บทที่ 51 : บลัดดี้ครัชเชอร์
ผู้นำเผ่าโทรลมีความสูงเกือบ 4 เมตร!
เขาถือกระบองที่แวววาว และขนาดอาวุธของเขาก็เปรียบได้กับร่างกายมนุษย์เลยด้วยซ้ำ
ในเวลาเดียวกัน เขาก็มีสายเลือดระดับแกรนด์มาสเตอร์
เมื่อสักครู่นี้ได้มีอาวุธบางอย่างพุ่งเข้ามาใส่หน้าเขาอย่างกระทันหัน…
แต่ก่อนที่เขาจะได้พบกับตัวการที่ทำร้ายตนเอง กลิ่นที่โชยออกมาก็ทำให้เขาโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก!
ดังนั้น เขาจึงวิ่งมาอย่างเป็นบ้าเป็นหลังโดยไม่หันกลับไปมอง
โทรลตนอื่นๆยังตกอยู่ในความตกตะลึงโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“หัวหน้า หัวหน้า มันเป็นความเข้าใจผิดนะ เข้าใจผิดไปหมดเลย”
“ใช่แล้ว ข้าแค่แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับมาดามเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้เลย” โทรลตนนั้นกำชุดชั้นในแล้ววิ่งออกไปด้วยความหวาดกลัว
โดยปกติแล้วโทรลป่าจะสวมใส่แค่ชุดชั้นใน นี่คือสิ่งที่มีค่าที่สุดที่ถูกส่งต่อกันมารุ่นต่อรุ่นและจำเป็นต้องได้รับการปกป้อง
“ท่านอาจจะไม่เชื่อ แต่นี่เป็นครั้งแรกของข้ากับมาดามจริงๆ ท่านถามโทรลตนอื่นได้เลยหากท่านไม่เชื่อ” โทรลอีกตนมองไปยังผู้นำที่ถือกระบองขวางทางเข้าเอาไว้ ก่อนที่เขาจะกลืนน้ำลายและวิ่งหนีไป…
ด้านในถ้ำ มีโทรลเพศหญิงสามตนและโทรลเพศชายอีกสี่ตน
โทรลตนอื่นๆมักจะลักลอบเป็นชู้กับภรรยาของผู้นำ…
เกือบทุกตน แม้กระทั่งบุตรชายทางสายเลือดของเขาก็รับรู้ มีเพียงแต่ผู้นำโทรลเท่านั้นที่อยู่ในความมืดมิด
ผู้นำโทรลเป็นที่รู้จักในด้านความรุนแรงด้วยฉายา บลัดดี้ครัชเชอร์!
เขายังไม่ได้แตะต้องพวกโทรลโดยตรง
ดวงตาอันกราดเกรี้ยวของเขาแดงก่ำ แต่เขาก็ยังคงปล่อยตัวคนในเผ่าออกไปทีละคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อโทรลตนอื่นๆรู้สึกว่าตนเองโชคดีที่รอดออกมาได้ โทรลเพศชายที่ออกมาล่าสุดก็ถูกมือที่เหมือนกับคีมเหล็กของผู้นำเผ่าคว้าตัวไว้!
“โอ้ไม่… ได้โปรด...”
“ตู้ม” ผู้นำโทรลคว้าคอของโทรลตนนั้นไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวโดยไม่สนใจดวงตาที่ตื่นตระหนก
ศีรษะของโทรลตนนั้นแตกกระจุยด้วยแรงกระแทก เลือดและสมองสาดกระเด็นเต็มใบหน้าของผู้นำโทรล แต่ความแค้นก็ยังไม่ลดลงแม้แต่น้อย แถมยังทำให้เขาโกรธยิ่งขึ้น
แต่โทรลไม่ได้อ่อนแอ พวกเขาแค่ไม่ได้ต่อต้าน
เมื่อโทรลอีกสามตนเห็นดังนั้น พวกเขาก็หยิบอาวุธและกระจายกันไปรอบๆเพื่อเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้
ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความรุนแรง บางทีเลือดจากร่างกายส่วนล่างของพวกเขาอาจจะไหลกลับ เลยทำให้มีแรงกระตุ้นที่ไร้เหตุผล
แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ตั้งใจที่จะสังหารผู้นำตนนี้และช่วงชิงภรรยามาเป็นของตนเอง!
“กู๊ดเนอร์ เจ้าก็จะทรยศข้าด้วยงั้นรึ?” บลัดดี้ครัชเชอร์โยนร่างในมือทิ้งไป ก่อนจะมองไปยังโทรลทั้งห้าที่กลับมาล้อมเขาไว้
“ฮ่าฮ่า ทรยศอะไรกัน? ไม่ใช่ท่านที่ฆ่าผู้นำเผ่าคนก่อนแล้วจึงมีสิทธิ์ในการผสมพันธุ์หรอกหรือ?”
“ไม่ใช่ว่าตอนที่ท่านยังเยาว์ก็นอนกับผู้หญิงของผู้นำเผ่าหรอกรึ?” กู๊ดเนอร์เป็นโทรลที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเขา และยังได้ต่อสู้กับอดีตผู้นำร่วมกับเขาอีกด้วย
บลัดดี้ครัชเชอร์ไม่ได้กรีดร้องโวยวาย ความโกรธเกรี้ยวของเขาค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ
เขากวาดสายตาไปยังเหล่าภรรยาที่นั่งแอบกันอยู่ด้านหลัง พวกเธอดูไม่เกะกะมากนัก ดังนั้นเขาจึงเดินไปยังเหล่าโทรลทั้งหลายก่อนจะเยาะเย้ยถากถาง “เข้ามาสิ ให้ข้าดูหน่อยว่าข้า บลัดดี้ครัชเชอร์คนนี้แก่แล้วหรือว่าเป็นพวกเจ้าที่แข็งแกร่งขึ้น!”
“กำจัดและช่วงชิงผู้หญิงของมันซะ!”
“ลุยยย”
นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับกลุ่มโทรลที่จะรุมผู้นำของพวกเขา สิ่งที่น่าประทับใจกว่านั้นคือผู้นำโทรลตนนี้ทรงพลังมากจริงๆ
กระบองอันยักษ์ถูกกวาดไปทั่ว เสียงคำรามสั่นสะเทือนไปทั้งอากาศและทะลุไปทั้งแก้วหู!
โทรลตนแรกพุ่งเข้าไปก่อนจะถูกโจมตีใส่เข้าที่หน้าอก หน้าอกของเขาบุบเข้าไปข้างใน เลือดพุ่งกระฉูดออกมาทางปาก ก่อนที่เขาจะล้มลงไปกับพื้น ไม่มีแรงกลับมาสู้ได้อีก
บลัดดี้ครัชเชอร์นั้นทรงพลัง และแรงกดดันของเขาไม่ใช่สิ่งที่โทรลธรรมดาทั่วไปจะสามารถสู้ได้
แม้แต่โทรลที่มีสายเลือดระดับสูงก็ถูกจัดการได้อย่างง่ายดาย และยังถูกทุบไปมาด้วยกระบองของเขา
หลังจากนั้นไม่นาน
โทรลสองตนก็พิการด้วยฝีมือของบลัดดี้ครัชเชอร์
ผู้นำโทรลเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ด้วยผิวหนังที่เกือบจะเหมือนหินก็ทำให้เขามีการป้องกันที่แข็งแกร่ง
หากไม่มีการบาดเจ็บที่ถึงชีวิต การบาดเจ็บเหล่านี้ก็จะถูกฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์ต่างๆค่อยๆกลับกลายเป็นเช่นนี้
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นเช่นนี้นอกจากวิลเลียม
แต่สถานการณ์ ณ ตอนนี้ก็ยังทำให้เขาประหลาดใจ ผู้นำโทรลตรงหน้านั้นยังเยาว์วัย ความแข็งแกร่งและสายเลือดของเขาก็โดดเด่น
หากเรื่องนี้ไม่ได้ถูกเผยออกมา โทรลเหล่านี้จะเก็บกันไว้ได้นานสักเท่าใดกันก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจทำบางสิ่ง…
โดยปกติ
นอกเหนือจากเผ่าโทรลขนาดใหญ่แล้ว เผ่าโทรลที่กระจัดกระจายต่างส่งผ่านการสืบทอดด้วยวิธีเช่นนี้…
สำหรับหญิงสาวเผ่าโทรลแล้ว ไม่มีใครที่จะทำร้ายพวกเธอ
แต่เมื่อพวกเธอแก่ตัวลงและไม่สามารถมีบุตรได้อีก พวกเธอก็จะถูกฆ่า และกระดูกช่วงขาของพวกเธอก็จะถูกนำมาทำเป็นกระบองอันใหม่สำหรับให้โทรลรุ่นใหม่ใช้
บลัดดี้ครัชเชอร์นั้นแข็งแกร่งมาก แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับโทรลสายเลือดระดับสูงสองตน และอยู่ภายใต้การโจมตีของกลุ่มทหารแล้ว เขาก็เต็มไปด้วยบาดแผล แม้แต่ศีรษะก็ยังมีเลือดไหลและฟกช้ำ
แต่บลัดดี้ครัชเชอร์ยังมีไม้ตายซ่อนไว้อยู่!
ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในกางเกงของเขา ผู้นำโทรลเอื้อมมือลงไปก่อนจะหยิบบางอย่างเข้าไปในปาก
ตู้ม!
ออร่าอันทรงพลังเข้มข้นขึ้น
ร่างกายของบลัดดี้ครัชเชอร์พองตัวขึ้น กล้ามเนื้อขยายตัวขึ้นอย่างน่ากลัวและเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีเขียวเหมือนกับปีศาจ แม้กระทั่งกระบองที่เขาถือก็ยังถูกย้อมเป็นสีเขียว
“มนต์ดำวูดู” วิลเลียมเลิกคิ้ว
“ท่านสายตาดีนะเนี่ย...” ลอทเนอร์อยากรู้อยากเห็น เขาไม่รู้ว่าวิลเลียมจำแนกมันออกได้อย่างไร
“มนต์ดำวูดูนั้นสืบทอดผ่านความทรงจำ บลัดดี้ครัชเชอร์ผู้นี้มีทักษะบางส่วน มนต์ดำวูดูจะทรงพลังยิ่งขึ้นเมื่อถูกเพิ่มด้วยพิษไฟ” วิลเลียมประหลาดใจ ตามเหตุผลแล้วจะมีเฉพาะโทรลในเผ่าขนาดใหญ่ที่จะมีโอกาสได้รับสืบทอด
“โทรลพวกนี้อาจกำลังจะตาย” เอริคเห็นว่าบลัดดี้ครัชเชอร์ทำให้โทรลเหล่านี้กลายเป็นเศษเนื้อได้อย่างง่ายดายและรู้ว่าจุดจบนั้นถูกตัดสินแล้ว
โทรลตนอื่นๆไม่ใช่คนโง่ สำหรับพวกเขาแล้ว เวทมนตร์นั้นเป็นสิ่งที่เหนือกว่าอย่างแท้จริง
เมื่อมนต์ดำวูดูปรากฏขึ้น พวกเขาก็นึกถึงความยิ่งใหญ่และการอยู่ยงคงกระพันของผู้นำ!
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป
ด้วยเหตุนั้น…
โทรลที่เหลืออีกสี่ตนจึงรีบหันหลังหนี บลัดดี้ครัชเชอร์จับโทรลได้ตนหนึ่ง ก่อนจะจับศีรษะโทรลตนนั้นแรงขึ้นและกระชากมันออก
จากนั้นเขาก็ไม่ได้ไล่ล่าต่อ แต่กลับมองดูเหล่าผู้ทรยศหลบหนีไปเพราะเขาเองก็บาดเจ็บไม่น้อย
แต่วิลเลียมนั้นเป็นครึ่งเอลฟ์ที่มีความเห็นอกเห็นใจไม่น้อย เขาโบกมือครั้งหนึ่ง ลอทเนอร์, เอริค และอเล็กซ์ก็ตามโทรลทั้งสามไป…
ห้านาทีต่อมา ขณะที่ความรุนแรงในครอบครัวกำลังดำเนินอยู่นั้น วิลเลียมและคนที่เหลือก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เขามองทั้งสามที่กลับมาก่อนจะถามว่า “เสร็จแล้วหรือ?”
เอริควิเคราะห์คำพูดนั้นประมาณสองวิ “ท่านถามอะไรของท่านเนี่ย!”
“...”
“แล้วโทรลตนสุดท้ายนี่ล่ะ?” อเล็กซ์ถาม
วิลเลียมหลุบตา ก่อนจะแค่นยิ้มอย่างเย็นชา “ฆ่า ไม่ก็จับเขาซะ!”
“จับหรือ? ท่านมีวิธีควบคุมเขาใช่ไหม?” ลอทเนอร์อยากรู้เพราะว่าโทรลไม่ใช่สิ่งที่ควบคุมได้ง่ายนัก แม้แต่ปีศาจจากฝ่ายมืดที่ใช้แส้หนังขนาดใหญ่ และเครื่องมืออีกจำนวนมากเพื่อปราบปรามพวกเขา แต่ก็ยังถูกต่อต้านอยู่ดี
“ฮ่าฮ่า เจ้าเคยได้ยินเรื่องของเวทย์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์มาบ้างไหม?” วิลเลียมเลิกคิ้ว
ควบคุมวิญญาณ
เลเวล : Lv 7
คุณสมบัติ : ท่านสามารถควบคุมศัตรูที่อ่อนแอที่มีค่าพลังชีวิตต่ำกว่า 17%
หลังจากควบคุมพวกเขาได้แล้ว ค่าพลังชีวิตของศัตรูจะฟื้นฟูกลับมาถึง 62%
ค่าพลังที่ใช้ : พลังเวทมนตร์ 50 หน่วย
ความเร็วการใช้งาน : ทันที
ระยะคูลดาวน์ : ไม่มี
สเปเชียลเอฟเฟ็กต์เลเวล 3 : อัตราการควบคุมศัตรูสายเลือดระดับแกรนด์มาสเตอร์เพิ่มขึ้น 3%
ข้อจำกัด : คุณสามารถควบคุมได้เพียงสองบุคคลเท่านั้น
ข้อจำกัด : ศักยภาพทางสายเลือดยิ่งสูงมากเท่าใด ก็มีโอกาสที่จะล้มเหลวมากเท่านั้น ทุกๆเลเวลของศัตรูที่สูงกว่าคุณ มันจะเพิ่มอัตราความล้มเหลวมากขึ้น
ข้อจำกัด : หากคุณเปลี่ยนศัตรูให้เป็นทาสได้สำเร็จ คุณจะต้องใช้การควบคุมวิญญาณทุกวันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับมัน หากไม่เช่นนั้น อัตราการทรยศจะเพิ่มมากขึ้น หลังจากเป็นทาสเป็นเวลายาวนาน จะสามารถกลายเป็นทาสวิญญาณถาวรได้
“สเปเชียลเอฟเฟ็กต์เลเวล 3 เป็นความมั่นใจที่สุดของฉัน...” วิลเลียมไม่ได้สนใจว่าจะต้องใช้ควบคุมวิญญาณหลายๆครั้ง
แม้เขาจะมีโชคน้อย เขาก็แค่ต้องใช้มันสักร้อยครั้ง
ถ้าไม่ควบคุมโทรล เลเวล 65 ที่มีสายเลือดระดับแกรนด์มาสเตอร์และการสืบทอดมนต์ดำวูดูนี้ไว้ก็คงจะเสียเปล่า