บทที่ 458 ดูให้ชัด
บทที่ 458 ดูให้ชัด
เขาเป็นชายวัยกลางคนสูงประมาณสองเมตร ชายคนนี้มีผิวสีเข้มและใบหน้ามีรอย พร้อมกับมีประกายแสงเทพส่องออกมาจากดวงตา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่โกรธแต่ก็ดูเต็มไปด้วยความรุนแรง
เขาเดินเข้ามาหาฉื่อหยาน และถามว่า " เจ้าคือฉื่อหยานงั้นรึ ? "
" ถูกต้อง "
" ไม่เลว " นู่หลางพยักหน้าแล้วสูดลมหายใจเจ้า " ท่านสามารถเอาชนะเปาเหวินและเปาเค่อด้วยระดับการบ่มเพาะระดับนภา . ดูเหมือนว่าตระกูลหยางจะมีนักรบที่น่ากลัวยิ่งกว่าจักพรรดิหยางเทียนเสียแล้ว โชคชะตาของเขานับว่าไม่เลวที่มีทายาทเช่นเจ้าที่สามารถมาแทนที่เขาขณะที่ถูกคุมขังอยู่ในดินแดนอสูร"
ฉื่อหยานยิ้มและไม่ได้พูดอะไร
" เจ้ามาที่นี่เพื่อช่วยข้าปรับปรุงสมบัติลัยและจะให้ข้ายอมรับตระกูลหยางปกครองเมืองใต้บาดาลใช่หรือไม่ ? "
" ใช่ " .
" นี่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตราบใดที่เข้าช่วยข้า ข้าสัญญา "
" ข้าขอบท่านท่านมาก " .
" ข้าไม่ชอบให้ใครมาดูข้าขณะที่หลอมสมบัติ เจ้าเรียกเปลวไฟนภาของเจ้าออกมาและจากนั้นข้าจะมห้เจ้าอยู่ที่นี่ "สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ในที่สุด ฉื่อหยานตกลง " ตกลง"
จากนั้น เขาก็ได้ติดต่อกับแกนเพลิง ให้มันออกมาฟังคำสั่งของนู่หลางและช่วยเขาปรับปรุงสมบัติ
แกนเพลิงก็ตอบกลับว่าเข้าใจ
เมื่อนู่หลางเห็นเปลวนภาลอยอยู่เหนือผลึกเปลวเพลิงสีชาดและปลดปล่อยเปลวไฟออกมา เขาก็คว้ามันไว้
ม่านพลังกลายเป็นระลอกคลิ่นออกมาจากด้านบนและคลุมฉื่อหยานในพริบตา ภายในโล่มืดทึบ ฉื่อหยานไม่สามารถเห็นอะไรข้างนอกได้ และแม้แต่จิตใจก็ไม่สามารถส่องผ่านด้านนอกได้ . มันเหมือนกับเขาถูกขังอยู่ข้างใน
สายตาของเขา ความรู้สึกของการได้ยินและการสัมผัส และจิตสำนึกวิญญานของเขาก็ถูกปิดกั้น
แค่การเคลื่อนไหวของเขาครั้งเดียว ตอนนี้ฉื่อหยานก็รู้แล้วว่า นักรบนภาที่สามระดับพระเจ้า เป็นตัวตนที่เขาไม่สามารถรับมือได้
อย่างไรก็ตาม เขาคิดแล้วว่านู่หลางจะขังเขาไว้ตั้งแต่ก่อนมาที่นี่เขาจึงไม่ได้่แปลกใจอะไร
อยู่ภายในม่านพลังสีดำ เขานั่งไขว้ขา และปล่อยความคิดของเขาให้จมเข้าไปในก้อนแสงความทรงจำ
มันเป็นทั้งประสบการณ์ชีวิตและเคล็ดวิชาต่างๆของชนักหลอมอาวุธ
ในช่วงเวลานี้ เมื่อใดก็ตามที่เขามีเวลาว่าง เขาจะจมความคิดของเขาลงไป พยายามเข้าใจเคล็ดลับต่างๆเหล่านั้น ความคิดมากมายหลังไหลเข้ามา ฉากเหตุการณ์ต่างๆเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง เขากำลังคืบหน้าไปอย่างเงียบๆ เขามีความรู้เกี่ยวกับวิหลอมสมบัติลึกลับเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน
เวลาก็ล่วงเลยไป
ไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นเวลาเท่าใดที่เขาอยู่ในนี้ จู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่า ท่านพลังมืดมิดที่ตรอบคลุมเขาได้หายไปแสงส่องมาอีกครั้ง
ฉื่อหยานลืมตามองไปข้างหน้า เขาพบว่าผลึกเปลวเพลิงสีชาดภายในบ่อลาวาถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
เปลวไฟนภาลุกโชนเหนือบ่อลาวามันส่งข้อความมาหาเขา“เขาได้หลอมตรีศูลด้วยการกลั่นโลหะและแร่ธาตุที่มีค่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้ฝูงรูปแบบวิญญาน มันก็ยังลึกลับและไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก .”
ฉื่อหยานพยักหน้าเล็กน้อย
แกนเพลิงกลายเป็นพวงเปลวไฟ และหายตัวไปในแหวนสายโลหิต เขาเอามือถูจมูกแล้วเลื่อนสายตาของเขาไปยังนู่หลางที่ตอนนี้กำลังนังอยู่เหนือบ่อลาวา และเขาก็ยิ้ม " ยินดีด้วย "
นู่หลาวยื่นริมฝีปากของเขาเหนียดออก แล้วโบกมือและพูดว่า " ไป เผ่ามังกรสมุทรดำจะไม่แทรกแทรงพวกเจ้าในเมืองใต้บาดาล ทั้งหมดยังคงเหมือนเดิม "
" ท่านประมุขนู่หลสง " ฉื่อหยาน สูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่ได้จากไปทันทีและถามเขาว่า" ปัจจุบันทะเลไม่มีที่สิ้นสุดกำลังวุ่นวายเป็นอย่างมาก เผ่าอสูรและเผ่าทมิฬได้บุกลุกเข้ามายังทะเลเคียร่าและทะเลเหิงลั่วและต่อสู้กับนักรบในทะเลไม่มีสิ้นสุด สถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้ ได้หยุดชะงักอยู่ ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ?
" แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้ารึ ? " นู่หลาง จ้องเขาอย่างหยิ่งยโสและพูดอย่างหงุดหงิด.
" ท่านคิดว่าใครจะชนะในตอนท้าย ? เผ่าทมิฬ เผ่าอสูร หรือนักรบในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด ?" ฉื่อหยานถามออกไป“ระดับการบ่มเพาะของท่านนั้นลึกล้ำเป็นอย่างมาก และวิสัยทัศน์ก็กว้างไกล ข้าคิดว่าท่านต้องคิดเกี่ยวกับเหตุการนี้บ้าง ท่านจะบอกข้าได้หรือไม่ ?”
" ข้าไม่สนใจว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ ตราบเท่าที่พวกเขาไม่รบกวนชนเผ่าทะเล ข้าก็ไม่สน"
นู่งหลางสูดลมหายใจเข้ ราวกับเขาไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทะเลไม่มีสิ้นสุด ของมองฉื่อหยานอย่างเย็ฯชา " เจ้าเด็กน้อย , เจ้าได้รับสิ่งที่ต้องการแล้ว เจ้าต้องการอะไรอีก ?
" ท่านมีความตั้งใจจะไปที่หรือไม่ ?" ฉื่อหยานหันหน้าไปและถามเขาอย่างเย็นชา
กลายเป็นประกายแสงและนู่หลางก็หายไป เขาแสยะยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ถ้าข้าเป็นท่าน ในขณะที่ความวุ่นวายได้สิ้นสุดลง ข้าคงจะไม่พอใจที่จะอยู่เพียงใต้ทะเล " ฉื่อหยานกล่าว " ข้าจะติดตามสถานณ์การเหล่านั้นอย่างใกล้ชิดและรอโอกาสที่ดีที่สุดมาถึง เมื่อเสือสองตัวกันเอง ข้าก็จะเริ่มโจมตีและจัดการทั้งสองฝ่ายเสีย "
แสงที่โหดร้ายก็ระเบิดออกมาจากดวงตาของนู่หลาง" เจ้าเด็กโง่ เจ้าคิดว่าข้าจะทำแบบนั้นงั้นรึ ?
ส่ายหัว , ฉื่อหยานก็กล่าวว่า " ข้าไม่รู้ แต่ถ้าข้าเป็นท่าน ข้าจะไม่อยู่เฉยๆเช่นนี้แน่ ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ในทะเลไม่มีสิิ้นสุดกำลังวุ่นวาย ในขณะที่ท้องทะเลยังคงเงียบสงบ นี่เป็นโอกาสเดียวที่อยู่ต่อหน้าท่าน ถ้าข้าเป็นท่าน จิตใจของข้าคงไม่อาจทนได้และเคลื่อนไหวทันที "
นู่หลาง อยู่เฉยๆ ไม่ได้พูดอะไร
" ลาก่อน " ฉื่อหยานกุมกำปั้นของเขา เพื่อเคารพ " ถ้าท่านต้องการเข้าร่วมกับฝ่ายไหน ข้าก็หวังว่าท่านจะเข้าร่วมกับตระกูลหยาง ในปัจจุบัน แม้ว่าเราจะยังคงอ่อนแอ แต่ข้าคิดว่าเร็ว ๆนี้ท่านจะเห็นความสามารถที่แท้จริงของตระกูลหยางเรา " แล้ว เขาก็จากไปโดยไม่รอนู่หลางตอบ.
ดวงตาของนู่หลางก็ส่องประกายดุร้าย เขาจ้องมองฉื่อหยานที่หายไปอย่างเฉยเมย จู่ๆเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา " เด็กคนนี้ช่างโลภมาก และความทะเยอทะยานช่างยิ่งใหญ่นัก แต่น่าเสียดายที่พลังเขายังเล็กน้อยอยู่ ถ้าจักพรรดิหยางเทียนมาพูด ข้าก็คงเก็บไปคิดบ้าง แต่เจ้านั้นยังเด็ก”
แน่นอน ฉื่อหยานไม่ได้ยินคำพูดของเขา
นักรบระดับพระเจ้าสามคนของเผ่ามังกรสมุทรดำก็ออกมาจากความืด พวกเขามองฉื่อหยานที่หายไปพร้อมกับสีหน้าแปลกใจ
" ท่านประมุข เด็กคนนี้ช่างมีความทะเยอทะยานนัก เขากล้ามาคนเดียว และกล้ายังมาขอให้เราร่วมมือด้วย เขาก็จะกลายเป็นคนที่โดดเด่นในทะเลไม่มีสิ้นสุดแน่ บางทีเขาอาจจะอยู่เหนือกว่าฉาวเชี่ยวเต้า หยางอี้เทียน และเป็นจักพรรดิที่ปกครองดินแดนทั้งหมดด้วยพลังของเขา " ชายเผ่ามังกรสมุทรดำร่างอ้วนก็กล่าว
นู๋หลางพยักหน้า " เขามีลักษณะนิสัยที่ดุดัน และดูเหมือนเขาจะไม่สนใจผู้อื่น เขาจะไม่เคารพกฎกติกา หรือสนใจเกี่ยวกับชาติพันธ์ใดๆ เด็กนี่ไม่กลัวการดูถูกจากผู้อื่นเลยเมื่อเขาได้เชิญให้ชนเผ่าทะเลเข้าร่วม ในสายตาของชนเผ่าทะเล คนที่กล้าเข้าร่วมกับเผ่าพันธ์อื่นคือคนที่ชั่วร้าย ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะมีความคิดเช่นนี้และมาที่นี่ด้วยตัวเอง นี่ทำให้ข้าแปลกใจ "
" เมื่อจักพรรดิหยางเทียนมาพบท่านในปีนี่น ท่านต้องการที่จะเข้าร่วมกับตระกูลหยางและมีแผนที่จะขึ้นไปยังทะเลไม่มีสิ้นสุด แต่จักพรรดิหยางเทียนก็ได้ปฏิเสธข้อเสนอของท่าน เขาบอกว่า สองเผ่าพันธ์ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ดีได้ และไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในทะเลเดียวกันได้ จักพรรดิหยางเทียนนั้นเป็นพวกดูถูกชนชาติต่างเผ่าพันธ์ เขาเชื่อว่า นอกจากมนุษย์แล้วเผ่าพันธ์ทั้งหมดล้วนเป็นคนเถื่อนและไม่มีสิทธิ์ใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ . "
ชายร่างอ้วนก็ขมมวดคิ้วของเขและสูดลมหายใจเข้า " จักพรรดิหยางเทียนนั้นดื้อดึงเป็นอย่างมาก เขาได่กล่าวว่าตราบใดที่เค้ายังอยู่ในทะเลไม่มีสิ้นสุด เผ่าทะเลอย่าได้คิดขึ้นไปยังบนทะเล และใช้ชีวิตอยู่เพียงใต้ทะเลเท่านั้น ตอนนี้เขาถูกคุมขังอยู่ในดินแดนอสูร เขาไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องตัวเองและตระกูลหยางตอนนี้ก็ยังมีทายาทที่ไม่สนเรื่องเผ่าพันธ์ นี่มันแปลกประหลาดนัก แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เป็นหัวหน้าตระกูลหยาง ระดับการบ่มเพาะของเขายังอ่อนแอเกินไป มิฉะนั้น ประมุขของเราก็คงพิจารณาข้อเสนอนั้นแล้ว " .
" ถูกต้อง " นักรบระดับพระเจ้าอีกคนก็พูดขึ้น " . มนุษย์นั้นไม่ได้ต้องการเรา พวกเขาคิดว่าเราควรจะอยู่แต่ในก้นทะเล แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าชนเผ่าทะเลนั้นมีมากมายเพียงใด . ในความเป็นจริง มีเพียงชนเผ่าบางส่วนเท่านั้นที่ขึ้นไปและเป็นเราที่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นฉาวเชี่ยวเต้า หยางอี้เทียนหรือผู้นำกองกำลังอื่น พวกเขาทั้งหมดต่างก็ได้รับผลกระทบจากกระบุกลุกของนักรบชนเผ่าทะเลเหล่านั้น พวกเขาจึงเห็นว่าชนเผ่าทะเลของเราเป็นคนเถื่อน ดังนั้นมันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะเป็นสหายกับเรา
" เด็กคนนี้ช่างพิเศษจริงๆ " นู่หลางก็รำพึง " น่าเสียดายที่ระดับการบ่มเพาะของเขายังไม่สูงพอ นอกจากนี้ ตระกูลหยางยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร เราอย่าได้สนใจเลย "
" ท่านประมุข เขาบอกว่า ตระกูลหยางจะกลับไปยังทะเลไม่มีที่สิ้นสุด ข้าว่าอาจจะมีบางสิ่งที่เรายังไม่รู้ "
" ใช่ เด็กคนนี้หยิ่งเป็นอย่างมาก บางทีเขาอาจจะส่งกองกำลังไปช่วยจักพรรดิหยางเทียนหลบหนีจากดินแดนอสูรก็เป็นได้ ?" ตาของนู่หลางก็หลี่ลง เขาขมวดคิ้ว " . ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องสนใจมันมากนัก แค่อยู่ที่นี่ แล้วสนใจแต่เรื่องของพวกเราเองก็พอ รอจนกว่าพวกเขาทั้งหมดจะเข้า่รวมสงครามเสียก่อน และเราค่อยดูสิ่งที่พวกเขาทำ นี่เป็นโอกาสครั้งเดียวของพวกเรา แม้บรรพบุรุษของเราจะไม่สามารถบรรลุแผนการเหล่านี้ได้ บางทีเราอาจสามารถทำได้ !
นักรบอีกสามคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
"ชนเผ่าทะเลนั้นไม่พอใจพวกเขาเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าเราต้องตัดสินใจในเร็วๆ นี้ "
หลังจากฉื่อหยานได้จากไป เขาก็มาหาหลี่เฟิงด้วยสีหน้าจริงจังและพูดว่า " นู่หล่างมีความทะเยอทะยานอันใหญ่หลวง เขาจะไม่หยุดอยู่เพียงใต้ทะเล และดูเพียงอย่างเดียวแน่ เขากำลังรอโอกาสที่จะใช้นักรบที่แข็งแกร่งของชนเผ่าทะเลโจมตีทะเลไม่มีสิ้นสุด "
" บางทีเขาอาจจะรอให้ทั้งสองฝ่ายสู้กันก่อนก็เป็นได้" หลี่เฟิง
" น่าจะเป็นเช่นนั้น " ฉื่อหยานใบหน้าเคร่งขรึมเขามองไปยังที่ๆพวกเผ่ามังกรสมุทรดำอาศัยอยู่แล้วถอนหายใจ " . พวกมังกรสมุทรดำนั้นน่ากลัวนัก ถ้าหากร่วมมือกับ เผ่าเงือก เผ่าแมงป่องน้ำ เผ่าฉลาดเงิน กองกำลังของพวกเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเผ่าอสูรเลย . บางทีพวกเขาอาจจะเหนือกว่าเผ่าอสุรและเผ่าทมิฬด้วยซ้ำ . พวกเขาสามารถโจมตี และ ถอยได้อย่างง่ายดาย ถ้าสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ พวกเขาก็สามารถซ่อนในก้นทะเล มันเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะจัดการกับพวกเขาได้ที่ใต้ทะเล”
" ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดจะยุ่งยากมากยิ้งขึ้นเสียแล้ว " หลี่เฟิงยิ้มอย่างบิดเบี้ยว " เราไม่สามารถอยู่ใต้ทะเลได้นาน ข่าวสารต่างๆนั้นส่งมาที่เมืองใต้บาดาลช้าเกินไป เรานั้นแถบจะถูกตัดขาดและไม่สามารถรู้ถึงสถานการ์ของทะเลไม่มีสุดสิ้นได้เร็วเท่าที่ต้องการ . " ฉื่อหยานคิดสักพักแล้วพูดขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจัง " เราต้องกลับไปที่ทะเลไม่มีสิ้นสุดเสียก่อน เพียงแค่ให้ใครสักคนอยู่ที่เมืองใต้บาดาลเพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่ถ้าเราไปทะเลไม่มีที่สิ้นสุดเราก็มีโอกาสได้เจอกับเผ่าอสูรและเผ่าทมิฬ "
" เรื่องนี้ข้าไม่สามารถตัดสินใจได้ " หลี่เฟิงส่ายหน้า
" ข้าจะไปคุยกับท่านลุง"
3 วันต่อมา ฉื่อหยานก็กลับมายังเมืองใต้บาดาล เมื่อเขาเห็นหยางจั่วเขาก็พูดขึ้นทันที " เราไม่สามารถอยู่ที่เมืองใต้บาดาลได้อีกแ เราควรไปจากที่นี่กันเสียที "
" ทำไมรึ ? "
" นู่หลางมีแผนการบ้าคลั่งที่จะบุกทะเลไม่มีสิ้นสุด เขากำลังรอโอกาสที่ดี ถ้านู่หลางไม่เข้าร่วมกับเรา เราสามารถแพร่กระจายข่าวนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ใครสักคนระวังพวกเขาไว้
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ