บทที่ 386 จักรวาล อารยธรรมโบราณ และ สมบัติลับ
บทที่ 386 จักรวาล อารยธรรมโบราณ และ สมบัติลับ
หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก พลังปราณลึกลับของกลุ่มของฉื่อหยานทั้งห้าคนก็อยู่ในสภาวะสูงสุด พวกเขาแต่ละคนฟื้นฟูพลังจนเต็มเปี่ยม
" ไปกันเถอะ ได้เวลาเข้าไปยังดินแดนเล้นลับแล้ว "ฉื่อหยาพูดนออกมาก่อน มองผู้อื่น และบอกพวกเขาว่า "พวกเจ้าต้องระวังให้ดี อย่าได้แยกกันในระหว่างการเดินทางที่ยาวนานนี้ เราได้รับประสบการณ์มามาก และควรเริ่มร่วมมือกันอย่างจริงจัง ข้าหวังว่าคราวนี้ เมื่อเราเข้าไปยังดินแดนเล้นลับ ทุกคนจะสามารถเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ได้ " .
ทั้งสี่คนพยักหน้าพร้อมกัน
" น้องชาย เมื่อเราอยู่ในที่ดินแดนเล้นลับ เราจะต้องพึ่งพาเจ้า หนิงเซอแน่นอนว่าต้องอยู่ในนั้นเช่นกัน ดังนั้น ถ้าเรา ถูกโจมตี เราต้องทอร์นาโดสีเทาของเจ้า " ลั่วหลี่หัวเราะและพูดออกมา
ในระหว่างทาง เมื่อถึงเวลาวิกฤต พลังอันมหาศาลของหลุมแรงโน้มถ่วงนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก ในสายตาลั่วหลี่ หลุมแรงโน้มถ่วงที่ฉื่อหยานเรียกออกมาเป็นคลื่นน้ำวนมรณะ ไม่มีใครแข็งแกร่งพอที่จะหลีกเลี่ยงจากความตายนี้ได้เมื่อเข้าไป
เมื่อเข้าสู่ดินแดนเล้นลับ นั่นหมายถึงว่าพวกเขาจะได้พบกับนักรบที่แข็งแกร่งจากทุกที่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นี่ทำให้ลั่วหลี่ กังวลเล็กน้อย และดังนั้น เขาต้องการพึ่งพา ฉื่อหยาน
" ข้าจะทำให้ดีที่สุด ตราบใดที่เจ้าเชื่อใจข้า และไม่ลอบทำร้ายข้า ข้าก็จะปกป้องพวกเจ้า " ฉื่อหยานมองอายหยาและ ไชอี้แล้วพูด " ถ้าพวกเจ้ามีความคิดชั่วร้ายในขณะที่ข้าอยู่ในอันตราย ก็ได้อย่าโทษข้าที่ไร้เมตตา”
อายหยาและ ไชอี้กระแอมออกมา แต่ไม่ได้พูดอะไร
" ไปกันเถอะ " ฉื่อหยาน พูดอย่างไม่แยแส เขาเผยรอยยิ้มอ่อน เขาเป็นคนแรกที่กระโดดลงในพื้นที่มีหมอกหนา ด้วยความระมัดระวัง
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาลงไปในพื้นที่ที่ควันสีเทากำลังเข้มข้น เขาก็ตระหนักว่า งูเหลือมใหญ่ยาวสีม่วงอย่างรวดเร็วก็พุ่งมาที่เขาราวกับเห็ฯเหยื่อ
" จิตวิญญาณมลายสายฟ้า ! "
ฉื่อหยานไม่สามารถช่วย ที่จะร้องออกมาและสั่นสะท้าน เขาตระหนักได้ถึงพื้นที่สั่นสะเทือน กลิ่นอายทำลายล้างทันทีก็ปกคลุม
งูเหลือมสีม่วงก็กลับคืนสภาพปกติ หลังจากฉื่อหยานหายไป พวกมันก็ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่เขาอีกต่อไป
" ทำไมพวกมันถึงมุ่งมาหาข้า ? " หน้าฉื่อหยานก็เย็นชา เขาจ้องมองอย่างไร้อารมณ์ไปที่ไชอี้และอายหยา " เจ้าตั้งใจหลอกข้ารึ ? เจ้าบอกว่าจิตวิญญาณมลายสายฟ้าจะโจมตีวิญญานของนักรบระดับพระเจ้าเท่านั้น ข้าเป็นเพียงนักรบระดับรู้แจ้ง ทำไมจิตวิญญาณมลายสายฟ้าจึงต่อต้านข้า? "
เขาไม่สามารถช่วยได้ที่จะสงสัย ถ้าไม่ใช่เพราะเขาได้ใช้ก้าวอัศนีและประกายแสงดาราเคลื่อนย้ายออกมา วิญญาณของเขาคงถูกจิตวิญญาณมลายสายฟ้าโจมตีและวิญญานหลักของเขาคงถูกทำลายไปแล้ว
ถ้าวิญญาณหลักถูกทำลาย มันหมายถึงว่าเขาจะหายไปจากกาลเวลา
" เป็นไปไม่ได้ " ใบหน้าสวยของไชอี้ก็เปลี่ยนไป เห็นฉื่อหยานโกรธ นางก็รีบอธิบาย " ข้าเคยได้ยินจากผู้อาวุโสของข้า จิตวิญญาณมลายสายฟ้ารอบๆดินแดนเล้นลับนี้มีจุดมุ่งหมายที่นักรบระดับพระเจ้าขึ้นไป ' ผู้อาวุโสคงไม่หลอกข้าแน่ แล้วเหตุใดเจ้าจึงได้รับผลกระทยจากจิตวิญญาณมลายสายฟ้ากัน ? นี่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน "
ลั่วหลี่ก็พยักหน้า และพูดอย่างกังวล " น้องฉื่อหยาน เราไม่เคยหลอกลวงเจ้าเกี่ยวกับจิตวิญญาณมลายสายฟ้า ก่อนที่จะเข้ามายังหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ , ผู้อาวุโสของข้าเองกห็ยังบอกข้าว่าถึงแม้จิตวิญญาณมลายสายฟ้าจะมีพลังที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่มันก็มีผลกับนักรบระดับพระเจ้าทั้งสามเท่านั้น ทำไมเจ้าถึงได้รับผลกระทบ ?
" ข้าไม่ได้โกหกเจ้า " อายหยากระแอมออกมา และกล่าวว่า " ก่อนที่เราจะออกจากดินแดนเล้นลับได้ เจ้านั้นสำคัญเป็นอย่างมาก เราไม่สามารถปล่อยให้เกิดเรื่องร้ายกับเจ้าได้ "
หลังจากพูดคุย อายหยาเดินเข้าไปในหมอกสีเทาอย่างระมัดระวัง งูเหลือมสีม่วงก็เปล่งเสียงน่ากลัวออกมาราวกับว่าพวกมันสามารถทำลายวิญญานได้ทุกดวง
อย่างไรก็ตาม เมื่ออายหยาอยู่ในบริเวณนั้นจิตวิญญาณมลายสายฟ้ากลับไม่ได้ทำร้ายนาง แต่คดเคี้ยว อยู่ที่ด้านหน้าของนาง.
อายหยาออกมามองฉื่อหยานและพูดอย่างเรียบเฉย " ข้าเดินเข้าไปแล้ว แต่ทำไมข้าไม่เจอเหตุการณ์เช่นเดียวกับเจ้า ? "
หน้าฉื่อหยาน กลายเป็นบึ้งตึง และเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
เมื่ออายหยาหายไปแล้ว จิตวิญญาณมลายสายฟ้าไม่มีปฏิกิริยา ซึ่งหมายถึงจิตวิญญาณมลายสายฟ้าเห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีเป้่าหมายที่นักรบที่มีระดับต่ำกว่าพระเจ้า มันพิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่กลุ่มของอายหยาพูดไม่ใช่เรื่องโกหก
ดังนั้น ทำไมเขาที่เพิ่งเข้าไปในสถานที่แห่งนั้น กลับถูกจิตวิญญาณมลายสายฟ้าตอบสนอง ?
ฉื่อหยานขมวดคิ้วเข้าหากัน แต่ก็คิดเหตุผลไม่ออก
" น้องชาย เจ้าเข้าสู่ระดับนภาแล้วรึ ? "ลั่วหลี่แอบพึมพำ มองฉื่อหยานอย่างไม่เชื่อสายตา
อายหยา และ ไชอี้หน้าสวยก็เปลี่ยนไป ดวงตาสดใส มองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ
" ถ้าข้าเป็นนักรบระดับนภา เจ้าคิดว่า เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีโอกาสกดดันข้าตลอดมารึ ? ฉื่อหยาน ไม่รู้ว่าเขาควรจะยิ้มหรือร้องไห้" . ถ้าข้ามี ระดับการบ่มเพาะสูงเช่นนั้น ข้าก็คงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่กับพวกเจ้า และคงจะไม่พยายามบุกเข้าไปยังดินแดนเล้นลับในขณะที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย . " ฟังคำอธิบานฉื่อหยาน อายหยา และ ไชอี้คิดสักพัก ก็รู้ว่าข้อสงสัยของพวกเขานั้นไร้สาระ พวกเขาแอบถอนหายใจโล่งอกออกมา
" ถ้าเจ้าไม่ได้อยู่ในระดับนภา วิญญาณหลักของเจ้าก็คงไม่เหมือนคนทั่วไปสินะ ใช่หรือไม่?" ไชอี้ ลังเลเล็กน้อย ขณะที่ดวงตาคู่สวยของนางเต็มไปด้วยประกายแสงประหลาด“ข้ามั่นใจว่าวิญญาณหลักของเจ้าและพวกเราไม่เหมือนกัน”
อายหยา และอีกสามคนก็มองไปที่เขา
ฉื่อหยาน ก็ตะลึง ในขณะที่สายตาของเขาหรี่ลง . เขก็นึกถึงเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานและวิญญาณหลักของเขาที่หลอมีวมกัน เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานคือเปลวไฟนภาซึ่งมีพลังชั่วร้ายที่สามารถเผาไหม้วิญญานได้ ?
เขาไม่ได้พูดอะไนกับกลุ่มของ อายหยาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้และมองไปยังพวกเขาที่มองเขาอย่างหวาดกลัว
หลังจากผ่านไปสักพัก ฉื่อหยานพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม " บางทีเจ้าอาจจะพูดถูก วิญญาณของข้าคงจะผิดปกติจริงๆ อืม ข้าไม่ควรโทษพวกเจ้า นี่เป็นปัญหาของข้าเอง เอาล่ะ พวกเจ้าไปเถอะ ข้าจะไปพบกับพวกเจ้าภายหลัง
" เมื่อเจ้าเข้าไป จิตวิญญาณมลายสายฟ้าจะจู่โจมเจ้า แล้วเจ้าจะเข้าไปได้อย่างไร?
" ไม่ต้องกังวล ข้ามีวิธีของข้าเอง " ฉื่อหยานมองควันสีเทา“ไม่มีอุปสรรคใดในดินแดนนี้หยุดข้าได้ ดังนั้นจิตวิญญาณมลายสายฟ้าเองก็นับได้ว่าเป็นอะไร ?ข้าสามารถข้ามไปยังดินแดนเล้นลับ และลงลึกไปยังศูนย์กลางของสถานที่แห่งนั้นได้ และข้าจะไม่ได้รับกระทบอะไรจากจิตวิญญาณมลายสายฟ้าแน่นอน”
กลุ่มของอายหยาทันทีก็นึกได้ถึงความอัศจรรย์ขิงฉื่อหยาน
ทุกครั้งที่หลงเข้าไปในดินแดนสยอง ฉื่อหยานก็สามารถหลบหนีได้โดยไร้ซึ่งปัญหาใด . ตอนนี้ ฟังจากสิ่งที่เขาพูด กลุ่มของอายหยาก็เข้าใจได้ทันที
" ไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์ในดินแดนเล้นลับเป็นยังไง เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าสามารถไปพบกับเราที่นั่นได้ ?" อายหยาคิดสักพัก แล้วถามอย่างสงสัย
" ไม่ต้องเป็นห่วง ข้ามีวิธีของข้า " ฉื่อหยานมองไชอี้
เขาฝังเมล็ดวิญญานไว้ในตัวไชอี้ ในช่วงหนึ่ง เขาสามารถตรวจสอบสถานที่ที่ไชอี้อยู่ผ่านเมล็ดนั้นได้ ดังนั้น เขามั่นใจว่า มันจะไม่ยากที่จะหาพวกเขา
" อืม " ไช่อี้รู้ว่าที่เขาพูดหมายถึงอะไร สีหน้านางก็ดูแปลกเล็กน้อย .
ไช อี้ ก็เข้าไปในหมอกสีเทา โดยไม่มองฉื่อหยาน ราวกับว่านางอยู่ในความโกรธ
อีกสามคนก็งุนงง มองไฉ่อี้ด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่รู้ทำไมนางถึงเป็นเช่นนั้น แต่ก็มั่นใจได้ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับ ฉื่อหยาน แต่พวกเขาสามก็ไม่ได้ถามเกี่ยวกับมัน หลังจากที่ไชอี้ไปแล้ว พวกเขาก็เข้าไปและค่อยๆหายไปในพื้นที่มีหมอกหนา
ฉื่อหยาน ก็ไม่ได้รีบ เขารออยู่สักพัก หลังจากพวกเขาทั้งสามคนได้หายตัวไป ก่อนจะเอากระสวยแยกนภาออกมาและจากนั้นก็พยายามจะสื่อสารกับมัน . " พาข้าผ่านอุปสรรคที่อยู่ข้างหน้า หลีกเลี่ยงการทำลายวิญญาณ จากจิตวิญญาณมลายสายฟ้า และตรงลึกลงไป ข้าจะต้องใช้พลังปราณลึกลับเท่าใด ?
" หนึ่งในสาม "
" ตกลง ข้าจะถ่ายทอดพลังให้เจ้า แล้วเจ้าก็พาข้าไป "
" ย่อมได้ "
กระสวยแยกนภา สร้างช่องว่างสีเงินที่งดงาม และนำฉื่อหยานเข้าไปข้างใน เมื่อฉื่อหยานผ่านพื้นที่หมอกไป จิตวิญญาณมลายสายฟ้ารอบๆก็ไม่ทำอะไรกับช่องว่างสีเงินเพราะกระสวยแยกนภาได้สร้างม่านพลังป้องกันเขาไว้ ทำให้เขาไปด้านหน้าอย่างสบาย
ระลอกคลื่นก็กระจายออกมาจาก ร่างของฉื่อหยาน ก็พุ่งลงไปราวกัยสายฟ้าฟาดในพริบตา
หลังจากปรากฏคัวอีกคีั้งฉื่อหยานรู้สึกว่าเขาอยู่ในเมืองเก่าแก่งดงาม มีอาคารที่ถูกสร้างจากหินโบราณสูงร้อยเมตร อาคารเหล่านี้มีด้วยกันหลายสิบหลัง ซึ่งดูเหมือนภูเขาขนาดเล็ก ถนนในเมืองโบราณขยายออกไปทุกทิศทาง พวกเขาทั้งหมดมีผิวเรียบและทำให้ก้อนหินสีเขียวที่ดูแข็งแกร่ง .
ทั้งสี่ด้านรอบเมืองโบราณมีภูเขาขนาดใหญ่อยู่สีแห่ง ภูเขาทั้งสี่มีสัญลักษณ์อยู่สี่แบบ เป็นรูป เต่าดำ มังกรสีครามคดเคี้ยวไปมา นกสีแดงเริงระบำ และพยัคฆ์ขาวที่ดูกราดเกรี้ยว ภูเขาทั้งสี่มีขนาดใหญ่และล้อมรอบเมืองโบราณ
สองแม่น้ำกว้างใหญ่ไหลลงมา แขวนอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมืองโบราณ เป็นแม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน, เปล่งแสงระยิบระยับสวยงาม
เหมือนกับจักรวาลสองแห่ง ระเบิดขึ้นมาจากแม่น้ำสองสาย มีอารยธรรมที่เห็นได้ชัดลอยอยู่บนน้ำที่เป็นเหมือนกับทางช้างเผือก ผู้คนสามารถมองเห็นแสงแห่งพระเจ้าส่องชัดขึ้นในจักรวาล ราวกับว่ามีสมบัติลับบางอย่างที่มีจิตวิญญานกำลังทำงานอยู่ใสจักรวสล
เมืองโบราณ , สี่ภูเขา และจักรวาล่ที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้าทั้งหมด องค์ประกอบเหล่านี้ดูแปลกประหลาดแต่กลับงดงาม
หลังจากปรากฏตัว ฉื่อหยานทันทีก็มองสองจักรวาลที่แขวนอยู่เหนือหัวของเขาที่ส่องประกายคลื่นแสงงดงาม
เขารู้สึกได้ถึงพลังที่รุนแรงกระจายออกมาจากจุดที่บรรจบกัน พลังนี้น่าหวาดกวั่นเป็นอย่างมาก และดูเหมือนไม่มีสิ้นสุด
ภูเขาขาดใหญ่ทั้งสี่ล้อมรอบเมืองโบราณ เป็นสัญลักษณ์สี่แบบเป็นรูป เต่าดำ มังกรสีครามคดเคี้ยวไปมา นกสีแดงเริงระบำ และพยัคฆ์ขาวที่ดูกราดเกรี้ยว ซึ่งเป็นรูปแบบการดูดวงนำไปสู่ความมั่งคั่งและโชคลาภ นี้ย่อมหมายความว่าดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนที่เจริญรุ่งเรือง ซึ่งหาได้ยากมากบนท้องฟ้าและพื้นดิน และได้รับพร และความคุ้มครองจากสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์ โบราณทั้งสี่
ในเมืองโบราณอันงดงามแห่งนี้ ร่างบางร่างก็ปรากฏในอาคารเหล่านั้น พวกเขาทั้งหมดเป็นนักรบที่สามารถเข้ามาในดินแดนเล่นลับ นักรบเหล่านั้นมีใบหน้าเย็นชา บางคนก็ยกหัวมองท้องฟ้า ดูภูเขาล้อมรอบทั้งสี่ตาม ราวกับว่าพวกเขารู้อะไรบางอย่าง
ฉื่อหยาน ยืนอยู่บนถนนโบราณและก็สามารถระบุตำแหน่งของไชอี้ได้อย่างรวดเร็ว ผ่านเมล็ดวิญญานที่ฝังอยู่ในวิญญานหลัก
เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ , ฉื่อหยาน ก็เลิกสนใจดินแดนเล้นลับชั่วคราวและทันทีก็ใช้ประกายแสงดารา กลายเป็นกลุ่มแสงพุ่งไปทางกลุ่มของไชอี้ทั้งสี่คน
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ