ตอนที่ 15 ป่าเหนือหมู่บ้าน
ณ เส้นทางเปลี่ยวร้างเส้นหนึ่งในหมู่บ้านแร่ห้าสี เส้นทางนี้เป็นทางลัดที่ใกล้ที่สุดระหว่างบ้านของเหนือภพกับโรงฝึกเตรียมฮันเตอร์หมู่บ้านแร่ห้าสี เหนือภพเดินทางผ่านทางนี้อยู่เป็นประจำในสมัยที่เขายังคงเป็นนักเรียน เส้นทางนี้รกครึ้มไปด้วยป่าไม้หนาทึบและมีแม่น้ำสายหนึ่งตัดผ่าน แม้บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่อุดมสมบูณ์ที่หาได้ไม่มากนักในหุบเขาแห่งนี้ แต่มันกลับไม่เป็นที่นิยมของคนทั่วไปในการสัญจรผ่านไปมา
คนส่วนใหญ่ที่ตั้งใจมาเส้นทางนี้ก็มักเป็นพวกที่มีจุดประสงค์ไม่ดีหรือไม่ก็เหล่าชาวประมงที่มาจับปลา ส่วนนายพรานนั้นพบเห็นได้น้อยมาก เพราะการเดินทางจำเป็นต้องข้ามแม่น้ำ ลัดเลาะผ่านโขดหินซับซ้อนเพื่อไปอีกฝั่งหนึ่งของป่า
หลังจากที่เหนือภพลุยฝ่าโขดหิน ฝ่ากระแสน้ำข้ามฟากมาถึงป่าแล้ว เขาก็เดินลึกเข้าไปในป่าเพื่อหาสถานที่เหมาะๆตามที่เขาต้องการ
ตอนนี้เหนือภพเดินลึกเข้ามาถึงชายป่าส่วนใน บรรยากาศเริ่มมืดครึ้มทั้งๆที่ตะวันยังคงสาดแดดเปรี้ยง นั่นเป็นเพราะที่นี่มีต้นไม้หลากหลายชนิด พวกมันทุกต้นล้วนใหญ่โตอลังการ บางต้นมีลำต้นราว 3 คนโอบ บางต้นมีลำต้นเพรียวบางคล้ายต้นมะพร้าว บางต้นมีผิวเรียบลื่นแต่เต็มไปด้วยหนามแหลมคม แต่โดยรวมแล้วพวกมันทุกต้นต่างสูงชะลูดขึ้นเสียดฟ้าเพื่อรับแสงอาทิตย์ ราวกับว่าหากสูงไม่ทันต้นข้างๆมันเองก็คงจะถูกบดบังจนต้องตายในที่สุด
แม้บนผืนป่าจะไม่มีต้นไม้หรือพุ่มไม้เล็กๆเหลือรอด แต่มันก็ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณจำพวกเฟิร์น มอส ตะไคร่ และเห็ด ความชุ่มชื้นและความเขียวขจีนี้ปกคลุมไปทั่วผืนป่าชั้นล่าง ส่วนชั้นบนของป่านั้นเต็มไปด้วยกิ่งก้านที่แตกแขนงของต้นไม้ใหญ่ บนนี้จึงเต็มไปด้วยรังอาศัยของสัตว์ประเภทที่อาศัยอยู่บนต้นไม้
จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ
เสียงนกน้อยที่กำลังบินไปบินมาเหนือผืนป่า ดังสอดประสานไปกับเสียงลิงค่างที่อยู่ไกลออกไป ฟังดูรื่นรมย์และเป็นปกติสุขยิ่งนัก
เมื่อเหนือภพจับสังเกตสัตว์ป่าเหล่านี้จนพอใจ เขาก็วางใจว่าแถวนี้คงจะไม่มีอันตรายอะไรแล้วจึงนั่งลงจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับล่าสัตว์อสูรที่เขาได้เตรียมไว้ตั้งแต่คืนวาน เขาได้วางแผนไว้แล้วว่าการล่าที่เหมาะสมกับเขามากที่สุดก็คงมีแต่การวางกับดักเท่านั้น การเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรโดยตรงโดยไม่มีการเตรียมพร้อมมาก่อน ไม่ต่างจากการเอาชีวิตไปทิ้ง แม้จะเป็นแค่สัตว์อสูรระดับต่ำสุดก็ตาม ตัวเขาเองก็เคยพลาดท่าให้กับพวกมันมาหลายครั้งหลายครา
เหนือภพหอบอุปกรณ์ดักสัตว์มาถึงบริเวณใต้พุ่มเฟิร์นสีเงินต้นหนึ่ง มันสูงเป็น 2 เท่าของเหนือภพและใต้ต้นเฟิร์นสีเงินก็มีเห็ดแดงกุหลาบขึ้นเต็มไปหมด ช่างเหมาะสำหรับการวางกับดักยิ่งนัก
‘ฮร้า สวยจริงๆต้นนี้ ข้างบนใบสีเขียวอ่อน ส่วนใต้ใบเป็นสีเงิน อยากเอาไปปลูกที่บ้านจัง เอ๊ะๆ เรามาล่าสัตว์นี่นา’
เหนือภพใช้พลั่วที่เตรียมมาขุดเจาะพื้นดินข้างต้นเฟิร์นลงไปลึกกว่าสองเมตร แล้วนำไม้แหลมปักที่ก้นหลุมโดยหงายด้านแหลมขึ้นข้างบน เขาปักมันไว้ถี่ๆ หากสัตว์อสูรพลาดท่าตกหลุมกับดักเขาก็จะได้มั่นใจมากขึ้นว่าพวกมันจะต้องตายอย่างแน่นอน
ใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมงกับดักใต้หลุมก็เสร็จเรียบร้อย และเพื่อทำให้สมบูรณ์และแนบเนียนยิ่งขึ้นเหนือภพจัดการวางกิ่งไม้พาดไขว้ปากหลุมเอาไว้อย่างหลวมๆ ก่อนปิดทับมันด้วยใบไม้แห้งอีกที จากนั้นตามด้วยชั้นดินบางๆทับด้วยมอสเป็นหย่อมๆให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ที่เหลือก็แค่รอเวลาให้สัตว์อสูรสักตัวมาติดกับดักเท่านั้น
นอกจากหลุมนี้เหนือภพยังขุดหลุมกับดับเพิ่มอีกหนึ่งหลุมในบริเวณที่ไม่ไกลจากจุดเดิมมากนัก โดยให้เหตุผลกับตัวเองว่ามีเยอะๆยิ่งดี ใจจริงเขาคิดอยากจะขุดเพิ่มอีกสักสิบหลุม แต่ว่ามันใช้เวลามากเกินไปในการจัดทำแต่ละหลุม แค่สองหลุมเขาก็ใช้เวลาไปแล้วกว่าครึ่งค่อนวัน เขาไม่อาจจะเสียเวลาอยู่ในป่าแห่งนี้ได้นานนัก เขาต้องรีบออกจากป่าก่อนที่ตะวันจะตกดิน เพราะในช่วงเวลาค่ำคืนนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีสัตว์อสูรดุร้ายเพ่นพ่านมากที่สุดเมื่อเทียบกับตอนกลางวันที่มีจำนวนสัตว์อสูรออกมาเพียงเล็กน้อย
หลังจัดการทุกอย่างเสร็จ เหนือภพจึงแบกข้าวของเดินทางออกจากป่า ด้วยท่าทางเบิกบานใจ จนกระทั่ง…
“เจ้า คือเหนือภพใช่หรือไม่”
เหนือภพหันตามเสียงเรียกขณะเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ที่แตกกิ่งก้านซับซ้อนต้นหนึ่ง บนนั้นมีเด็กหญิงในชุดหรูหรา แม้จะมีแสงสว่างส่องลอดลงมาได้เพียงเล็กน้อย แต่มันก็ยังสามารถสะท้อนแสงวิบวับล้อไปกับเครื่องประดับของเธอได้ ด้านหลังยังมีชายในชุดคลุมสีเทาเข้มยืนคุมเชิงอยู่เงียบๆ ท่าทางที่แสดงออกมาแม้ไม่ได้เห็นใบหน้าที่ชัดเจน แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงสถานการณ์ที่ไม่เป็นมิตร
“ใช่ แล้วพวกเจ้าคือใครกัน” เหนือภพรู้สึกช็อค เขาคงไม่ได้มาเจอนางฟ้าใจร้ายกลางป่านี่หรอกนะ
“เรื่องนั้นเจ้าไม่มีค่าพอที่จะรู้”
ใบหน้าแสนน่ารักของเด็กหญิงแปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอย่างกะทันหัน เธอพุ่งทะยานเข้าหาเหนือภพ ฝ่ามือขวาห่อหุ้มไปด้วยปราณอาคมสีทองรูปร่างคล้ายกรงเล็บนก พุ่งตรงเข้าหาเหนือภพอย่างรวดเร็วและรุนแรง
ด้วยสถานการณ์ที่ฉุกละหุก เหนือภพซอยเท้าถอยหลังอย่างรวดเร็ว ขณะที่กรงเล็บนกอาคมสีทองกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ห่างอีกเพียงแค่ไม่กี่นิ้ว จนกระทั่งระยะห่างที่มีหายไปเมื่อเด็กสาวเร่งความเร็วในการเคลื่อนไหวด้วยวิชาอาคมเคลื่อนย้ายระยะสั้น
แต่กรงเล็บนกอาคมสีทองพลาดท่าแทนที่มันจะทะลวงเข้าไปยังหัวใจของเด็กหนุ่ม กลายเป็นว่ามันถูกเด็กหนุ่มกั้นขวางไว้ด้วยท่อนแขนที่เต็มไปด้วยกลามเนื้อเกินวัย
อั๊ก…
‘อะไรกัน การโจมตีด้วยอาคมมันรุนแรงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย’