บทที่ 468 ปลุก
บทที่ 468 ปลุก
ฉื่อหยาน และ หยินหุ้ยกำลังมุ่งไปยังสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ ตลอดทางพวกเขาพบสัตว์อสูรระดับสูงอยู่บ้าง แต่พวกมันก็มีความคิดจึงหลีกเลี่ยงและหนี่หยินหุ้ย ถึงแม้ว่าหยินหุ้ย จะมีระดับการบ่มเพาะในนภาที่สองระดับพระเจ้า เขาไม่ได้ตั้งใจปลดปล่อยออกมาให้แข็งแกร่งนัก แต่มันก็มากพอที่จะทำให้สัตว์อสูรหนีไป
ตลอดเส้นทางที่พวกเขากำลังมุ่งไปนั้นราบรื่นและปราศจากความกลัวหรืออันตราย
ในที่สุด วันที่ สอง พวกเขาก็ถึงพื้นที่เขตหวงห้ามที่ดูเก่าแก่ มีซากโครงกระดูกของสัตว์อสูรต่างๆอยู่
แวบแรกที่เห็น โครงกระดูกสีขาวเหล่านี้มทั้งหมดต่างก็มีขนาดใหญ่ แต่ละโครงกระดูกดูโปร่งใสราบกัหบกยดส่องเป็นประกายแสงแปลกๆใต้ทะเล มันให้ความรู้สึกเต็มไปด้วยพลัง
ตั้งแต่พวกเขามาถึงบริเวณนี้ หยินหุ้ยก็กลายเป็นระมัดระวังมากขึ้น เขามองไปรอบๆและลอยอย่างช้าๆด้วยความระวัง ระหว่างทาง เขาได้พยายามที่จะตรวจสอบเรื่องราวที่เกี่ยวกับวารีแรกเริ่มชีวิต แต่ฉื่อหยานก็สามารถหลีกเลี่ยงได้หมด
ไม่ว่ามันจะเป็นหยินหุ้ยหรือนักรบระดับคนใดก็ตาม หากพวกเขารู้เรื่องวารีแรกเริ่มชีวิต ไม่ต้องส่งสัยเลยว่าในจิตใจของพวกเขาความโลภจะต้องเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน
ฉื่อหยานนั้นไม่ได้โง่
ถ้าเขาบอกว่าเขามีวารีแรกเริ่มชีวิต นู่หลางก็คงบ้าคลั่งกันไปแล้ว แม้ว่านู๋แลงจะเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความตรงไปตรงมาและความยุติธรรม แต่เขายังเป็นชนเผ่าทะเล
ก่อนที่เขาจะพูดหรือทำอะไร เขาจะต้องมีความสามารถในการปกป้องวารีแรกเริ่มชีวิตให้ได้เสียก่อน ถ้าเขาเปิดเผยมันตอนนี้ นู่หลางจะต้องใช้กำลังแย่งชิงไปจากเขาแน่ ฉื่อหยานไม่มั่นใจพอที่จะรับมือกับประมุขของเหล่าชนเผ่าทะเล
ดังนั้นการรักษาความลับไว้เวลานี้ย่อมเป็นสิ่งที่เหมาะสม
" พื้นที่ข้างหน้าเราอันตรายมาก ; หากเดินไปข้างหน้าก็จะสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ " หยินหุ้ยหยุดเดินและขมวดคิ้วที่เขา " . ข้ามาส่งเจ้าได้เพียงที่นี่ ข้ายังไม่ต้องการที่จะตาย สุดท้าย ข้าอยากจะแนะนำใเจ้าสิ่งหนึ่ง ถ้าเจ้ายังไม่อยากตาย ก็หยุดอยู่ที่นี่ซะ "
" ลาก่อน " .
ฉื่อหยานยิ้ม แต่เขาดูไม่กังวลเลย " ถ้าข้ากลับมา ข้าจะไปเยี่ยมท่านที่เผ่าฉลามเงิน ตอนนั้น บางทีเราอาจจะได้ทำธุรกิจบางอย่างร่วมกัน”
" เรื่องอะไรรึ ? " หยินหุ้ยก็แปลกใจ
" เป็นบางสิ่งที่ท่านสนใจ " ฉื่อหยาน ไตร่ตรอง แล้วแกว่งมือของเขา . " ข้าต้องไปแล้ว ขอบเจ้าที่ชี้นำทางข้ามาที่นี่"
" คำถามสุดท้าย เจ้าไม่ได้รับวารีแรกเริ่มชีวิตในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬจริงๆรึ ? " หยินหุ้ยก็สวมใบหน้าเคร่งขรึม " บางทีหลังจากนี้เจ้าอาจจะหายไปตลอดกาล เจ้าบอกความจริงกับข้าได้หรือไม่? "
เขายังคงติดอยู่ในหัวข้อนี้
" เมื่อข้ากลับมาอย่างปลอดภัย เราค่อยหารือเกี่ยวกับมัน . " ฉื่อหยานยิ้มแล้วเข้าไปในพื้นที่ ภายใต้พลังที่วุ่นวาย เขายังคงลอยไปอย่างสงบต่อไป
หยินหุ้ยดวงตาก็ส่องประกาย
เขายืนอยู่ที่เดิมมองดูฉื่อหยานที่ต่อยๆหายไป สีหน้าของเขาก็ไม่แน่ใจ ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ถอนหายใจแล้วพึมพำว่า " ถ้าเจ้ามีวารีแรกเริ่มชีวิตจริงๆ บางทีเราควรจะคุยกัน ข้าหวังว่า ชายหนุ่มคนนี้จะโชคดี และขอให้เจ้าโชคดีรอดจากอันตราย สุสานมังกรยอดโบราณลึกลับนั้นได้ฆ่านักรบระดับพระเจ้าของชนเผ่าทะเลไปมากมาย ถ้าเจ้าสามารถรอดได้ มันหมายความว่าเจ้าสามารถทำสิ่งที่บรรพบุรุษของชนเผ่าทะเลไม่สามารถทำได้ มันเพียงพอแล้วที่จะให้เหล่าชนเผ่าทะเลที่แข็งแกร่งมองเจ้าด้วยความเคารพ "
แน่นอนว่าฉื่อหยานไม่ได้ยินที่หยินหุ้ยกล่าว
หลังจากที่เขาได้บุกเข้าไปในสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ , แหวนสายโลหิตก็ส่องประก่ยอย่างต่อเนื่องปลดปล่อยม่านแสงสีแดงเจิ่ดจ้า
โครงกระดูกสีขาวของสัตว์อสูรนั้นมีมากมายว่าเกิดกว่าที่มนุษย์จะจินตนาการได้ แวบแรกที่เห็น พื้นที่ทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยกระดูกสีขาว เมื่ิฉื่อหยานมองใกล้ๆก็ พบว่าโครงกระดูกเหล่านี้ต่างก็มีของสัตว์อวูสขนาดและขนาดใหญ่ โครงกระดูกนั้นมีรูปร่างที่แตกต่างกัน บางอันก็มีรูปร่างคล้ายกับชนเผ่าทะเลต่างๆ
เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่หยินหุ้ยและคนอื่นๆพูดนั้นเป็นความจริง หลายพันปีที่ผ่านมา สุสานมังกรยอดโบราณลึกลับ ได้ฝังนักรบที่แข็งแกร่งไปเป็นจำนวน
จุดเรืองแสงลอยออกมาจากข้างในโครงกระดูกตลอดเวลา พวกมันลอยอยู่ในน้ำ เหมือนกับดวงตาของปีศาจที่จ้องมองอยู่ นี้อาจทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกกังวลและอาจจะส่งผลกระทบต่อห้วงจิตำสำนึก
อย่างหนาแน่น , กลิ่นอายที่ชั่วร้ายและเย็นยะเยือกเต็มไปด้วยพลังก็กระจายอยู่ทั่ว พลังนี้มหาศาลเป็นอย่างมาก พวกมันสร้างกระแสลมหมุนมากมายที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่ส ถ้าใครเผลอเข้าไปในกระแสลมหมุนเพียงก้าวเดียว พวกเขาจะถูกเผาผลาญอยู่ในนั้น
ข่าวลือเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ที่เขาเคยได้ยินก็เติบโตในจิตใจของเขา เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย ขณะที่เขาเคลื่อนไหวอย่างระวังมากขึ้น
แต่พลังเหล่านี้น่ากลัวเป็นอย่างมาก ลักษณะที่เหมือนกับฝุ่นของมันรอยอยู่รอบๆตัวเขา แต่เขาก็ยังทำอะไร เมื่อพลังที่น่ากลัวเหล่านี้เข้ามาใกล้เขา ด้วยม่านแสงที่ส่องออกมาจากแหวนสายโลหิต พวกมันก็กระจายออกไป
แหวนสายโลหิตเป็นเหมือนม่านแสงพลังป้องกันมันส่องแสงประกาย พลังของมันสามารถกันได้แม้แต่การโจมตีที่สามารถฆ่านักรบระดับพระเจ้าได้ ระหว่างทาง เขาจึงไม่พบอันตรายใดๆ.
สถานที่ต้องห้ามที่เป็นอันตรายต่อทุกคน แต่เขากลับอยู่อย่างสงบ เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
แหวนสายโลหิตจะต้องมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งนี้แน่นอน ?
ฉื่อหยาน ดวงตาก็สดใส และความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นขึ้น
หากไม่มีแหวนสายโลหิต เขาก็คงไม่ได้รู้จักทั้งสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับหรือผู้ติดตามกระหายเลือด กายาทมิฬ หลาวหลัว . เป็นเพราะแหวนสายโลหิตแนะนำเขาที่นี่ เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่ต้องกังวลที่จะอยู่ในอันตราย
ตอนนั้นเอง , เขาอย่างก็ชื่นชมความลึกลับของแหวนสายโลหิตอย่างแท้จริง
แหวนสายโลหิตยังคงส่องแสงออกมาอย่างต่อเนื่อง มันสามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดระหว่างทางในสุสานมังกรยอดโบราณลึกลับได้ พลังที่ชั่วร้ายของสถานที่แห่งนี้กระจายอยู่รอบๆตัวเขา แต่ไม่สามารถสัมพัสร่างกายของเขาได้
เขาลอยอยู่ในกลุ่มโครงกระดูกสีขาว โดยไร้ซึ่งอันตรายใดๆ เขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อพบเจอกับสิ่งไม่เห็นก่อนหน้านี้ โครงกระดูกใหญ่ราวสามร้อยเมตร โครงกระดูกของมังกรยอดโบราณ
โครงกระดูกยังขาวจั๊วะ ส่องประกายราวกับมีชีวิต โครงกระดูกสีขาวที่เป็นของมังกรยอดโบราณนี้ดูเหมือนกับเป็นบ้านของปีศาจร้าย ใต้โครงกระดูกมังกรส่วนที่เป็นสีเหลือง มีโรงศพสีดำขนาดยักษ์อยู่ โลงถูกปกคลุทด้วยรูปแบบแปลกประหลาด ซึ่งดูคล้ายกับลวดลายบนแหวนสายโลหิต พวกมันดูเหมือนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ช้าๆ
เก่าแก่ อ้างว้าง และ อยู่เหนือทุกสิ่ง กลิ่นอายที่รุนแรงเหล่านี้ก็ลอยออกมาจากโลงศพสีดำ ประกายแสงสีเลือดที่ส่องออกมาจากแหวนสายโลหิตก็รุนแรงขึ้น ปลดปล่อยแสงสีแดงเข้มปกคลุมโลงศพสีดำ
ลวดลายประหลาดบนโลงศพก็กลายเป็นเหมือนกับมีชีวิต มันเคลื่อนไหวอย่างเร็วบนโลงศพ พลังมืดมิดที่ชั่วร้ายก็พุ่งออกมา
ปัง !
ฝาของโลงศพระเบิดออกเป็นชิ้น
หุ่นเหล็กสีดำที่สูงประมาณสามเมตรก็ลุกขึ้นนั่งบนโลงศพ หุ่นนี้ถูกปกคลุมด้วยชุดเกราะเหล็กที่ดูเหมือนกับงอกออกมาจากร่างของมัน เชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์โดยไม่มีช่องว่างใด ๆ
หุ่นเหล็กนี้สวมหน้ากากสีดำเหมือนหมึกที่เห็นได้เพียงผิวของมันเท่านั้น , ดวงตาของมันว่างเปล่า สีหน้าไม่ชัดเจน ทำให้ฉื่อหยานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน
ปัง ปัง ! ปัง ปัง !
เสียงหัวใจเต้นอย่างรุนแรงที่สั่นสะเทือนก็ดังออกมาจากหุ่น ราวกับว่าเสียงหัวใจและพลังที่มืดมิดของมันสามารถทำให้โลกสั่นสะเทือนได้
หุ่นลุกขึ้นจากโลง มองแหวนสายโลหิต
ลำแสงสีแดงถูกยิงออกมาจากแหวนสายโลหิต ส่องตรงไปที่ใบหน้าของหุ่น ใบหน้าสีดำของหุ่นก็ค่อยๆ กลายเป็นแดงเข้ม และดูก็ราวกับว่ามีหยดเลือดไหลท่วมใบหน้าของหึ่น ซึ่งทำให้น่าหวาดกวั่นเป็นอย่างมาก
ความผันผวนวิญญาณแปลกประหลาดก็ออกมาจากแสสีงแดงที่ไหลเข้าไปในตัวหุ่น ลึกเข้าที่ดวงตาของหุ่น , ภาพลวงตาของทะเลเลือดมหาศาลนับไม่ถ้วนที่มีโครงกระดูกของหลายชนเผ่าก็ปรากฏออกมาจรเห็นได้ชัด
ศพกระจายอยู่ทุกที่กองกันเป็นเหมือนกับภูเขา เลือดไหลนองออกมาจากศพเหล่านั้นเกิดเป็นภาพที่น่าหวาดกลัวขึ้น มันเป็นเหมือนกับพิธีพรรมบาองย่าง ดูเหมือนว่าแสงสีแดงจากแหวนได้ทำให้เกิดพิธีกรรมบางอย่าที่ชั่วร้ายขึ้น
หุ่น ในโลงศพลึกลับเมื่อได้รับแสงสีแดงมีนก็ยืนขึ้นอย่างเงียบๆ ดูเหมือนมันถูกปลุกขึ้นมาจาก สถานที่น่ากลัวและเก่าแก่ และกลับมาสู่โลกนี้
แสงสีดำก็พุ่งออกจากตัวหุ่น แสงสีดำนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้าง การดำรงอยู่ของหุ่นมีไว้เพื่อทำลายทุกสิ่งบนโลก ทำให้โลกใบนี้เข้าสู่ความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ฉื่อหยานรู้สึกหายใจไม่ออก เขายืนอยู่ตรงหน้าหุ่นและสัมพัสได้ถึงกลิ่นอายที่รุนแรง มันรู้สึกเหมือนกับมีปราสามสูงหมื่นเมตรกดลงบนหัวใจของเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ออก
เขาไม่เคยได้รับความกดดันที่รุงแรงเช่นนี้มาก่อน แม้แต่ตอนที่เขาเผชิญหน้ากับราชาอสูณชิหยสน เขาก็ไม่ได้เจอกับแรงกดดันที่ยากเย็นแสนเข็ญเช่นนี้
สิ่งมีชีวิตนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก !
หน้าฉื่อหยานเปลี่ยนไป มองที่หุ่น เขาสงสัยว่า การที่เขาตัดสินใจเข้ามายังสู่สุสานมังกรยอดโบราณลึกลับครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดีหรือไม่
เขามาและใช้แหวนสายโลหิตปลุกหุ่นสีดำขึ้นมา ซึ่งมันเต็มไปด้วยกิล่นอายทำลายล้างที่เข้มข้น พลังมหาศาลล้นทะลักออกจากหุ่นนี้ พลังของมันสามารถทำให้โลกสั่นสะเทือนและกระชากความมั่นใจของเขา
ถ้าสิ่งนี้ไม่ถูกควบคุม มันจะต้องสร้างความปั่นป่วนให้กับใต้ท้องทะเลและบนพืื้นดินแน่นอน ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเหล่านักรบทุกชนเผ่าจะต้องทนทุกข์ทรมานเช่นใด พร้อมกับประชาชนทั่วไปที่อาจจะถูกฆ่าเยี่ยงผักปลา
ตัวตนของสิ่งนี้น่ากลัวเป็นอย่างมาก พลังของมันสามารถทำลายทะเลไม่มีสิ้นสุดได้อย่างง่ายดาย !
ฉื่อหยานสวมใบหน้าหนาวเย็น จ้องระวังไปที่หุ่น เขาไม่กล้าที่จะรบกวนจิตใจของมัน เขากลัวว่าหุ่นจะเคลื่อนไหวและทำบางอย่าง
หนึ่งในผู้ติดตามกระหายเลือด - กายาทมิฬ หลาวหลัว !
เจ้าหุ่นนี่เป็นคน ?
หรือมันก็แค่หุ่นกัน ?
หลาวหลัว เป็นเพียงหนึ่งในแปดผู้ติดตามกระหายเลือดของแปด เช่นนั้นแล้ว เจ้าของแหวนสายโลหิตคนเก่าจะเป็นเช่นไร ?
พระเจ้าราชันย์ ?
ความเสียใจเริ่มเติบโตขึ้นในใจของเขา เขาคิดว่าการกระทำและการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้คือความผิดพลาด
คานของแสงส่องประกายออกมามากมาย แสงสีแดงจากแหวนสายโลหิต , ทั้งหมดก็พุ่งเข้าไปที่ใบหน้าของ กายาทมิฬหลาวหลัว . ดวงตาของหุ่นค่อย ๆเข้มขึ้น ราวกับดวงอาทิตย์สีดำสองดวงที่สามารถดูดซับแสงสว่างทั้งหมดได้
ในที่สุด แสงจากแหวนสายโลหิตก็สงบลง
จิตสำนึกวิญญานพุ่งออกมาจากแหวนสายโลหิต , พุ่งเข้าใส่วิญญานหลักในห้วงจิตสำนึกของเขา
ตราประทับวิญญานจักพรรดิ !
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ