ตอนที่แล้วบทที่ 361 นักรบระดับสูง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 363 ผู้ชายสาม และ ผู้หญิงสอง

บทที่ 362 ดินแดนประหลาด


บทที่ 362 ดินแดนประหลาด

นั่งบนเรือที่ทำด้วยไม้ ฉื่อหยาน ไม่หลับไม่นอน พยายามสังเกตกลุ่มดาวจระเข้ใหญ่ จมลงไปในจิตสำนึก เขามักจะใช้จิตวิญญานดวงดาวเพื่อเชื่อมต่อกับดาวจระเข้ใหญ่ แล้วยืมพลังจากดาวทั้งเจ็ดในอาณาจักรดวงดวงจระเข้ใหญ่

เขาค่อย ๆ มีความเข้าใจลึกซึ้งเกียวกับโครงสร้างของกลุ่มดาวจระเข้ใหญ่ ภายใน 3 นาที เขาก็สามารถบีบอัดยืมพลังจากดวงดาวทั้งเจ็ดในกลุ่มดาวจระเข้ใหญ่ได้

เมื่อการควบแน่นพลังจากกลุ่มดาวจระเข้ใหญ่ประสบความสำเร็จและเขาสามารถสร้างการเชื่อมต่อจิตสำนึกกับพลังดวงดาวได้ เขาก็สามารถควบคุมมันและโจมตีเป้าหมายได้ตามปรารถนาอย่างสบายๆ

เมื่อเจ็ดอุกกาบาตประทะกับอะไรมันก็จะเกิดระเบิดขึ้น พลังที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงพอที่จะทำร้ายนักรบระดับนภาได้ แม้ว่าพลังของของเขาเองจะไม่มีพลังของรูปแบบชีวิตทั้งสาม เปลวเหมันเยือกแข็ง แกนเพลิง และ จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ เขาสามารถใช้มันโดยไม่ต้องกังวลว่ามันจะหายไป

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขารู้สึกว่าเขายังไม่ได้เข้าใจกลุ่มดาวจระเข้ใหญ่อย่างลึกซึ้งที่สุด

ฉื่อหยาน มีลางสังหรณ์ว่า ถ้สเขาเข้าใจความหมายของดวงดาวลึกซึ้งกว่านี้ พลังของกลุ่มดาวจระเข้ใหญ่จะมีประสิทธิภาพมากกว่านี้

วันหนึ่ง เรือไม้ก็เข้าไปในพื้นที่ทะเลทมิฬ ฉากรอบๆที่แปลกประหลาดและลึกลับก็ได้ปลุกเขาขึ้นมา

ยกศีรษะมองหมอกหมอกสีเทา เขารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล เเขาก็ปล่อยจิตสำนึกวิญญาณของเขาเพื่อสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆ

ทันทีที่จิตสำนึกวิญญานของ ฉื่อหยาน ออกไปจากห้วงจิตสำนึก มันจึงรั้งไว้ราวกับว่าถูกโคลนดูด มันไม่ได้หายไป แต่มันกลับไม่ได้ปรากฏภาพของสภาพแวดล้อมรอบๆในห้วงจิตสำนึก

ในทะเลบริเวณนี้ หมอกมืดปกคลุมเหนือหัวของเขาเหมือนกรงขนาดใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจะคอยป้องกันผู้ที่บุกเข้ามาในบริเวณนี้ ผู้ที่เข้ามาในบริเวณนี้จะไม่สามารถใช้จิตสำนึกวิญญานสัมพัสไปยังรอบๆได้

ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย , ฉื่อหยาน พักจิตใจของเขา และเพ้งสมาธิ จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าการเชื่อมต่อระหว่างจิตวิญญานดวงดาวและดวงบนท้องฟ้าถูกตัดขาด

เขาไม่รู้สึกถึงพลังจากดวงดาวบนท้องฟ้า และเขาไม่สามารถยืมพลังเหล่านั้นผ่านหมอกนี้ได้ เขาจึงไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน

หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ

มันอยู่ที่ขอบด้านตะวันออกสุดของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดซึ่ง ซึ่งมันลึกลับและอันตรายเป็นอย่างมาก รอบๆทะเลไม่มีสิ้นสุดถูกห่อหุ้มด้วยหมอกหนามาหลายพันล้านปี

ภายในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬนี้ จิตสำนึกวิญญานจะไม่สามารถใช้งานได้ อำนาจอื่น ๆที่มาจากท้องฟ้าและพื้นดินเองก็ถูกผลกระทบจากหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬและไม่สามารถใช้ได้ที่นี่

พื้นที่ทะเลลึกลับนี้อาจมีอิทธิพลของวิญญานนักรบ ทำให้พวกเขาตกอยู่ในจินตนาการแปลกๆ

ตัดขาดจากพื้นดินและท้องฟ้า

ยืนอยู่บนเรือที่ทำด้วยไม้ ปิดดวงตาของเขาสัมพัสไปยังรอบๆสักพัก ฉื่อหยาน ในที่สุดก็รู้สึกได้ถึงบางอย่าง เขารู้สึกว่าเขาได้มาถึงปลายทางที่ต้องการแล้ว

บนเกาะสุริยันเซี่ยซินหยาน เคยบอกเขาถึงเรื่องที่ทั้งลึกลับและแปลกประหลาดในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ นางบอกว่าด้านหลังของหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬคือศูนย์กลางของพแผ่นดินรุ่งเรืองที่กว้างใหญ่ ซึ่งมีเผ่าสัตว์อสูรมากมายอาศัยอยู่ สมบัติล้ำค่ามากมายของท้องฟ้าและพื้นดินได้หายไป และที่นั่นก็มีความลับอยู่มากมาย มันเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับนักรบเพื่อฝึกฝนตัวเองในเส้นทางที่มืดมิด

สถานการณ์ปัจจุบันของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดนั้นซับซ้อนมาก นักรบที่กระจายอยูุ่ทุกที่ต่างก็ตามหาเขา หลังจากที่ไร้ซึ่งพลังของรูปแบบชีวิตทั้งสาม ขอบเขตพลังที่แท้จริงของเขาอยู่ในระดับรู้แจ้ง แต่เขาก็มั่นใจว่าเขาสามารถรับมือกับนักรบระดับนภาได้ เขาไม่สามารถรับมือต่อนักรบระดับพระเจ้าได้แน่นอน

ดังนั้น เขาตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายในตอนนี้ และไม่เข้าร่วมกับสถานการณ์วุ่นวายในทะเลไม่มีสิ้นสุด

เขาต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งขอเขา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไปยังหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬหลังจากที่เขากลายพันธุ์อย่างสมบูร์  ด้านหนึ่ง เขาต้องการใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา อีกด้านหนึ่ง เขาหวังว่าจะเจอเซี่ยซินหยาน.

ก่อนหน้านี้ เมื่อ เขา และ เซี่ยซินหยาน แยกจากกัน เซี่ยซินหยานได้ ได้ไปกับเยว่จางเฟิงและหลินหย่าฉี ที่มาจากหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ

เขามีลางสังหรณ์ว่า เซี่ยซินหยาน ยังอาศัยอยู่กับพวกเขาในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ดังนั้น เขาจึงมาที่นี่ด้วยความหวัง ว่าเขาจะได้พบกับคนรักของเขาอีกครั้ง

เรือไม้ขยับช้าๆบนทะเล

ค่อยๆสัมผัสไปรอบๆด้านหน้า สีหน้าของฉื่อหยานก็ค่อยๆเปลี่ยนไป ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยความประหลาดใจ

ไม่มีกลิ่นอายธรรมชาติภายใต้หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ ไม่มีกลิ่นอายธรรมชาติหรือพลังใดเลยที่เข้ามาในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬได้ . ดังนั้น ถ้าเขาจะใช้พลังปราณลึกลับของเขาจนหมด แล้วเขาจะฟื้นฟูพวกมันได้อย่างไร ?

เพื่อที่จะฟื้นฟูพลังปราณลึกลับ จำเป็นจะต้องใข้กลิ่นอายธรรมชาติ

ด้วยความคิดนี้ ฉื่อหยานที่กระวนกระวายใจก็รีบส่งจิตสำนึกของเขาไปในแหวนสายโลหิตและหยิบผลึกลึกซึ่งระดับสูงออกมา

เมื่อต้นปี ก่อนเข้าสู่หุบเหวสนามรบ หยาลั่ว นำผลึกลึกซึ้งระดับสูงร้อยเม็ดมามอบให้เขา เขายังเก็บผลึกผลึกลึกซึ่งเหล่านี้ในไว้ในแหวนสายโลหิต แต่เพราะด้วยความสามารถจิตวิญญานลึกลับของเขา เขาจึงสามารถกู้คืนพลังได้ผ่านการฆ่าสังหาร เขาไม่เคยใช้ผลึกเหล่านี้เลย

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่หมอกแม่เหล็กพิษทมิฬที่ประหลาดนี้มันกลับไร้ซึ่งกลิ่นอายธรรมขาติ เขาจึงนึกถึงผลึกลึกซึ้งระดับสูงที่อยู่ในแหวน

ถือก้อนผลึกลึกซึ้งในมือของเขา , ฉื่อหยาน ก็กระตุ้นพลังของเขาพยายามที่จะดูดซับกลิ่นอายธรรมชาติจากในผลึก

ตอนนั้นเอง ก็เกิดสิ่งประหลาดขึ้น

กลิ่นอายธรรมขาติ ที่เพิ่งออกมาจากผลึกลึกซึ้งก็ถูกอิทธิพลของหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ พวกมันหายไปทันที ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นกลิ่นอายให้ดูดซับได้

มันไม่ได้ผล !

สีหน้าฉื่อหยานก็เปลี่ยนไป ความคิดที่จะออกจากหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬก็ปรากฏอยู่ในจิตใจของเขา

ตามตำพูดของเซี่ยซินหยาน มีหลายสิ่งที่แปลกและอันตรายในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬ

ในสถานที่นี้ สิ่งเดียวที่เขาสามารถพึ่งพาได้ คือ พลังจากร่างกายของเขา

ถ้าเขาไม่สามารถฟื้นฟูพลังปราณลึกลับได้ เขาจะต้องใช้พวกมันหมดในอีกไม่นานนี้แน่

ถ้ามันยังเป็นเช่นนี้ เขาคงจะเหนื่อย ไม่ช้าก็เร็ว และไม่สามารถอยู่รอดได้

ดังนั้นเขาจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

ในขณะที่เขากำลังลังเล เขาก็ยกศีรษะของเขามองไปรอบ ๆและทันทีเขาก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งทัี่หายไป

ไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือดวงดาว เพื่อใช้เป็นจุดบอกเส้นทาง รอบตัวเขาคือทะเลความมืดที่ไร้ซึ้ง ประการังหรือสิ่งกรีดขวางใดๆ

และน้ำทะเลภายใต้เท้าของเขาก็ไม่สงบ เขาก้มศีรษะมองและตระหนักว่า การไหลของน้ำเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา และเรือของเขาก็ลอยไปข้างหน้า เค้าไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่เรือของเขาได้เปลี่ยนเส้นทาง

ในกรณีนี้ ถ้าเขาอยากกลับ เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถกลับไปได้หรือไม่ ดังนั้น , มีเพียงวิธีเดียวคือ เดินหน้าต่อไป ไปยังศูนย์กลางของแผ่นดินรุ่งเรือง

ฉื่อหยาน ยิ้มอย่างบิดเบี้ยวและสายหน้าอย่างกังวล

เป็นความต้องของพระเจ้าสินะที่ไม่ต้องการให้เขากลับไปตอนนี้ เขาจะทำอะไรได้นอกจากไปต่อและหวังว่าจะเจอกับความลึกลับบางอย่างภายในหมอกนี่

คิดอยู่เงียบๆ สักพัก เขาก็ผ่อนคลายและพยายามที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เขานั่งลง ไม่มีการเชือมโยงพลังปราณลึกลับของเขากดับเรือ เขาปล่อยให้มันแล่นไปตามกระแสน้ำอย่างอิสระ

โดยไม่ใช้เสียจิตสำนึกวิญญานและพลังปราณลึกลับของเขาส เขากลั้นหายใจ มองตรงไปข้างหน้า ในขณะที่ รออย่างใจเย็น เพื่อสังเกตุสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

ไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว หรือ สิ่งใดที่ใช้บ่งบอกเวลา ทั้งหมดที่เขาทำได้คือแค่นั่งเฉยๆและปล่อยให้เรือล่องลอยอย่างอิสระในท้องทะเล โดยไม่มีความคิดใด ๆ มีเพียงแต่มุ่งหน้าไป

วันต่อมา ฉื่อหยาน ดวงตาก็ส่องประกายขึ้น

เรือไม้ของเขาก็ลอยขึ้นไปในอากาศและค่อยๆบินไปข้างหน้า

สิ่งที่แปลกคือเขาไม่ได้ควบคุมมัน

ในหมอหนา ข้างหน้า เขาเห็นเงาสีดำใหญ่ลางๆ เงานี้ลอยในอากาศเหมือนภูเขาที่งดงาม ซึ่งทำให้ผู้คนแปลกใจและรู้สึกกดดัน

ด้วยจิตใจที่ตึงเครียด ฉื่อหยาน ก็กระตุ้นระมัดระวังอย่างเต็มที่ ดวงตาของเขาแวบขึ้น มองเงาสีดำขนาดใหญ่ข้างหน้า เค้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร

เรือไม้ค่อยๆลอยเข้าไปหาเงาและภาพของเงาก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

มันเป็นภูเขาจริงๆ

ภูเขานี้แปลกประหลาดและสูงหลายร้อยไมล์ ลอยอยู่เหนือทะเล ลอยอยู่ในอากาศ มีพืช ต้นไม้ ดอกไม้ แต่ไม่มีสัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆอยู่

ไม่อาจรู้ได้ว่ามันมาจากไหน มันลอยอยู่ในท้องฟ้าเหมือนบอลลูนอากาศราวกับว่าแรงโน้มถ่วงไม่มีผลต่อมัน

ฉื่อหยาน ค่อนข้างประหลาดใจ

ค่อยๆสัมผัสไปรอบๆ เขาก็ตระหนักได้ว่าไม่มีแรงโน้มถ่วงที่นี่เลย ไม่เพียง แต่ทะเลภายใต้เท้าของเขาก็มีควันสีเทาบางๆลอยออกมา ดูเหมือนมันจะเป็นพลังบางอย่างที่ทำให้เรือไม้บินไปบนฟ้า

เขาได้ตัดสินใจที่จะออกจากเรือ และหลังจากที่ใช้พลังปราณลึกลับไปเล็กน้อย เขาก็มาถึงบนยอดเขา .

นั่งอยู่บนยอดภูเขา , ฉื่อหยาน สังเกตสถานที่มหัศจรรย์แห่งนี้

แสงสว่างมีสีสันก็ลอยมาจากภูเขาด้านหน้าของเขา ฉื่อหยาน เฝ้าดูอย่างตั้งใจ สักครู่  เขาก็เห็นว้า แสงนั้นเป็นนักรบ

ตามทิศทางของลำแสงที่พุ่งมา เขารู้ว่าอยู่ห่างออกไปพันกว่าเมตร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความไม่สามารถใช้จิตสำนึกวิญญานสัมพัสในพื้นที่นี้ได้ ประกอบกับหมอกหนา เขาจึงไม่สามารถเห็นนักรบที่กลายเป็นแสงพุ่งมาได้หรือมิอาจรู้ได้ว่าเขามีระดับการบ่มเพาะเช่นไร

เขายังคงนั่งอยู่สักพัก สังเกตเขา แล้วคิดว่าเขาควรตรวจสอบก่อนว่าคนๆนี้เป็นใคร เขาไม่ไรู้เรื่องในหมอกแม่เหล็กพิษทมิฬนัก ดังนั้นถ้าเขาพบว่านี่เป็นนักรบ เขาจะต้องถามเรื่องราวต่างๆจากนักรบคนนี้

ด้วยความคิดในจิตใจของเขา ทันทีเขาก็ใช้พลังปราณลึกลับพุ่งไปข้างหน้าด้วยความด้วยความเร็วคงที่

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด