บทที่ 341 ทรนง
บทที่ 341 ทรนง
หม่าฉีต้วน เป็น เผ่าอสูร ที่แข็งแกร่งมากจริงๆ ข้าคิดว่าต่อให้เป็นนักรบนภาแรกของระดับพระเจ้าในทะเลไม่มีสิ้นสุดก็ไม่ง่ายที่จะเผชิญหน้่ากับเขา . . . " ใบหน้า ฉื่อหยาน ยังคงนิ่งเฉย
มองดูอย่างระวัง เขาแอบสังเกตทุกการเปลี่ยนแปลงของถังหยวนหนาน และพูดอย่างสงบ " อย่างไรก็ตาม ร่างกายของข้านั้นมีเคล็ดวิชาบางอย่างที่จะสามารถทำให้รอดพ้นจากความตาย โดย น้ำมือของหม่าฉีต้วนได้ เช่นนั้นหากนักรบระดับพระเจ้าทั่วไปคนใดคิดจะฆ่าข้าหละก็ ฮ่า ฮ่า ฮ่า มันจะต้องชดใช้อย่างเจ็บปวด "
เขากังวลว่าหากเขาปกปิดพลังที่แท้จริงต่อถังหยวนหนาน เขาจะเป็นอันตรายมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงบอกความจริงแก่ถังหยวนหนานไปบางส่วน
หลังจากที่เขาได้ฟังสิ่งที่ ฉื่อหยาน พูด ถังหยวนหนานดวงตาก็ส่องประกายขึ้น ใบหน้าเขาแสดงออกถึงความสงสัย
เช่นเดียวกับ กู่เฉา ยู่ิง , และคนอื่น ๆ ถังหยวนหนานก็อึ้งไปสักพัก โดยไม่มีปฏิกิริยาใด ๆก่อนที่เขาจะพูดขึ้นอีกครั้งด้วยเสียงที่แปลกประหลาด " เจ้าจะบอกว่า . . . เจ้าทำให้หม่าฉีต้วนบาดเจ็บงั้นรึ ? โดยไม่มีผู้ใดช่วยเหลือ ? ข้าเข้าใจถูกมั้ย ? "
ฉื่อหยาน พยักหน้าและเผยยิ้มแปลกๆ เต็มไปด้วยความมั่นใจ
ถังหยวนหนาน หน้ายังเบี้ยวอีก เขาไม่สามารถเดาได้ว่าฉื่อหยานทำได้เช่นไร และไม่รู้ว่า ฉื่อหยาน พูดจริงหรือไม่ หลังจากเรื่องทั้งหมด เขาจึงยืนงงอยู่เงียบๆ พิจารณาถึงคำพูดของ ฉื่อหยาน
ฉื่อหยาน ใบหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาเพิ่มความระมัดระวัง และถามตอบอย่างระวัง
เขา และ ถังหยวนหนาน ต่างก็ไม่ได้สนิทกันและ ฉื่อหยาน ไม่รู้ว่าคนๆนี้จริงๆแล้วคิดเช่นไรกับเขา
ก็เหมือนกัน
ก่อนหน้านี้ ด้วยกลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคน เขาจึงไม่ได้รู้สึกกดดันเกินไปเมื่อเจอถังหยวนหนาน . แต่ว่าตอนนี้ เขาอยู่คนเดียว ถ้าถังหยวนหนาน ต้องสร้างปัญหาให้เขา หรือต้องการที่จะแย่งสมบัติจากเขา เขาก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะต่อต้านเขาได้หรือไม่
ด้วยสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน การเปิดเผยตัวตนและความแข็งแกร่งคือสิ่งที่ดี
" เอาล่ะ เกี่ยวกับรายละเอียดการต่อสู้ระหว่างเจ้าและหม่าฉีต้วน ข้าจะไม่ถามอีก " ด้วยความคาดหวังของเขา ถังหยวนหนานก็เงียบพักหนึ่งแล้ว จากนั้นก็ยิ้มขึ้นอย่างผ่อนตลาย
พูดว่า" ร่างกายของเจ้ามีจิตวิญญานแห่งดวงดาว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าก็ยังเป็นสาวกของพรรคสามเทพ
เป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ระแวงเกินไป " หลังจากพูดจบ ถังหยวนหนานก็ผิวปาก
เสียงผิวปากของเขาสะท้อนอย่างต่อเนื่องในตำหนักและในทะเลเป็นเวลานาน เสียงผิวปากของเขากระจายออกทุกทิศทาง
กวาดไปทั่วตำหนัก ดูเหมือนกำลังเรียกใครบางคน
หน้าฉื่อหยาน เปลี่ยนไปแล้ว ไม่เพียง แต่เขาไม่ผ่อนคลาย แต่เขายังระมัดระวังมากขึ้น จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน
ถังหยวนหนาน ไม่ได้มองหน้าเขา และยังคงผิวปากต่อ ภายใต้การผิวปากของเขา รูปแบบที่อยู่รอบๆตำหนักก็หายไป
ฉื่อหยานก็เห็นเงาจำนวนมาก โผล่ออกมาจากภายในตำหนักที่ห่างออกไปพันเมตร
รอบๆ คนเหล่านี้สวมชุดของพรรคสามเทพและมีระดับการบ่มเพาะลึกซึ้ง ระดับต่ำสุดพวกเขาดูเหมือนจะอยู่ในระดับรู้แจ้ง และนักรบระดับนภาอีกสิบคน
นักรบเหล่านี้มาจากพรรคสามเทพที่มาถึงเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากได้ยินข่าว พวกเขาออกมาจากพระราชวังรอบๆ และรวมตัวกันอยูด้านหน้าถังหยวนหนาน และพูดอย่างสุภาพว่า " ท่านประมุข "
ถังหยวนหนาน พยักหน้าและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า " ปัจจุบันพรรคสามเทพของเราต้องเจอกับเหตุการอันตรายมากมายและไม่น่าที่จะปกป้องเกาะทั้งสาม เกราะสุริยัน เกราถจันทรา และเกราะดวงดาวได้
พลังอำนาจของเผ่าอสูรนั้นแข็งแกร่งและดุร้ายเป็นอย่างมาก ข้าหวังว่าทุกคนจะใจเย็น และไม่ไปจากที่นี่สักพัก เทพจันทราและข้าจะรับผิดชอบตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกเอง "
สาวกหลายคนของพรรคสามเทพก็พยักหน้าและก้มลง เพื่อแสดงออกว่าเข้าใจแล้ว
ฉื่อหยานหลี่ตาลงมองนักรบเหล่านั้น ส่วนใหญ่ของพวกเขาอยู่ในระดับรู้แจ้ง เขาเงียบไป คำนวณคร่าวๆ แล้วเขาก็พบว่า มีนักรบมากกว่าสามร้อยคนที่นี่ ซึ่งนับได้ว่าเป็นกองกำลังใหญ่ ในทะเลกว้างใหญ่ กองกำลังที่มีนักรบระดับรู้แจ้งขึ้นไปมากกว่าสามร้อยคนเห็นเพียงจะมีแต่ ตระกูลฉาว ราชวงศ์สงครามศักดิ์สิ?ธิ์ และตระกูลหยาง
ในสถานการณ์ที่ไม่มีเทพจันทรา และ ดวงดวงดาว พรรคสามเทพกลับรวบรวมกำลังได้ขนาดนี้ นี่ทำให้ฉื่อหยานหวาดกลัวในหัวใจ
" เปิดรูปแบบสามทะเลสาป สุริยัน จันทรา และ ดวงดาว ฉื่อหยาน ต้องแช่ตัวในน้ำทะเลสาบเพื่อปลดผนึกจิตวิญญานแห่งดวงดาว . " ถังหยวนหนาน ครุ่นคิดสักพักแล้วตะโกนเล็กน้อย
ใบหน้าเก่าผู้อาวุโสระดับนภาแสดงออกอย่างหวาดกลัวและช่วยไม่ได้ที่เขาจะมองไปที่ฉื่อหยานด้วยความประหลาดใจ
" ท่านประมุข . . . . . . . "
หนึ่งในผู้อาวุโสลังเลนิดเล็กน้อย และช่วยไม่ได้ที่เขาจะพูดออกมา "การเปิดผนึกเทพดวงดาวจะต้องได้รับความเห็ฯชอบจากผู้อาวุโส ดังนั้น การเปิดทะเลสาบทั้งสาม สุริยัน จันทรา และดวงดาว ดูเหมือนจะไม่ตรงกัน
เพราะมันเป็นกฏ "
ถังหยวนหนาน ขมวดคิ้วและพูดอย่างเด็ดขาด " ครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมา ฉื่อหยานได้พิสูจน์ความสามารถของเขาแล้ว และ ร่างกายของเขาก็มีจิตวิญญานแห่งดวงดาวและข้าสามารถพิสูจน์ได้ว่า ในช่วงวิกฤตนี้ ขระที่เผ่าอสูรบุกมา เราอย่าให้ผูกมัดกับกฏมากนัก เราควรจะทำในสิ่งที่ต้องทำ”
ผู้อาวุโสของพรรคสามเทพแสดงความสงสัยเมื่อได้ยินคำพูดของถังหยวนนาน . พวกเขากำลังลังเล ไม่แน่ใจ และดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของถังหยวนหนาน .
" เมื่อ ฉื่อหยาน กลายเป็นเทพดวงดาว เขาจะได้รับมีอำนาจบนเกาะ ข้าจะยกหมู่เกาะส่วนหนึ่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของข้าเอง ข้าจะไม่บังคับพวกท่านให้มอบเกาะให้หลอก . " ถังหยวนหนาน เผยรอยยิ้มเย็ฯชา " ในไม่ช้า กลุ่มเผ่าอสูรจะกระจายไปทั่วทะเลเหิงลั่ว เกาะที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกท่านเร็วๆนี้จะต้องกลายเป็นเศษซากแน่ "
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าของผู้อาวุโสของพรรคสามเทพก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะพยักหน้าอย่างเศร้าๆโดยไม่พูดอะไรอีก
" งั้นท่านก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของข้า ? " ถังหยวนหนาน ถาม
ด้วยความร้อนรน
เมื่อได้ยินคำถามนั้น ผู้อาวุโสพรรคสามเทพก็พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ รู้สึกไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ ในสถานการณ์เช่นนี้
" เดี๋ยว . . " ภายใต้ดวงตาที่ประหลาดใจของเหล่าสาวกพรรคสามเทพ ฉื่อหยานก็ยืนขึ้นและพูดอย่างไม่สบอารมณ์ "ประมุขถัง ท่านกำลังพูดเรื่องอะไร ? ข้าไปตกลงว่าจะเป็นเทพดวงดาวของพรรคสามเทพเมื่อไหร่กัน ?
สาวกของพรรคสามเทพหลายคน รวมถึงผู้อาวุโสที่เคยพยักหน้า ก็กลายเป็นอึดอีด หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ ฉื่อหยาน . พวกเขามอง ฉื่อหยาน ด้วยความโกรธ
ถังหยวนหนาน ก็เซ็งมาก ถามว่า " เป็นเทพดวงดาว ตราประทับของจิตวิญญานดวงดาวในร่างของเจ้าจะถูกเปิดและนั่นเจ้าจะสามารถเรียนรู้ความลับของมันได้ นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเจ้าอยากมากสำหรับความสำเร็จของเจ้าในอนาคต มันก็แค่นั้น แต่การได้เป็นเทพดวงดาว เจ้าจะได้ครอบครองพลังที่ยิ่งใหญ่ ในพรรคสามเทพ นอกเหนือจากข้าและเทพจันมราแล้ว ทุกคนจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของเจ้า นอกจากนี้เจ้าจะได้รับเกาะจำนวนหนึ่งในห้าของพรรคสามเทพ "
ดังนั้น , ด้วยผลประโยชน์เหล่านี้ เจ้ายังต้องคิดอีกรึ ?
" ไม่มีผลโยชน์ฟรีในโลกนี้ " ฉื่อหยาน ส่ายหัว " ข้าไม่เชื่อว่าการเป็นเทพดวงดาวของพรรคสามเทพนั้นจะได้รับประโยชน์ได้ไม่มีข้อผูกมัด ข้าต้องการรู้ว่าข้าต้องทำอะไร หลังจากที่ข้าได้เป็นเทพดวงดาว ข้าจำเป็นจะต้องทำจามกฏพรรคสามเทพหรือไม่ ? "
" นั่นเป็นเรื่องเล็กน้อย " ถังหยวนหนานยิ้มอย่างไม่สนใจ " เมื่อเป็นเทพดวงดาวของพรรคสามเทพ เมื่อพรรคเผชิญหน้ากับอันตราย เจ้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะเทพดวงดาว
กองกำลังขอาพรรคเผชิญหน้าศัตรู เจ้าต้องฆ่าศัตรูและปกป้องผลประโยชน์ของพรรค ก็แค่นั้น "
" ถ้าพรรคตกอยู่ในอันตราย แต่ข้าไม่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการปกป้องพวกเขาหละ ?" ฉื่อหยานก็ถามหลังจากที่คิดสักพัก
" ถ้าเป็นเช่นนั้น เหล่าเทพของพรรคก็ใช้ความพยายามทั้งหมดดึงพลังอำนาจของเจ้ากลับมาและผนึกจิตวิญญานดวงดาวในร่างของเจ้า. " ถังหบวนหนานตอบอย่างเป็นธรรมชาติ
" ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่สนใจที่จะเป็นเทพดวงดาวของพรรคสามเทพ " ฉื่อหยาน ส่ายหัวไป พูดต่อ " ข้าไม่อยากผูดมัดตัวเองไว้กับใคร หรือข้อบังคับใด ๆ ข้าไม่ต้องการเป็นเทพดวงดาวเพื่อผู้อื่น "
" เจ้าเด็กอวดดี !" ผู้อาวุโสก็คำรามอย่างโกรธเคืองและมองที่ ฉื่อหยาน ด้วยใบหน้าจริงจัง "เจ้ามันไร้ยางอายนัก ! ถ้าเจ้าไม่ได้โชคดีที่ได้รับมรดกของเทพดวงดาวเจ้าก็เป็นแค่เด็กจากตระกูลหยาง ข้าจะฆ่าเจ้าซะ ถ้าท่านประมุขไม่ได้สนใจเจ้า หรือยกย่องให้เจ้าเป็นเทพดวงดาว และแม้กระทั่งเต็มใจยกให้ผลประโยชน์ของตัวเองเพื่อเจ้า เจ้าจะยังต้องการอะไร ? "
" ข้าบอกเจ้าแล้ว ข้าไม่ต้องการผูกมัดกับสิ่งใด" ฉื่อหยาน ไม่ได้แสดงความกลัวใด ๆออกมาแล้วเขาก็ถามด้วยสีหน้าเย็นชา " เจ้าพวกตาเฒ่า หูของเจ้ามีปัญหาหรือไง ?
" ท่านประมุข ข้าอภัยข้าไม่เห็นด้วยกับท่าน " ดวงตาของผู้อาวุโสเหล่านี้ลุกโชนด้วยความโกรธเกรี้ยว ในขณะที่พวกเขาก้มลงทำความเคารพถังหยวนหนาน . โดยไม่รอถังหยวนหนาน เปล่งคำพูดใด เขาก็เปิดแขนกว้างและตะโกนอย่างเย็นชา , " พิรุณเพลิงแผดเผาสุริยัน "
" หวือหวือหวือ " .
ลำแสงแดดอันศักดิ์สิทธิ์ก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของผู้อาวุโส
แสงแดดเป็นเหมือนกับลาวาสีแดงแผดเผาพุ่งไปที่หัวของฉื่อหยาน
ฉื่อหยาน ก็หัวเราะอย่างเย็นชา แล้วปล่อยพลังความเย็นจากรูปแบบวงหมุนที่เกิดจากการหลอมรวมกันของเปลวเหมันเยือกแข็ง แกนเพลิง และ จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์
"สายลมเหมัน ! " .
โยมี ฉื่อหยานเป็นศูนย์กลาง พื้นที่โดยรอบก็ถูกปกคลุมด้วยความเย็น พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของเขาทันทีก็กลายเป็นน้ำแข็งหนาขึ้น แม้ร่างกายก็ถูกแช่แข็ง ฉื่อหยาน ในไม่ช้า ร่างกายของเขาก็กลายเป็นเหมือนกับรูปปั้นน้ำแข็ง
น้ำแข็งภายนอกร่างกายของเขาสูงประมาณสิบเมตร เปล่งพลังความเย็นหนาแน่น
ประกายแสงไฟจากพิรุณเพลิงแผดเผาสุริยัที่ออกมาจากฝ่ามือของผู้อาวุโส ก็ประทะเข้ากับน้ำแข็งรอบๆฉื่อหยาน . อย่างไรก็ตาม ทันทีที่แสงอาทิตย์นั้นสัมพัสกับพลังความเย็นที่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเปลวเหมันเยือกแข็ง และ จิตวิญญานพระเจ้าศํักสิทธิ์ แสงไฟก็หายไปกลายเป็นจุุดแสงเล็กๆ ภายใต้พลังอันเย็นยะเยือกที่น่ากลัว แสงไฟก็หายไปในพริบตา
ฉื่อหยานแสยะยิ้มอย่างเย็นชา เท้าข้างหนึ่งของเขาที่เหยีบอยู่บนน้ำแข็งก็กระทืบลงครั้งหนึ่ง
เป็นพลังสีขาวอันเย็นยะเยือกแทรกซึมเข้าไปในแผ่นดิน และพุ่งตรงไปยังผู้อาวุโสที่ลงมือ
ที่ใดก็ตามที่พลังสีขาวผ่านไป พื้นที่ตรงนั้นจะถูกแช่แข็งทันที ซึ่งมันดูคล้ายกับมังกรกระดูกผลึกเหมันโค้งไปมา เผยให้เห็นถึงกระดูกน้ำแข็ง
" แคว๊กก แคว๊กก แคว๊กก " .
ผู้อาวุโสสีหน้าก็เปลี่ยนไป ดวงตาของเขาส่องประกายตื่นตระหนก เขาใช้ความพยายามทั้งหมดของเขา เพื่อรวบรวมพลังปรารลึกลับและจิตวิญญานต่อสู้ที่แข็งแกร่งอัดแน่นบนฝ่ามือ
ดั่งดวงอาทิตย์
" ม่านแสงศักดิ์สิทธิ์ปกคลุม !" ผู้อาวุโสคำรามอย่างเย็นชา ดวงอาทิตย์บนร่างกายของเขาพลันสว่างเป็นวงกลมแสงศักดิ์สิทธิ์ ชกไปที่พื้นอย่างรุนแรง
" น้ำแข็ง ! " ฉื่อหยานที่อยู่ในน้ำแข็ง ก็ชี้นิ้วของเขาไปที่ผู้อาวุโส นิ้งของเขาจู่ๆพลังสีขาวที่หนาวเย็นนับพันก็พุ่งออกมา พลังที่หนาวเย็นนั้นแทงทะลุไปที่ดวงอาทิตย์ที่ส่องแสง
" แกร๊กก แกรีกก แกร๊กก "
ภายใต้สายตาของคนที่จ้องมองดู แม้ผู้อาวุโสระดับนภาได้ใช้ม่านแสงศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมของพรรคสามเทพ ผมและเคราของเขายังถูกแช่แข็ง ดวงอาทิตย์ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งสีน้ำเงิน ถูกแช่แข็งและไม่มีประกายแสงใดส่องออกมาอีก
สาวกของพรรคสามเทพทั้งหมด ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ