บทที่ 365 สัตว์อสูร ,กับดักอันตราย และ มนุษย์
บทที่ 365 สัตว์อสูร ,กับดักอันตราย และ มนุษย์
“ข้าชื่่อลั่วหลี่”
" ส่วนข้าลั่วหลัน ”
สองคนนี้ต่างก็มีข้าสีบลอนด์ตาสีฟ้าและร่างกายที่แข็งแกร่ง เขามองมาที่ฉื่อหยาน และ , , แนะนำตัวเอง
" ข้า ฉื่อหยาน " .
" ยินดีที่ได้รู้จัก ฉื่อหยาน . ฉันหวังว่าเราจะเข้ากันได้ดีระหว่างการเดินทางนะ . "
หลังจากคุยกันเสร็จ ทั้งสองคนก็ยิ้มและ เดินไปที่อื่นด้วยกัน ห่างจากไชอี้และอายหยาไม่กี่ร้อยเมคร แล้วนั่สงลง
พวกเขาคนหนึ่งก็หยินผลึกอสูรออกมาและนั่งสมาธิเพื่อฟื้นคืนความแข็งแกร่งของเขา อีกคนก็ยืนอยู่ข้างๆ จ้องมองออกไปด้วยความว่างเปล่าเหมือนอยู่ในภวังค์
ฉื่อหยาน ยังคงสงบและแอบสังเกตสองพี่น้อง ลั่วหลัน ลั่วหลี่ . แล้วเขาก็มองไปทาง ไชอี้ และบอคที่กำลังพูดคุยกัน และพูดกับตัวเอง "ดูเหมือนคนกลุ่มนี้จะแยกเป็นสัดส่วนของตน"
ในขณะที่ ไชอี้ ฟื้นคืนพลังปราณลึกลับของนาง บอคที่เฝ้าระวังอยู่กลับกลาบเป็นตื่นตัวเมื่อเห็น ลั่วหลั่น ลั่วหลี่ เคลื่อนไหว
มันกลับกลายเป็นว่า กลุ่มคนทั้งห้านี้ไม่ได้มีความสามัคคีกัน พวกเขาต่างก็ระมัดระวังกันเอง
และ ไชอี้ และชายหนุ่มที่ชื่ิอบอค คือกลุ่มหนึ่ง , และพี่น้อง ลั่วหลัน ลั่วหลี่ก็คือกลุ่มที่สอง ข้างๆก็คืออายหยาที่อยู่คนเดียว ถึงแม้ว่าทั้งสามฝ่ายจะเดินทางไปด้วยกัน พวกเขากลับไม่ได้ไว้ใจกันและกัน และระมัดระวังกันอยู่เสมอ พวกเขามีความระมัดระวังเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขากำลังฟื้นคืนพลังของพวกเขา มันเป็นเรื่องง่ายเพื่อดูออกว่าทั้งห้าคนนี้ไม่ได้เข้ากันดีอย่างที่คิดไว้
หลังจากการสังเกตคนเหล่านี้สักพัก ฉื่อหยาน ก็ตระหนัได้กถึงความสัมพันธ์แปลกๆ ของพวกเขา เขาจึงไม่กล้าปล่อยวางและระมัดระวังตัวมากขึ้น
หลังจากที่ 2 พี่น้องลั่วหลันได้แนะนำตัวเอง อายหยาก็ขมวดคิ้ว และเดินไป ฉื่อหยาน . นางหยุดห่างไปสิบเมตรจากเขาและพูดอย่างเย็นชาว่า , " ข้าอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับทะเลไม่มีสิ้นสุดเล็กน้อย เจ้าสามารถบอกให้ข้าฟังได้หรือไม่ ? " หญิงสาวในชุดผ้าไหมกับเข็มขัดหยกเล็ก ๆ ของนางที่พันรอบเอว นางงดงาม ขาตรง ต้นขาของนางไม่เปิดเผยผ่านผ้าบางๆทำให้ดูน่าหลงใหล
นางยืนอยู่คนเดียว ขนตาของนางยาวมาก และ ดวงตาที่ชัดเจนของนางก็ใสเหมือนน้ำ บางครั้งก็แวบขึ้นด้วยประกายแสงราวกับว่าพวกมันต้องการดึงวิญญานออกจากดวงตาของเขา
ก่อนหน้านี้ , เป็นฉื่อหยานที่อยู่ไกลออกไป และตื่นตัวเมื่อได้พบนางครั้งแรก เขาไม่ได้สังเกตนางอย่างรอบคอบ
ขณะที่นางกำลังใกล้เข้า ฉื่อหยาน ก็จ้องมองนางและช่วยไม่ได้ที่จะชื่นชมนาง เขาไม่เคยคิดว่าผู้หญิงคนนี้คืจะทำให้ใจเต้นได้ ความงามของนางอาจจะเทียบกับ เซี่ยซินหยาน และ ฉาวจื่่อหลาน
" ทะเลไม่มีสิ้นสุดอยู่ทางทิศตะวันตกของหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ แบ่งแยกเป็นทะเลห้าส่วนที่มีนักรบรวมกัน ได้แก่ ทะเลเคียร่า ทะเลเหิงลั่ว ทะเล . . . . . . . ‘’
ฉื่อหยานกล่าวด้วยเสียงต่ำและใบหน้าสงบ เค้าบอกนางเกี่ยวกับสถานการณ์ของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดแต่ไม่ได้พูดถึงกองกำลังของเผ่าอสูรและเผ่าทมิฬที่บุกมา หรือเรื่องที่มาหรือเรื่องสถานการณ์ของเขาในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด
" ช่างเป็นสถานที่ ที่น่าสนใจนัก " อายหยาขนตายาวสั่นเล็กน้อยขณะที่นางกระซิบ และจ้องมองอย่างรอบคอบ นางก็มองไปทางเขาอย่างสงสัยและถามว่า " ทำไมเจ้าถึงมาที่หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬนี่ ? เจ้ามาที่นี่เพื่อไปยังศูนย์กลางแผ่นดินรุ่งเรืองงั้นรึ ? "
" ข้ามาที่นี่ก็เพื่อตัวข้าเอง " ฉื่อหยานกล่าวว่า " เป็นธรรมดา การบ่มเพาะของข้าอยู๋สภาวะคอขวด ข้าเคยได้ยินว่ามีความลึกลับมากมายในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ก็เลยมาลองเสี่ยงโชคของข้าเพื่อหาว่ามีบางสิ่งที่ทำให้ข้าก้าวหน้าได้หรือไม่”
อายหยาดวงตาก็สดใสขึ้นในขณะที่นางพยักหน้า " ดูเหมือนทะเลไม่มีสิ้นสุดจะมีนักรบดีๆอยู่บ้างนะ ‘’
ฉื่อหยานแสยะ แต่ไม่ได้พูดอะไร
" หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬมีอันตรายที่ควรระวังมากอยู่สามอย่าง ; สัตว์อสูณ , กับดักที่อันตรายและมนุษย์ ‘’
นางลังเลเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ " สัตว์อสูรนั้นง่ายที่สุดที่จะรับมือ กับดักอันตรายเป็นอันดับาอง ส่วนมนุษย์นั้นไม่อาจคาดเดาได้ และเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด เจ้าควรจะระมัดระวังเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่
" มนุษย์ ? " หน้าฉื่อหยานก็มืดมัวไป
" ใช่แล้ว เผ่าพันธ์ของพวกเราเองนี่แหละ " อายหยาพยักหน้าอย่างจริงจัง มองไปที่กลุ่มของ ไชอี้ ลั่วหลี่ แล้วพูดกับ ฉื่อหยาน , " เจ้าจะต้องระมัดระวังคนที่อยู่ข้างๆเจ้าให้ดีในที่แห่งนี้ คำว่า สหายนั้นไรความหมาย ในช่วงเวลาวิกฤต ไม่เพียง แต่พวกเขาจะไม่น่าไว้ใจ แต่พวกเขายังเป็นภัยถึงอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ "
หลังจากพูดจบ นางดูเหมือนจะอยากพูดต่อแต่ก็หยุดครุ่นคิด ไม่กี่วินาทีก็แสดงลักษณะที่ซับซ้อนแล้วหันไปที่ฉื่อหยานอย่างรวกเร็วและกล่าวมา " การอยู่คนเดียวบางครั้งก็ปลอดภัย เจ้าเป็นคนเดียว ดังนั้น เจ้าควรดูแลตัวเองด้วย "
เมื่อต้นขาอวบใต้ผ้าบางขยับเล็กน้อย นางก็เคลื่อนไหวออกไปร้อยเมตรออกอย่างรวดเร็วและหายไปในอากาศ
กลุ่มของ ลั่วหลัน และ บอคที่กำลังเฝ้ายามอยู่ก็ถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นแต่บินออกไป ความระวังของพวกเขาเยผ่อนคลายลงเล็กน้อยขณะที่พวกเขารู้สึกเบาใจและนั่งลง
ฉื่อหยานก็คิดภายในหัวใจของเชา
ผ่านรายละเอียดเล็ก ๆ นี้ ทันทีที่เขารู้ว่าอายหยาอาจเป็นอันตรายมากที่สุดในกลุ่มนี้
ในหมู่เหล่านักรบทั้งห้า มีเพียงไชอี้ที่มีระดับนภา ในขณะที่คนอื่น อยู่ในนภาที่สามของระดับรู้แจ้ง ฉื่อหยานจำคำพูดเหล่านั่นได้ และก็ได้รู้ว่าในกลุ่มไม่มีใครมีเจตนาดีหรือสามารถไว้วางใจได้
ในหมู่พวกเขา ผู้ชายที่ชื่อบอคเป็นคน ใจร้อนและหงุดหงิดง่าย ง่ายที่สุดที่จะจัดการ
ที่เหลืออีกสี่คนต่างใจเย็นและรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่สามารถ ไชอี้ กับ อายหยา ที่ไม่สามารถมองข้ามได้ อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่าสองสาวนี้ดูคล้ายกัน พวกนางดูเหมือนจะไม่คิดอะไร แต่นั่นไม่ใช่จิตใจที่แท้จริงของพวกนาง
ห้าของพวกเขาแบ่งออกเป็น 3 ทีม กระจาย 3 ทิศทาง พวกเขาผลัดกันดูดพลังปราณลึกลับจากผลึกอสูรของพวกเขา พวกเขาต่างก็ไม่พูดคุยกัน ซึ่งทำให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาเข้ากันได้ดี แต่แต่จริงแล้วพวกเขากำลังระวังซึ่งกันและกันอยู่
หลังจากเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง ในตอนนั้นเอ ฉื่อหยาน ก็ฟื้นความสงบในจิตใจของเขา
เขารีบถอยออกมาและหยุดเมื่อเขาห่างออกมาได้ 800 เมตร ลั่วหลัน ลั่วหลี่ คือกลุ่มที่อยู่ใกล้เขาที่สุด
มองไปรอบๆ เขาก็สังเกตเห็นว่าข้างหลังเขาและด้านข้างของเขามีภูเขาหินล้อมอยู่ ดังนั้นอันตรายจะต้องมาจากด้านหน้าเท่านั้น เขานั่งลงเอาชิ้นส่วนผลึกอสูรหนึ่งในสามออกมาและเริ่มดูดพลังมัน
แตกต่างจากผลึกอสูรทั่วไป , ผลึกอสูรนี้ถูกเอาออกมาจากร่างกายของสัตว์อสูรในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ , ดังมันนั้นจึงสามารถปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเฉพาะได้ ทำให้พลังของมันไม่แตกกระจายออกไป
ผลึกอสูรที่นี่สามารถใช้ดูดซับพลังปราณลึกลับได้
มังกรเนตรทองเหมันเป็นสัตว์อสูรระดับหก ซึ่งเทียบเท่ากับมนุษย์ในระดับรู้แจ้ง พลังของผลึกอสูรชิ้นนี้ไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่นัก
ผลึกอสูรทั้งหมด , และภายในนั้นก็มีพลังปราณที่ไม่บริสุทธิ์ พลังที่ได้นั้นน้อยมากเมื่อมันถูกเปลี่ยนเป็นพลังปราณลึกลับของนักรบ หลังจากดูดซับพลังจากเศษชิ้นส่วนผลึกอสูรชิ้นนี้ ฉื่อหยาน สามารถก็สามารถดูดซับมันได้เพียงครึ่งหนึ่ง ซึ่งก็เท่ากับหนึ่งในสิบของพลังปราณลึกลับของเขา
ก่อนหน้านั้น เมื่อเขาได้ซัดผนึกแห่งชีวิต มันกินพลังปราณลึกลับของเขาไม่มากนัก ชิ้นส่วนผลึกอสูรนี้จึงสามารถฟื้นฟูพลังของเขาได้ แต่ยังสามารถฟื้นคืนพลังปราณลึกลับส่วนหนึ่งที่ใช้เมื่อ2-3วันที่ผ่านมา
ในขณะที่นั่งสมาธิรอให้ผลึกอสูรในมือของเขากลายเป็นหินไร้ค่า เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังปราณลึกลับ ในร่างกายของเขากำลังจะถึงจุดสูงสุดประมาณเก้าส่วนสิบ
ถึงแม้ว่าพลังของเขาจะยังไม่ฟื้นฟูเต็มสิบส่วน แต่เขาก็พอใจแล้ว เขา หลี่ตามองไปหน้าและเห็น ลั่วหลี่ ไชอี้ ได้ฟื้นฟูพลังของตนสมบูรณ์แล้ว และกำลังเฝ้า ลั่วหลัน และ บอคนั่งสมาธิอยู่
ไม่มีใครรู้ว่าอายหยาหายไปไหน นางนั้นอยู่ตัวคนเดียว และไม่ไว้ใจใคร ชัดเจนว่านางต้องเลือกมุมที่ห่างไกลเพื่อให้แน่ใจว่า จะไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในระหว่างการทำสมาธิของนาง
ฉื่อหยาน อย่างระมัดระวังก็สังเกตทุกอย่างและยังคงอยู่ในท่านั่วสมาธิ .
หลังจากที่ผ่านไปสักพัก พลังของลั่วหลันและบอคก็ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ . ทั้งสี่คนก็มารวมตัวกัน และโบกมือให้ฉื่อหยาน .
ฉื่อหยานก็ลุกขึ้นและเดินตรงไปยัง ในขณะที่พวกเขายังคงระวัง เมื่อเขาอยู่ห่างจากพวกเขาประมาณสิบเมตรเขาก็ถามขึ้น " เราจะทำยังไงต่อ ?
เขาแอบสังเกตและพบว่า ความเป็นปรปักษ์จากบอคได้ลดลง เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าเขายังคงทีใบหน้าที่เย็นชาเช่นเดิม ดวงตาของเขาไม่มีร่องรอยของความเกลียดชัง นี้ทำให้เขาสงสัย เขานั้นไม่รู้เลยว่า ไชอี้ บอกอะไรกับบอคถึงได้เปลี่ยนทัศนคติของเขาไปเช่นนี้
" อายหยา ยังไม่กลับมาเลย รอก่อน " ไชอี้ พูดราวกับว่ารู้ดี นางเผยรอยยิ้มหวานในขณะที่เล่นกับสร้อยข้อมือที่แขนขาวจั๊วะของนาง " . นางนั้นไม่เคยไว้ใจใคร นางไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้ตอนทำสมาธิ . ตอนเช้าครู่วันหนึ่ง เรามีสหายอยู่คนหนึ่งที่อาสาไปตามนางขณะที่นางกำลังทำสมาธิ แต่เชาก็ไม่ได้กลับมา ด้วยความเป็นห่วงคนๆนั้นจึงเดินไปเรียกนางแต่ เขาก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น "
แสงประหลาดก็แวบขึ้นในตาของฉื่อหยาน
ไชอี้ ยิ้มอย่างเย็นชาในใจของนาง เมื่อนางอย่างได้สิ่งที่ต้องการ นางจะไม่พูดอะไรมาก เพียงแค่แสยะยิ้มและมองไปทางทิศที่อายหยาไปก่อนหน้านี้
ทั้งห้าคนก็เงียบลง ไม่มีใครพูดอะไร ดังนั้น บรรยากาศจึงกลายเป็นประหลาด
หลังจากนั้นไม่นาน อายหยาก็ปรกฏตัวเงียบๆจากระยะไกล และค่อยๆก้าวมาข้างหน้า เคลื่อนไหวอย่างสบาย
" เราไปกันเุอะ " อายหยาพูด ใบหน้าของนางดูเฉยเมย " ตอนนี้เรามีสมาชิกเพิ่มมาอีกคน เราควรจะจัดสรรหน้าที่กันใหม่ เจ้าคิดเช่นไร?
" คนที่มาใหม่ก็ต้องมีหน้าที่ อย่างน้อยก็ควรให้เขาฝึกสักครั้งสองครั้ง " ไชอี้ หัวเราะเล็กน้อย นางมองไปที่ ฉื่อหยาน และบอกว่า " ผู้เบิกทางเป็นงานที่ง่ายที่สุด ทันทีที่เขาพบอันตราย เขาก็รีบถอยกลับ สิ่งที่จำเป็นในการทำหน้าที่นี้ก็เพื่อ ทดสอบปฏิกิริยาของผู้มาใหม่และการเอาตัวรอด พวกเจ้าเห็นด้วยไหม ? "ไชอี้ มอง ลั่วหลี่ ลั่วหลัน , และพูด .
อย่างแปลกใจ พวกเขาสามคนก็พยักหน้า เขาใจความหมายของคำพูดนี้กันอย่างเงียบๆ
อายหยาพยักหน้าตามความเห็นของคนส่วนใหญ่และบอกว่า " เจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ เจ้านำไปก่อนเพื่อเรียนรู้การเอาตัวรอด ถ้าเจ้าพบสัตว์อสูรเจ้าก็เรียกพวกเรา ถ้าเจ้าเห็นกับดักที่อันตราย เจ้าก็ต้องถอย ถ้านางเจอมนุษย์ เจ้าต้องสังเกตระดับการบ่มเพาะของพวกเขาและจำนวนพวกเขา”
ฉื่อหยาน รู้ว่าดีว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขาแต่หลังจากที่การเชื่อมโยงความคิด ในที่สุดเขาก็ยิ้มพยักหน้าใตกลง และบอกว่า " ไม่มีปัญหา "
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ