บทที่ 343 ปาฏิหาริย์
บทที่ 343 ปาฏิหาริย์
ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวปรากฏบนม่านแสงที่ เปลี่ยนเป็นกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนสีสันสดใสของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวในท้องฟ้าลงมา
ปาฏิหาริย์ !
ฉากที่แปลกประหลาดนี้ทำให้ ฉื่อหยาน สั่นสะท้าน จู่ๆ เขาก็ตระหนักได้ว่า พรรคตั้งแต่ยุคโบราณ เช่น พรรคสามเทพแน่นอนจะต้องมีบางอย่างที่มหัศจรรย์ .
เขาพักอยู่กับตระกูลหยางมาสักพักและก็ตกใจเมื่อเขาเห็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์บนเกาะอมตะที่ถูกสร้างขึ้นจากผลึกธรรมชาติอย่างสมบูรณ์
เมื่อเทียบกับสิ่งมหัศจรรย์ของพรรคสามเทพ ภูเขาบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ทำมาจากผลึกธรรมชาติ จะถูกนับได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ่้นตามธรรมชาติ แต่สถานที่นี้ คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่รู้ว่าผู้ใดกันที่แข็งแกร่งพอจะสร้างสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้
เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เขาก็พบว่าดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวนับไม่ถ้วนก็มีแสงประหลาดมากมายพุ่งออกมา เส้นแสงนับพัน ค่อยๆ ส่องลงในน้ำที่กระจ่างใส
หยดน้ำ , หยดลงมาใส่สถานที่ทั้งสามในม่านแสง
" มากับข้า " ถังหยวนหนาน ก็กระโดดขึ้นแล้วลงมาที่หยดน้ำสีขาวไหล และโบกมือให้ ฉื่อหยาน , แสดงให้เขาเห็นว่า ฉื่อหยาน ควทำตาม
ฉื่อหยาน สับสน เขารู้สึกอายเล็กน้อย และกล่าวว่า " ข้าเพียงอยู่แค่ระดับรู้แจ้ง และถ้าข้าอาศัยเพียงความแข็งแกร่งของข้า ข้าก็ไม่สามารถบินได้ "
ถังหยวนหนาน ตะลึงและรู้สึกแปลก ๆ เขาคิดว่าด้วยความสามารถของ ฉื่อหยาน , การบินนั้นเป็นสิ่งง่ายๆ ดังนั้น เขาจึงไม่ได้พา ฉื่อหยาน ไปพร้อมกับเขา ตอนนี้ หลังจากได้ฟังเรื่องนี้ เขาก็เข้าใจแล้วว่า พลังที่แข็งแกร่ง ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้เป็นของ ฉื่อหยาน .
" ข้าจะพาเจ้าไปเอง " ถังหยวนหนาน ยิ้มและรีบเดินไปข้างๆฉื่อหยาน , เหยียดมือของเขาและคว้า ฉื่อหยาน
ฉื่อหยาน ทันที จิตใต้สำนึกของเขาก็กระตุ้นพลังในร่างกายของเขาพร้อมที่จะต่อสู้กลับ
ถังหยวนหนาน ก็ตกใจทันทีเขาหยุดการเคลื่อนไหวของเขา และหดมือของเขาในขณะที่ฝืนยิ้ม " ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล "
" การระมัดระวังเอง ก็ไม่ได้ทำร้ายใครหนิ " ฉื่อหยาน ของสีหน้ายังคงนิ่งเฉย
ไม่เปลี่ยนแปลง เขาชี้ไปยังสาวกของพรรคสามเทพ และบอกว่า " บอกให้เขาพาข้าไปที่นั่น ".
ผู้อาวุโสที่อยู่ในนภาแรกของระดับนภาก็มองมาที่ฉื่อหยาน ชายชราก็ตกใจ เขาเป็นคนที่รักชีวิตของเขา
เมื่อเห็น ฉื่อหยาน ชี้ไปที่เขา ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะลังเล และบส่ายหัว หัวเราแห้งๆและกล่าวว่า " ระดับการบ่มเพาะของข้าต่ำต้อย คนอื่นที่อยู่ที่นี่ต่างก็มีระดับที่สูงกว่าข้า เจ้าควรจะหาคนอื่นนะ "
การที่เขาพูดแบบนี้ ก็บ่งบอกแล้วว่าเขาเป็นคนรอบคอบ เป็นคนที่กลัวความตายประเภทที่ว่าไม่ต้องการที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ
" ข้าต้องการเจ้า " ฉื่อหยาน ยังคงพูดยืนกราน
ผู้อาวุโสคนนั้นสาปแช่ง ฉื่อหยาน ภายใต้ลมหายใจของเขา แต่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ ได้แต่มองไปทาง ถังหยวนหนาน ด้วยสายตาที่อ้อนวอน วอน ให้เขาโน้มน้าว ฉื่อหยาน ยอมแพ้และเลิกตัดสินใจที่จะใช้เขา
" พาเขาขึ้น " ถังหยวนหนาน กล่าวอย่างหงุดหงิดด้วยความเย็นชา . " ไปเร็วเข้า อย่าทำให้ข้าเสียเวลา ."
ผู้อาวุโสฝืนยิ้มออกมา โน้มศีรษะของเขา และค่อยๆเดินไปที่ ฉื่อหยาน เขากลัวว่าฉื่อหยานจะเรียกพลังความเย็นมาแช่แข็งเขา
ฉื่อหยานจ้องชายชรา และเมื่อเขาท่ยืนต่อหน้า เขาก็พูดว่า " ตราบใดที่เจ้าไม่คิดอะไร ข้าจะทำตัวดี ๆ แต้ถ้าเจ้าไม่ซื่อสัตย์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าก็จะไม่ใจดี”
การแสดงออกของผู้อาวุโสก็เปลี่ยนไป และตอนนี้เขาก็ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เมื่อเขาเอื้อมมือของเขาบนไหล่ของ ฉื่อหยาน สายตาของเขามองไปที่เขา ตอนนี้เขาแอบให้ความสนใจกับทิศทางการเคลื่อนไหว
พลังในร่างกาย ฉื่อหยาน . เขารอจนกระทั่งเขาแน่ใจว่า ฉื่อหยาน ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีแล้ว เขาจึงสูดหายใจลึกและถือ ฉื่อหยาน ขึ้นไปบนฟ้า
สาวกส่วนใหญ่ของพรรคสามเทพทั้งหมดก็มีใบหน้าที่ผิดปกติ ตาของพวกเขามองไปยัง ฉื่อหยาน ที่กำลังบินไปด้วยความซับซ้อน
ฉื่อหยานนั้นระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่นั้น เขายังจงใจเลือกชายชราที่กลัวตายด้วย
ดังนั้น พวกเขาเชื่อว่าถ้าถังหยวนหนาน ตั้งใจที่จะทำอะไร เขาจะไม่บรรลุเป้าหมายที่ต้องการแน่นอน เพราะว่ามีผู้อาวุโสอยู่ใกล้ๆฉื่อหยาน
ภายใต้การนำของถังหยวนหนาน ฉื่อหยาน , และอีกคนก็ค่อยๆ บินไปข้างๆถังหยวนหนาน เมื่อระยะห่างระหว่างพวกเขาและถังหยวนหนานห่างกันประมาณสิบเมตร , ฉื่อหยาน จู่ๆไอ .
ใบหน้าของชายชราเปลี่ยนไปอย่างมาก ทันทีที่เขาก็ชะลอตัวลงและไม่กล้าเข้าใกล้ประมุขของเขาอีกต่อไป
แม้ว่าชายชราจะหวาดกลัวความตาย แต่สายตาของเขาก็ไม่เลว เขารู้ว่า ฉื่อหยาน นั้นระมัดระวังมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ ฉื่อหยาน ทำอะไรหุนหัน เขาจะเชื่อฟังให้มาก และต้องไม่ทำอะไรที่อาจรบกวน ฉื่อหยาน .
ถังหยวนหนาน ไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาแค่ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วชี้ไปที่ด้านล่าง มอง ฉื่อหยาน แล้วพูด
" ตรงกลางพระราชวังทั้งสาม คือสามทะเลสาป สุริยัน จันทรา และ ดวสดาว พวกมันถือเป็นได้ว่ารากฐานของพรรคสามเทพ "
ฉื่อหยาน โค้งลงมอง ตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ในซากพระราชวังทั้งสาม มีทะเลสาปรูปวงลี 3 แห่งน้ำในแต่ละทะเลสาปใสจนสามารถมองเห็นก้นทะเลสาปได้อย่างชัดเขน และมีประกายแสงแปลกๆ ส่องออกมาในแต่ละทะเลสาป
สามภาพสะท้อนของ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ก็ปรากฏอยู่ในช่วงกลางของทะเลสาปแต่ละที่ ในทะเลสาปสุริยัน มีภาพของดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงเลือนรางอยู่
ทะเลสาบพระจันทร์ก็เหมือนกัน ดวงจันทร์เป็นเหมือนแผ่นเงินแผ่นใหญ่ ส่องแสงจันทร์สีเงินอ่อนออกมา
มีเพียงทะเลสาปดวงดาวที่ดูต่างออกไป
ในทะเลสาปดวงดาว ดาวนับไม่ถ้วน ซึ่งมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นมนุษย์เป็นเหมือนกับหิ่งห้อยที่ส่องแสงริบหรี่ไปมาพร้อมกับที่พวกมันเคลื่อนไหวไปมาอย่างมหัศจรรย์
แสงดาวระยิบระยับนี้สามารถทำให้ผู้พบเห็นประหลาดใจ
ด้านบนของม่านแสง , หยดน้ำจากแสงของดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และดวงดาวที่หยดลงมาในทะเลสาปทั้งสามเป็นหยดน้ำสีขาว
เมื่อหยดน้ำที่ควบแน่นจากแสงดวงอาทิตย์ดตกลงไปในทะเลสาบสุริยัน , พวกมันก็ดูราวกับว่ามีชีวิต มันค่อยๆ บินไปที่ภาพสะท้อนดวงอาทิตย์และกลายเป็นส่วนเล็ก ๆของมัน และทําให้ภาพสดใสขึ้น
หยดน้ำซึ่งหยดมาจากแสงจันทร์ก็เหมือนกัน หยดน้ำที่แหมะลงในทะเลสาบจันทรามันราวกับว่ามีชีวิต เคลื่อนไหวไปยังภาพสะท้อนดวงจันทร์ เกิดเป็นแสงจันทร์ยิ่งสุกปลั่งและขาวนวล
อย่างไรก็ตาม หยดน้ำที่ถูกควบแน่นด้วยแสงดวงดาวบนท้องฟ้า นั้นต่างออกไป พวกมันดูละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก มันหยดลงดาวภายในทะเลสาบ รวมตัวเข้ากับภาพสะท้อนดวงดาวทำให้มันดูราวกับว่าเป็นของจริงมากขึ้น
มองดวงดาวที่ทะเลสาบด้านล่าง ฉื่อหยาน ก็พลันรู้สึกได้ถึงสิ่งมหัศจรรย์ของจักรวาล เขายังรู้สึกดีกับทะเลสาปดวงดาว มันเป็นเหมือนกันจักรวาลที่ล้อมรอบไปด้วยดวงดาวมากมายและค่อยๆเคลื่อนไหวไปตามกฎของฟ้าและแผ่นดินโลก ; สิ่งนี้ช่างมหัศจรรย์และยิ่งใหญ่นัก
" พระราชวังรกร้างเหล่านี้เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของพรรคสามเทพ และยังเป็นศูนย์กลางของ 3 เกาะสุริยัน จันมรา และ ดวงดาว . " ถังหยวนหนาน ยกศีรษะมองม่านแสง เผยรอยยิ้มและอธิบาย ฉื่อหยาน ,
" บนหัวของเราเป็นทะเลไม่มีสิ้นสุด และข้างบนนี่เป็นเกาะทั้งสาม เกาะสุริยัน จันทรา ดวงดาว สามเกาะสุริยัน จันทรา ดวงดาว ในความเป็นจริง มีรูปแบบสัญลักษณ์ที่สามารถรวบรวมพลังของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวไปยังทะเลสาบทั้งสามอยู่ ในช่วงหลายปี , การสั่งสมพลัง แสงอาทิตย์ แสงจันทร์ และ แสงดวงดาว นั้นมหาศาลเป็นอย่างมาทก อย่างที่เราเห็นกัน พลังเหล่านั้นได้ถูกทำให้บริสุทธิ์และกลายเป็นหยดน้ำนมสีขาวหยดที่ลงไปยังทะเลสาปทั้งสาม "
ฉื่อหยานกำลังตกตะลึง .
เขาแหงนหน้าขึ้นมองม่านแสง แล้วมองไปที่หยดน้ำทั้กลั่นตัว คิดถึงเรื่องที่ถังหยวนหนาน ได้กล่าวว่า ความคิดแปลกๆก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา
แก่นแท้ของรูปแบบโบราณของพรรคสามเทพนี้เป็นสิ่งที่ทรงพลังมากกว่าพลังแสงอาทิตย์และพลังอื่นๆบนโลกใบนี้
ตอนที่เขายังอยู่โลกเดิมของเขา เขารู้ว่ามีหลายวิธีที่จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือการใช้ประโยชน์จากวัสดุที่เฉพาะเจาะจงบางอย่างเพื่อดูดซับพลังงานจากดวงอาทิตย์ เพื่อเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้า ให้คนได้ใช้
แต่ของพรรคสามเทพ มันกลับวิเศษกว่านั้นมาก พวกเขาได้นำประโยชน์จากเกาะทั้งสาม สุริยัน จันทรา ดวงดาวมาใช้ และม่านแสงที่อยู่เหนือซากพระราชวังไม่เพียงดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานของดาวมากมายในท้องฟ้า แต่มันยังบีบอัดพลังนั้นเป็นหยดน้ำสีขาวน้ำนม เป็นพลังงานที่วิเศษอย่างมากสำหรับนักรบ ที่ดูดซึมได้โดยตรง
เห็นได้ชัดว่า ความมหัศจรรย์ของรูปแบบโบราณนี้อยู่เหนือกว่าพลังงานแสงอาทิตย์จากอีกโลกหนึ่งเป็นอย่างมาก
" เจ้าต้องรู้ก่อนว่า จิตวิญญานต่อสู้ของพรรคสามเทพ มาจากทะเลสาบสุริยัน จันทราและดวงดาว ในขณะมี่อยู่ในวัยแรกเกิด "
ถ้าพวกเขามีความโดดเด่น เมื่อได้แช่ในทะเลสาบทั้งสามนี้ พวกเขามีโอกาสที่จะสร้างจิตวิญญานต่อสู้ของตัวเองขึ้นมาและสามารถดูดซับพลังจาก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และ ดวงดาวได้ . " ถังหยวนหนาน กล่าวอย่างภูมิใจ
" ในหลายกองกําลังของทะเลไม่มีที่สิ้นสุด จิตวิญญานต่อสู้ที่อยู่ภายนักรบส่วนใหญ่ เมื่อพวกเขาเกิดมา มันก็จะเกิดมาพร้อมกับพวกเขาเท่านั้น มีเพียงพรรคสามเทพเท่านั้น ที่สามารถใช้ประโยชน์จากทะเลสาบทั้งสุริยัน จันทรา และ ดวงดาวเพื่อช่วยให้ทารกที่ไม่มีจิตวิญญาณต่อสู้สร้างจิตวิญญาณต่อสู้ของตัวเองขึ้นมาได้ เราสามารถพูดได้เลยว่าพรรคสามเทพเป็นจุดกำเนิกของจิตวิญญานต่อสู้ของนักรบ "
ฉื่อหยาน พยักหน้าและบอกว่า " ใช่ " .
"รากฐานของพรรคสามเทพคือที่แห่งนี้ สามเกาะ สุริยัน จันทรา ดวงดาว ที่อยู่ด้านบนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของรูปแบบสัญลักษณ์ที่รักษาสถานที่แห่งนี้ ทั้งสามเกาด้านบนมีรูปแบบอยู่ ดังนั้นแม้ว่า ชิหยานจะจะใช้พลังมหาศาลทำลายม่านแสงศักดิ์สิทธิ์เพียงใด มันก็ยังคงจะยากที่จะลงมาภายใต้เกาะทั้งสาม " ถังหยวนหนาน เผยรอยยิ้มบางๆ มอง ฉื่อหยาน และกล่าวว่า " จะพูดอีกอย่างก็คือ รากฐานของพรรคสามเทพนั้นไม่สามารถทำลายได้ง่ายๆ ตราบเท่าที่สถานที่แห่งนี้ยังไม่ถูกทำลาย เราพรรคสามเทพจก็ะยังคงสามารถสะสมพลังและเลือกทารกแรกเกิดที่โดดเด่นมาฝึกฝนให้กลายเป็นยอดฝีมือได้ เพราะเหตุนี้ เราจึงยังสามารถ
พัฒนาต่อมาได้แม้เทพจันทราและเทพดวงดาวจะหายไปนับหมื่นปีแล้วก็ตาม "
ฉื่อหยาน พยักหน้าอีกครั้ง
" จิตวิญญานดวงอาทิตย์ของข้า จิตวิญญานดวงดาวของเจ้าและจิตวิญญานจันทราของเทพจันมรา ได้ถูกสร้างขึ้นโดยทะเลสาบทั้งสาม สุริยัน จันทรา และ ดวงดาว พวกมันเป็นจิตวิญญานต่อสู้กลุ่มแรกที่ถูกหล่อหลอมทและสร้างขึ้น ด้วยพลังยิ่งใหญ่ของ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และ ดวงดาว
จิตวิญญานต่อสู้ของเรานั้นแตกต่างจากคนอื่น ไม่เพียง แต่พวกมันสามารถดูดซับพลังได้จากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว แต่พวกมันยังได้รับการพัฒนาและสืบทอดมาจากผู้ยิ่งใหญ่ที่สร้างพระราชวังนี้ขึ้นมา ดังนั้น ผู้ที่มีจิตวิญญานต่อสู้อันยิ่งใหญ่ที่ได้รับสืบทอดโดยตรงเช่นเรานั้นก็จะถูกเรียกว่า เทพสุริยัน จันทรา และ ดวงดาว " ถังหยวนหนาน ดวงตาสดใสขึ้นเมื่อเขามองไปที่ ฉื่อหยาน และกล่าวว่า " ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ คนที่มีจิตวิญญานแห่งดวงดาวของพรรคสามเทพก็ถือได้ว่าเป็นเทพดวงดาว ตอนนี้เจ้าสามารถแช่ตัวเองในทะเลสาบดวงดาว และรวบรวมพลังเพื่อเปิดตราประทับของจิตวิญญานแห่งดวงดาวได้ หลังจากนั้นเจ้าก็จะได้ครอบครองจิตวิญญานแห่งดวงดาวอย่างสมบูรณ์ "
ฉื่อหยานหัวเราะด้วยร่างที่สั่นสะท้าน " เช่นนั้น มันคงเสียมารยาทหากข้าจะปฏิเสธ หึหึ”
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ