บทที่ 333 พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
บทที่ 333 พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
" นายท่าน พวกเราขอโทษ"
กลุ่มของอีเทียนโหมสทั้งสามก็คุกเข่าลง ก้มศีรษะของพวกเขาด้านหน้าของ ฉื่อหยาน ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก
สีหน้าฉื่อหยานก็มืดมน เขาพยักหน้าและพูดอย่างเรียบเฉย" ข้าเข้าใจแล้ว "
พวกเขาสามคนที่ก้มหัวให้ ไม่กล้าที่จะมอง ฉื่อหยาน . ตาของพวกเขาก้มต่ำด้วยลักษณะซับซ้อน
" นายท่าน ?" ราชาอสูร ชิหยาน แสยะยิ้มอย่างโหดเหี้ยม ร่างกายของเขาก็ปรากฏขึ้นเหนือคฤหาสน์
ใบหน้าซึ่งเคยเป็นของ เสี่ยวฮานยี้ บัดนี้ตอนนี้ก็กลายเป็นดุร้าย , " นี้เป็นมนุษย์ชั้นต่ำน่าอัปยศ แต่พวกเจ้ากลับเรียกเขาว่านายท่าน เจ้าได้สูญเสียความภาคภูมิใจในตนเองของพวกเจ้าไปแล้วใช่ไหม ! หรือเพราะพวกเจ้าอาศัยอยู่ในดินแดนรกร้างมากนาน ? "
อีเทียนโหมว ไหล่พลันสั่นสะท้านในขณะที่ตาของเขาเต็มไปด้วยความแค้น แต่เขาไม่กล้าที่จะแสดงออกใดๆ
" เจ้าสามารถเรียก ราชาทมิฬเอวี่ ราชาใต้พิภพแห่งความตาย ราชานภาทมิฬ ว่า นายท่าน ได้เท่านั้น เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำนี่ไม่สมควรได้รับคำเรียกเช่นนั้น ข้าจะกำจัดมันให้เอง . "
ชิหยาน ก็เดินไปข้างหน้าในอากาศ ,กลิ่นอายเย็นยะเยือกทะลักออกมาอย่างเงียบๆ
ทันทีที่เขาเข้ามา ฝ่ามือใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่าเหมือนภูเขาค่อยๆกดลง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
" ไม่ ! " กลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคน ช่วยไม่ได้ที่จะร้องออกมาดังๆ ด้วยความอยากหยุดแรงกดดันจากมือใหฐ่นี่
" ไป ! " เยว่จางเฟิงก็ตะโกน เปลวไฟสีทองมากมายพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา
ท่ามกลางเปลวไฟสีทองอร่ามมากมายทที่ลอยออกมาจากแขนของเขา มันก็รวมตัวกันและเกิดเป็นคริสตัลสีทองอยู่เหนือศรีรษะของเขา คริสตัลนี้ส่องแสงยิบระยับมากมายครอบคลุมพวกเขาสามคนและฉื่อหยาน .
ฉื่อหยานกำลังจะพูดอะไรซักอย่าง แต่ก็รู้สึกเหมือนว่าหัวกำลังตจะระเบิดเป็นความเจ็บปวดแล่นผ่านไปทั่วกายของเขา ห้วงจิตสำนึกของเขากลายเป็นสีทอง
อวกาศบิดเบี้ยวแปลกๆ พร้อมกับมีพลังไหลและระเบิดออกมา เจาะผ่านชั้นบรรยากาศ
ทันทีที่แสงสีทองเปล่งประกายขึ้น สี่คนฉื่อหยาน เยว่จางเฟิง หลินหยาฉี และเซี่ยซินหยาน ก็หายไปอย่างน่าอัศจรรย์โดยไม่เหลือร่องรอยใด ๆ
" สมบัติเคลื่อนย้าย”
แสงแปลกๆระเบิดขึ้นต่อหน้าราชาอสูรชิหยานไม่กี่วินาทีต่อมา แสงในดวงตาสีดำของเขาก็เปลี่ยนเป็นปรากฏภาพอยู่ในภายใน มันเป็นภาพรอบๆเกาะสุริยันพันไทล์
โดยมีชิหยานเป็นศูนย์กลาง จิตสำนึกวิญญานของเขาก็ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
เพียงแค่ในไม่กี่วินาที จิตสำนึกวิญญานของราชาอสูรขนาดใหญ่ ชิหยาน ก็ได้ครอบคลุมรัศมีพันไมล์ และในดวงตาของ ชิหยาน ยังปี่กฏฉากของหมู่เกาะมากมายเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
แค่ยืนอยู่ตรงนี้ เขาก็ได้เห็นฉากจากไกลเป็นพันไมล์ สังเกตได้ถึงทุกการเคลื่อนไหวในสายตาของเขา
" เจอแล้ว " ราชาอสูร ชิหยาน ก็เผยรอยยิ้มพูดในขณะที่ตาซ้ายของเขา ส่องประกายด้วยแสงสีทองและปรากฏเกาะร้้างขึ้น
ราชาอสูร ชิหยานก็ยิ้มเยาะ ยืดมือไปในอากาศ
ความว่างเปล่าตรงหน้าเขาก็เป็นระลอกคลื่นเหมือนกับก้อนหินที่ตกลงไปในน้ำ ,เกิดเป็นคลื่นหลายชั้นกระจายออกไป
ในขณะที่ระลอกเหล่านั้นกระจาย ,ที่ด้านหน้าดวงตาของก็เขาค่อยๆ ปรากฏฉายภาพบนเกาะเล็กๆแห่งหนึ่ง
บนเกาะมี 4 คน เป็นกลุ่มของ เยว่จางเฟิง และฉื่อหยานที่ยังตกใจ หายใจหอบ
ราชาอสูร ชิหยาน มือซ้ายก็เอื้อมมือไปสัมผัสภาพของเกาะที่อยู่ด้านหน้าของเขา
บนเกาะ เมื่อฉื่อหยาน เยว่จางเฟิง หลินหยาฉี และเซี่ยซินหยาน ปรับสมดุลร่างกายแล้ว พวกเขาก็เห็นบางสิ่งรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆ ก้อนเมฆขนาดใหญ่อยู่เหนือหัวของพวกเขา มือยักษ์ ซึ่งสามารถครอบคลุมท้องฟ้าทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นและคว้าไปที่เกาะด้านล่าง
เกาะไม่ใหญ่มาก ขนาดของมันมีไม่ถึง 1ใน5ของเกาะสุริยัน แต่มันก็ยังใหญ่กว่าที่สี่เหลี่ยมพระเจ้าที่ ฉื่อหยาน อยู่ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ด้วยเกาะเล็ก ๆที่กว้างเล็กน้อย ภายใต้มือยักษ์ ฉื่อหยาน และพรรคพวกรู้สึกว่าไม่มีทางหนีไปได้เลย
" ให้ข้าจัดการเอง " ตอนนี้เอง หลินหยาฉี ก็ตะโกนออกมา กระโดดขึ้นไปรวดเร็วดั่งสายฟ้าคว้าแขนเย่จางเฟิงและดึงไปข้างหน้า
พลังรุนแรงที่ปั่นป่วนก็ที่แผ่ออกมาจากร่างของหลินหยาฉี . ภายใต้ที่คลื่นของพลัง แขนของเยว่จางเฟิงก็ส่องแสงสีทองออกมา และแสงสีทองบินก็ปรากฏตัวอีกขึ้นบนหัวสี่ก้อนอีกครั้ง ก่อนที่จะกลั่นตัวเป็นคริสตัลและใช้สมบัติการเทเลพอร์ตอีกครั้ง
ในช่วงกลางของแสงทองอร่าม , ฉื่อหยาน และกลุ่มพวกเขาทั้ง 4 คนก็หายไป
" บูม บูม บูม "
มือยักษ์ก็ยื่นออกมาจากกลุ่มเมฆ กดลงบนเกาะ ทั้งเกาะถูกทำลายภูเขาสูงพันเมตรถูกบดละเอียด
บนเกาะสุริยัน กลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคน ก็ถอนหายใจมองราชาอสูร ชิหยาน ด้วยความว่างเปล่า มองฉากที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาที่ปรากฏอยู่ในด้านหน้าของ ชิหยาน .
ขณะที่ทั้งสามคน เห็นเกาะทั้งเกาะถูกทำลายหลังจากถูกมือยักษ์ ชิหยาน กดลไปง พวกเขารู้สึกหวาดกลัวในใจ
กลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคน รู้ว่าฉากที่ปรากฏขึ้นท่ามกลางระลอกคลื่นในด้านหน้าของพวกเขาเป็นภาพจริง ๆ ไม่ใช่ภาพลวงตา แล้วมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ
หลังจากที่ราชาอสูร ชิหยาน ได้ทำลายเกาะ เขาก็ขมวดคิ้วของเขามองฉากนี้ด้วยสายตาของเขามราเปลี่ยนไปอีกครั้ง จิตสำนึกวิญญานของเขาขยายไปทั่วทุกทิศทางและครอบคลุมออกไปมากกว่าเดิมหนึ่งพันไมล์
นานต่อมา ราชาอสูร ชิหยาน ก็ดึงจิตสำนึกวิญญานกลับมา เหตุการณ์แปลกๆ ในดวงตาของเขาก็ค่อยๆหายไป เขาขมวดคิ้วของเขาครุ่นคิดสักพัก ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงเย็นชา " เจ้าเด็กบ้านี่เป็นหนึ่งในตระกูลหยางรึ ? "
กลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามก็เงียบ ไม่ปริปากสักคำ
" ถ้าเจ้าไม่พูด ข้าจะทำให้คิดออกเอง. "
ชิหยาน สูดลมหายใจเข้าและทันทีที่พูดเสร็จ เขาก็คว้าบางอย่างบนอากาศที่ว่างเปล่ส และเงาก็โผล่ออกมา นั่นคือหลี่ฟู่ .
ชิหยาน ไม่ได้ถามเขาอะไร ดวงตาของเขาเป็นเหมือนหลุมดำสองหลุ่ม เขามองไปที่หลี่ฟู่อย่างเย็นชา และจากนั้นเขาก็อ้าปากคายแสงสีดำออกมา
แสงสีดำทันทีก็กระแทกเข้ากับหลี่ฟู่ ,และ เจาะผ่านสมองของเขาเหมือนหนอนแทะไปที่จิตสำนึกของเขา หลังจากนั้นไม่นาน รูทวารทั้ง7บนใบหน้าของเขาก็มีเลือดไหลออกมา พลังในร่างกายของเขาก็ค่อยๆหายไป ในที่สุดเขาก็ แห้ง ล้มลงกับพื้นและตกตาย
" วูชช" .
ก็มีประกายแสงบินออกมาจากสมองของหลี่ฟู่ ชิหยาน รีบเปิดปากของเขาเพื่อกลืนมันลงไป ริมฝีปากของเขาขดเล็กน้อยขด ดวงตาจุดประกายด้วยจุดแสงสีดำ แล้วเขาก็รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับ ฉื่อหยาน ราวกับว่าเป็นเรื่องราวของเขา
" ผู้เหลือรอดจากตระกูลหยาง " ชิหยาน เยาะเย้ยส่ายหน้า แล้วพูดเบาๆว่า " โปวชุนจะลงมือีกไม่นานนี้ ตระกูลหยางจะหายไป "
หลังจากคำพูดของเขาเสร็จ ชิหยาน ก็หันไปทางภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์และกระแอมออกมา จิตสำนึกวิญญานขนาดใหญ่ก็ถลันตรงไปยังทุกคนที่มองมาจากยอดเขาแสงศักดิ์สิทธิ์
" หม่าฉีต้วน , ไอ้เด็กเวรที่เกือบจะทำลายวิญญานของเจ้า ได้หนีไปทางตะวันออก ตอนนี้เขาอยู่ไกลออกไปพันลี้ หากเจ้าเริ่มต้นตอนนี้เจ้าก็ยังสามารถจับเขาได้ "
บนยอดเขา ร่างกายที่น่าสะพรึงกลัวของหม่าฉีต้วนจากเผ่าเขามังกรก็สั่นสะท้านด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยคลื่นจิตสังหาร เขาปล่อยราชินีแห่งท้องฟ้าและราชาปฐพี แล้วมองไปทาง ชิหยาน จากระยะไกล
" ข้าจัดการที่นี่เอง " ชิหยาน ยิ้มและกล่าวว่า " ตราบใดที่ฉาวเชียวเต้า และหยางอี้เทียน ยังไม่มาที่นี่ พื้นที่ตรงนี้ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา ไอ้เด็กบ้านี่เพิ่งกลับจากหุบเหวสนามรบ เขามีสมบัติประหลาดที่สามารถทำลายผนึกได้ ถ้าเราปล่อยให้เขาเอาสมบัตินี่ไปให้จักพรรดิ์อหยางชิงตี้ได้ ข้ากลัวว่า เราจะลำบากกันในภายหลัง เจ้าควรไปเดี๋ยวนี้ "
หม่าฉีต้วนผู่น่าหวาดกลัวก็ แสยะยิ้ม และทันทีกลายเป็นประกายแสง พุ่งตรงเข้าไปในชั้นของก้อนเมฆอสูรอย่างบ้าคลั่ง มุ่งไปยังทิศตะวันออก
ชิหยาน หันศีรษะของเขา มองกลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนแล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า " พวกเจ้าไม่ต้องเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ อีกไม่กี่วันข้าจะให้พวกเจ้ามาเจอกัน รอจนกว่าการต่อสู้นี้จบลง ข้าจะพาเจ้าไปพบกับสามราชาทมิฬ . "
หลังจากพูดเสร็จ ชิหยาน ก็ไม่พูดอะไรต่อ เขามุ่งไปที่ยอดเขาแสงศักดิ์สิทธิ์
เสียงฝีเท้าของเขาอย่างช้าๆ แต่ทุกก้าวของเขาทำให้พุ่งผ่านอากาศไปไกล ดังนั้น หลังจากก้าวเพียงห้าก้าว เขาก็ไปถึงยอดเขา
หลังจาก ชิหยาน ปรากฏบนภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์ เขาก็เหวี่ยงหมัดทั้งสองของเขาไปในอากาศ หลังจากที่ปล่อยหมัด สายฟ้านับไม่ถ้วนก็แวบขึ้นในท้องฟ้า สายฟ้าสีดำนับล้านพุ่งออกมาจากความมืดไม่มีสิ้นสุด
ในช่วงกลางของสายฟ้าสีดำ สายฟ้าสีดำที่เป็นเหมือนงูเหลือมใหญ่กว่าหมื่นเมตรก็ค่อยๆโผล่ออกมา .
งูเหลือมสีดำขนาดใหญ่แต่ละตัวปลดปล่อยพลังที่สั่นสะเทือนโลกออกมา
ทันทีที่งูเหมือสายฟ้าสีดำสิบตัวปรากฏขึ้น ทันทีพวกมันก็ห่อรอบภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์ของพรรคสามเทพ รูปแแบบป้องกันที่อยู่ด้านนอกภูเขแสงศักดิ์สิทธิ์ก็แตก ภูเขาที่สูงนับหมื่นเมตรก็ถูกพัวพันด้วยงูใหญ่ทั้งสิบและเริ่มถูกบดขยี้
สายฟ้าสีดำเล็กๆมากมายบินรอบๆ ภูเขา เหมือนงูเล็กๆนับล้านตัวกัดเซาะทุกอย่างบนภูเขา ไม่เว้นแม้แต่ก้อนหิน
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ต้นไม้โบรารนับหมื่น , พืชที่นับไม่ถ้วนและ ดอกไม้ แมลง และสัตว์บนภูเขาทั้งหมดก็ถูกกลื่นกินฏโดยงูสีดำ . ภาพที่เขียวชอุ่มเขียวขจีบนภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์ก็กลายเป็นภูเขาร้างไร้ชีวิตชีวา
สาวกไม่กี่คนของพรรคสามเทพบนภูเขาด้านข้างเองก็ตกตายไปด้วยเช่นกัน โดยงูสีดำที่กลืนกินทำให้พวกเขาไม่เหลือแม้แต่กระดูก
งูเหลือมใหญ่สิบตัวยังคงพัวพันรอบภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์ และเกิดเป็นเสียงคำรามที่น่ากลัวขึ้น พวกมันดูเหมือนกำลังหยายาดบดขยี้ภูเขา ภายใต้การดึงและบิดของงูเหล่านี้ ภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกถอนรากแล้วล้มลงไปในทะเล
นักรบระดับสูง ที่อยู่บนยอดภูเขาทั้งหมดก็หวาดกลัว เมื่อพวกเขาเห็นภูเขาถล่มลงพวกเขาก็รู้สึกหนาวอยู่ในใจ มองไปที่ ชิหยาน ที่ซัดพลังออกมาจากมือชณะที่ยืนอยู่ในอากาศ
เรือราชาอสูรยักษ์ยังวนเวียนอยู่เงียบ ๆในอากาศเช่นเดิม
ปีศาจในร่างมนุษย์ที่มีหนามแหลมคลุมทั่วร่างกายก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วคำรามราวกับว่ามันเรียกอะไรบางอย่าง
ไม่นานสัตว์อสูนมากมายก็โผล่ออกมาจากท้องฟ้าและทะเลอย่างบ้าคลั่งบุกเข้ามายังเกาะสุริยันเหมือนกับฝูงตั๊กแตน , กวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนเกาะ กลืนกินและฉีกกระฉากนักรบที่อยู่รอบๆอย่างสยดสยอง พวกมันกลืนกินแม้กระทั่งกระดูกของพวกเขา
สัตว์อสูรเหล่านี้กำลังเคี้ยวกระดูกของนักรบมนุษย์และยังคงตามหาเป้าหมายอื่น ๆไปทั่วในเวลาเดียวกัน
ความตื่นตระหนกวุ่นวายแผ่กระจายไปทั่วเกาะสุริยันทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นสาวกของ พรรคสามเทพ หรือนักรบอื่นๆ ที่มามารวมกัน ทุกคนต่างก็กลัวตาย
ในการบุกรุกที่บ้าบิ่นของเผ่าอสูนในครั้งนี้ หลายคนไม่สามารถทนต่อความแข็งแกร่งของพวกเขาได้ ภายใต้การล้อมและฆ่าจากนักรบเผ่าอสูรเหล่านี้ พวกเขาก็ถูกฉีกกระฉากออกเป็นชิ้นๆ
บนเกาะสุริยัน เลือดไหลลงแม่น้ำ ; ซากศพกระจัดกระจาย เกาะกลายเป็นนรกบนดิน
ในเวลานี้ เกิดลูกแสงแปลกประหลาดมากมายตลอดเวลา มันระเบิดออกมา คนที่เหลือรอดอยู่พวกเขาพยายามหนีจากสถานที่นี้โดยไม่สนใจว่าร่างกายของพวกเขาจะถูกทำลายหรือไม่
บนภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์ หน้าฉาวจื่อหลานก็ซีด นางลากหม่านกู่ไปและหายไปในแสงสีเงินบนท้องฟ้า
ที่ตีนภูเขา กู่หลินหลงกระตุ้นเรียกดาบเทพออกมา แต่แล้วนางก็พบกับสัตว์อสูรที่ดุร้ายพรวดพราดลงจากท้องฟ้า
ที่ขี่สัตว์อสูรอยู่คือ นักรบเผ่าอสูรนภาที่สามระดับรู้แจ้งกำลังหัวเราะเยาะอย่างโหดเหี้ยม มันตวัดทวนสีดำในมืออย่างตื่นเต้นชณะที่มุ่งมายังนาง
" วุช " .
หลังจากหอกสีดำชี้มาที่ร่างกายงดงามของกู่หลินหลง สัตว์อสูรก็พุ่งมาอย่างรวดเร็ว ; กรงเล็บที่เหมือนกับเหล็กของมันจับไปที่หัวของกู่หลินหลง
" แผล๊ะ ! "
กู่หลินหลง หัวก็ระเบิด เลือดและสมองหลุดออกมาด้วยกัน
ท่ามกลางเลือดที่สาดกระเซนออกมา แสงมราครอบคลุมร่างกายทั้งหมดของกู่หลินหลง ก็ค่อยๆหายไป และนางก็ก็กลายเป็นหยดเลือดเข้าไปในพื้นที่บิดเบี้ยว จากนั้นร่างของนางก็หายไปอย่างลึกลับ
และสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นไปทั่วเกาะสุริยัน
นักรบส่วนใหญ่ที่ไม่มีสมบัติหรืออาวุธได้ๆ พวกเขาทำได้แค่นักวิ่งนอกเกาะด้วยความหวังว่าพวกเขาอาจจะรอดด้วยกระโดดลงทะเลเพื่อหนี
แต่น่าเสียดาย นักรบเหล่านี้ได้กลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรก่อนที่จะกระโดดลงไปในน้ำ
ที่ด้านบนของภูเขาแสวศักดิ์สิทธิ์ ก็มีแสงประกายเจิดจ้า , เป็นลูกศรแสงปรากขึ้น
ในช่วงกลางของแสงนั้น ถังหยวนหนาน ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เช่นเดียวกับ ขิงหมิง ราชินีแห่งท้องฟ้า , กษัตริย์ปฐพี กู่เฉา และ ยู่ชิง .
นักรบระดับพระเจ้าทั้งหกคน ที่เข้ามายังบนยอดสุดต้อนนี้กลับหนีไปเมื่อเผชิญกับการข่มขู่ของราชาอสูร ชิหยาน ปรมจารย์อสูรเซี่ยหยาน , แม่ทัพอสูรซินด้า , ปรมจารย์อสูรเอริก , และเผ่าอสูรอีกเจ็ดตนที่พึ่งเข้าสู่ระดับพระเจ้า
ด้วยนักรบระดับพระเจ้าทั้งหมดหนีไป ' นั่นหมายความว่าการต่อสู้ในเกาะสุริยันได้จบสิ้น
คนอื่น ๆที่ยังอยู่ใน เกาะสุริยัน , ไม่มีสมบัติลับใด ๆหรือรูปแบบลับเคลื่อนย้าย ดังนั้น พวกเขาไม่มีทางหนี ไม่มีความหวังที่จะอยู่รอด
โดยไม่รู้จักพอ ชิหยาน ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนหัวเรืออสูร มองลงไปยังเกาะ ตาของเขาเป็นสีหลุมสีดำ2หลุม ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
ปรมจารย์อสูรทั้งสอง ซินด้าและเอริด ที่อยู่ภายใต้คำสั่งของ ชิหยาน ก็บินลอยขึ้นไปอยู่บนเรืออสูรหลังจากภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์ถล่ม
ปรมจารย์ทั้งสองนี้เป็นเผ่าหางแหลม มีหากลากยาวห้าเมตร ที่ด้านหลัง หางนี่เต็มไปด้วยหนามแหลมเหมือนเขี้ยวดุร้าย ทำให้คนรู้สึกยากที่จะทำลาย
" นักรบระดับพระเจ้าหกคนได้หนีออกไปจากเกาะไปแล้ว " ซินด้า เดินไปคุยกับ ชิหยาน ด้วยเสียงที่แหบแห้ง
" อย่าไปยุ่งกับพวกเขา . " ชิหยานก็มองลงไปที่เกาะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า " พวกมันจะต้องไปหาฉาวเชียวต้วน และหยางอี้เทียนแน่ รวบรวมกองกำลังของเราสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไป ฉาวเชียวเต้า และหยาง อี้เทียน จะปรากฏตัยขึ้นอีกไม่นาน และนั่นคือการต่อสู้ที่แท้จริง”
ซินด้า เอริก ก็ก้มหน้าลงพยักเล็กน้อย เพื่อแสดงออกว่าเข้าใจแล้ว
"กวาดล้างมนุษย์ทุกคนในทะเลแห่งนี้ ใช้ศพของพวกมันเพื่อที่จะสร้างสะพานวิญญาน เพียงศพมนุษย์อีกล้านศพก็เพียงพอจะสร้างสะพานวิญญานแล้ว ตอนนั้นโปวชุนและร่างที่แท้จริงของข้าก็จะสามารถมาที่ทะเลแห่งนี้ได้จริงๆ ถึงตอนนั้นต่อให้เป็น ฉาวเชียวเต้าและหยางอี้เทียนก็ไม่สามารถหยุดพวกเราได้. " ชิหยาน มองลงไปยังสิ่งมีชีวิตใต้และกล่าวอย่างไร้ความปราณี
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ