บทที่ 452 ทำให้เชื่อใจ
บทที่ 452 ทำให้เชื่อใจ
ฉื่อหยานก็ยืนอยู่คนเดียวในห้องนี้
ในคลังแห่งนี้มีทรัพยากรมากมายเก็บไว้ . พวกมันส่องแสงหลากสีสันและสดใสออกมาทำให้ดวงตาของคนพร่ามัวได้อย่างง่ายดาย มีชิ้นส่วนของกระดาษสีเหลืองติดอยู่ที่ทรัพยากรแต่ละชิ้น บนกระดาษมีชื่อและคุณสมบัติของมันเขียนอยู่
เมื่อนักหลอมอาวุธและนักกลั่นสะกัดมาที่นี่ พวกเขาจะต้องการกระดาษเพื่อจะได้รู้ว่าทรัพยากรชิ้นไหนสามารถกลั่นเม็ดยาหรือหลอมสมบัติลับอะไรได้และยังรู้ว่าต้องควบคุมความร้อนและปริมาณเท่าไหร่จึงจะพอดี พวกเขาจะสามารถเตรียมการหลอมและกลั่นได้อย่างไม่ขัดข้อง
ตามที่หยางจั่วพูด เมื่อใครคนหนึ่งต้องการจะเป็นนักหลอมอาวุธ เขาต้องมีเปลวไฟระดับมนุษย์ และมันคงจะดีถ้าเขามีเปลวไฟระดับปฐพี หากใครมีเปลวไฟนภา แม้แต่จะหลอมแบบชุ่ยๆก็สามารถทำให้สมบัติพิเศษได้
เปลวไฟระดับมนุษย์นั้นมันเลวร้ายที่สุด ; เปลวไฟปฐพีระดับกลาง และเปลวนภานับได้ว่าเป็นเปลวไฟสวรรค์ที่นับได้ว่าเป็นมือของพระเจ้าสำหรับนักหลอมและนักกลั่นสกัด สวรรค์เปลวไฟคือเครื่องมือของพระเจ้าในมือของช่างตีดาบ และนักกลั่นสะกัด
ในสายตาของเขา เขาสามารกลั่นและหลอมทนัพยาได้ทุกิย่าง ฉื่อหยานนั้นมีเปลวเหมันเยือกแข็ง แกนเพลิง เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานในร่างกายของเขา ในเปลวไฟเหล่านี้ แกนเพลิงเป็นเปลวไฟที่ดีที่สุดในการหลอมและกลั่น ในแหวนกระเป๋าของเขาแล้ว เขามีหนังสือ เคล็ดวิชาหลอมจากดินแดนแปลกประหลาดอยู่ นี่เป็นเคล็ดวิธีที่ถูกบันทึกโดยนักหลอมระดับพระเจ้า
เปลวไฟ , วัสดุ และเคล็ดวิธี ด้วยการมีพื้นฐานทั้งสามองค์ประกอบนี้ เขาสามารถเป็นนักหลอมได้สบาย
ถ้าเขาสนใจ เขาจะกลายเป็นนักหลอมอาวุธใช้เปลวไฟและทรัพยากรหลายประเภทเพื่อสร้างสมบัติที่มีคุณสมบัติหลายอย่างได้ เขาอาจจะสามารถสร้างสมบัติที่ที่ดีที่สุดและสมบูรณ์แบบออกมาได้ก็เป็นได้
นั่อย่างงเรียบร้อยในห้องหิน ฉื่อหยานขมวดคิ้วขณะตรึกตรอง .
ตั้งแต่หัวจดเท้า กระแสของอารมณ์เชิงลบอย่างต่อเนื่องก็ปกคลุมไปทั่วจิตใจ หัวใจและสมองของเขา
เมื่อเขาได้ฆ่ากลุ่มของหมิงไห่ เขาได้ใช้หลุมแรงโน้มถ้วงบดนักรบนับสิบคน และดูดซับพลังจากนักรบเหล่า และมันก็ได้เข้ามาอยู่ในจุดชีพจรของเขา ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บปวดอยู่ภายในร่างกายของเขา ในขณะที่พลังเชิงลบไหลไปทั่วร่างของเขา
ปัจจุบันพลังเชิงลบเหล่านี้จะปกคลุมไปทั่วและพวกมันเริ่มที่จะสร้างพลังที่มีผลต่อจิตใจของเขา
เขารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่ามันจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เขาจึงขออยู่ในห้องนี้ และใช้ความพยายามของเขาทั้งหมดเพื่อรับมือกับมัน
จิตใจของเขาเข้าไปในแหวนสายโลหิต เขาเรียกเปลวเหมันเยือกแข็ง และเปลวไฟที่เหมือนกับอัญมณีส่องแสงสีขาวก็ค่อยๆลอยออกมาอยู่ตรงหน้าเขา
" ผนึกข้า ก่อนที่สติของข้าจะหมดไป และถ้าข้ายังไม่ได้สติห้ามปลดผลึกเด็ดขาด"
ฉื่อหยานส่งข้อความโดยใช้จิตสำนึกวิญญาณของเขา
เปลวเหมันเยือกแข็งก็มองเขาอย่างตั้งใจ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้เปลวเหมันเยือกแข็งได้อาศัยอยู่ในแหวนสาบโลหิตเสมอมา มันรู้เรื่องประหลาดๆที่เขามี มันรู้จักนิสัยของฉื่อหยานเป็นอย่างดี และมักจะช่วยเขาอยู่เสมอ
เปลวเหมันเยือกแข็งก็ปล่อยอากาศหนาวเย็นหนาแน่นออกมา อากาศหนาวเย็นนี้รวมตัวกันอัดแน่นกลายเป็นหมอกสีขาวไหลเข้าไปในร่างของเขา
แกร๊กก แกร๊กก
ร่างของฉื่อหยานก็เริ่มถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง เสียงน้ำแข็งกัดก็ดังขึ้น และภายในสามวินาที ร่างกายของเขาก็ถูกห่อหุ้มอยู่ในชั้นน้ำแข็งหนาทึบ 5 เมตร
ราวกับรูปปั้นน้ำแข็งแกะสลัก ฉื่อหยานก็นั่งตรงไม่ขยับ พลังแปลกประหลาดได้แช่แข็งเขาเอาไว้
เปลวเหมันเยือกแข็งนั้นเปลวไฟนภาตั้งแต่สมับโบราณ ซึ่งเป็นรูปแบบชีวิตที่ใช้พลังความเย็นได้แข็งแกร่งที่สุดในสวรรค์และปฐพี หลังจากออกมาจากแหวนสายโลหิต มันก็สามารถสร้างอากาศหนาวเพื่อแช่แข็งเกาะทั้งเกาะได้ แต่มันนั้นใช้เพียงเพื่อผนึกฉื่อยานเพียงเวลาสั้นๆเท่านั้น
ในน้ำแข็งฉื่อหยานกำลังการกลั่นพลังงานเชิงลบอย่างเงียบๆ
อยู่ในนั้น ถ้าเกิดเขามีความคิดที่รุนแรงขึ้นในหัวของเขา เขาไม่สามารถลงมือทำอะไรได้และถูกขังอยู่ภายในก้อนน้ำแข็ง .
กลั่นกลิ่นอายพลังเชิงลบที่ปกคลุมทั่วจิตใจ อย่างไรก็ตาม ภายใต้อิทธิพลของเปลวเหมันเยือกแข็ง แม้แต่ความคิดของเขาก็ดูเหมือนจะถูกแช่แข็ง
ในสภาวะ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเขาจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวเขา ในขณะที่เขากำลังการกลั่นพลังเชิงลบทั้งหมด .
เวลาก็ได้ล่วงเลยไป แล้วหนึ่งวันก็ผ่านพ้น
พลังเชิงลบทั้งหมดได้ถูกลั่นและกลายเป็นกระแสพลังลึกลับ ทะลักออกมาจากจุดชีพจรเจ็ดร้อยยี่สิบจุดไหลไปทั่วร่างกายของเขา ทั้ง เส้นเอ็น , กระดูกและเลือด พวกมันไหลไปทั่วร่างของเขาและเพิ่มความบริสุทธิ์ให้กับพลังปราณลึกลับของเขา โลหิตผมตะที่หยดก็ถูกกลั่นออกมาที่ฝ่ามือของเขา
พลังลึกลับส่วนหนึ่งถูกดูดซับไปโดยจิตวิญญานแห่งดวงดาว นี้ทำให้ดาวจิตวิญญานแห่งดวงดาวส่องประกายสีเขียวเหมือนหยก และสร้างเป็นจุดดวงดาวจำนวนมากโคจรไปทั่วหัวใจของเขา การเปลี่ยนแปลงนี้ได้เพิ่มการดูดซับและความหนาแน่นของจิตวิญญานแห่งดวงดาว ช่วยให้พลังของจิตวิญญานแห่งดวงดาวแข็งแกร่ง และ มั่นคงมากขึ้น
ฉื่อหยานค่อยๆตื่นขึ้นมา
ทันที เขาก็รู้สึกหนาวไปทั่วร่างกายของเขา จิตใจของเขาริบหรี่ลง ส่งความคิดของเขาไปหาเปลวเหมันเยือกแข็ง
เปลวเหมันเยือกแข็งก็ถอนพลังกลับมา และพลังความเย็นที่หนาแน่นก็ถูกดูดกลับไปยังเปลวเหมันเยือกแข็ง
ในพริบตา , น้ำแข็งที่ครอบคลุมร่างกายของเขาทั้งหมดก็หายไปในอากาศ ราวกับมันไม่เคยมีตัวตน
ฉื่อหยาน ก็หายใจออกมา รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับจิตวิญญาณการต่อสู้ . นอกจากนี้ เขายังได้โลหิตอมตะที่ล้ำค่ามาสี่หยด ฉื่อหยานยิ้ม และพูดกับเปลวเหมันเยือกแข็ง " ข้าไม่เป็นไรแล้ว "
" งั้นข้าขอกลับไปที่แหวนหละ "เปลวเหมันเยือกแข็งตอบ
" เดี๋ยวก่อน " ฉื่อหยานขมวดคิ้วและหยุดเปลวเหมันเยือกแข็ง
" มีอะไรรึ ? "
" เราได้ทำข้อตกลงว่า เมื่อข้าได้เข้าสู่ระดับรู้แจ้ง ข้าจะปล่อยเจ้าไป " ฉื่อหยานสีหน้าก็อึมครึม " อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าสู่ระดับรู้แจ้งแล้ว พวกเราก็ได้ผ่านสถานการณ์ต่างด้วยกันมามากมาย ส่วนเจ้าเองก็ไม่พูดอะไร ข้าจึงไม่ได้ทำตามสัญญาให้ แต่ตอนนี้ . . . . . . . "
" ตอนนี้ ข้ายังไม่อยากไป " เปลวเหมันเยือกแข็งก็ตอบเขา ก่อนที่มันจะพูด " เหตุผลที่ข้าต้องการจะไป เพราะผมรู้สึกว่า วันนึงเจ้าลืมเลือนทุกสิ่งอย่างที่ข้ากับเจ้าได้เผชิญด้วยกันมา และทำให้ข้าเป็นทาสของเจ้าเหมือนเจ้านายคนก่อนของข้า และเห็นข้าเป็นเพียงแค่สมบัติชิ้นหนึ้ง แต่หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันมา ข้าก็เห็นว่าเจ้านั้นแตกต่างจากเขา "
" อะไรนะ ? " ฉื่อหยาน ก็ประหลาดใจ ”เช่นนั้น เจ้าก็จะไม่ไปจากข้าใช่หรือไม่ ?
" ข้าไม่คิดเช่นนั้น นี่นะ . . " เปลวเหมันเยือกแข็งรำพึง แล้วส่งข้อความต่อ . " รอจนกว่าข้าจะหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับข้าได้เสียก่อน ถึงตอนนั้นข้าจะบอกเจ้า ข้าหวังว่าตอนนั้นเจ้าจะปล่อยข้าไป แต่ตอนนี้ ข้าจะอยู่กับเจ้า เจ้าสามารถรับมือกับนักรบมนุษย์ได้มากมาย อยู่กับเจ้าปลอดภัยกว่าอยู่คนเดียว และก็ไม่ถูกจับโดยนักรบระดับพระเจ้าคนอื่นด้วย . "
ฉื่อหยานหัวเราะลั่น
ความคิดของเขาริบหรี่ลงอีกครั้ง แกนเพลิง และ จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ หรือ แม้แต่ราชาแมลงอสูรกับตัวไหมสีทองก็บินออกม่จากแหวนสายโลหิต
เปลวเหมันเยือกแข็ง แกนเพลิง จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ราชาแมลงอสูรกลืนกินและตัวไหมสีทอง สองสัตว์อสูรและสามรูปแบบชีวิต ทั้งหมดก็ปรากฏตัวในห้องหิน พวกมันส่องแสงห้าสีรอบๆตัวฉื่อหยาน
" ปลดพลังของพวกเจ้าออก ”
ฉื่อหยานสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย และทันทีที่เขาตะโกน พลังปราณลึกลับในร่างกายของเขาก็ขยับ เกิดเป็นโลแสงทมิฬขนาดใหญ่ครอบคลุมพลังที่ส่องแสงห้าสี ครอบคลุมเพิ่มขึ้นพลังงานของงดงามห้าสีรัศมี
ห้าสิ่งมีชีวิตก็รีบถอนพลังป้องกันของตนออกเมื่อได้ยินฉื่อหนตะโกน
หลังจากนั้นพลังก็ปกคลุมไปทั่วห้องหินและห้องก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้งง ฉื่อหยานขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ " . มันถือว่าเป็นโชคชะตาที่ทำให้เราได้อยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้ข้าอยากจะทำบางสิ่งให้มันชัดเจน ! " เปลวเหมันเยือกแข็ งแกนเพลิง และ จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ได้กลายเป็นคานแสงสามสายลอยอยู่ตรงหน้าเขา ราชาแมลงอสูรและตัวไหมสีทองก็อยู่ด้านซ้ายและขวาของเขาอย่างเงียบๆ
" ข้ารู้ว่าเลือดของข้านั้นส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตเป็นอย่างมาก และพวกเจ้าก็เป็นสิ่งมีชีวิต " ฉื่อหยานเสียงของเขาต้ำลง เขามองตัวไหมทองคำและราชาแมลงอสูร“ข้าสัญญาว่า จากนี้ไป ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะให้เลือดของข้าแก่พวกเจ้าทุกๆเดือนเพื่อให้พวกเจ้าพัฒนา”
เขามองไปที่ราชาแมลงและพูดอย่างกึกก้อง” ไม่ว่าเจ้านั้นนะมอบวารีแรกเริ่มชีวิตให้ข้าหรือไม่ ตราบใดที่เจ้ายังอยู่กับข้าสัญญานี้ก็ยังคงอยู่ แม้ว่าในอนาคต เจ้าจะให้วารีแรกเริ่มชีวิตแก่ข้าจนหมดแล้ว ข้าก็ยังคงทำตามสัญญาเช่นเดิม .
จากนั้น เขาก็ยื่นมือออกไปและกลั่นหยดเลือดสีแดงสองหยด . เขาควบคุมมันด้วยความคิดของเขาและส่งให้พวกมันลอบไปยังตัวไหมสีทองและราชาแมลงอสูรกลืนกิน
สิ่งมีชีวิตทั้งสองก็จ้องมองกัน และหันมามองหยดโลหิตอมตะอย่างกระตือรือร้น พวกมันก้มหน้าลง และเมื่อพวกมัรมองที่ฉื่อหยานอีกครั้ง สายตาของพวกมันก็ได้กลายเป็นที่เป็นมิตรมากขึ้น
ฉื่อหยานยิ้มแล้วพยักหน้า ขยับมองไปที่เปลวเหมันเยือกแข็ง แกนเพลิง จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ . ข้าไม่รู้ว่าสิ่งใดหรือทรัพยากรบ่มเพาะใดๆในโลกที่สามารถพัฒนาพวกเจ้าได้ แต่ข้าสัญญาว่าวันหนึ่งเมื่อข้าพบเจออะไรที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเจ้า ข้าจะมอบมันให้กับพวกเจ้าทันที หลังจากนั้น ถ้าพวกเจ้าเจอสถานที่ ที่ตองการอยู่และฝึกบ่มเพาะตนได้ ตอนนั้นพวกเจ้าจะจากไปข้าก็ไม่บังคับหรือผูกมัด ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปป " เปลวเหมันเยือกแข็ง จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ และแกนเพลิงนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีกายหยาบ เมื่อพวกมันได้ยินเขาพูดดังนั้น พวกมันก็ชื่นชมในความคิดของเขา
" มีทรัพยากรมากมายหลายประเภทอยู่ในห้องนี้ ส่วนใหญ่พวกมันมีประโยชน์สำหรับมนุษย์ ข้านั้นไม่รู้ว่าพวกเจ้าต้องการหรือไม่ พวกเจ้าสามารถไปตรวจสอบและหากเจอสิ่งที่พวกเจ้าต้องการหรือเหมาะสมแก่การฝึกบ่มเพาะของพวกเข้า พวกเจ้าก็เอาไปได้เลย " เปลวเหมันเยือกแข็ง จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ และแกนเพลิงก็บินออกไปอย่างตื่นเต้นและค้นหาไปรอบๆห้องหิน
มันมีบางสิ่งที่สามสิ่งมีชีวิตต้องการอยู่จริงๆ
สามสิ่งมีชีวิตได้เคลื่อนไหวไปรอบๆ และก็พบบางอย่างที่สามารถช่วยให้พวกมันพัฒนาได้ ทันที พวกมันก็ดูดซับและกลับไปหาฉื่อหยาน
ฉื่อหยานดวงตาก็ส่องประกาย
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ