บทที่ 473 ผ่าเผย
บทที่ 473 ผ่าเผย
ข่าวลือว่ากันว่า ฉาวเชี่ยวเต้า หยางอี้เทียน และหยางเทียน ได้ไปยังมิติช่องว่างเมื่อพวกเขายังหนุ่ม
ที่นั่นพวกเขาพบศพของพระเจ้าราชัน ฉาวเชี่ยวเต้าและจักพรรดิ์หยางเทียนได้รับเลือดของพระเจ้าราชับย์ ในขณะที่หยางอี้เทียนได้รับวิญญานศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าราชันย์
ศพของพระเจ้าราชัยน์ทำให้พวกเขาเป็นสามนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเล
ฉาวเชี่ยวเต้าและหยางอี้เทียนได้รับวิชาบางอย่างและพวกเขาก็ฝึกฝนมันจนสำเร็จ พวกเขาสามารถต่อสู้กับคนที่มีระดับการบ่มเพาะสูงกว่าได้ หยางอี้เทียนนั้นอยู่ในนภาที่สองระดับพระเจ้า และเขายังได้เรียนรู้วิชาวิญญานที่ลึกลับอีกด้วย
แสงนิพพานเจ็ดสีเป็นหนึ่งในวิชาวิญญานที่เขาได้เรียกรู้ .
วิชานี้สามารถทำลายวิญญานของใครได้อย่างง่ายดาย เมื่นมันเข้าไปในห้วงจิตสำนึก มันสามารถฉีกระชากวิญญานหลักและทำลายทุกสิ่งในห้วงจิตสำนึก
หยางอี้เทียนมีใช้วิชาแสงนิพพานเจ็ดสีสร้างชื่อเสียงในทะเลไม่มีสิ้นสุ มีนักรบมากมายที่วิญญานของพวกเขาถูกทำลายด้วยแสงนิพพานเจ็ดสี
มันเป็นวิชาที่เป็นสัญลักษณ์ของหยางอี้เทียน
เป็น เซี่ยชิงหัวเมื่อเห็นลำแสงพุ่งออกมาจากตาของเขา ทันทีเขาก็ตัดสินใจที่จะทำอะไรสัก และแสงก็พุ่งออกมาจากดวงตาของเขา
แสงที่มหัศจรรย์นี้ประกอบไปด้วย , สีฟ้า และสีม่วง กลายเป็นมังกรแสงสองตัวพันกันพุ่งออกไปที่แสงนิพพานเจ็ดสี
ในน้ำทะเล แสงเจ็ดสีและมังกรสีฟ้าสีม่วงก็ประทะกัย แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ใบหน้าของหยางอี้เทียนและเซี่ยโหวชิงกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง แสงประหลาดแวบอย่างไม่หยุดยั้งในดวงตาของพวกเขาเหมือนกับมีดาวตกพุ่งผ่านดวงตาของพวกเขา
เซี่ยชิงหัวนั้นเคยเข้าไปในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ในบึงที่ฉื่อหยานได้พบกับราชาแมลงอสูร เขาได้รับผลึกวิญญานพระเจ้าเม็ดสุดท้าย หลังจากนั้นอีกหลายปีเขาก็ได้ใข้เวลาในช่วงชีวิตทำความเข้าใจผลึกวิญญานพระเจ้าที่ลึกลับ และเขาก็ได้ทะลวงเข้าสู่นภาที่สองระดับพระเจ้า และยัง ได้รับ วิชาวิญญานบางอย่างที่ลึกลับและแปลกประหลาด
อาจกล่าวได้ว่า ทั้งหยางอี้เทียนและ เซี่ยชิงโหวต่างก็มีความรู้เกี่ยวกับวิญญานเหนือคนทั่วไปพวกเขาทั้งคู่อยู่ในนภาที่สองระดับพระเจ้าและพวกเขาทั้งสองต่างก็ได้รับวิชาวิญญานเช่นเดียวกัน .
เพราะฉื่อหยาน พวกเขาทั้งสองที่เคยเป็นเหมือนน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง ตอนนี้ก็เริ่มประทะพลังวิญญานกัน แม่น้ำที่เคยพบ เริ่มเข้าร่วมการแข่งขันวิชาวิญญาณ
นู่หลาง และหยินหุ้ย สองนักรบระดับพระเจ้าของชนเผ่าทะเลก็กำลังดูยอดนักรบของทะเลไม่มีสิ้นสุดประทะพลังวิญญานกันอยู่ พวกเขาแสดงความสนใจของพวกเขา ดวงตาของพวกเขาจ้องมองอย่างตั้งใจ
สองนักรบระดับพระเจ้าประทะกันแต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทะเลยังสงบ
แม้แต่หยางอี้เทียน และเซี่ยโหวชิงก็ยังคงแสดงสีหน้าเย็นชา แต่ลึกๆข้างในดวงตาของพวกเขา กลับมีประกายแสงระเบิดอยู่อย่างต่อเนื่องสามารถสั่นสะเทือนวิญญานของผู้คนที่จ้องเข้าไปในดวงตาของพวกเขาได้ ดวงตาราวกับดึงดูดวิญญานของผู้คน ทำให้ห้วงจิตสำนึกของพวกเขาแทบพุ่งออกไป
ถ้าพวกเขาปล่อยจิตสำวิญญาณของพวกเขาและแนบมันเข้าไปยังการต่อสู้ครั้งนี้พวกเขาจะได้รู้ถึงความมัศจรรย์ของการประทะวิญญาน หากไม่เช่นนั้น พวกเขาก็จะไม่เห็นสิ่งใดเลย
จู่ๆ แสงในดวงตาของหยางอี้เทียนและเซี่ยชิยโหวก็สงบและกลับไปเป็นดั่งเดิม . แสงทิพย์ ได้คืนแล้ว
เซี่ยชิงหัวไอออกมาเล็กน้อย และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากการประทะนี้ เขาสูดลมหายใจเข้า " ประมุขน้อยหยาง , เจ้าเป็นผู้ปกครองพื้นที่แห่งนี้ แต่เจ้ากลับคิดจะโจมตีวิญญานของฉื่อหยานโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ช่างเป็นการกระทำที่น่าสมเพชนัก"
" ตาต่อตา . . . . . . . นี่คือสิ่งที่ถูกต้องและไม่เปลี่ยนแปลง " หยางอี้เทียนขมวดคิ้วเข้าหากัน " เสินตู่เชี่ยเป็นสาวกอันดับหนึ่งพระราชวังจิตวิญญานต่อสู้เรา เขาเป็นคนที่สำคัญต่อเราเป็นอย่างมาก เขาถูกฆ่า ดังนั้นแน่นอนว่าข้าจะต้องทวงความยุติธรรมให้กับเขา จงหลี่ตุ้นรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งและเป็นอนาคตของเรา และฉื่อหยานก็ได้ฆ่าเขาด้วย ถ้าท่านเป็นข้า ท่านจะปล่อยไปเช่นนั้นรึ ? "
" หึ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกฆ่า แต่เจ้าคิดว่าเขาจะมอบคอของเขาให้เจ้าง่ายๆรึ ? " เซี่ยชิงหัว แยะยิ้มมองกลุ่มของชิงหมิง และกู่ฉาวพร้อมกับพูดดูถูก " น่าเสียดายนักที่แม่แต่นักรบระดับพระเจ้าหกคนยังไม่สามารถทำอะไรได้ อีกทั้งสองในหกยังถูกฆ่าตาย แต่เจ้ากลับมาร้องเรียกว่าจะมวความยุติธรรม เจ้าไม่กลัวเสียหน้างั้นรึ ?"
นู่หลาง และหยินหุ้ยก็ดูสถานการณ์ด้วยความปิติยินดี
" ประมุขหยาง , ท่านคิดว่าท่านจะฆ่าข้าด้วยวิชาวิญญานได้งั้นรึ ?" ตอนนี้เอง ฉื่อหยานก็ม้วนปาก ส่ายหน้าและพูดอย่างเย็นชา " เมื่อข้าอยู่ที่เมืองใต้บาดาล เปาเหวินเองก็ได้ใช้การโจมตีทางวิญญานโจมตีมาที่ข้า แต่จิตสำนึกวิญญานของเขากลับถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน ที่หน้าป้อมปราการหินเงิน จั่วเยว่เฟิงและเสินตู่เจี่ยเองก็ทำเช่นกัน และพวกเขาก็ประสบเหตุการณ์เดียวกัน ข้าคิดว่าเรื่องประมุขหยินหุ้ยเองก็เห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน . "
ใบหน้าของหยางอี้เทียนก็มืดมนและไม่สามารถช่วยได้ที่จะมองไปยังหยินหุ้ย
นู่หลาง และ เซี่ยชิงหัวก็มองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ
" ข้านั้นได้เห็นเกตการณ์ การต่อสู้ในทเมืองใต้บาดาล และข้าก็ไม่พลาดแม้แต่รายละเอียดเล็กๆของการจ่อสู้นั้น และการต่อสู้ที่เกิดขึ้นหน้าป้อมปราการหินเงินก็เช่นกันของการต่อสู้ในด้านหน้าของเงินป้อมหิน ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามนั้น" ภายใต้การจ้องมองอย่างใส่ใจของนักรบทั้งสามหยินหุ้ยก็สวมใบหน้าจริจังและพยักหน้าพร้อมกับพูด “ขออภัยด้วยที่ข้าพูดตรงๆ แต่ไม่ว่าจิตสำนึกวิญญานหรือวิชาวิญญานใดๆที่เข้าไปในห้วงจิตสำนึกของฉื่อหยาน พวกมันจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ประมุขหยาง ถ้าท่านไม่เชื่อก็ลองทำแบบเดียวกันได้นะ ฮ่าๆ ข้าคิดว่าท่านเองก็จะประสบผลเดียวกัน .”
หยางอี้เทียนดวงตาที่โกรธเคืองก็เย็นชา.เปาเหวิน เสินตู่เจี่ยและจั่วเยว่เฟิงเทียบกับข้าได้งั้นรึ ? "
มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อ แต่เขานั้นมีความหยิ่งหยองในตนเองอยู่แล้ว
ในทะเลไม่มีสิ้นสุด ถ้าใครพูดเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจเรื่องวิญญาน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหยางอี้เทียนคือคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุด เขาเก่งที่สุดในทะเลกว้างใหญ่ และทุกคนก็ยอมรับเขา
เปาเหวิน เสินตู่เจี่ยและจั่วเยว่เฟิงอยู่ห่างไกลเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับเขา
เขาเชื่อในระดับการบ่มเพาะ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิญญาน เหากเขาใช้วิชาวิญญาณของเขา ไม่ว่าฉื่อหยานจะใช้วิชาใด เขาก็แทบจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความตายได้
" ถ้าท่านไม่เชื่อข้า ก็ลองดู "ฉื่อหยานหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า" ดังนั้น หากวิญญานของท่านได้รับบาดเจ็บ ก็อย่าได้โทษข้าว่าข้าไม่เตือนท่านก่อนแล้วกัน "
" หยิ่งยโสนัก ! " หยางอี้เทียนตะโกน
" ไม่ ! " เซี่ยชิงหัวรีบหยุดทันที
" ไม่ต้องกังวล " ฉื่อหยานยิ้มปลอบโยน เขา . " ท่านปู่เซี่ย ท่านไม่ต้องห่วง ข้ามีแผนของข้า ฮ่าๆ ข้าอยากจะรู้นักว่าจะมีวิชาใดหรือไม่ที่สามารถทำลายเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานได้ !"
" เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน ! "
หยางอี้เทียน นู่หลาง เซี่ยชิงหัวและหิยหุ้ยสีหน้าก็เปลี่ยนไปเมื่อได้ยินแบบนั้น สายตาของพวกเขาส่องประกาย
" ใช่ มันเป็นเปลวไฟนภาที่สามารถเผาได้ทุกวิญญาน เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน " ฉื่อหยานขดริมฝีปากของเขา“ประมุขหยาง ท่านต้องการจะทดสอบดูหรือไม่ ?”
หยางอี้เทียนด่างก็ยืนตกตะลึง เขาเลิกที่จะประมาท
ชื่อเสียงของเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานนั้นมีมานานหลายปีในทะเลกว้างใหญ่ เปลวไฟนภาแต่ละดวงนั้นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองที่ไม่สามารถดูแคลนได้
เปลวเหมันเยือกแข็งนั้นเปลวไฟของมันหนาวเย็น เปลวไฟแก่นแท้นรกเป็นเปลวไฟที่ใช้หอลมสมบัติ เปลวไฟซากศพเป็นเปลวไฟที่ใช้ควบคุมศพและเปลี่ยนมนุษญ์ให้เป็นทาสศพได้ เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานเป็นเปลวไฟที่สามารถเผาทุกวิญญานให้เป็นเถ้าถ่านได้และสามารถทำลายได้แม้กระทั่งวิญญานของพระเจ้า
ตำนานมากมายเกี่ยวกับเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานนั้ได้ แพร่กระจายออกไปทั่วทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เปลวไฟนี้ปรากฏเป็นข่าวลือมากมาย แต่ไม่มีใครเคยได้ยินหรือเห็นมันจริงๆ
เนื่องจาก มันมีลักษณะเฉพาะ ไม่มีนักรบคนใดกล้าให้มันอยู่ภายในจิตใจ หรือในห้วงจิตสำนึก
เปลวไฟนี้สามารถเผาผลาญวิญญานและวิญญานหลักให้เป็นจุนได้ แต่เหตุใดมันถึงได้หลอมรวมกับวิญญานของเขา ? ฉื่อหยานนี่นได้อ้างว่าเขามีเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานอยู่ในห้วงจิตสำนึกของเขา นั่นเป็นความจริงรึ ?
ในตำนาน ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น ?
หยางอี้เทียนและเซี่ยชิงหัวต่างก็ไม่เชื่อ.
แต่นู่หลาง และหยินหุ้ยเชื่อเขา หลายพันปีที่ผ่านมา ทุกคนที่เข้าไปในสุสานมังกรจะต้องตาย แต่เขากลับรอดออกมาอย่างมีชีวิต นอกจากนี้ เขายังสามารถนำหุ่นเหล็กสีดำที่น่ากลัวกลับมาได้อีกด้วย
ถ้าเขาสามารถทำลายตำนานหนึ่ง มันจะแปลกอะไรหากเขาจะสามารถทำลายอีกตำนานได้ ?
นู่หลาง และหยินหุ้ยมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ
"หึ ถ้าท่านไม่เชื่อ ท่านสามารถลองได้"ฉื่อหยานพูดยืนยันว่าไม่ได้โกหก เขาแค่ยิ้ม " ปัจจุบัน เผ่าอสูรและเผ่าทมิฬอาศัยและสร้างความวุ่นวายอยู่ที่ทะเลไม่มีสิ้นสุด ข้าแค่ไม่อยากให้ประมุขหยางมาทำให้วิญญานบาดเจ็บเพราะข้า จริงๆ แล้วข้าเองก็ไม่ได้ชอบท่านนัก แต่ข้ารู้ว่าการที่ท่านปลอดภัยทะเลไม่มีสิ้นสุดก็จะปลอดภัย ดังนั้น ข้าจึงอยากจะเตือนว่า อย่าเสี่ยงเลย "
ใบหน้าของหยางอี้เทียน มืดมนแต่เขาก็ยังไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา
" ท่านไม่สามารถฆ่าข้าได้โดยโจมตีวิญญานได้ และข้าก็ยังมีหุ่นเหล็กดำ มาสิมาฆ่าข้าสิ ท่านรออะไรอยู่ ? " ฉื่อหยานพูดด้วยเสียงแหลม เขายิ้มและกล่าวอย่างใจเย็น " ทะเลไม่มีที่สิ้นสุดนั่นวุ่นวายเป็นอย่างมาก ท่านเองก็รู้? อ๋อ ใช่ , ยกโทษให้ข้าด้วยที่ข้าไม่อาจเห็นท่านในสายตาได้ ข้าคิดว่าเราจะต้องได้พบกันอีกในไม่ช้า ตอนนั้น ข้าหวังว่าก่อนประมุขหยางอี้เทียนจะเตรียมตัวมาอย่างดีนะ "
ยกศีรษะของเขา ฉื่อหยานก็พูดออกมา " โอ้ใช่ ข้าได้ฆ่าจั่วเยว่เฟิงด้วยเขาเป็นคนของฉาวเชี่ยวเต้า บางทีท่านน่าจะไปบอกฉาวเชี่ยวเต้าด้วยนะ "
แล้วเขาก็หลี่ตาลง สายตาของเขามองฉาวจื่อหลาน ที่ลอยอยู่เหนือขึ้นไปและ พูดกับนางด้วยเสียงเย็นชา " แม่นางฉาว ดูแลตัวเองด้วย "
ฉาวจื่อหลาน รู้สึกหนาวเย็นราวกับเสียงที่เย็นชาของเขาได้ซึมซาบเข้าไปในร่างกายของนาง และทำให้ร่างของนางแข็งตึง ประสิทธิภาพของฉื่อหยานได้ทำลายทุกสิ่งที่สามารถปกป้องนางได้ ตอนนี้นางรู้สึกหมดหนทาง
นางคิดว่าพวกเขาจะฆ่าฉื่อหยานได้ทันที แต่เขากลับมีหุ่นเหล็กสีดำตามออกมาจากสุสาน และตอนนี้ เขาไม่หวาดกลัวแม้แต่นิดเมื่อเผชิญหน้ากับนักรบระดับพระเจ้าของทะเลไม่มีสิ้นสุด
ประสิทธิภาพของฉื่อหยานนั้นไร้สิ้นสุดจริงๆ นางรู้สึกว่าตัวเองได้ทำพลาด และความพลาดของนางนี้ก็ได่้ทำให้นางเสียใจไปตลอดทั้งชีวิต
" ข้าหวังว่าเจ้าจะยังผ่อนคลายได้อีกนานนะ " หยางอี้เทียนสีหน้าก็กลับมาสงบเช่นเดิม เขาพยักหน้าที่ฉื่อหยาน " มันเป็นเรื่องจริง สถานการณ์ในทะเลไม่มีสิ้นสุดนั้นวุ่นวายเป้นอย่างมาก สำหรับตอนนี้ ข้าจะไม่ยุ่งเกี่่ยวกับเจ้า และข้าก็ยังคิดว่าการดำรงอยู่ของเจ้าอาจจะเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง "
ฉื่อหยานขมวดคิ้ว .
" ทะเลเคียร่านั้นอยู่ในมือของเผ่าทมิฬ ข้าคิดว่ามันถึงเวลาสำหรับตระกูลหยางที่จะกลับมาทวงดินแดนของคนคืน " หยางอี้เทียน หลี่ดวงตาของเขาลง“ข้ากำลังรอข่าวดีของเจ้าอยู่นะ”
เขาจ้องมองฉื่อหยานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะบินขึ้นไปยังพื้นผิวทะเลและรวมกับพวกกู่ฉาว
แล้วคนเหล่านั้นหายไปจากก้นทะเล
ในก้นทะเล มีเพียงฉื่อหยาน หยินหุ้ย เซี่ยชิงโหว และ นู่หลางเท่านั้นที่ลอยอยู่ด้านนอกสุสานมังกรยอดโบราณ
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ