บทที่ 396 ภูเขาและแม่น้ำที่ถูกตราประทับ
บทที่ 396 ภูเขาและแม่น้ำที่ถูกตราประทับ
"ระวัง ! "
ชิเสี่ยวสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารวบรวมพลังของเขาไปที่นิ้วทั้งห้าและปลดปล่อยควัรออกมา หมอกค่อยๆลอยออกมาจากเล็บของเขา เหมือนงูที่มีชีวิต
อายหยาและ ไชอี้ก็เครียดตาม จากระยะทางที่พวกเขาสังเกต พายุ สายฟ้าฟาด เปลวไฟและน้ำแข็ง ที่ค่อย ๆใกล้เข้ามา พวกเขายังมองออกไป สำหรับกลุ่มนักรบคนอื่นๆในทะเลสาบ พวกเขาก็กลัวว่ากลุ่มของฉื่อหยานจะระเบิดการโจมตีเพื่อแย่งชิงสมบัติลับ
พลังที่ปั่นป่วนอยู่ ณเส้นทางบรรจบกันของสายน้ำจักรวาลเหนือหัวของทุกคนก็รุนแรงมากขึ้น มันเป็นเหมือนพลังที่แตกต่างกันนับไม่ถ้วนเป็นจุดๆอยู่บนท้องฟ้าและ ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ผิดปกติ
ศพโบราณที่อยู่บนสายน้ำจักรวาล ก็ได้รับผลกระทบจากพลังและทรุดลงอย่างช้าๆ
ศพเหล่านี้กลายเป็นบันไดลงมาจากบนฟ้าและค่อยๆหย่อนลงมาใกล้หัวของทุกคน
" บันไดศพโบราณเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจากพลังที่ออกมาจากจุดที่บรรจบกัน เมื่อบันไดจะลงมา กลุ่มของนักรบทั้งสามที่แข็งแกร่งก็จะหาโอกาสแย่งชิงกันขึ้นไป " อายหยาเอาหินสีม่วงเข้มออกมา ซึ่งมีรูปแบบลึกลับเป็นเหมือนภูเขาและแม่น้ำเชื่อมต่อกันสลักเอาไว้ กลุ่มก้อนแก่นแท้เจตจำนงก็ปกคลุมไปทั่วแม่น้ำ
หินตราประทับในมือขาวผ่องส่องแสงสีม่วงกระจายออกมา ลวดลายสลักบนหินกลายเป็นมีชีวิตชีวามาก ในแสงสีม่วง ภูเขาและแม่น้ำ ดูเหมือนจะปรากฏขึ้นมา ในขณะที่พวกมัรค่อยๆเริ่มขยับตัวบนหิน
อายหยาส่งจิตสำนึกเข้าไปในหิน ร่างกายของนางก็ปลดปล่อยแก่นแท้เจตจำนงออกมา นางถ่ายทอดพลังปราณลึกลับของนางบนไปหินเพื่อเชื่อมต่อมันและพูดเบาๆว่า" ตราประทับภูเขาและแม่น้ำ เป็นสมบัติลับระดับศักดิ์สิททธิ์ เมื่อหายนะมาถึง และกลุ่มของนักรบอีกสามกลุ่มลงมือ ข้าจะรีบปลดตราประทับภูเขาและแม่น้ำ มันสามารถขัดขวางพวกเขาได้ระยะหนึ่่ง ในขณะนั้นเราก็ใช้โอกาสนั้นปีนขึ้นไปบนสะพานศพโบราณและขึ้นไปบนฟ้า
ทันทีที่ ไชอี้ , ลั่วหลี่ และลั่วหลันเห็นนางเอาตราประทับภูเขาและแม่น้ำออกมาดวงตาของพวกเขาก็ส่องประกาย ดูเหมือนว่าพวกเขารู้จักตราประทับภูเขาและแม่น้ำเป็นอย่างมาก เป็นใบหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นตกตะลึง
ฉื่อหยานมองหน้าอายหยา และแอบพยักหน้า เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ ดูเหมือนจะเข้าสถานการณ์ดี และในที่สุดนางก็งัดสิ่งที่หลบซ่อนอยู่ออกมา
อายหยา มา จาก เมืองจักรพรรดิขาวและถูกกล่าวว่าเป็นลูกสาวของเจ้าเมืองจักรพรรดิขาว จากความรู้ของ ไชอี และลั่วหลี่ พวกเขารู้ว่าเจ้าเมืองจักรพรรดิขาวมีระดับการบ่มเพาะที่ลึกซึ้งเป็นอย่างมากและ อายหยาก็คือลูกสาวของเขา ดังนั้นความจริงที่ว่านางมีสมบัติลับที่แข็งแกร่งก็ไม่ทำให้ฉื่อหยานประหลาดใจเลย
ระหว่างการเดินทาง ตั้งแต่เขาเริ่มทำหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่ม อายหยาก็กลายเป็นผ่อนคลายมากขึ้นกว่าก่อน นางจงใจซ่อนพลังที่แท้จริงของนางในการต่อสู้มากมาย รวมทั้งใช้สมบัติลับมากมายเพื่อจัดการกับศัตรูแทน แต่ด้วยความจริงที่ว่า นางได้ตัดสินใจใช้ตราประทับภูเขาและแม่น้ำในเวลานี้ก็หมายความกว่านางกำลังเผชิญกับอันตรายอย่างแท้จริง
" หึ ทุกคนต้องระวัง ถ้าอายหยาปลดตราประทับตราประทับภูเขาและแม่น้ำเมื่อ ถ้าพวกท่านเห็นโอกาสเมื่อใด ก็อย่าได้ลังเล " ฉื่อหยานมองชิเสี่ยว ซั่วชูและซั่วฉือ
กลุ่มของอายหยาทั้งสามคนมาจากเมืองจักรพรรดิขาว ซึ้งพวกเขารู้ถึงพลังของตราประทับภูเขาและแม่ดี อย่างไรก็ตาม กลุ่มของชิเสี่ยวและฉื่อหยานไม่ได้รู้อะไร พวกเขาจึงกังวล พวกเขาไม่รู้ว่าจะเกิดสถานการณ์เช่นใดขึ้น ดังนั้น เขาต้องบอกล่วงหน้าไว้
กลุ่มของชิเสี่ยวหยักหน้าเล็กน้อยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แสดงออกว่าพวกเขาเข้าใจในสิ่งที่พูดแล้ว
" ฉือเอ๋อ เจ้าอยู่ใกล้อาจารย์ไว้ และอย่าให้คลาดจากเขาเป็นอันขาด . " ซั่วชูกระซิบและบอกซั่วฉืออย่างจริงจัง " . ถ้าเจ้าคลาดจากอาจารย์ของเจ้า เจ้าต้องพึ่งพา ฉื่อหยาน เจ้านั้นอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม ดังนั้นเจ้าอย่าได้พยายามทำอะไรเด็ดขาด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของเจ้าเอง”
ชิเสี่ยวมีระดับการบ่มเพาะที่นภาที่สองระดับนภา ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขา ซั่วชูและชิเสี่ยว ได้รู้จักกันมานานหลายปี และเขาเองก็รู้ความสามารถของชิ เสี่ยวดี เขามั่นใจว่าชิเสี่ยวจะสามารถปกป้อง ซั่วฉือได้หากเกิดเหตุการไม่คาดฝันขึ้น
สำหรับฉื่อหยาน . . .
ถึงแม้ว่าเข้าจะอยู่ในระดับรู้แจ้ง แต่เขากลับมีพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซั่วชูช่วยไม่ได้ที่จะแอบชื่นชมเขา ซั่วชูเองก็อยู่ในระดับรู้แจ้งเช่นกัน และเขาก็รู้ว่าเขาแทบจะไม่สามารถปกป้องใครได้หากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น เขาไม่สามารถปกป้องซั่วฉือจาก อายหยา ไชอี้ และคนอื่นๆได้ นั่นคือเหตุผลที่เขาได้พูดคำเหล่านี้ออกไป
"ท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลตัวเองอย่างดี . " ซั่วฉือพูดเบา ๆขณะที่นางตอบด้วยดวงตาที่ส่องประกายนางยังคงกังวลเล็กน้อย " ท่านปู่ ท่านต้องระวังให้มาก สมบัติลับนั้นมีค่าก็จริง แต่ท่านไม่ควรเสี่ยงชีวิตของท่าน แม้ว่าในสมาคมการข้าท่านจะได้นับว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ที่นี่ . . . . . . . "
ซั่วชู เผยยิ้มฝืนพยักหน้า แล้วไม่พูดอะไรเลย
จริงๆ แล้ว เขาไม่รู้จะพูดอะไร สถานการณ์ในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬแตกต่างกว่าสมาคมการค้าเป็นอย่างมาก นักรบทุกคนต่างก็มีระดับการบ่มเพาะในระดับรู้แจ้งขึ้นไป และส่วนใหญ่ของพวกเขาก็ยังเยาว์ และโดดเด่นอีกด้วย หลังจากมาที่นี่ ซั่วชู ก็รู้สึกเศร้า และเป็นครั้งแรกที่เขาได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่าสถานที่เช่นสมาคมการค้านั้นน่าสงสารจริงๆ
เขารู้สึกเหมือน " กบที่อยู่ในบ่อ " นอกจากนี้ เขาได้แอบทำใจว่าเมื่อเขาออกมาจากหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬและเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะคิดเกี่ยวกับอนาคตของตระกูลซั่วให้ดี เขาจะลืมตาให้กว้างขึ้น และไม่ จำกัด ตัวเองอยู่ในสถานที่เล็กๆเช่นสมาคมการค้า
ในขณะที่ซั่วชูกำลังคิด และกลุ่มของอายหยากำลังพูดคุยกันอยู่ สะพานศพก็เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆอยู่ห่างออกไปจากทุกคนเพียงไม่กี่เมตร
ตอนนี้ กลุ่มนักบสามกลุ่มในศูนย์ของทะเลสาบก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป ดวงตาประกายแสงดุร้าย และพวกเขาเริ่มที่จะเปิดการโจมตีของไปที่ศัตรูของพวกเขา
อันดับแรก , กลุ่มนักรบทั้งสามมีเป้าหมายคือกลุ่มใกล้ๆที่มีนักรบนภาที่สามระดับนภา เพราะพวกเขาถือว่าอีกกลุ่มนั้นเป็นปัญหาหลักของพวกเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามองไปยังหายนะที่กำลังใกล้เข้ามาขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาก็เริ่มมุ่งความสนใจไปยังกลุ่มของฉื่อหยาน
ใบหน้าของ ฉื่อหยาน ชิเสี่ยว อายหยา และคนอื่นๆก็เย็นชาในขณะทุกคนเริ่มตรึงเครียด ระยะห่างระหว่างพวกเขา และหายนะนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กลุ่มของฉื่อหยานเป็นกลุ่มแรกที่จะถูกเปลวไฟ และ พายุ โจมตี หากพวกเขาไม่สามารถต้านทานหายนะนี้ได้ ในเวลาเดียวกันนักรบคนอื่นๆก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย สถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้อันตรายเป็นอย่างมาก
" จำไว้ สังเกตุการลงมือของข้าให้ดี . " อายหยาพูดด้วยเสียงจริงจัง ซึ่งคนที่อยู่ข้างๆนางก็ได้ยิน เมื่อบอกกลุ่มของนาง นางก็ถือตราประทับภูเขาและแม่น้ำ ซึ่งได้กลายเป็นแสงสีม่วงเข้มแปลกประหลาด เส้นเลือดที่มือของนางเส้นบาง ๆ ก็มีแสงสีม่วงอ่อน ซึ่งไหลช้าๆ เข้าไปในตราประทับภูเขาและแม่น้ำ
" วิ้ดดด ! "
เสียงของพายุเป็นเหมือนเสียงของภูติผีที่ดุร้าบ ซึ่งมาลอยเข้ามาอย่างช้าๆ และทันใดนั้น ก็เกิดเสียงดังก้อง . ภัยพิบัติมาแรกที่มาถึงคือพายุ ในสายลมที่รุนแรง พลังที่เป็นเหมือนกับสายน้ำของพายุก็ซํดเข้ามาและกระจายไปทั่วทะเลสาบ พายุส่องแสงประหลาด แวบไปมาเหมือนแสงสะท้อนของดาบที่เยือกเย็น
เห็นพายุซัดเข้ามา ใบหน้าของกลุ่มนักรบหกคนที่อยู่ข้างๆสีหน้าก็มืดมน . พวกเขาทั้งหมดใช้สมบัติลับของพวกเขาและสร้างม่านพลังป้องกันตัวเอง นักรบเหล่านั้นไม่เก็บซ่อนสมบัติลับของพวกเขาอีกต่อไป และใช้มันออกมาเพื่อป้องกัน เกิดเป็นเสื้อเกราะที่มีสีสันและลักษณะพิเศษสวยงาม
ซั่วฉือนางเองก็ใส่เกราะเต่ามังกรอยู่ เกราะแปลกประหลาดนี้ ทำมาจากกระดองเต่า ครอบคลุมร่างสูงของนางมากกว่าครึ่ง นอกจากสองขาที่เรียวยาวของนางแล้ว ร่างกายทั้งหมดของนางถูกปกคลุม ทำให้มันดูน่าขันเป็นอย่างมาก เป็นเกราะที่ทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวกและหนักดั่งขุนเขา
ฉื่อหยานก็แปลกใจ เขาจ้องมองนางชั่วขณะ พยักหน้าและกล่าวว่า " มันดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของเกราะเต่ามังกรแล้วสินะ ดีแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่ค่อยดีนัก แต่ความแข็งแกร่งของมันนั้นมีประโยชน์เป็นอย่างมาก .
หน้าซั่วฉือก็กลายเป็นสีแดง นางพูดอย่างเขินอาย , " เจ้าไม่ต้องมาพูด ข้ารู้ว่าเกราะนี้มันน่าเกลียด เจ้าไม่ต้องมาพูดหลอก หึ ! "
ฉื่อหยาน ก็พูดไม่ออกแล้ว ทันทีเขาก็หันศีรษะมองพื้นที่ข้างหลุมแรงโน้มถ่วงซึ่งอยู่ข้างหน้าเขา เขาเริ่มให้ความสนใจกับผลกระทบของพายุในสนามแรงโน้มถ่วง
พายุปกคลุมท้องฟ้าอย่างหนาแน่นก็เกิดเม็ดฝนเทลงมา มันตกลงมาอย่างรุนงแรง และกลายเป็นแสงแปลกประหลาดเมื่อเข้าไปในหลุมแรงโน้มถ่วง
เมื่อส่วนหนึ่งของหลุมแรงโน้มถ่วงเชื่อมต่อกับพายุ พลังที่แตกต่างกันซึ่งผสมกันอยู่ก็กลายเป็นปั่นป่วน พวกเขาดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากพายุ ซึ่งทำให้ความเร็วในการหมุนลดลง และช้าลงไปเรื่อยๆ
รู้สึกหนาวเย็นใจใจ ฉื่อหยานทันทีก็ตระหนักได้ว่าพายุที่ซัดเข้ามามีิิอำนาจในการทำลายหลุมแรงโน้มถ่วง
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่ลังเลมากเกินไป เขาใช้โอกาสนี้ที่พายุยังซัดเข้ามาได้ไม่มาก ควบคุมหลุมแรงโน้มถ่วง มือทั้งสองของเขาเคลื่อนไหวในอากาศ เกิดเป็นพลังระเบิดออกมาจากมือของเขา
เส้นไหมสีทองที่ผสมกับหลุมแรงโน้มถ่วงก็ได้รับผลกระทบจากพลังประหลาดจากมือทั้งสองข้างของเขา กลายเป็นแสงสีทองและหายเข้าไปในแหวนเก็บของ
ภายในสามวินาทีสั้นๆ เส้นไหมทองทั้งหมดก็ถูกเก็บเข้าไปในแหวน
หลังจากเส้นไหมสีทองหายไป หลุมแรงโน้มถ่วง ที่้เขาสร้างขึ้นมา ก็ถูกปกคลุมด้วยพายุอย่างสมบูรณ์
ในชั่วพริบตาเดียว พลังแข็งแกร่งที่แตกต่างในหลุมแรงโน้มถ่วงก็ถูกกลืนกินโดยพายุที่ซัดเข้ามา
หลุมแรงโน้มถ่วงก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
ที่ศูนย์ของทะเลสาบนักรบนภาที่สามระดับนภาก็มองฉื่อหยาน สักครู่ก่อนที่จะขดริมฝีปากและกล่าวว่า " มีอุปสรรคน้อยลงไปอีกอย่างแล้วสินะ "
ความจริงก็คือนักรบที่แข็งแกร่งส่วนมากในทะเลสาบนั้นหวาดกลัวกลุ่มของฉื่อหยานก็เพราะหลุมแรงโน้มถ่วง ด้วยพลังแปลกๆในหลุมแรงโน้มถ่วงและการดำรงอยู่ของเส้นไหมสีทองทำให้นักรบเหล่านั้นหวาดกลัวและทำให้พวกเขาคิดว่าเขาเป็นภัยคุกคามที่อันตรายที่สุดของพวกเขา
ตอนนี้ที่หลุมแรงโน้มถ่วงได้หายไปและฉื่อหยาน ก็อยู่ในระดบันรู้แจ้ง ในสายตาของพวกเขา กลุ่มของฉื่อหยานั้นอ่อนแอ เกินไปที่จะสร้างปัญหาให้กับพวกเขา ใบหน้าของพวกเขาก็เป็นผ่อนคลายและไม่รู้สึกว่าจะถูกคุกคามโดยกลุ่มของฉื่อหยานอีกต่อไป
ในตอนนั้นเอง แสงสีม่วงจากตราประทับภูเขาและแม่น้ำ ในมือของอายหยาปรากฏขึ้นเหนือหัวของนาง
เส้นแสงสีม่วงกระจายออกมาจากตราประมับภูเขาและแม่น้ำ เป็นเหมือนกับน้ำพุเล็กๆที่ล้นทะลักออกมาและแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วครอบคลุมเหนือหัวของทุกคนเหมือนตาข่าย
" อย่าวู่ว่ามไป ! " หน้าฉื่อหยานสีหน้าก็เปลี่ยนไป เขาไม่สามารถช่วยได้ที่ตะโกนออกมา
แสงสีม่วงของตราประทับภูเขาและแม่น้ำ ที่เป็นเหมือนน้ำพุเล็กๆก็กระจายออกไปอยู่เหนือหัวของฝูงชนและปกคลุมพื้นที่ทั่วทะเลสาบในเวลาอันนั้น อายหยา ฉวยโอกาสตอนที่ตราประทับภูเขาและแม่น้ำเปลี่ยนแปลง นางก็พูดออกมา , " ทุกคน เตรียมพร้อม !
นักรบในทะเลสาบก็มองอายหยาที่คำรามออกมา และเน้นความสนใจของพวกเขาไปที่นาง
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ