธอเดินตามติดพยัคฆ์คีรีไปในทันที การที่พยัคฆ์คีรีจะรู้สึกสนใจและเป็นห่วงสวัสดิภาพของหมู่บ้านนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเธอ เพราะเธอรู้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้ถูกปกครอง ควบคุมและปกป้องดูแลจากตระกูลพยัคฆ์ โดยตลอดทางพวกเขาต่างพูดคุยเกี่ยวกับอสูรรูปร่างมนุษย์ว่ามันมีลักษณะเป็นยังไง มีพลังแบบไหน เพื่อหาทางรับมือในอนาคต นอกจากนี้ยังถือโอกาสที่หายากสำหรับพยัคฆ์คีรีอีกด้วย

บนโลกนี้สัตว์อสูรถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุด พวกมันบ้าคลั่งและก็หิวกระหายต่อการฆ่าฟัน แต่ว่าพวกมันก็ไม่น่ากลัวเท่าอสูรรูปร่างมนุษย์ อสูรพวกนี้มีจำนวนที่น้อยมาก ทว่าพวกมันมีสติปัญญาและความสามารถเหมือนมนุษย์แต่ในขณะเดียวกันพวกมันก็มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับสัตว์อสูร มันมีความดุร้ายป่าเถื่อนเป็นอย่างมาก ทางสามาคมฮันเตอร์ต่างให้ราคาสูงมากสำหรับการล่าพวกมันไม่ว่าจะเป็นหรือตาย

ดังนั้นฮันเตอร์ทุกคนรวมถึงพยัคฆ์คีรีจึงมีความฝันที่จะได้ล่าพวกมันสักครั้งเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด