บทที่ 376 เส้นไหมสีทองนับไม่ถ้วน
บทที่ 376 เส้นไหมสีทองนับไม่ถ้วน
พวกเขาเป็นนักรบแปดคน พวกเขาทั้งหมดสวมใส่ชุดสีทองเครื่องแต่งกายด้วยรูปแบบพระราชวังหรูหราปักลายก้อนเมฆสีทองบนหน้าอกของพวกเขาและพวกเขาก็สวมหมวกสีทอง
แปดนักรบเป็นรุ่นเยาว์มากพรสวรรค์พวกเขาทั้งหมดมีอายุประมาณ 20 ปีถึง 30 ปี พวกเขาสามคนอยู่ในระดับนภา ; อีกสองและสามคนอยู่ในนภาที่สามระดับนภา
ผู้นำของนักรบทั้งแปดนี้มีผมสั้น สีเงิน เหมือนเส้นสายหมอกควัน เขายืนตรงเปี่ยมไปด้วยพลัง
ทันทีที่เขามาถึง เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ซึ่งสะดังเจาะเข้าไปในหู ดวงตาของเขาจ้องไปที่อายหยาและไชอี้ด้วยความมากตัณหา
เจ็ดนักรบที่เหลืองล้อมรอบกลุ่มของฉื่อหยานอย่างรวดเร็วโดยท่าทีที่ไม่เป็นมิตร
อายหยาและ ไชอี้ หน้าสวยก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยและไม่สงบเช่นเดิม บ่งบอกได้ชัดถึงความกลัว
ใบหน้าของสองพี่น้องลั่วหลั่นและหลั่วหลี จ้องมองอย่างประหลาด ตาของพวกเขาส่องประกายคลุมเครือ ดูเหมือนพวกเขา เริ่มที่จะคิดหาทางหนี .
ความแข็งแรงโดยรวมของกลุ่มนักรบแปดคนนั้นนับได้ว่าเหนือกว่ากลุ่มของฉื่อหยาน . เสี้ยวแสงที่แหลมคมก็ออกมาจากดวงตาของนักรบระดับนภาทั้งสามที่ดูหยิงพยองและแรงกดดันที่แข็งแกร่งก็ทะลักออกมา
เมื่อฉื่อหยานเห็นนักรบเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้น และเห็นปฏิกิริยาของอายหยาและไชอี้ เขาทันทีก็ตระหนักได้ว่านักรบทั้งแปดเหล่านี้จะต้องมาจากขุมพลังที่เหนือกว่าอายหยาและไชอี้ ดูเหมือนพวกนางจะหวาดกลัว เขารู้เลยว่านี่จะต้องเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก
" หนิงเซ่อ เจ้าต้องการอะไร ? " อายหยาหลี่ตาลงอย่างเงียบๆ พวกนางรวบรวมความแข็งแรงของนางอย่างเย็นชา มองกลุ่มคนเหล่สนั้น และกล่าวว่า " สมาคมนักรบ และวังสวรรค์ไม่เคยมีความขัดแย้งใดๆกันมาก่อน ตอนนี้เจ้ากลับมาสร้างปัญหาให้เรา เจ้าอยากจะเริ่มสงครามงั้นรึ "
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า " ผู้นำหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างดัง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้สนใจคำขู่ของอายหยา " ถ้าเราเจอกันในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ข้าแทบจะไม่กล้วทำให้เจ้าทำบาก แต่ที่นี่ ที่หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬแห่งนี้ พวกเรามาที่นี่เพื่อทำสงครามกับขุมพลังทุกหนแห่ง ตั้งแต่พวกเจ้าตัดสินใจมาที่นี่ พวกเจ้าก็ควรเตรียมใจไว้ ถ้าพวกเจ้าไม่แข็งแกร่ง นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของพวกข้า "
หลังจากได้ยินที่นักรบพูด สีหน้าอายหยาก็มืดมัวไป นางกล่าวว่า " เจ้าต้องการจะสู้งั้นรึ ?
" ไม่ใช่ " หนิงเซอ เผยรอยยิ้มบางๆที่เขาแอบขยิบตาให้อีกสองนักรบระดับนภาที่กำลังเผยรอยยิ้ม“กับลูกสาวของเจ้าเมืองจักพรรดิขาว และข้าผู้มีอิทธิพลในวังสวรรค์ ตราบใดที่เจ้าสัญญาว่า จะแต่งงานกับข้า ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า และเข้าร่วมกับกลุ่มของเจ้าในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ เจ้าคิดว่าไง ?”
" ฝันไปเถอะ " อายหยาพูดออกมาและแสดงลักษณะอย่างดูถูกเหยียดหยาม .
" เจ้าทำให้ข้าต้องลงมือเองนะ " รอยยิ้มบนใบหน้า หนิงเซอ ก็หายไป และดวงตาที่เย็นชาก็ปรากฏ " แต่ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นคนสูงศักดิ์๋ในเมืองจักพรรดิขาว ก็ไม่มีค่าในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถ้าเจ้าไม่เต็มใจที่จะยอมรับข้อเสนอของข้า นั้นก็เท่ากับว่าเจ้าช่วยให้ข้าบรรลุเป้าหมายเร็วขึ้น " .
หลังจากพูด หนิงเซอ ก็ตะโกนด้วยรอยยิ้มเย็นชา " ปล่อยให้สองสาวนี้มีชีวืตอยู่ ส่วนที่เหลือฆ่าให้หมด . "
หลังจากที่สั่งออกมา นักรบแปดคนจากวังสวรรค์ก็ตะโกนด้วยเสียงแหบแห้งพร้อมกัน
นักรบระดับนภาที่อยู่ข้าง หนิงเซอ ก็กระจาย และบุกไปที่อายหยาและไชอี้ . ส่วนนักรบระดับรู้แจ้งที่เหลือก็มุ่งไปที่ ฉื่อหยาน บอค ลั่วหลี่ และ ลั่วหลั่น
นักรบจากวังสวรรค์เหล่านี้สวมใส่ชุดสีทอง ระดับการบ่มเพาะและสมบัติของพวกเขาวิเศษมาก พวกเขาร่ำรวยและมีอำนาจ
นักรบนภาที่สามระดับรู้แจ้งสีหน้าตอนนี้ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากในขณะที่มือของเขาพองใหญ่ขึ้นโจมตีไปที่ฉื่อหยาน , กลายเป็นลำแสงเจิดจ้า
ทันทีมือทั้งสองของนักรบก็ส่องประกายแสงที่แข็งแกร่ง
ร่องรอยของพลังปราณลึกลับก็ทะลักออกมาจากมือเขา มือของเขาบวมมากขึ้น ซึ่งทำให้ดูแปลกประหลาด
มือของเขากางออก และฝ่ามือของเขาก็ปรากฏเส้นไหมออกมามากมาย . เส้นไหมทองเหล่านี้เชื่อมต่อกับฝ่ามือของเขา พวกมันดูคมเป็นอย่างมาก และคล่องแคล่วเหมือนเข็มเหล็กพุ่งตรงไปยังฉื่อหยาน
"บุชชชช "
เสียงหวีดหวิวก็ดังขึ้น เกล็ดสีทองก็กระจัดกระจายไปทั่ว ขยายมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นหนาแน่น และปกคลุมฉื่อหยานทั้งหมด
ใบหน้าฉื่อหยานก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาขมวดคิ้วเข้าหากันและก็ส่องประกายแสงดวงดาว , ตามเส้นทางโคจรของดวงดาว เขาก็ปรากฏตัวอยู่ด้านข้างอย่างรวดเร็ว
บรรดาเส้นไหมสีทอง ทิ่มลงไปยังจุดที่ฉื่อหยานเคยอยู่ พวกมันบดขยี้หินก้อนนั้นเป็นเสี่ยงๆเหมือนกับเต้าหู้
" ไหมทองคำ !
เสียงหัวเราะเย็นชาก็ดังเข้าหูเขา ไหมพวกนั้นก็พุ่งมาอีกครั้งเหมือนประกายสายฟ้า , พุ่งไปยังฉื่อหยาน .
นักรบเหล่าจากวังสวรรค์เหล่านี้ ดูเหมือนจะมีวิชาที่แข็งแกร่งและแปลกประหลาด ภายในฝ่ามือของพวกเขาปรากฏเส้นไหมสีทองซึ่งมีความคมเป็นอย่างมากซึ่งสามารถตัดทุกสิ่งได้
หลังจากมองคนอื่น ฉื่อหยาน ก็ตระหนักได้ว่าพวกเขากลัวเส้นไหมทองเหล่านี้ และไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้ๆเขา
มองเห็นเส้นไหมสีทองพุ่งมาด้านหน้า กลุ่มของอายหยาทันทีก็กระจัดกระจายกันออกไปราวกับว่ากลัวไหมสีท้องจะทิ่มแทง
หนิงเซอ ยืนยิ้มอย่างไม่แยแสขณะมองไปที่ฉื่อหยาน . ดวงตาเจ้าเล่ห์ของเขาจ้องไปที่ร่างของอายหยาและไชอี้ เขาดูเหมือนจะรอพวกนางทั้งคู่ถูกจับเพื่อให้เขาสามารถเพลิดเพลินกับความสุขกับพวกเขา
ฉื่อหยาน ไม่รู้ที่มาของวังสวรรค์ หรือสมาคมนักรบ อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ยินการสนทนาระหว่างอายหยา และ หนิงเซอ เขาก็ตระหนักได้ว่าพวกเขามาจากดินดินศักดิ์สิทธิ์ และเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าอายหยา หนิงเซอ จะยังเด็กอยู๋ พวกเขาก็กลับอยู่ในระดับนภา ดังนั้น , ฉื่อหยาน สามารถจินตนาการได้เลยว่ากองกำลังของพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน
เส้นไหมทองของพวกเขายืดหยุ่นมาก มันสะท้อนแสงน่ากลัวและส่งเสียงหวีดหวิวออกมา
นักรบผู้ไล่โจมตี ฉื่อหยาน นั้นดูเหมือนจะไม่กังวลอะไรเลย หลังจากที่เขาโจมตีครั้งแรกพลาด เขาก็ยังคงกระตุ้นพลังของเขา
เส้นไหมสีทองที่บินออกมาจากฝ่ามือของเขาขยายขยายออกไปเพื่อฉื่อหยานอย่างต่อเนื่อง
มีร่องรอยของจิตสำนึกวิญญาณที่บางเบาในเส้นไหมสีทอง นักรบจากวังสวรรค์ดูจะถ่ายทอดจิตสำวิญญาณของพวกเขาลงในเส้นไหมพวกนี้ ทำให้พวกเขาสามารถควคุมมันได้ไม่ว่าฉื่อหยานจะพยายามหลีกเลี่ยงมันเท่าใดก็ตาม ไม่ว่าเขาจะไปไหน เส้นไหมทองเหล่านี้ก็ตามเขาไป
นักรบ ' มือบวมเป่งตลอดเวลาและส่องแสงที่ดูเหลมคมออกมา
เส้นไหมสีทองปกคลุมทั่วท้องฟ้า มันรวดเร็วเหมือนกับสายฟ้าสีทอง กระพริบไปมาบนท้องฟ้า ทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกหวาดกลัว
" อ๊าาา "
บอค ที่มีก็กรีดร้องออกมาอย่างเศร้าโศก เขาหลบเส้นไหมทองคำแล้วแต่ก็มีเส้นไหมเส้นหนึ่งที่ตัดผ่านเขาไป และตัดส่วนของขาจนเลือดไหลออกมาเหมือนกับดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ
บอค เอาแต่ตะโกนว่าและดิ้นไปมาขณะที่มอง ไชอี้ ด้วยสีหน้าเศร้าโศกเพื่อต้องการให้นางช่วย
แหวนบนนิ้วของ ไชอี้ ทั้งหมดก็บินออกไป แหวนแต่ละวงประทะกันเกิดเป็นเพียงไพเพราะ และม่านพลังแสงก็ปรากฏขึ้นและปกคลุมร่างกายที่สวยงามของนางทั้งหมด เพื่อป้องกันนางจากการถูกทำลายโดยเส้นไหมทองคำ
นักรบระดับนภา มือที่บวมเป่งของเขาก็เป็นเหมือนกับท่อน้ำที่ผลิตสายน้ำสีทองออกมา
เส้นไหมสีทองบินออกมาจามือบวมเหมือนงูเหลือมที่พุ่งออกไปอย่างปราดเปรียบ และค่อย ๆล้อมรอบร่างของนาง
ท่าทางสง่างามของนางก็ดูน่าเศร้า วงกลมแสงและเส้นไหมสีทองก็ชนกัน , เกิดเป็นประกาย ส่องสว่างไปทั่ว
แม้ว่า ไชอี้ จะมีระดับการบ่มเพาะที่สูง แต่นางก็ไม่สามารถออกไปจากเส้นไหมสีทองที่ล้อมรอบนางได้ เมื่อนางเห็น บอค นางก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป แต่มันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับนางที่จะเอื้อมมือไปช่วยเขา
" เส้นไหมทองคำเฉือดเฉือน . "
นักรบที่กำลังจัดการกับ บอค ก็เผยยิ้มเยาะเย็น มากกว่าสิบเส้นไหมทองก็บินออกจากมือบวมของเขา พุ่งไปยัง บอค อย่างรุนแรงและปกคลุมเขาทันที
สีทองสว่างสดใสเป็นประกาย ภายใต้สายตาของ ฉื่อหยาน , ร่างกาย บอค ก็กลายเป็นชิ้นเนื้อและกระดูก
บอคที่อยู่ในนภาที่สามระดับรู้แจ้งนั้น ไม่สามารถที่จะหลบหนีได้และถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ภายใต้เส้นไหมทองนับไม้ถ้วนที่ถูกควบคุม
ก่อนบอคตาย ฉื่อหยาน ก็เห็นเส้นไหมสีทองพุ่งออกมาจากหลังของบอค
นักรบที่กำลังต่อสู้กับ ลั่วหลี่อยู่นั้น อยู่ดีๆ ก็แบ่งพลังส่วนหนึ่งของเขาออกมาและได้แอบใช้เส้นไหมทองแทงทะลุร่างบอค ทำให้เขาไม่สามารถที่จะรวบรวมพลังของเขาได้
เส้นไหมสีทองนั้นเป็นวิชาต่อสู้ที่แข็งแกร่งมันเป็นเอกลักษณ์ทิพย์ของนักรบจากวังสวรรค์ ถ้าพวกเขาต้องการที่จะฝึกฝนมันให้สำเร็จ พวกเขาจำเป็นต้องเก็บตัวไหมที่ที่เกิดจากการดินเส้นไหมทองนับไม่ถ้วน จากในสถานที่ลับของดินดินศักดิ์สิทธิ์ และจะต้องฝึกฝน และปลูกฝังซีมซับมันเข้าไปในร่างกาย
นักรบแต่ละคนที่ได้ฝึกฝนวิชาลับนี้ทั้งหมดล้วนจะต้องมีจิตวิญญานรูปแบบทองคำ พวกเขาต้องใช้จิตวิญญานต่อสู้และพลังปราณลึกลับเพื่อบำรุงตัวไหมทองคำ ผสมเลือด จิตสำนึกวิญญาน และพลังปราณลึกลับเข้าไปในตัวไหมทองคำ
หลังจากผ่านไปหลายปีจากการบ่มเพาะที่ยากลำบาก ,ตัวไหมที่ถูกบ่มเพาะและดูดซับเข้าสู่ร่างของนักรบ ' ไม่เพียงแต่จะสามารถเรียกเส้นไหมทองคำนับไม่ถ้วนออกมาได้ แต่ยังสามารถเชื่อมต่อ เชื่อมต่อจิตสำนึกวิญญานกับเส้นไหมพวกนั้นและควบคุมตามต้องการได้
การฝึกฝนวิชาลับเส้นไหมทองคำนี้เป็น อันตรายอย่างยิ่งสำหรับนักรบจากวังสวรรค์ . ร่างกายของพวกเขาจะถูกแยกออกทันทีหากพวกเขาประมาท
นักรบวังสวรรค์ที่สามารถฝึกฝนวิชาลับนี้ได้ จะต้องเป็นคนที่โหดเหี้ยมอำหิต ไม่กลัวแม้แต่การสละชีวิตของตน
นักรบจะเป็นอันตรายมากเมื่อพวกเขาฝังและดูดซับตัวไหมเข้ามา และเมื่อใช้วิชาลับนี้ ถ้าไม่แข็งแกร่งพอและไม่มีวิธีรับมือ ตัวไหมสีทองเหล่านี้ก็จะแยกร่างนักรบเหล่านั้น
บอค ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้และขาก็ุถูกตัดออกอีกทั้งยังมีเส้นไหมทองคำที่เจาะมาที่ด้านหลังของเขา ด้วยสิ่งเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าเขาคงไม่สามารถหนีรอดจากความตายได้แม้ว่าเขาจะอยู่ในนภาที่สามระดับรู้แจ้ง
ทันทีที่เขาเสียชีวิต กลิ่นอายพลังของเขาก็เข้าไปในร่างของฉื่อหยาน .
ฉื่อหยาน หลีกเลี่ยงเส้นไหมทองคำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็น บอค ตาย ฉื่อหยานก็แอบเข้าไปใกล้อย่างเงียบๆและดูดกลิ่นอายพลังจากศพของบอค .
รู้สึกถึงกลิ่นอายพลังของบอคที่ไหลเข้ามา ฉื่อหยาน , ก็มองเส้นไหมที่รอยไปมาบนท้องฟ้าอย่างใจเย็น และก็ยิ้มจนเห็นฟัน อย่างเงียบๆ เขาก็วางแผนชั่วร้ายในหัวของเขา
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ