บทที่ 338 หลอมรวมอย่างสมบูรณ์
บทที่ 338 หลอมรวมอย่างสมบูรณ์
บนเกาะร้าง
ฉื่อหยาน แรงกดดันสีรุ้งก็พุ่งทะยานออกมา
ถูกดึงดูดโดยวงหมุนพลังปราาณลึกลับกลิ่นอายธรรมชาติรอบๆทะเลที่อยู่ใกล้ๆไหลเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างหนาแน่น
มันหนาแน่นจรหายใจไม่ออก ด้วยกลิ่นอายธรรมชาติที่หน่าแน่นนี้ต้นไม้โบราณปรากฏขึ้นอีกครั้งตรงกลางวงหมุนพลังปราณลึกลับ ฉื่อหยานดูดซับพวกมันจนหมดสิ้น
รูปแบบชีวิตที่แปลกประหลาดของจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์สามารถรวบรวมกลิ่นอายธรรมชาติเข้ามาในร่างเข้าได้ หลังจากที่มันหลอมรวมเข้ากับเปลวเหมันเยือกแข็งและแกนเพลิง ความสามารถนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก กลิ่นอายธรรมชาติที่ถูกดูดซับนี้เทียบได้กับปริมาณของกลิ่นอายอสูรที่เกิดจากดาบอสูรได้เพียงแค่เวลาสั้นๆ
หลังจากที่ได้รับกลิ่นอายธรรมชาติจำนวนมหาศาลแล้ว ฉื่อหยานที่ก่อนหน้าไร้ซึ่งพลังก็เต็มเปี่ยมได้ด้วยพลังปราณลึกลับ เส้นแสงพลังปราณลึกลับนับหมื่นไหลเข้าไปในพื้นที่แปลกประหลาดในร่างของเขา ทำให้ต้นโม้โบราณมีขนาดใหญ่มากขึ้นด้วยพลังปรารลึกลับ
ต้นไม่พลังปราณลึกลับโบราณมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ละกิ้งก้านของมันก็เริ่มตกผลึกเป็นประกาย.
พลังปราณลึกลับของเขาหนาแน่นเป็นอย่างมาก
ในเวลาเดียวกัน ขาที่หักของเขา ที่เกิดจากการใช้ก้าวอัศนี ก็ถูกรักษาอย่างรวดเร็วภายใต้พลังของจิตวิญญานอมตะ เลือดและเนื้อในขาของเขาค่อยๆเกิดขึ้นมาใหม่ และในที่สุด ขาทั้งสองของเขาก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
" เจ้าเด็กน้อย เจ้าช่างแข็งแกร่งนัก "
หม่าฉีต้วน ที่มีขนากร่างกายสูงร้อยเมตรก็โฉบอยู่บนท้องฟ้าเหนือเกาะร้าง , ถือดาบอสูรไร้เทียมทานในมือของเขา . " แต่ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเติบโตกว่านี้แน่ . "
จากดาบอสูร ประกายแสงอสูรสีดำก็ขยายยาวหลายร้อยเมตรทำให้ดูเหมือนกับห้วงจักรวาล แสงอสูรที่หนักกว่าหมื่นกิโลกรัม และมีพลังดั่งภูเขาสิบลูกก็พุ่งขึ้นมาจากทะเลเหมือนกับมังกรสงครามที่เป็นสัตว์อสูรโบราณ มันปลดปล่อยพลังลงมาทั้งหมด ทำให้ท้องฟ้าและแผ่นดินสั่นสะเทือน
หน้าฉื่อหยานก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
ภายใต้การแรงกดดันที่น่ากลัวของดาบอสูรไร้เทียมทาน ห้วงจิตสำนึกของเขาก็สั่นไม่หยุด ในขณะที่วิญญาณหลังของเขาเริ่มพัง ราวกับว่ามันไม่สามารถทนแต่แรงกดดันและแรงสั่นสะเทือนนั้นได้
ทันทีที่ห้าปีศาจรับรู้ถึงสถานการณ์ที่ไม่สู้ดี พวกมันก็รีบกลายเป็นเงาปีศาตทันทีและพุ่งลงไปในห้วงจิตสำนึก
ห้วงจิตสำนึกที่กำลังสั่นสะท้าน ในที่สุดก็หยุดสั่น จิตวิญญานหลักก็ฟื้นกลับมาและสามารถควบคุมร่างกายได้
เห็นดาบอสูรที่ยาวร้อยเมตรส่องแสงมืดมนออกมา และยังได้ยินเสียงฉีกขาดกึกก้องในท้องฟ้า , ฉื่อหยาน ความบ้าคลั่งก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาในดวงตาของเขา
ในตอนนั้นเองแหวนสายโลหิตก็ส่องแสงยาวหมื่นจ้างออกมา ( 1 จาง เท่ากับ 3.33 เมตร ) แสงส่องปกคลุมทั่วท้องฟ้า เป็นโดมขนาดใหญ่ปกคลุมฉื่อหยาน .
" แกร๊กก แกร๊กก "
ประกายแสงคมเสี้ยวดาบจากการฟันของดาบอสูร ประทะเข้ากับโดมขนาดใหญ่ของแหวนสายโลหิตราวกับว่ามันต้องการที่จะฉีกท้องฟ้าและผืนดิน
โดมก็บิดเบี้ยว จุดที่ดาบลงมาประทะยุบลงไปประมาณสิบเมตรอยู่เหนือของฉื่อหยาน
ฉื่อหยานก็หวาดกลัว
หม่าฉีต้วน ยังตะลึงจนพูดไม่ออก .
บึช บึช บึช บึช บึช บึช !
แหวนสายโลหิตก็ส่งเสียงดังออกมาราวกับเสียงของวิญญาณโบราณที่เงียบมานานนับล้านปี มันโกรธดาบอสูรและตอนนี้ก็ส่งเสียงสะท้อนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ด้วยเสียงที่ดังออกมาจากแหวน , รูปแบบโบราณบนพื้นผิวแหวนก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างลึกลับ แต่ละรูปแบบนั้นจะดูราวกับว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่นับหมื่นพวกมันแตกต่างกันออกไปและมีภูเขาที่สั่นสะเทือนนับร้อยล้านลูก อีกทั้งอำนาตเหนือธรรมชาติที่นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นเรื่อย ๆ
หัวของ ฉื่อหยาน ก็กลายเป็นวุ่นวาย
จิตใจของฉื่อหยานตกตะลึงเล็กน้อย เป็นวิญญาณของเขาที่ดูเหมือนจะเข้าไปในพื้นที่แปลกๆบนพื้นผิวของแหวน เขามองเห็นเทพโบราณ' ที่มีหัวสูงทะลุท้องฟ้าและเท้าทะลุพื้นดิน ' มีมังกรเทพโบราณพันอยู่รอบๆตัว มังกรเทพโบราณเหล่านี้ลอดอยู่ในร่างกายของเขาเหมือนกับเป็นเส้นชีพจร ทุกจุดชีพจรในร่างกายของเขาเปล่งแสงพระเจ้าเจิดจ้าออกมาและพวกมันก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมาย
จุดชีพจรที่ดูเหมือนจะเป็นที่กักเก็บโลกทั้งเจ็ดร้อยยี่สิบใบ พวกมันแต่ละจุดมีตัวตนของตัวเอง มีสิ่งมีชีวิตมากมาย และนักรบระดับสูงหลายคนที่เกิดและตาย การไหลเวียนของประวัติศาสตร์ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ปรากฏออกมามากมาย สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
" อ๊าาา " เทพโบราณยืนอยู่ท่ามกลางโลกที่กว้างใหญ่ ทำให้โลกยุ่งเหยิง เขาปลดปล่อยเสียงคำรามออกมาโดยไม่สนใจห้วงจักรวสล เสียงได้สั่นสะเทือนโลกนับไม่ถ้วน เกิดเป็นจุดสิ้นสุดของจักรวาล จุดจบของโลก
" บูม "
หัวของ ฉื่อหยาน เจ็บปวดสุดขีด วิญญานหลักในห้วงจิตสำนึกของเขาก็ขยายอย่างบ้าคลั่งเลย หลายร้อยล้าน คลื่นพลังก็ไหลทะลักเข้าไปในห้วงจิตสำนึก
แหวนสายโลหิตพื้นผิวของมันก็เกิดรอยแยกที่ตาเปล่ายากจะเห็นได้ เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานก็ถูกดึงออก มาแล้วถูกดูดเข้าไปในห้วงจิตสำนึกราวกับว่าเป็นอาหาร
เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานร้องออกมาด้วยความกลัว เปลวไฟนภาอันดับสามนี้ดูเหมือนจะรู้โชคชะตาของตัวเอง และรู้สึกว่าชีวิตของตนอยู่ในอันตราย ดังนั้น จึงอาละวาดดิ้นรนพยายามออกจากผนึกที่แข็งแกร่งในห้วงจิตสำนึกของฉื่อหยาน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามันจะดื้นรนขัดขืนรุนแรงเท่าใด มันก็ไร้ประโยชน์
เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานสุดท้ายก็ถูกดูดเข้าไปในวิญญานหลักของ ฉื่อหยาน และกลายเป็นวิญญานหลักที่สาม กลายเป็ดวงตาดวงใหม่ของเขา ปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้วของเขา
ความเจ็บปวดเหลือทนขึ้นก็ออกมาจากห้วงจิตสำนึก ฉื่อหยาน จับหัวของเขากรีดร้องโหยหวนออกมาเหมือนสัตว์ร้าย
ใน เวลาเดียวกัน หม่าฉีต้วน อย่างต่อเนื่องก็ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา พร้อมกับควงดาบอสูรและฟันลงไปอย่างรุนแรง
ขนาดใหญ่ , โดมส่องแสงสีแดง ซึ่งครอบคลุม ฉื่อหยาน , อยู่ก็ถูกกระแทกอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม รอยแตกมากมายก็เริ่มปรากฏ มันดูเหมือนจะพังได้ตลอดเวลา
ฉื่อหยาน เอาแต่กรีดร้องและ . . . ในเวลาเดียวกัน , แหวนสายโลหิตก็ระเบิดออก ผลึกอสูรของสัตว์อสูรก็ลอยออกมา ระเบิดที่เหนือหัวของเขาและกลายเป็นลำแสงพลังปรารลึกลับมหาศาลไหลเข้าไปในโดมสีแดงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อได้รับผลึกอสูร ' พลังที่อยู่บนพื้นผิวของโดมสีแดงทันทีก็ฟื้นคืนกลับมาเป็นเหมือนเดิม
หม่าฉีต้วน คำรามอย่างเกรี้ยวกราด แกว่งดาบของเขาและเจาะลงไปอีกครั้ง
ฉื่อหยาน พลิกตัวบนพื้นดิน อดทนกับความเจ็บ รู้สึกถึงวิญญานหลักที่กำลังหลอมรวมกับเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน รู้สึกได้ถึงห้วงจิตสำนึกที่กำลังพลุ่งพล่าน .
ห้าปีศาจที่ซ่อนอยู่ในห้วงจิตสำนึก ก็ดูเหมือนจะตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าสะหรึงกลัวและด้วยเหตุนี้พวกมันจึงหลบซ่อนตัวเองอย่างระวังเพราะพวกมันไม่สามารถออกไปจากห้วงจิตสำนึกได้
ในพื้นที่วงหมุนพลังปราณลึกลับ , ต้นไม้โบราณพลังปราณลึกลับก็เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กิ้งก้านของต้นไม้ก็ส่องประกายเหมือนหยก , เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งซึ่งเต็มไปด้วยพลังมหาศาลที่สามามรถทำให้ผู้อื่นหวาดกลัวได้
ห่างออกไปหลายพันไมล์
ในขณะที่ดูฉากนี้ผ่านผลึก , กลุ่มของถังหยวนหนาน , ฉาวจื่อหลาน กู่เฉา ยู่ชิง , , , และหม่านกู่ก็สะดุ้งพร้อมกับดวงตาเบิกกว้างและปากอ้าค้างและใบหน้าที่เศร้าหมองเหมือนถูกตอกลงบนพื้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้และลืมเรื่องของพวกเขาไป
ทุกคนรู้สึกกลัวอยู่ในจิตใจและตกอยู่ในอาการช็อก พวกเขาหยุดหายใจ พวกเขาเพียงแค่จ้องมองอย่างว่างเปล่า ดูฉากที่เกิดขึ้นในผลึก
สักพักต่อมา ร่างของถังหยวนหนาน พลันสั่นสะท้านขณะที่เขาตื่นจากความกลัว เขาตกตะลึงจนพูดไม่ออกชั่วขณะก่อนจะบินจากไป ไม่สนใจผู้อื่น
หลังจากที่ถังหยวนหนาน ไปแล้ว กู่เฉา ยู่ชิง , ฉาวจื่อหลาน และหม่านกู่ก็ได้สติของตน ด้วยความประหลาดใจ ทั้งสี่คนก็มองกันและกัน และพวกเขาก็ได้เห็นสายตาที่หวาดกลัวของกัน
" ตระกูลหยางสูญเสียจักพรรดิหยางเทียนไปแล้ว แต่เจ้าเด็กฉื่อหยานนี่กลับน่ากลัวยิ่งกว่า อยู่ๆก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน ถ้าเด็กคนนี้ไม่ตายวันนี้ ในอนาคตไม่ว่าใครในทะเลไม่มีสิ้นสุดก็ไม่สามารถหยุดเขาได้ . " กู่เฉา เงียบมาได้สักพัก ก่อนจะมองที่ฉาวจื่อหลาน และพูดด้วยเสียงต่ำๆ " ตอนที่เจ้าเด็กนี่เติบโตขึ้น แม้แต่ปู่ของเจ้า ฉาวเชียวเต้าก็ไม่สามารถหยุดเขาได้ " .
ฉาวจื่อหลานร่างที่ละเอียดอ่อนก็สั่นสะท้าน ตาของนางเต็มไปด้วยความสำนึกผิด ตอนนี้นางได้รู้แล้วว่านางทำพลาด
ฉาวจื่อหลาน อยากจะร้องไห้อยู่ลึกๆในใจ และอยากจะกลับใจกลับไปหาคนๆนี้คนที่จะทำให้โลกตกตะลึงในอนาคต
" ถ้าเขาไม่ตายวันนี้ ทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะตกอยู่ในมือเขาแน่ในเวลาสิบปี " ยู่ชิง ถอนหายใจยาว มองไปที่ฉาวจื่อหลาน แล้วเลื่อนสายตาไปทางตะวันออก พึมพำ " จงหลี่ต้วน ที่อยู่ในอันดับแรกของรายชื่อลำดับผู้แข็งแกร่ง ก็ไม่สามารถเทียบเขาได้ ตระกูลหยางมีวีรบุรุษถือกำเกิดขึ้นแล้ว”
" เราต้องช่วยเขา "
ฉาวจื่อหลาน ร่างกายที่ทรงเสน่ห์ของนางก็เคลื่อนไหวเล็กน้อย อยู่ดีๆนางก็พูดออก "เพื่อทะเลไม่มีที่สิ้นสุด เราต้องช่วยเขา เขาจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะจัดการกับเผ่าอสูร . "
" ฉาวเจี่ย ! " ( เป็นศัพท์ใช้เรียกพี่สาว ) หม่านกู่เล็กน้อย ก็ส่ายหัวด้วยใบหน้าที่ซับซ้อน
" พวกเจ้า . . . . . . . " ฉาวจื่อหลาน ดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงนึกได้ ทันที นางก็พูดพร้อมกับมองไปที่ คน อื่น ๆ , แสยะยิ้มและพูดอย่างเย็นชา " เจ้ากลับงั้นรึ ? "
" ถ้าเขาไม่ตาย แม้ว่าเผ่าอสูรจะจากไป เราก็แทบจะไม่สามารถหนีจากภัยพิบัติได้อยู่ดี " กู่เฉา ก้มศีรษะ ไม่กล้ามองไปที่ฉาวจื่อหลาน และพูดด้วยเสียงเย็นชา "เราเคยร่วมมือกันกำจัดตระกูลหยาง ตราบใดที่ ฉื่อหยาน ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาจะต้องชำระหนี้แค้นเลือดแน่ ตระกูลฉาวเองก็คงหลีกเลี่ยงการแก้แค้นของเขาไม่ได้ง่ายๆ ถ้าเจ้าไม่อยากตกเป็นเบื้องล่างตระกูลหยาง มันดีกว่า ถ้าจะยืนดูอยู่เฉยๆ "
" เขาแข็งแกร่งเกินไป ทะเลไม่มีสิ้นสุดไม่สามารถหยุดเขาได้ . " ยู่ชิง ยังส่ายหน้า ถอนหายใจออกมา " ถ้าฉาวเชียวเต้า และหยางอี้เทียน รู้ว่าตระกูลหยางมีคนเช่นนี้อยู่ เขาคงจะเห็นด้วยที่จะฆ่าเจ้าเด็กนี้ก่อนจะเติบโต และยิ่งเป็นตระกูลของเราและราชวง์สงครามศักดิ์สิทธิ์ เราจะไม่เปิดโอกาสให้เขาเติบโตแน่ .
" เขาจะต้องตาย ! " กู่เฉา โค้งลงเล็กน้อยและตะโกน
" ฉาวเจี่ย ทะเลไม่มีสิ้นสุดไม่สามารถทนต่อเขาได้ . . . . . . . " หม่านกู่ยังส่ายหัวและถอนหายใจ " ไม่มีใครได้ประโยชน์อะไร ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ ทุกคนต่างก็รู้เรื่องตระกูลหยางดีว่าแข็งแกร่งและเผด็จการแค่ไหนและเราก็ถึงกับต้องร่วมมือกันพื่อจัดการกับพวกเขา ถ้า ฉื่อหยาน ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องทำลายชีวิตและตระกูลของเราแน่”
ดวงตาคู่สวยของฉาวจื่อหลาน ก็เปิดเผยร่องรอยของความสับสน นางมองไปที่ผลึกอย่างไร้จุดหมาย และลังเล
" ติ้งดิ้ง ”
ทันใดนั้น เสียงก็ดังออกมาจากกำไลที่แขนนาง
ฉาวจื่อหลาน ก็สะดุ้ง ทันทีก็จับกำไลมือ ผลึกที่นางใช้เพื่อสื่อสารกับตระกูลฉาวก็ค่อยๆโผล่ออกมาจากมือของนาง
นางต้องใข้จิตสำนึกของนางเพื่อสื่อสาน ฉาวจื่อหลาน ทันทีก็หน้าซีด . หลังจากนั้น นางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้าและพึมพำ " ตระกูลของข้าเองก็ดูเหมือนจะคิดเช่นนั้น อย่างที่ท่านพูด พวกเขาไม่อยากให้เขามีชีวิตอยู่ . . . . . . . "
เมื่อนางพูดจบ ฉาวจื่อหลาน ก็นั่งลงอย่างหมดหนทาง หยุดความคิดที่จะช่วยฉื่อหยาน , และทำเพียงแค่จ้องมองผลึกที่อยู่ด้านหน้านาง
ฉื่อหยาน โดยไม่รู้ตัว ขณะที่เขาลุกขึ้น ดาบลึกลับก็โฉบเหนือหัวของเขา
บนดาบ มีดวงตาที่ปิดอยู่ปรากฏอยู่มากมาย กลิ่นอายชั่วร้ายไม่มีสิ้นสุดก็ทะลักออกมาจากดวงตาเหล่านั้น
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ