ตอนที่แล้วบทที่ 427 อำลา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 429 เผ่าทมิฬ

บทที่ 428 เดินทางกลับ


บทที่ 428 เดินทางกลับ

" อะไรรึ " ฉื่อหยาน ก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก มองจ้าวเฟิงด้วยสีหน้ามึนงง " ตาเฒ่านั่นมีชื่อเสียงมากรึ ? "

" เจ้าจะรู้เมื่อเจ้ามาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ . " จ้าวเฟิงยิ้มอย่างลึกลับ " แม้แต่คนจากดินแดนพิสุทธิ์เองก็เคารพเขาเป็ฯอย่างมาก ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าหนุ่มนี่จะเป็นศิษย์ของตาเฒ่านั่น ไม่สงสัยเลยว่าทำไม... "

ฉื่อหยาน ก็แปลกใจ

" เอาหละ เราหวังว่าอีกไม่นานจะเจอเจ้าที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้เราควรจะกลับได้แล้ว " จ้าวเฟิงยิ้ม พูดกับหลี่เยว่และคนอื่นๆ

" ดูแลตนเองด้วย " ไชอี้ยิ้มแล้วเดินไปและมองฉื่อหยาน ดูเหมือนนางมีหลายเรื่องที่ต้องพูดกับเขา อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว นางก็แค่พูดว่า " อย่าลืมไปหาข้า ถ้าเจ้าไม่ไปหาข้า ข้าจะไปหาเจ้า "

" อ่า? " ฉื่อหยาน ยิ้มและไม่ได้ดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของนาง " . เจ้ากับข้าต้องมีโอกาสได้พบกันแน่ในอนาคต ยังไงก็ตาม เราก็ไม่มีความจำเป็นต้องพบกัน "

" เจ้าช่างเป็นผู้ชายที่เย็นชานัก " ไชอี้ กระแอม และก็บอกว่า " ไม่เป็นไร ข้าจะไปพบเจ้า เพราะข้ามีบางอย่างจะบอกเจ้า " น้ำเสียงของนางก็ยังไม่ชัดเจน

ทุกคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแสดงสีหน้าครุ่นคิด

" ลาก่อน " ไชอี้ยิ้มแล้วกระซิบ . นางหันไปรอบๆ มองไปยังสองพี่น้องลั่วหลันลั่วหลี่

" ขอบคุณน้องชาย เราจะจดจำความเมตตาของเจ้าไว้ " สองพี่น้องลั่วหลันลั่วหลี่พูดพร้อมกัน

ฉื่อหยานพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

" ไปกันเถอะ เราจะกลับด้วยกัน ด้วยความเคารพจากฉื่อหยานฉื่อหยาน เราจะปกป้องพวกเจ้าระหว่างกลับเอง " จ้าวเฟิงยิ้มและพูดกับไชอี้และสองพี่น้องลั่วหลันลั่วหลี่

" ลาก่อน " ฉื่อหยานโบกมือของเขามองไชอี้ จ้าวเฟิง และคนอื่น ๆ ค่อยๆ หายไปพร้อมกับกลุ่มของเยว่จางเฟิง

หลังจากนั้นไม่นาน มีแค่ฉื่อหยาน ชิเสี่ยว ซั่วชู และซั่วฉือซ้ายอยู่บนเกาะ

" เจ้าไม่ได้โกหกเรื่องวารีแรกเริ่มชีวิตใช่หรือไม่ ?" รอจนทุกคนออกไปก่อน ชิเสี่ยวก็สูดลมหายใจเข้าลุกและถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

" ใช่ " ฉื่อหยานยิ้มและพยักหน้า " เมื่อท่านเข้าสู่นภาที่สามระดับพระเจ้าได้ อย่าลืมมาหาข้า ข้าจะมอบวารีแรกเริ่มชีวิตให้ท่านหนึ่งหยด ถ้าข้ายังมีมันอยู่หละนะ" หลังจากหยุดไปสักพัก เขามอง ซั่วชู และซั่วฉือ " พวกท่านเองก็ด้วย "

พวกเขาก็เปิดเผยสีหน้ายินดี

" ไปกันเถอะ เราต้องไปจากที่นี่ และไปทะเลไม่มีที่สิ้นสุด . " ฉื่อหยาน ไม่ลังเล อีกอย่างเขาก็จำเหตุการณ์ในทะเลกว้างใหญ่ได้ ซึ่งทำให้เขาไม่ต้องการอยู่ในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬอีกต่อไป

ชิ เสี่ยว และอีก 2 คนก็พยักหน้า

กลุ่มของของเขาทั้งสี่คนก็ออกจากสถานที่แห่งนี้ กระโดดเข้าไปในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬและมุ่งหน้ากลับไปยังทะเลไม่มีที่สิ้นสุด

. . . . . . .

ในวันหนึ่ง . . . . . . .

ฉื่อหยาน และอีก 3 คนก็ออกมาจากหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬและในที่สุดก็มาถึงชายแดนของแผ่นดินแล้ว พวกเขาเห็นแสงแดด พวกเขารู้สึกราวกับว่าได้เกิดใหม่

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ขณะที่อาบแสงมันก็ซึบซาบเข้าไปในจิตวิญญานต่อสู้ของฉื่อหยานด้วยวิธีลับบางอย่าง

ฉื่อหยานเผยสีหน้าตื่นเต้นดวงตาเต็มไปด้วยความสุข

ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาก็รู้สึกได้ว่า ความเร็วของพลังดวงดาวเจาะเข้าไปในร่างกายของเขาได้เร็วขึ้นกว่าเดิมสามเท่า จากก่อนหน้าที่เขาจะเริ่มเข้าสู่หมอกแม่เหล็กพิษทมิฒ

ไม่สามารถมองเห็นมันด้วยตาเปล่า แต่ก็สัมพัสไปถึงดวงดาวที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า พวกมันไหลลงมา เหมือนน้ำตกแล้วหายเข้าไปในจิตวิญญาณต่อสู้ของเขาเงียบๆ เสริมพลังให้กับจิตวิญญานแห่งดวงดาวของเขา

บางที เมื่อเขาได้บรรลุเข้าสู่ระดับนภา พลังลึกลับก็ได้เพิ่มพลังให้เขาจิตวิญญานดวงดาว เพื่อที่จะสามารถรองรับของดวงดาวได้มากขึ้น

เพียงระยะเวลาสั้นๆ , พลังดวงดาวที่ดูดซับมาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมันก็มีมากขึ้นกว่าก่อน ซึ่งนี่เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้

ทั้งสามคน ชิเสี่ยว ซั่วฉืแ ซั่วชู  ไม่สามารถตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของ ฉื่อหยาน พวกเขาเพียงแค่เห็นใบหน้าที่มีความสุขของเขาและรู้ว่าเขากำลังรู้สึกดี

" อะไรรึ ? " ซั่วชู ยิ้มและถามว่า " มันเป็นเพราะได้เห็นดวงอาทิตย์อีกครั้งเลย ทำให้คุณรู้สึกเบิกบานใจรึ ? เมื่อได้ออกมาหลังจากที่อยู่ในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬเป็นเวลานาน มันก็สมควรรู้สึกดี ใช่ไหม ?

ฉื่อหยานไม่ได้พูดอะไร แค่พยักหน้าและยิ้ม

" ทะเลไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้กำลังปั่นป่วนใช่หรือไม่ ? " ชิเสี่ยวมองไปที่ทิศตะวันตกด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ตาของเขาสว่าง "มีเผ่าอสูรและเผ่าทมิฬอยู่ในทะเลแห่งนั้นใช่หรือไม่ ?

" ใช่ " .

" ช่างน่ากลัวนัก ดูเหมือนว่าเราต้องอ้อมเสียแล้ว เพราะสถานที่แห่งนั้นจะต้องอันตรายเป็นอย่างมากแน่ในตอนนี้ มันจะดีที่สุดถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงและข้ามทะเลไม่มีที่สิ้นสุดไป . " ชิเสี่ยวก็เงียบสักพัก แล้วกล่าวว่า " เราคงต้องแยกจากกันตรงนี้ "

ฉื่อหยานพยักหน้าและบอกว่า " หลังจากกลับไปถึงสมาคมการค้า ช่วยบอกท่านปู่ว่าไปไม่ต้องกังวลเรื่องสถานการณ์ในสมาคมการค้า รอจนกว่าข้าจะทำสิ่งต่าง ๆ ในทะเลไม่มีที่สิ้นสุดเสร็จสิ้นเสียก่อน ข้าจะคิดหาทางช่วยพวกท่านเอง ถ้าเป็นไปได้ ข้าจะส่งคนไปรับพวกท่านและออกจากสมาคมการค้าที่เล็กแคบเช่นนั้น "

ดวงตาของซั่วฉือก็ส่องประกาย

ซั่วฉือพยักหน้าตลอดเวลา และกล่าวอย่างมีความสุขว่า " ดีมาก หลังจากได้เดินทางออกจากสถานที่แห่งนั้นข้าก็ตระหนักได้แล้วว่าสมาคมการค้านักเล็กแคบจริงๆ ระดับการบ่มเพาะของนักรบเช่นเรานั้นต่ำเกินไป มองจากนักรบในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว แม้ว่าพวกเขาอยู่ในวัยเดียวกับเรา แต่พวกเขากลับอยู่ในระดับรู้แจ้งแลนภาเสียแล้ว ข้าเองก็ไม่อยากเป็นกบในกะลาตลอดไป"

ชิ เสี่ยว เผยรอยยิ้มบอกบุญไม่รับ เขาทนฝืนส่ายหัวและถอนหายใจ .

ในการมาหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬในครั้งนี้ เขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง เห็นนักรบหนุ่มที่อยู่ในระดับนภา เขาก็ไม่สามารถช่วยได้ ที่จะรู้สึกคับอกคับใจจนพูดไม่ออก

โดยเฉพาะเมื่องมองฉื่อหยาน

ตั้งแต่เขาออกจากสมาคมการค้าเขาก็สา่มารถเข้าสู่ระดับนภาได้เพียงใช้เวลาแค่ไม่กี่ปี  นี่เป็นการฝึกบ่มเพาะที่รวดเร็วนัก

ชิ เสี่ยว นั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลกระทบของจิตวิญญาณต่อสู้ที่ลึกลับในร่างกายของเขา เขาแค่คิดว่ามันเป็นเพราะสภาพแวดล้อมของเขา และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้ตระหนักถึงความสำคัญของสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการฝึกบ่มเพาะ

" หลังจากกลับไปคราวนี้ เราจะเตรียมตัวอยู่ที่สมาคมการค้า วางใจเถอะ ข้าจะบอกท่ายปู่ของคุเจ้าเกี่ยวกับสถานการณ์ของเจ้า . " ซั่วชูสูดลมหายใจลึก ยิ้มและกล่าวว่า " ปู่เจ้าคงคิดไม่ถึงแน่วว่าเจ้านั้นอยู่เหนือเขาและอยู่เหนือทุกคนในตระกูลฉื่อไปหมดแล้ว  "

ฉื่อหยาน ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา .

" ท่านต้องสัญญาว่า เมื่อเราเจอกันอีกครั้ง เจ้าจะต้องทำให้เราประหลาดใจยนิ่งกว่านี้" ชิ เสี่ยว มองเขาอย่างลึกซึ้ง และพูดว่า " เจ้าได้สร้างปาฏิหารย์มากมาย ข้าคิดว่าวันนึงเจ้าจะต้องสามารถเอาชนะนักรบระดับสูงทั้งหมด และยืนอยู่บนจุดสูงสุดเหนือพวกเขา ข้าแน่ใจว่าวันนั้นต้องมาถึงแน่ "

" ขอบคุณสำหรับคำชมของท่าน " ฉื่อหยานยิ้ม

ชิ เสี่ยว และอีก 2 คน พวกเขาก็ชมฉื่อหยานสักพักแล้วพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ในสมาคมการค้า ในที่สุด พวกเขาบอกลาเมื่อออกมาจากหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬและพาอ้อมไปด้านหลังเพื่อไปยังสมาคมการค้า

ฉื่อหยานมองทะเลที่ไกลออกไป และก็หัวเราะออกมาแล้วกลายเป็นประกายแสงดารา และบินตรงไปยังที่หลบภัยพื้นที่ทะเลสวรรค์

. . . . . . .

ในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด

หนึ่งปีได้ผ่านไปอย่างรดเร็ว 5 ทะเลมีสงครามเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เผ่าอสูร เผ่าทมิฬ มนุษย์ และสัต์อสูรต่างก็ปรากฏตัขึ้นทุกที่ เพราะเพื่อทรัพยากรและความเกลียดชังทางเชื้อชาติพวกเขาจึงต่อสู้กันและไม่เคยหยุดต่อสู้เลย

ส่วยทะเลเคียร่าและทะเลเหิงลั่ว ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ที่เผ่าอสูรและเผ่าทมิฬอาศัยอยู่ ทะเลเคียร่าถูกปกครองโดยเผ่าอสูร ทะเลเหิงลั่วถูกปกครองโดยเผ่าทมิฬ . ในห้าทะเลใหญ่มรเพียงสามแห่งเท่านั้นที่เป็นสถานที่ของมนุษย์ เพราะการรุกรานครั้งใหญ่ของสองเผ่าพันธุ์ ทะเลกว้างใหญ่จึงเกิดสงครามขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดูไม่เหมือนจะไม่สิ้นสุดในเร็วนี้

เขตแดนระหว่าง ทะเลเคียร่าและทะเลเหิงลั่ว เป็นภูมิภาคที่เชื่อมโยงกับสามทะเลใหญ่ที่เหลือ ไม่อาจรู้ได้เลยว่ามีสิ่งมีชีวิตจำนวนเท่าใดที่ได้ตกตายไปแล้ว

เหล่าเผ่าอสูรและทมิฬต่างก็ต่อสู้กับนักรบในทะเลไม่มีสิ้นสุด ทำให้ทะเลไม่มีสิ้นสุดเต็มไปด้วยซพและทะเลเลือด

คนธรรมดาที่ได้รับผลกระทบจากสงครามครั้งนี้ต่างก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่มีความหวังหรือมองเห็นเส้นทางของอนาคต พวกเขากลัวว่าเหล่าเผ่าอสูรและทมิฬจะมายังเกาะของพวกเขาและฆ่าล้างโคตรพวกเขา, เปลี่ยนเกาะของพวกเขาให้เป็นเกาะร้าง

วันนี้ บนเกาะใหญ่ในทะเลทมิฬ , นักรบมนุษย์และนักรบจากเผ่าอสูรและทมิฬยังต่อสู้กันอยู่ หลังจากการต่อสู้นองเลือดได้จบลง ก็เป็นนักรบมนุษย์ที่ถูกตัดหัวและ ไม่มีใครสามารถหนีพ้น

ศพถูกทิ้งไว้ทุกที่บนเกาะ มันเต็มไปด้าวยร่างของมนุษย์ เผ่าอสูรและทมิฬ รวทมถึงสัตว์อสูร

อย่างเงียบๆก็มีร่างปรากฏอยู่ในกองกระดูก เดินรอบเกาะพร้อมกับกลิ่นเลือด เขาขมวดคิ้ว และเผยผิวเข้ม

ไม่มีใครบนเกาะ คนๆนี้ได้ปลเปล่อยจิตสำนึกวิญญาณของเขาและตระหนักได้ว่าไม่มีใครที่มีอยู่บนเกาะ หรือไม่เจอแม้แต่สัมพัสชีวิตใดๆ

บนเกาะอันกว้างใหญ่นี้มีเพียงแร้งที่บินไปทั่วและกินซากศพเท่านั้น เหล่าหนอนแมลงกระจายอยู่ทั่ว และกลิ่นเหม็นฉุน ก็อบอ้วนไปทั่วพร้อมกับฉากที่น่าหวาดกลัว

เขาหยุดมองเกาะนี้ชั่วครู่ จากนั้น ก็ข้ามเกาะ บินไปที่เกาะเมฆาวายุ

เกาะเมฆาวายุตั้งอยู่ระหว่างทะเลเหิงลั่วและทะเลทมิฬ กลิ่นอายธรรมชาตินั้นเบาบางเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงมีนักรบน้อยคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่คตระกูลเซียออกจากทะเลเคียร่า พวกเขาก็ตัดสินใจมาอยู่ที่เกาะเมฆาวายุชั่วคราว เพราะหลีกเลี่ยงจากนักรบในทะเลไม่มีสิ้นสุด

เมื่อฉื่อหยานกลับมายังทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เขาก็ไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของที่นั่น และไม่กล้าที่จะปรากฏตัว เพื่อรับข่าวสารของตระกูลเซี่ย , วิธีเดียวของเขาคือ การสํารวจและแอบฟังสิ่งที่เหล่านักรบในกองกำลังต่างๆพูดคุยกัน

ตลอดทางนั้น เขาจงใจหลีกเลี่ยงเกาะที่มีนักรบรวมตัวกันอยู่เพื่อหลบซ่อน และใช้วิธีพิเศษเพื่อปกปิดลักษณะของเขา เขาไม่อยากให้คนอื่นรับรู้ตัวตนของเขา

สถานการณ์ไม่มีที่สิ้นสุดทะเลกำลังซับซ้อน หลังจากรู้ถึงสถานการณ์อย่างละเอียด เขาก็สามารถคิดได้ว่าจะลงมือเช่นไรต่อ

มาถึงเกาะเมฆาวายุ เขาก็ปล่อยจิตสำนึกวิญญาณของเขาไปทั่วเกาะ ไม่ว่าจิตำสนึกวิญญาณของเขาจะผ่านไปที่ใดก็ไม่มีร่องรอยของชีวิตตอบสนองกลับมา เขาตรวจไม่พบแม้กระทั่งสัตว์อสูรที่อยู๋บนเกาะ สถานที่นี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความคายและดูแห้งแร้งมาเป็นระยะเวลายาวนาน

เดินรอบเกาะ เขายังไม่พบนักรบมนุษย์ตนใด หรือพวกเผ่าอื่นเลย หรือแม้แต่กระดูกมนุษย์ นี่ทำให้คิดได้ว่าเกาะแห่งนี้ร้างมาเป็นเวลานานแล้ว

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถหาคนจากตระกูลเซี่ยได้จากที่แห่งนี้

เมฆดำก็ปกคลุมท้องฟ้า

ในเมฆตรนั้น , กลิ่นอายที่มืดมนก็ค่อยๆขยายออกและพลังแปลกประหลาดก็ถูกปลดปล่อยออกมาตลอดเวลา ฉื่อหยาน ก็สะดุ้ง เขาขมวดคิ้วขณะที่มองเมฆดำ ใบหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม ในขณะที่เขาเตรียมรับมือไว้

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด