ตอนที่แล้วบทที่ 408 กลับคืนร่างเดิม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 410 ความวุ่นวายใต้พิภพ

บทที่ 409 เปลวไฟนภาเก้าประเภท


บทที่ 409 เปลวไฟนภาเก้าประเภท

ฉื่อหยาน ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ยิ้มและยื่นมือออก . แหวนสายโลหิตก็ส่องแสงสีแดงเลือดออกมาและแกนเพลิงก็หายเข้าไปในแหวนสายโลหิตของเขา

ในเวลาเดียวกัน , เปลวเหมันเยืิอกแข็งก็เข้าไปในแหวนสายโลหิต

" นั่นคือพลังเผาไหม้ของตะวันกลั่นวิญญานไม่ใช่รึ ? " เป็นจ้าวเฟิง ดวงตาสะท้อนเปลวไฟร้อนแรง มองฉื่อหยานด้วยความประหลาดใจ " เด็กน้อย สัมพัสของข้าไม่ได้ผิดไปใช่ไหม? "

" ใช่ ท่านคิดถูกแล้ว นี่คืิอพลังเผาไหม้ของตะวันกลั่นวิญญาน" ฉื่อหยานพยักหน้า

" สำหรับผู้ที่ใช้พลังดวงอาทิตย์ เพื่อบ่มเพาะ พลังของตะวันกลั่นวิญญานคือสมบัติอันล้ำค่าที่สุด ถ้าข้าสามารถใช้ตะวันกลั่นวิญญานเพื่บ่มเพาะได้ ข้าคิดว่าวิชาของข้าต้องมีความก้าวหน้าครั้งใหญ่แน่นอน " จ้าวเฟิงมองด้วยตาแหลมคมออกไป” ถ้าข้าสามารถใช้ตะวันกลั่นวิญญานได้ ความเข้าใจของข้าจะลึกซึ้งมากขึ้น และบางทีข้าอาจจะสามารถเข้าสู่ระดับพระเจ้าได้

ฉื่อหยานยิ้มเล็กน้อยและส่ายหัวของเขา " . นี่เป็นของข้า  "

" ถ้าเป็นไปได้ ข้าก็อยากยืมมันเพื่อฝึกบ่มเพาะที่หลัง ข้าไม่ได้ต้องการมัน ข้าต้องการพึ่งเพียงพลังของมันเท่านั้น และข้าก็ต้องการสังเกตมันเล็กน้อยถึงลักษณะพลังของมันที่ถูกปล่อยออกมาจากตะวันกลั่นวิญญาน และเปลวเพลิงเผาไหม้ . ได้หรือไม่ ? จ้าวเฟิงสบตากับฉื่อหยานด้วยใบหน้าถวิลหา

ฉื่อหยานถักคิ้วของเขา ลัเขางเลเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า " ถ้าเพียงแต่นั้น ก็ไม่มีปัญหาอะไร "

จ้าวเฟิง เป็นปลื้ม และระเบิดเสียงหัวเราะออกมา .

" เจ้าได้ตะวันกลั่นวิญญานนี้มาได้อย่างไร ?  " หลี่เยว่ ไม่สามารถช่วยได้ที่จะถามออกไป

" อืม ที่ท่านพึ่งเห็นนั้นคือเปลวไฟนภาซึ่งมาจากภูเขาไฟหมื่นปี และมันก็โชคดีได้ดูดซับตะวันกลั่นวิญญาน ตอนนั้นข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันใช้วิธีได้ แต่ว่ากันว่าเปลวไฟนภาทุกดวงนั้นล้วนมีจิตสำนึก " ฉื่อหยาน อธิบาย

" เปลวไฟนภา " จ้าวเฟิง หลี่เยวา และแม้แต่ไชอี้ก็จ้องมองเขาด้วยความตกตะลึง

" ข้าเคยได้ยินว่า มีเปลวไฟนภาทั้งหมดที่อยู่บนโลกนี้เก้าดวง สงสัยจะต้องเพิ่มเป็นสิบแล้ว " จ้าวเฟิงถอนหายใจ " ตำนานเกี่ยวกับเปลวไฟนภาได้หมุนเวียนเรื่อยมาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่มีเปลวไฟนภานั้นหาได้ยากเป็นอย่างมาก เปลวไฟนภาแต่ละประเภทต่างก็มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์และพลังของมันเอง นี่คนทั่วไปจะต้องอิจฉาเจ้าแน่ๆ .

" ท่านรู้จักทั้งเก้าประเภทเลยรึ ? " หัวใจของ ฉื่อหยานก็สั่นเล็กน้อยในขณะที่เขาแกล้งทำเป็นถาม

เขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเปลวไฟนภาว่ากันว่า ในโลกนี้มีทั้งหมด 9 ดวง และในหมู่พวกมันก็มีการจัดอันดับอยู๋

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นในสมาคมการค้าหรือทะเลไม่มีที่สิ้นสุด ดูเหมือนจะไม่มีใครรู้ถึงชนิดของเปลวไฟทั้งเก้าเลย .

จ้าวเฟิงและ หลี่เยว่ มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของนักรบ นักรบที่รู้เรื่องเหล่านี้ต่างก็มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์

" เปลวไฟแรกเริ่มหายนะศักดิ์สิทธิ์ , เปลวไฟอัศนีวอดโลกา , เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน , เปลวไฟอสูรโบราณ , เปลวไฟแก่นแท้นรก , เปลวไฟจิตวิญญานภูติหยิน, เปลวไฟแก่นแท้นกอมตะ  เปลวเหมันเยือกแข็ง,และเปลวไฟซากศพ . " จ้าวเฟิงดวงตาก็สดใสขณะที่พูด . " เปลวไฟทั้งเก้าเหล่านี้เป็นเหล่าเปลวไฟนภาที่ข้ารู้จัก ความลึกลับขอเปลวไฟนภาทั้งเก้านั้นได้แพร่กระจายไปทั่วในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่เรายังไม่รู้ว่าผลเปลวไฟทั้งเก้านั้นมีอำนาจเช่นใดบ้าง  มีเพียงคนที่ครอบครองเปลวไฟนภาอาจจะรู้ถึงพลังของพวกและสามารถกำหราบพวกมันได้ . "

"  เปลวไฟแรกเริ่มหายนะศักดิ์สิทธิ์ , เปลวไฟอัศนีวอดโลกา , เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน , เปลวไฟอสูรโบราณ , เปลวไฟแก่นแท้นรก , เปลวไฟจิตวิญญานภูติหยิน, เปลวไฟแก่นแท้นกอมตะ  เปลวเหมันเยือกแข็ง,และเปลวไฟซากศพ " ฉื่อก็หยานพึมพำในขณะที่สายตาของเขาก็ค่อยๆ สว่างขึ้น

" เปลวไฟแรกเริ่มหายนะศักดิ์สิทธิ์เป็นเปลวไฟนภาอันดับแรก และศเปลวไฟซากศพเป็นอันดับสุดท้าย . เปลวไฟนภาแต่ละชนิดดูเหมือนว่าจะสามารถหลอมรวมกับนักรบได้ เมื่อนักรบสามารถหลอมรวมกับเปลวไฟนภาได้ , พวกเขาก็จะได้รับของพวกมันครึ่งหนึ่ง . " จ้าวเฟิงมองเขาด้วยตวามอิจฉา .

ก่อนหน้านี้ เปลวเหมันเยือกแข็งได้ฝังในหน้าอกของ ฉื่อหยาน เมื่อตอนที่แกนเพลิงกำลังกลับเข้าไปในแหวนสายโลหิต อำนาจในการเผาไหม้ของมันนั้นรุงแรงเป็นอย่างมากและยังมีข้อเท็จจริงที่ว่าเปลวเหมันเยือกแข็งได้ลดพลังของมันไปอีก ไม่มีใครที่นี่รู้เลยว่าแสงที่ส่องออกมาจากหน้าอกของเขาคือหนึ่งในเปลวเหมันเยือกแข็ง

ถ้าพวกเขารู้ว่าเปลวเหมันเยือกแข็งและเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานทั้งคู่อยู่กับฉื่อหยาน พวกเขาจะต้องตกตะลึงแน่นอน

ฉื่อหยานได้รู้สิ่งที่เขาต้องการแล้ว ดังนั้นเขาจึงหยุดถามเรื่องเปลวไฟนภา เขายิ้มและมองจ้าวเฟิง และคนอื่น ๆ " การเก็บเกี่ยวของพวกท่านเป็นเช่นไรบ้าง ?

จ้าวเฟิงจับมีใบหน้าที่มีความสุขและพูดอย่างตื่นเต้นว่า " เราได้สมบัติลับระดับศักดิ์สิทธิ์มาทั้งหมดสี่ชิ้น พวกมันสามอันอยู่ในขั้นแรกของระดับศักดิ์สิทธิ์ และอีกหนึ่งอยู่ในขั้นที่สามของระดับศักดิ์ิสิทธิ์ ฮา ฮา ฮา นี้ช่างเป็นการเก็บเกี่ยวที่ดีจริงๆ แม้แต่ในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ สมบัติลับระดับนี้ก็หาได้ยากเป็นอย่างมากมี เพียง ไม่กี่ บุคคลสำคัญของนิกายเท่านั้นที่มีประสิทธิภาพพอจะได้ครอบครองสมบัติลับขั้นสามระดับศักดิ์สิทธิ์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า "

เมื่อนึกถึงการเดินทางที่เหลือแล้วเขาก็ตื่นเต้น จ้าวเฟิงไม่สามารถช่วยได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

สมบัติลับที่สร้างจากนักหลอมอาวุธฯั้น แบ่งออกเป็น 5 ระดับ - ระมนุษย์ ระดับลึกลับ ระดับลึกซึ้ง ระดับสักดิ์สิทธิ์ และ ระดับพระเจ้า แต่ละระดับแบ่งออกเป็นเจ็ดขั้น ; ขั้นแรกต่ำสุดและขั้นเจ็ดสูงสุด จ้าวเฟิงได้นั้นได้สมบัติลับระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามในครั้งนี้ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

" แล้วพวกท่านหละ ? " ฉื่อหยานมองชิเสี่ยวและไชอี้

" สมบัติลับระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นแรกสองชิ้น " ชิเสี่ยวยิ้มแล้วหยิบกริชเงิน และกล่าวว่า " ข้ามีนี่ "

ถึงแม้ว่าชิเสี่ยวจะดูสงบ แต่ดวงตาของเขาตื่นเต้นมาก เพราะเขาจะได้สมบัติลับในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬนี้ เมื่อจิตใจของเขาเชื่อมต่อกับมัน พลังของเขาจะแข็งแกร่งขึ้น

หากมีสมบัติลับระดับศักดิ์สิทธิ์นี้ ชิเสี่ยวจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรอัคคี , อาณาจักรพรพระเจ้า และสมาคมการค้า ดังนั้น , เขาถึงมีความสุขเป็นอย่างมาก

" ไม่เลว " ฉื่อหยาน " ฉื่อหยานพยักหน้าตลอดเวลาและพูด" แล้วอีกชิ้นอยู่ไหนกัน ? "

" ในมือ " ไช่อี้ หัวเราะ แต่ไม่ได้เอาสมบัติลับจากแหวนกระเป๋าของนางออกมา อย่างไรก็ตาม นางก็ยังดูพอใจมาก " ข้าค่อนข้างโชคดี คาดไม่ถึงเลยว่าจะเก็บเกี่ยวสิ่งที่มีค่าเช่นนี้ได้ในการเดินทางมาหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬครั้งนี้ "

ลั่วหลันและลั่วหลี่ก็เปิดเผยร่องรอยของความอิจฉาและบ่น โชคของพวกเขาไม่ดี พวกเขาเก็บเกี่ยวอะไนไม่ได้เลย

" เจ้าหนุ่ม เราควรออกไปจากที่นี่ได้แล้วมิใช่รึ ? "

จ้าวเฟิงรู้ว่าไม่มีใครในเมืองโบราณแล้ว และนี่ทำให้เขาเป็นกังวลเล็กน้อย . คนอื่นออกไปแล้ว คงต้องไปยังดินแดนแปลกประหลาดแห่งอื่น "พวกเขาก็ควรไปโดยเร็ว เผื่อว่า จะสามารถเก็บเกี่ยวจิตวิญญานพระเจ้าบริสุทธิ์ได้ ถ้าเราช้า เราจะไม่ได้อะไรเลย "

" ท่านรู้ทางไปรึ ?" ฉื่อหยานถามด้วยความประหลาดใจ

จ้าวเฟิงหยิบเข็มทิศที่คล้ายกับอายหยาขึ้นมา " นิกายจิตวิญญานสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา มันสามารถระบุทิศทางของพื้นที่ต่างๆได้ ดังนั้น เราจะไม่หลงถ้าเรามีมัน"

" ดีเลย . . " ฉื่อหยานตาสดใสในขณะที่เขามยิ้ม“งั้นตอนนี้เราก็ไปกันเุุถอะ”

" แล้วพวกเจ้าหละ ? " จ้าวเฟิงมองชิเสี่ยว ไช อี้ และ คนอื่น ๆ , " พวกเจ้าจะไปกับเราด้วยไหม ? "

เป็นไชอี่้และชิเสี่ยวที่ได้สมบัติลับ ความมั่นใจของพวกเขาก็เพิ่มขึ้น ดังนั้น พวกเขาพยักหน้าทันที

สองพี่น้องนั้นไม่ได้เก็บเกี่ยวสิ่งใดเลย แต่ก็หวังว่าจะสามารถหาอะไรในดินแดนแปลกประหลาดแห่งไหม่ได้ เห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่ล้มเลิกกลางคันแน่นอน ดังนั้น พวกเขาพยักหน้า เพื่อแสดงออกว่าพวกเขาต้องการไปด้วย

จ้าวเฟิงจริง ๆไม่อยากอยู่กลุ่มเดียวกันกับพวกเขา อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาุคงฉื่อหยาน เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเลย เขาเอาเข็มทิศชี้ทิศทาง แล้วพูดกับฉื่อหยาน " พวกเจ้าตามข้ามา ดินแดนประหลาดอีกแห่งอยูค่อนข้างไกลจากที่นี่ ต้องใช้เวลาอย่างมากสองวันเพื่อไปุถึง " .

" ดี " ฉื่อหยานพยักหน้า

จ้าวเฟิงและ หลี่เยว่ สบตากัน เบื่อบอกให้ส่งนักรบบางส่วนของพวกเขาไว้กับพวกฉื่อหยาน หลังจากนั้น ก็บินนำออกไป

ตั้งแต่ประตูสวรรค์ได้ ระเบิดออก ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติ แม้แต่สายฟ้าที่อยู่รอบๆก็หายไป

ฉื่อหยานเคยกังวลกับสายฟ้าก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม พลังปราณลึกลับของเขานั้นเหลือเพียงครึ่งเดียวและถ้าสายฟ้านี้ยังอยู่ เขาจะต้องใช้พลังของเขาเพื่อผ่านสายฟ้า โดยจะต้องใช้พลังปราณลึกลับที่เหลืออยู่ทั้งหมด และถ้าเขาพบอันตราย มันก็คงยากสำหรับเขา ถึงแม้ว่าชิเสี่ยวและ ไชอี้จะมีการบ่มเพาะที่ลึกซึ่ง พวกเขาไม่ต้องการที่จะเสี่ยงชีวิตของพวกเขาเพื่อช่วยคนอื่น ดังนั้น เขาจะต้องใช้เวลาบางส่วนเพื่อใช้ผลึกอสูรฟื้นฟูลังปราณลึกลับก่อนออกไป

โดยปราศจากสายฟ้าที่อยู่ด้านนอก เขาก็ไม่ต้องระมัดระวังสิ่งใด เขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับชิเสี่ยวและคนอื่นๆพร้อมทั้งกลุ่มของจ้าวเฟิง

ครึ่งวันต่อมากลุ่มของจ้าวเฟิงก็พบกับฝูงสัตว์อสูรระดับหก เหนือภูเขา แต่เขาก็ใช้เวลาไม่นานเพื่อผ่านสัตว์อสูรเหล่านั้น

เนื่องจากนักรบในกลุ่มของจ้าวเฟิงมีระดับค่อนข้างต่ำ พวกเขาจึงต้องใช้พลังไปเป็นจำนวนมาก จ้าวเฟิงต้องหยุดเพื่อให้พวกเขาพักผ่อนสักพัก ใช้ผลึกอสูรฟื้นฟูพลังปราณลึกลับของพวกเขา

ฉื่อหยาน ได้โอกาสก็หยิบผลึกอสูรออกมาจากภายในแหวนกระเป๋าของเขาแลฟื้นฟูพลังปราณลึกลับของเขาพร้อมกับชิเสี่ยว ซั่วชูและซั่วฉือ

กลุ่มของชีเสี่ยวก่อนหน้านี้ค่อนข้างยากจนแต่เมื่อมีฉื่อหยานสนับสนุน ผลึกอสูรก็เพียงพอที่จะฟื้นฟูพลังปราณลึกลับของพวกเขา

ทั้งสามคน ได้ใช้พลังปราณลึกลับไปเป็นจำนวนมากระหว่างทาง และอยู่ในสถานการณ์ที่พวกเขาไม่มีผลึกอสูรแม้แต่ก้อนเดียว

อย่างไรก็ตาม หลังจากการต่อสู้ในเมืองโบราณ ผลึกอสูรจากนักรบบางคนที่ตกตาย ฉื่อหยานก็ได้มอบพวกมันให้กับพวกเขาอีก ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาจึงมีผลึกอสูรเพียงพอ

เมื่อฉื่อหยานเข้าสู่ระดับ ต้นไม้โบราณพลังปราณลึกลับก็ดูเหมือนจะเติบโตเป็นสองเท่า ดังนั้น ความเร็วในการฟื้นฟูพลังของเขาตอนนี้จึงเห็นได้ชัดว่าช้าลง เมื่อเขาและชิเสี่ยวฟื้นฟูพลังปราณลึกลับพวกเขาก็ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน หลังจากที่นักรบในกลุ่มของจ้าวเฟิงได้ฟื้นฟูพลังปราณลึกลับอย่างสมบูรณ์แล้ว ฉื่อหยานและชิเสี่ยวก็ยังใช้ผลึกอสูรฟื้นฟูพลังปราณของพวกเขาอยู่

เป็นจ้าวเฟิงที่รู้ว่าเขาจะต้องพึ่งฉื่อหยานมากในอนาคต เขาจึงไม่ได้รีบออกเดินทาง เขากับหลี่เยว่ และคนอื่น ๆกลับรอฉื่อหยานและชิเสี่ยวฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ก่่อน แล้วจึงเดินทางไปดินแดนแปลกประหลาดอีกแห่ง .

การเดินทางของพวกเขานั้นง่ายดายเป็นอย่างมาก สัตว์อสูรระหว่างทางไม่เป็นปัญหาเลย

สองวันต่อมา พวกเขาก็มาถึงดินแดนแปลกประหลาดแห่งใหม่

ขอบดินแดนแปลกประหลาดนี้มีหมอกสีเทาหนาผลุบๆโผล่ๆไปมา อย่างไรก็ตาม กลับไม่มีสายฟ้า

ต่อมากลุ่มของจ้าวเฟิง ฉื่อหยาน , ชิเสี่ยว ไชอี้ และคนอื่นๆก็เข้าไปในดินแดนแปลกประหลาดแห่งใหม่นี้

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด