บทที่ 345 เปิดผนึกมรดกสืบทอด
บทที่ 345 เปิดผนึกมรดกสืบทอด
มันเป็นทะเลดวงดาวที่งดงาม
ดวงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า นับไม่ถ้วนเป็นเหมือนกับทะเลแห่งดวงดาวที่ไม่มีสิ้นสุด
มีดวงดาวอยู่เพียงในสถานที่แห่งนี้ พวกมันบางครั้งก็อยู่ใกล้มากแต่บางครั้งดูเหมือนจะยิ่งห่างไกลจาก
จิตวิญญานของฉื่อหยานปรากฏอยู่ในทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่นี้ จุดประกายแสงแปลกๆลอยออกมาจากดวงดาว , พุ่งเข้าไปในร่างของเขา แต่ละจุดแสงลอยไปตามความทรงจำที่ฝังลึกอยู่ในวิญญานหลัก
มันเป็นเหมือนกับว่าเขากำลังหลงทางในทะเลดวงดาวอย่างไร้จุดหมาย เขารู้สึกว่าตัวเองถูกดึงเข้าไปในจักรวาล ที่ไม่มีอะไรเลย
เว้นเสียแต่ว่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
มีดวงดาวหลายเข้าไปในร่างของเขา และหลอมรวมเข้ากับความทรงจำเหล่านั้น เขาค่อยๆเข้าใจความลึกลับของดาว
ดวงดาวยังคงโคจรไปทั่วทะเลดวงดาวตามปกติ ฉื่อหยานก็ลอยขึ้นไปและอยู่บนดวงดาว เห็นจุดของแสงดาวครอบคลุมร่างกายของเขา แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้เข้าไปในร่างของฉื่อหยานก็ตาม
ในร่างกายของเขา เขารู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลจากดวงดาวและสัมพัสได้ถึงกลิ่นอายของดวงดาวที่ไม่มีสิ้นสุด
เขาขยับเหมือนดาวตกพุ่งไปข้างหน้า ราวกับว่าเขาสามารถทะลุไปอีกพื้นที่หนึ่งด้วยความเร็วที่ไม่สามารถอธิบายได้
ในทะเลดวงดาว เขาก็กระโดดและว่ายวนไปมาหลายรอบ
จุดประกายแสงรวมกันอยู่บนร่างกายของเขา เกิดเป็นปลอกดวงดาวขนาดใหญ่ห่อหุ้มร่างของเขาทั้งหมด
ปลอกดวงดาว สะท้อนภาพของดวงดาวออกมา ซึ่งค่อนข้างคล้ายกับม่านแสงที่อ้างว้าง ความแตกต่างก็คือไม่ได้มีดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ปรากฏอยู่บนปลอกดวงดาว
ในระหว่างที่เขาเคลื่อนไหว เขาลูบไปที่จุดประกายแสง, แล้วมันก็เปลี่ยนเป็นกระจุกดวงดาว
แสงดาวในมือของเขาสามารถเปลี่ยนรูปร่างใด ๆก็ได้ เขาสามารถดึงพวกมันได้ยาวราวกับเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว หรือเขาจะอัดมันให้กลายเป็นลูกบอล และแยกออกมาเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวก็ได้
เขาก็ใช้พลังดวงดาว เขาจัดการพวกมันอย่างชำนาญ
เมื่อเขาเรียกใช้จิตสำนึก ดวงดาวมากมายก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ภายใต้การควบคุมของเขา แสงดาวตก ก็ตกลงมาเหมือนฝน และทุกๆจุดแสงก็มีพลังที่ทำให้เขาประหลาดใจ พลังเหล่านี้มันเคลื่อนไหวไปตามความคิดของเขา เขาคิดให้มันเป็นเช่นไร มันก็จะก่อตัวขึ้นเกิดเป็นรูปแบบด้วยจิตวิญญานเก่าแก่ ที่อยู่นอกเหนือไปจากความเข้าใจของเขา
ในทะเลดวงดาวประหลาดนี้ เขาบินด้วยความเร็วที่ไม่อาจสัมพัสได้ ความรู้ ความลึกลับของดวงทะเลดวงดาวและแกนหลักของดวงดาวก็เข้าไปในร่างกายของเขา แล้วเขาก็ค่อยๆ คุ้นเคยกับพลังดวงดาว
เขาเข้าใจความหมายลึกซึ้งบางอย่าง . . . . . . .
ไม่รู้ว่าเป็ฯเวลานานเท่าไหร่แล้วที่เขาบินไปมาบนท้องฟ้าที่จุดประกายแสงดาวลอยเข้ามาที่เขา และเขาก็สามารถใช้พลังดวงดาวได้อย่างลึกซึ้ง
ในตอนนนั้นเอง เขาก็ตระหนักได้ว่าในสถานที่ที่แสนห่างไกลออกไป มันเหมือนเหมือนกับว่ามีแสงดวงอาทิตย์ส่องมาที่นี่
เขาบินเข้าไปหาดวงอาทิตย์ ดวงดาวก็โคจรข้ามผ่านจักรวาลอันไกลโพ้นเพื่อเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์
อย่างไรก็ตาม หลังจากบินไปเป็นเวลานาน เขาก็ยังไม่เห็นดวงอาทิตย์หรือสิ่งใดๆเลย
แต่ในระหว่างที่ตามหาท่ามกลางแสงสว่าง เขาก็ได้รับรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพลังดวงดาว
ในทะเลดวงดาว วิญญาณของเขาก็ลอยไปตามสายลมราวกับว่าเป็นความฝัน หากคำนึงถึงเวลา ดูเหมือนว่ามันผ่านนานมากแล้ว แล้วเขาก็รู้สึกว่าวิญญาณของเขาก็ค่อย ๆเริ่มเหนื่อยล้ส ดังนั้น เขาจึงคิดที่จะออกไปจากสถานที่แห่งนี้
เขาต้องการที่จะออกไปจากทะเลดวงดาวแห่งนี้ และในที่สุดมันก็กลายเป็นเบลออีกครั้ง และเขาก็ถูกเคลื่อนย้ายด้วยความเร็วที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ
ฉื่อหยานก็ตื่นขึ้นมา
มองไปรอบๆ เขาก็พบว่าเขาอยู่ในทะเลสาบดวงดาว วิญญาณหลักของเขากลับเข้ามาในห้วงจิตสำนึกดังเดิม จุดสายในทะเลสาบดวงดาวดูเหมือนจะเหลือน้อยลงกว่าเก่าและแสงก็จางลงเป็นอย่างมาก
ม่านแสงที่ด้านบนหัวของเขายังคงสร้างหยดน้ำสีขาวนมหลายหยดแหมะลงมาในทะเลสาบทั้งสาม
น้ำในทะเลสาบเป็นยังเห็นดวงดาวชัดเจนเช่นเดิม แต่ความหนาวเย็นกลับไม่มีอยู่อีกต่อไป มองทะเลสาปดวงดาวและม่านแสงเหนือหัวของเขา ดวงตาของเขาก็กลายเป็นสับสน ดูเหมือนเขาต้องตั้งสมาธิเพื่อรับรู้มัน
นานต่อมา ดวงตาของเขาค่อยๆฟื้นสติ เขาเห็นถังหยวนหนานกับสาวกหลายคนของพรรคสามเทพก็รวมตัวกัน
รอบๆทะเลสาบดวงดาว มองเขาด้วยความงุนงง
" ตื่นแล้วรึ ? " ถังหยวนหนาน ก็ยิ้มและถามว่า " รู้สึกยังไงบ้าง ? "
" รู้สึกดีมาก ราวกับว่าข้าได้เข้าไปอยู่ในทางช้างเผือกของ ทะเลดวงดาวสักพัก ความรู้สึกมันยากที่จะอธิบายได้ " ฉื่อหยาน มองถังหยวนหนาน , ในขณะที่เขาอยู่ในอาการงุนงงซักพัก แล้วก็เผยรอยยิ้มเป็นมิตร พยักหน้าและกล่าวว่า " ข้าคิดว่าท่านหลอกข้า และคิดว่าข้าจะไม่ตื่นเสียแล้ว "
ทันทีที่ ฉื่อหยาน พูด การแสดงออกของสาวกหลายคนของพรรคสามเทพเปลี่ยนไปทันที
ถังหยวนหนาน หน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาหัวเราะและพูดว่า , " เจ้าได้อะไรมาบ้าง "
ฉื่อหยาน ไม่ตอบเขาทันที เขาหลับตาลงสักครู่ แล้ว ดวงตาก็สว่างขึ้นอีกครั้ง เขา
ค่อยๆจมหายเข้าไปในในทะเลดวงดาว ขณะที่เขากระตุ้นจิตสำนึกของเขา จุดดวงดาวหลายจุดทั้งหมดก็สว่างขึ้น
ในร่างกายของเขาจุดประกายแสงก็ส่องแสงงดงามออกมา และพวกมันก็หายไปในอากาศ
ภายใต้ดวงตาที่จ้องมองมากมายของสาวกพรรคสามเทพฉื่อหยานก็หายตัวไป
โดยสัญชาตญานพวกเขาก็มองไปรอบ ๆเพื่อหาร่องรอยของเขาในพระราชวังรกร้าง พวกเขามองไปทั่งทุกที่ แต่ก็ยังไม่พบ
ประกายแสงดารา !
ตามกฎของดวงดาว เมื่อเปิดผนึกจิตวิญญานแห่งดวงดาวจะทำให้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วดั่งประกายแสงดวงดาว พุ่งผ่านไปทั่วทุกที่ ทุกอาณาเขต
นั้นเป็นเคล็ดวิชาเคลื่อนไหวร่างกายประเภทหนึ่ง ซึ่งเร็วกว่าก้าวอัศนีเป็นอย่างมาก และสามารถเปรียบเทียบกับแสงดวงดาว เคล็ดวิชานี้ใช้ประโยชน์จากจิตวิญญานแห่งดวงดาวและพลังดวงดาว เมื่อถูกกระตุ้นด้วยจิตสำนึก ร่างกายก็จะกลายเป็นเหมือนแสงดวงดาว ซึ่งคล้ายกันกับของถังหยวนหนาน ที่เขาสามารถ
หายไปในอากาศ และเดินทางหลายพันไมล์ได้
ความคิดของเขาก็จุดประกายอีกครั้ง
แสงดาวที่นับไม่ถ้วนจากร่างกายของเขาก็เกิดการสร้างโล่แสงครอบคลุมร่างกายทั้งหมดของเขาไว้ โล่แสงนี้ถูกปกคลุมด้วยดวงดาวอย่างสมบูรณ์
โล่ดารา !
หลังจากที่เขาได้รวบรวมพลังดวงดาวอัดแน่นกันกลายเป็นโล่ดาราที่ส่องสว่าง โล่จะดูดซับพลังงานแสงดาว ทำให้โล่ดาราแข็งแกร่งสามารถทน ไฟและน้ำได้ และสามารถทนต่อผลกระทบของพลังทุกชนิดได้
สติของเขเคลื่อนไหวเล็กน้อย จุดแสงดาวก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
หลายจุดแสงในฝ่ามือของเขาก็เปลี่ยนไปตามจิตสำนึกของเขา พวกมันทั้งหมดบินตรงสู่ท้องฟ้าทั้งหมด กลายเป็นฉากที่ดูเหมือนเป็นดาราจักรขนาดเล็กในความว่างเปล่า
จุดประกายแสงรวมตัวกัน บางครั้งก็เกิดการเปลี่ยนแปลงตามวิถีดาว เกิดเป็นรูปแบบการเคลื่อนไหวของดวงดาวมากมาย ปกคลุมทั่วท้องฟ้าและพื้นดิน และปลดปล่อยพลังดวงดาวที่สั่นสะท้านออกมา.
ดาราผันแปร ตอนนี้เขาสามารถใช้พลังดวงดาวได้อย่างอิสระ สามารถทำให้ดวงดาวเคลื่อนไหวไปมาจนเกิดเป็นรูปที่มหัศจรรย์ขึ้น
ประกายแสงดารา , โล่ดารา ดาราผันแปร
ในสภาพที่ยอดเยี่ยมนี้ เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับความลับของพลังดวงดาวมากมาย ซึ่งไม่แตกต่างกันมากเมื่อเขาใช้มันออกมา
ในความเป็นจริง
ความรู้เกี่ยวกับเคล็ดวิชาทั้งสามนี้จะถูกฝังอยู่ในจิตวิญญานแห่งดวงดาว
ตอนนี้เขาสามารถทําได้อย่างชำนาญ ถ้าเขาลืมมันชั่วคราว เขาก็แค่กระตุ้นจิตวิญญานแห่งดวงดาวอีกครั้ง แล้วมันก็ง่ายสำหรับเขาที่จะเรียนรู้ได้อย่างลึกซึ้งอีกครั้ง
สาวกพรรคสามเทพสาวกต่างมองเขาด้วยความประหลาดใจ
มีเพียงถังหยวนหนาน ที่เผยรอยยิ้มที่ดูเหมือนเขาจะรู้ล่วงหน้าออกมา หลังจาก ฉื่อหยาน ตื่นขึ้นมา เขาก็เป็นแบบนี้ เขารู้สึกพอใจภายในหัวใจของเขา ที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด ตามที่เขาวางแผนไว้
" เจ้าปลดผลึกจิตวิญญานแห่งดวงดาวและได้รับเคล็ดวิชาลับทั้งสามมาแล้ว นั่นหมายความว่าเข้าได้เป็นเทพดวงดาวแล้ว . " ถังหยวนหนาน ยิ้มขณะมองเขา
" โล่ดารา ประกายแสงดารา ดาราผันแปร ต่างก็ใช้ประโยชน์จากพลังของจิตวิญญานแห่งดวงดาวเพื่อแสดงออกมา ซึ่งคล้ายกับเคล็ดวิชาต่อสู้ วิธีที่เจ้าแสดงออกมา มันเป็นเพียงการยืมพลังจากดวงดาว รอจนกว่าเจ้าจะเข้าสู้ระดับนภา พลังดวงดาวและพลังปราณลึกลับของเจ้าจะหลอมรวมกัน เวลานั้นเจ้าจะตระหนักได้ถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ "
ฉื่อหยานตกใจและเขาก็แอบจดจำมัน เขาจะพยายามหลอมรวมมันเข้าด้วยกันเมื่อเขาเข้าสู่ระดับนภา
" เจ้าได้เข้าสู่นภาที่สองของระดับรู้แจ้งแล้ว อีกไม่ไกลก็จะบรรลุถึงระดับนภา " ถังหยวนหนาน มองเขาและก็พูดด้วยเสียงต่ำ
ฉื่อหยานก็ชักกระตุกเล็กน้อยตะโกนว่า " อะไรนะ ! "
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าคงไม่สังเกตเห็นมัน . . " ถังหยวนหนาน หัวเราะ " จิตวิญญานแห่งดวงดาวได้ถูกปลดผนึกออก วิญญาณของเจ้าได้จมลงไปในห้วงทะเลสาปดวงดาว และพลังดวงดาวก็ได้เข้าไปในวิญญานหลักของเจ้า เจ้าอาจจะไม่รู้ นี่ได้กินเวลาไปเจ็ดวันแล้ว เจ้าที่เคยยอยู่นภาแรกในระดับรู้แจ้ง หลังจากผ่านมาเจ็ดวันวิญญานของเจ้าก็บริสุทธิ์มากจึ้น ทำให้ช่องว่างระดับขั้นถูกลดลงและกรุยโปร่ง "
" นภาที่สองของระดับรู้แข้ง . . . . . . . " ฉื่อหยาน สงสัย ,เขามองแขนขาตัวเอง แล้วพูดว่า " ทำไมข้าไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ? "
" จิตวิญญาณของเจ้าได้ลอยออกมาจากร่างกาย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเข้าได้ก้าวเข้าสู่นภาที่สองระดับรู้แจ้ง วิญญาณของเจ้าได้ทะลุผ่านทะเลดวงดาวดาว ดังนั้น ถ้าไม่ใช่นภาที่สองของระดับรู้แจ้ง แล้วมันคืออะไร ? ถังหยวนหนาน หัวเราะและกล่าว
ฉื่อหยาน ก็ประหลาดใจ การพัฒนาในครั้งนี้ ช่างง่ายดายเสียจนทำให้เขาสับสน
" เมื่อเจ้ายังอยู่ในระดับปฐพี เจ้าก็ได้สร้าง ห้วงจิตสำนึก และ กลั่นวิญญานหลักแล้ว . และนั่นก็เป็นสิ่งที่ได้ก็ต่อเมื่อเข้าสู่ระดับรู้แจ้ง เช่นนั้นเจ้าจึงก้าวหน้าและสามารถฝึกบ่มเพาะได้อย่างรวดเร็ว " ถังหยวนหนาน อธิบาย
ฟังสิ่งที่ถังหยวนหนาน พูด ฉื่อหยานก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด มันกลับกลายเป็นว่า เมื่อเขาอยู่ในระดับปญพี เขากลับสามารถสร้างห้วงจิตสำนึกและกลั่นวิญญานหลักแล้ว วิญญานของเขาในตอนนั้นได้ก้าวเข้าสู่ระดับรู้แจ้งไปแล้ว เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้ตระหนักถึงมันเท่านั้นเอง
" นักรบภายนอกมากมายต่างก็ต้องการหาตัวเจ้า ขุมพลังใหญ่มากมายในทะเลต่างก็ต้องการตัวเจ้า คนมากมายต้องการจะฆ่าเจ้า " ถังหยวนหนาน หยุดยิ้มและพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม " ในช่วงเวลานี้ เจ้าไม่ควรออกไป รออยู่ที่นี่ ไม่งั้นเจ้าจะลำบาก . . . . . . . "
" บูม "
ก่อนที่ถังหยวนหนาน จะพูดเสร็จ ม่านแสงที่อยู่เหนือหัวก็ระเบิด เสียงระเบิดดังก้อง ม่านแสงที่มีสัญลักษณ์ดวงจันทร์อยู่ก็หายไป
ถังหยวนหนาน ยกศีรษะมองขึ้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ