บทที่ 427 อำลา
บทที่ 427 อำลา
บนเกาะ . . . . . . .
จ้าวเฟิง ชิเสี่ยว หลี่เยว่ และ ไชอี้ก็ยืนอยู่หน้าทางเข้า พวกเขากำลังรอเขาอยู่อย่างเงียบๆ
พวกเขาได้รอมาแล้วเป็นเวลาสองวัน
" ทำไมฉื่อหยานยังไม่ออกมา มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรือเปล่า อาจารย์ มันเป็นความจริงที่ท่านได้พบหลายเรื่องอันตรายอยู่ภายใน แล้วฉื่อหยานยังอยู่ในนั้นจะปลอดภัยรึ ? "ซั่วฉืองง .
ซั่วชูยิ้มอย่างบิดเบี้ยวและพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ " ถ้าไม่ได้ฉื่อหยาน บางทีเราอาจจะถูกฝังไว้ที่นั่น เจ้าไม่ได้ไปที่นั่น ดังนั้นเจ้าจินตนาการไม่ออกหลอกว่ามันอันตรายเพียงใดและ มันเป็นยังไง บอกตามตรง การตัดสินใจของฉื่อหยานนั้นถูกต้อง โชคดีที่พวกเจ้าไม่ได้ไปที่นั่นด้วยกัน , มิเช่นนั้นคงไม่รอดเหมือนคนส่วนมากแน่ "
สองพี่น้องลั่วหลี่ก็มีสีหน้าหวาดกลัว
พวกเขาเข้าใจดีว่าถ้าฉื่อหยานไม่ช่วยพวกเขาไว้ เขาคงตายไปแล้ว พวกเขาขอบคุณฉื่อหยานจากก้นบึ้งหัวใจของพวกเขา
" เราไม่สามารถประเมินฉื่อหยานในฐานะคนทั่วไปได้ ถึงแม้ว่าเขามีระดับการบ่มเพาะที่ระดับนภา เขาก็ยังทำสิ่งาที่น่าอัศจรรย์ได้ และเขาก็อยู่เหนือกว่าทุกคนที่เข้าไป ซึ่งจริงๆ นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก " ชิเสี่ยวพยักหน้าแล้วส่ายหัวเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเขาแก่เกินไปแล้ว และไม่สามารถอยู่ต่อจนเห็นอนาคตที่ยาวไกลของฉื่อหยาน
สมาคมการค้าในปีนั้น ถึงแม้ว่า ฉื่อหยานจะได้เปิดเผยความสามารถ ศักยภาพ และพลังของเขาว่าโดดเด่นเพียงใดแล้วก็ตาม
ผ่านมาจากตอนนั้นนานเท่าไหร่แล้วนะ?
ในปีนั้นอยู่ระดับหายนะ และ เขาได้เข้าสู่ระดับนภาในตอนนี้และก็ได้แซงหน้าเขาไปอย่างไม่คาดคิด ด้วยความเร็วที่ต่อให้ตั้งแต่ยุคสมัยโบราณหรือปัจจุต่างก็ต้องตกตะลึง และไม่เคยได้ยินมาก่อน
นักรบจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นจ้าวเฟิง ไชอี้ ตอนนี้ก็ได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฉื่อหยานผ่านชิเสี่ยว ซั่วฉือ และคนอื่น ๆ พวกเขาเองที่รู้จักฉื่อหยานมากกว่าก็ยังประหลาดใจ มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเชื่อว่าสิ่งที่ซั่วชูและคนอื่น ๆกล่าวมาจะเป็นเรื่องจริง ถ้าพวกเขาไม่รู้จักชิเสี่ยวและคนอื่นๆมาก่อนพวกเขาต้องมองเป็นเรื่องตลกแน่นอน แต่นี่ คนเหล่านี้ไม่มีเหตุผลต้องหลอกพวกเขา
" เด็กคนนี้มีศักยภาพและอนาคตอันรุ่งโรจน์ ข้ารอคอยที่จะเห็นเขาท้าทายดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันกว้างใหญ่ ข้ารู้สึกว่า ศักยภาพของเขาจะไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ ถ้าเขาไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ ในอนาคต บางทีเขาอาจจะอยู่เหนือกว่านักรบทุกคนในกลุ่มเจ็ดโบราณ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องประกายมากที่สุด , " จ้าวเฟิง กล่าวอย่างลึกซึ่ง
หลี่เยว่ และอื่คนน ๆจากนิกายประกายแสงสักดิ์สิทธิ์ก็พยักหน้าด้วยใบหน้าที่ซับซ้อนของพวกเขา
ฉื่อหยานในระหว่างการเดินทางนี้ทำให้ความคิดของพวกเขาเปลี่ยนไป ตอนนี้พวกเขารู้ว่าถึงแม้จะเป็นจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันรุ่งเรือง มันไม่ใช่ว่าจะมีบุคคที่โดดเด่นที่สุดอยู่
ไม่อาจคาดคิดได้เลยว่าในทะเลไม่มีสิ้นสุดที่สุดแสนจะห่างไกลจะมีนักรบที่มหัศจรรย์เช่นฉื่อหยานอยู่ ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด สิ่งที่พิเศษก็อยู่ได้ทุกที่
" ข้ารู้ว่าเขาต้องมาที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แน่ . " หลี่เยว่ ยิ้มและกล่าวว่า " ด้วยความทะเยอทะยานของเขา ข้าเกรงว่าทะเลไม่มีสิ้นสุดมิอาจรั้งเขาไว้นานหลอก ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะมาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเราและสยายปีกท่องไปทั่ ดั่งมังกรที่ยิ่งใหญ่ ข้าแน่ใจว่าสิ่่งนี้จะต้องเกิดขึ้นแน่ "
จ้าวเฟิงและพรรคพวกทั้งหมดเห็นด้วยกับมัน
ไช่อี้ดวงตาก็แสดงออกว่านางก็คิดเช่นเดียวกัน นาง เฝ้ารอวันที่เขาจะมาดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อเพิ่มความก้าวหน้า
" หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเขามาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ตอนนั้นเราจะพาเขาไปหาผู้อาวุโสของพรรค และเขาจะต้องทำให้เหล่าอาวุโสตกตะลึงแน่นอน " จ้าวเฟิงภาพช่วยไม่ได้ที่จะเอาแต่หัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ
อีกด้านหนึ่ง เยว่จางเฟิงหลิน หลินจือ หลัวเสี่ยว หลัวเหมิงก็ยังไม่ไป พวกเขากำลังรออยู่บนเกาะเช่นกัน
หลินจือ ไม่หยิ่งเหมือนเมื่อก่อน มาถึงตอนนี้ ใบหน้าของนางกลายเป็นที่คลุมเครือ และโทนเสียงของนางก็ดูเคารพลงเล็กน้อย
" ไม่มีเด็กนั่น เราอาจจะตายที่นี่ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนแน่ๆ " หลัวเมิงมองเยว่จางเฟิงด้วยสีหน้าเป็นทุกข์ " ตอนนี้ ข้าก็เชื่อในสิ่งที่เจ้ากล่าวแล้ว ถึงระดับการบ่มเพาะของเขาจะไม่สูง แต่พรสวรรค์ของเขานั้นมีไม่มิสิ้นุสด . "
" ใช่แล้ว " เยว่จางเฟิงพยักหน้า " ชายคนนั้นเป็นคนที่โดดเด่น ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเขาปรามกฏตัวขึ้นที่นั่น ข้าเกรงว่า จะไม่มีใครหยุดเขาได้ ข้ารอคอยที่จะเห็นเขาผจญภัยในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเรา ข้าเชื่อว่าวันนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว "
" น้องสาวหลินจื่อ เจ้ายังเกลียดเด็กนั่นอยู่หรือไม่ ? " หลัวเสี่ยวก็ถาม
หน้าของหลินจือ ก็เปลี่ยนไปในขณะที่นางนึกถึงเขา แก้มยังสั่นเล็กน้อย และใบหน้าของนางก็ดูไม่มั่นใจ
ฉื่อหยานได้กระทำอย่างโหดร้าย ซึ่งผลกระทบนี้ส่งผลถึงนางมาก นางเคยคิดว่านางจะหาฉื่อหยาน และแก้แค้นให้ได้ในอนาคต แต่เมื่อเยว่จางเฟิงบอกนางว่าเกิดอะไรขึ้น เช่นเดียวกับที่ฉื่อหยานได้ช่วยนางจากความโหดร้ายจากวารีแรกเริ่มชีวิต ความคิดนางก็เปลี่ยนไป
อาจารย์ของเยว่จางเฟิงเคยช่วยนางมาก่อนเช่นกัน นางรู้สึกของคณเขาเป็นอย่างมาก และกังวลสิ่งเดียวกับเยว่จางเฟิง นางสมัครใจมาหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬกับเยว่จางเฟิงเพื่อตอบแทน หวังจะทำเพื่ออาจารย์
ด้วยความใจดีของฉื่อหยานเขาได้ให้วารีแรกเริ่มชีวิตมา นี่ทำให้นางดีใจเป็นอย่างมาก นางไม่คิดว่าฉื่อหยานจะเป็นคนที่มีจิตใจดีเช่นนี้ วารีแรกเริ่มชีวิตนั้นมีค่าเป็นอย่างมากเหล่านักรบนภาที่สามระดับนภาจากกองกำลังต่างๆ ต่างก็เสียสละชีวิตเพื่อให้ได้มันมาสักหยด พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้มัน คุณค่าของวารีแรกเริ่มชีวิตนั้นยากที่จะอธิบายด้วยคำพูด .
ความจริงที่ว่า ฉื่อหยานกลับให้พวกนางหนึ่งหยดนี้ทำให้หลินจือกลายเป็นงุนงงและรู้สึกชอบเขามากขึ้น
" มันไม่ง่ายที่จะพบเห็นบุคคลเช่นนี้ บางครั้งเขาก็รุนแรงและโหดเหี้ยม บางครั้งก็ใจดี และมีน้ำใจ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่คนอื่นๆจะรู้ว่าเขาเป็นเช่นไร ข้าไม่ได้รู้จักเขามานาน แต่ข้ารู้ว่าเขาไม่ใช่เป็นคนเหี้ยมโหด ถ้าเขาเป็นคนอำมหิต เขาคงไมาเสียเวลาทำเรื่องไร้สาระและฆ่าเราไปนานแล้ว "
เยว่จางเฟิงคิดสักพัก แล้วกล่าวว่า " จากก้นบึ้งหัว ไม่ว่ายังไง ก็ต้องขอบคุณสำหรับวารีแรกเริ่มชีวิต , เจ้านายของข้าและข้าเป็นหนี้ของเขาอย่างใหญ่หลวงนัก ในอนาคต เวลาที่เขาต้องการข้าในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะใช้ความพยายามทั้งหมดทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือเขา "
" อืม การได้มีสัมพันธ์กับคนอย่างเขานับว่าไม่เลว . " หลัวเมิง หลัวเสี่ยวก็พยักหน้า
" เมื่อเขาออกมา เราจะบอกลากับเขาดีๆ เราเป็นหนี้เขาใหญ่หลวงเป็นอย่างมากในไม่กี่วันมานี้ " เยว่จางเฟิงกล่าว
หลินจือก็พยักหน้า
. . . . . . .
หลังจากเที่ยงคืน ร่างที่สง่าก็บินออกมาจากทางเข้า
เยว่จางเฟิงและคนอื่นๆรีบวิ่งมา
" เด็กน้อย ในที่สุดเจ้าก็ออกมา เจ้าทำให้เรารอนานจริงๆ " จ้าวเฟิงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีที่เห็นฉื่อหยาน " ข้าเห็นชัดได้เลยว่าในดวงตาของเจ้าแสงเทพดูคมชัดขึ้น เจ้าได้รับบางสิ่งบางอย่างมาจากบึงนั่นใช่หรือไม่ ?"
ฉื่อหยาน ยิ้ม มองทุกคน แล้วพยักหน้า " ไม่ได้มากเท่าใดนัก แต่ระดับการบ่มเพาะของข้าพัฒนาขึ้นเล็กน้อยและพลังปราณลึกลับของข้าก็มากขึ้นกว่าเดิม เฮ้ ข้ารบกวนท่านมากมายจริงๆ ให้ท่านรอจนถึงตอนนี้ ข้าขออภัย "
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่เป็นไร " จ้าวเฟิงหัวเราะออกมาในขณะที่เดินยันฉื่อหยานจีบไหล่ของเขา " เจ้าบอกเราเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดในบึงได้หรือไม่ ?
" ข้าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว " แบมือทั้งสองของเขา ฉื่อหยานกล่าวว่า " ข้าไม่มีอะไรจะพูดมากนัก ที่จริงข้ามีความสัมพันธ์กับราชาแมลงอสูรในเรื่องของผลประโยชน์ และมีบางอย่างที่มีผลประโยชน์ต่อมัน ข้าใช้สิ่งพิเศษนั้นแลกเปลี่ยนกับวารีแรกเริ่มชีวิต แต่ข้ายังไม่สามารถให้มันได้ในตอนนี้ .
" เจ้าได้รับวารีแรกเริ่มชีวิตจากเจ้าแมลงนั่นจริงๆรึ ? " จ้าวเฟิงเปิดเผยใบหน้าหวาดกลัว ในขณะที่สายตาของเขาถูกร้อนรุ่ม
ฉื่อหยานไม่อยากปิดบัง เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“ใช้”
ทุกคนดูตกใจ แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
" ข้าได้กล่าวว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เมื่อพวกท่านสามารถเข้าสู่นภาที่สามระดับพระเจ้าได้ ให้พวกท่านมาหาข้า และการมอบวารีแรกเริ่มชีวิตให้พวกท่านคนละหยดก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร " ฉื่อหยาน สัญญา
ทุกคนก็รู้สึกบ้าคลั่งอยู่ในจิตใจ
" เอาล่ะ ได้เวลาไปแล้ว ข้าต้องกลับไปที่ทะเลไม่มีสิ้นสุดก่อน หลังจากนั้น ข้าอาจจะไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์และไปพบกับพวกท่าน " ฉื่อหยานมองจ้าวเฟิง
จ้าวเฟิงตลอดเวลาก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“ข้าจะรอคอยวันที่เจ้ามา ข้าแน่ใจว่านิกายเทพของเราจะต้องยินดีต้อนรับเจ้าแน่เมื่อเจ้ามาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มีนักรบมากมายที่โดดเด่นในรุ่นนี้ของนิกายเทพ ตัวตนของเจ้าที่ปรากฏจะทำให้เหล่าอาวุโสปลื้มปิติ”
" ถ้าข้าใช้วารีแรกเริ่มชีวิตแลกเปลี่ยนกับสหายของข้าที่อยู่ในดินแดนพิสุทธิ์มันจะเป็นไปได้หรือไม่ ?" ฉื่อหยานครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะถาม
จ้าวเฟิงสับสน และลังเลเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า " มันยากที่จะพูด แต่ข้าคิดว่ามันเป็นไปได้ ถ้าคุณค่าของเพื่อเจ้าไม่ได้มีมากกว่าวารีแรกเริ่มชีวิตหละนะ ผู้อาวุโสของนิกายเทพเราสามารถเป็นตัวแทนในการแลกเปลี่ยนให้ได้ ดังนั้น มันเป็นไปได้ "
" ฉื่อหยาน หากในอนาคตตำแหน่งของเจ้าดูเหมือนจะรุ่งเรืองในอนาคต และระดับการบ่มเพาะสูงขึ้น เป็นอย่างมากที่ นิกายเทพจะต้องกล้าลงทุนในตัวของเจ้าแน่ " หลี่เยว่ พูดเตือนเขา
ฉื่อหยานพยักหน้า
" เราควรจะไปได้แล้ว และข้าก็ต้องขอบคุณเจ้ามาก " เยว่จางเฟิงเดินมาก้มลงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม " ถ้าเจ้ามีปัญหาใด ๆในอนาคต จำไว้ว่าให้ใช้วิธีที่ข้าแสดงให้เจ้ารู้ว่าเพื่อมาหาเรา แม้ว่าอาจารย์จะไม่ใช่ผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะสูงที่สุดแต่ชื่อเสียงของเขาก็ยังถูกเคารพในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเจ้ามีปัญหาอะไร อาจารย์ของข้าสามารถช่วยเจ้าได้ "
" อาจารย์ของเจ้าเป็นใครรึ ?" จ้าวเฟิงประหลาดใจเพราะเห็นคำพูดที่เย่อหยิ่งของเยว่จางเฟิง ดังนั้นเขาไม่สามารถช่วยได้ที่จะถามออกไป
" ท่านเป็นกลั่นสกัด. . . . . . . แซ่ของเขาคือหลี่ " เยว่จางเฟิงยิ้มและตอบ
จ้าวเฟิงขมวดคิ้วและคิดสักพัก ร่างกายทั้งร่างของเขาก็สั่นสะท้าน เขาถามด้วยความกลัว " เขาเป็นคนเดียวกับที่มาจากหุบเขาจิตวิญญานสมุนไพรในภูเขาวิญญานมรณะใช่หรือไม่ ? "
เยว่จางเฟิงพยักหน้า
จ้าวเฟิงตกตะลึงเป็นอย่างมากและไม่สามารถช่วยได้ที่จะตะโกนออกมา " นั่นมัน ! "
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ