ตอนที่แล้วบทที่ 327 ระหว่างความเป็นความตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 329 ไม่คำนึงถึงผลกระทบ

บทที่ 328 ข่มขู่ซึ่งๆหน้า


บทที่ 328 ข่มขู่ซึ่งๆหน้า

ที่ตีนภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์ ร่างของกลุ่มอีเทียนโหมวทั้งสามคนก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย ในขณะที่พวกเขารู้สึกหนาวกระดูกสันหลัง จิตวิญญาณของเขาทันที ก็แผ่ออกมาครอบคลุมทางเข้าทั้งภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์

นักรบรอบๆก็ตกใจและ วิ่งหนีเพื่อขยายระยะห่างระหว่างพวกเขามากขึ้น

ภายใต้สายตาที่จ้องดู พวกเขาสามคนก็เปิดดวงตาเศร้าหมองและแข็งกร้าน ซึ่งดูเหมือนหยดน้ำแข็งจ้องมองไปด้านหน้า

หลี่ฟู่ ที่ยืนอยู่ด้านหน้า และมีหน้าที่ขวางกั้น ตอนนี้ก็กลายเป็น หนาวเหน็บ ใบหน้าแข็งตึง เขาหัวเราะและรีบเดินไปข้างหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเข้าไป " ขออภัยด้วย พวกนายไม่ได้รับเชิญ "

กลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคน ไม่ได้เอ่ยคำพูดใด หรือบอกเหตุให้ หลี่ฟู่ ฟัง พวกเขาอย่างรวดเร็วก็กลายเป็นประกายแสงสามเส้นพุ่งเข้าไป

สีหน้าของหลี่ฟู่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาต้องการที่จะขัดขวางพวกเขา แต่ก็ตระหนักได้ว่าพวกเขาได้หายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอย เขาก็รีบส่งสาส์นถึงภูเขา แจ้งว่า พวกเขาทั้งสามคนได้ขึ้นไปภูเขาแล้ว

ฝูงชนโดยรอบก็ตกตะลึงด้วยความงุงน มองคนทั้งสามที่ร่างหายไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับหลี่ฟู่ที่กำลังส่งขอความไปอย่างเร่งด่วน จากนั้นพวกเขาพูดคุยกับอย่างเสียงดัง

พวกเขาไม่คิดเลยว่ากลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนจะกล้าแหกกฎของพรรคสามเทพทั้งๆที่อยู่ในอาณาเขตของพรรสามเทพ

. . .

ในถ้ำที่ด้านข้างของภูเขา , ฉื่อหยาน ยืนอยู่สงบด้วยดวงตาที่เย็นชาของเขาที่จ้องชิงหมิงด้วยความระมัดระวัง.

ชิงหมิง รู้สึกชาแขนและขาเล็กน้อย . ภายใต้ความกดดันจากเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน เขาต้องรับมือกับมันจนเหงื่อออกเป็นเลือด และในเวลาเดียวกัน , เขาก็พูดยุยงถังหยวนหนานลงมือเพื่อช่วยเขาจากการโจมตี

ถังหยวนหนาน ก็มองไปที่ ฉื่อหยานอย่างแปลกใข เพราะขาของฉื่อหยานจมลงไปประมาณสิบเมตร ลึกลงไปในดิน แล้วพอเลื่อนสายตาของเขาไป ก็เห็นหลุมปล่องภูเขาไฟที่เกิดจากมือของฉื่อหยาน เขาครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะฝืนยิ้มแล้วกล่าวว่า " ฉื่อหยาน , หยุดเปลวไฟนภาของเจ้าซะ มิฉะนั้น อย่าหาว่าข้าไม่เมตตา . " ในขณะที่พูด ถังหยวนหนาน ก็ค่อยๆเดินไปข้างหลังชิงหมิงและพูดกับฉื่อหยาน " คนจากดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์สองคนกำลังมาที่นี่ และพวกเขาก็มีสมบัติที่สามารถกลืนกินเปลวไฟนภาได้  เจ้าไม่ควรบุ่มบ่าม "

ฉื่อหยาน กระวนกระวายในใจ ทันทีเขาก็ส่งข้อความเข้าไปในแหวนสายโลหิตที่มือซ้าย ยื่นไปที่เปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญาน

ผลึกภายในแหวนสายโลหิตที่ควบคุมเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานก็ระเบิดแสงที่แข็งแกร่งออกมา พลังที่รุนแรงกระจายออกมา พร้อมกับเส้นแสงที่รีบคว้าและดึงเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานกลับมา , ซึ่งมันไม่อาจต้านทานได้

หลังจากเสร็จทุกอย่าง ฉื่อหยาน ก็สงบลงเล็กน้อยมองถังหยวนหนาน และพูดว่า " อย่ามาโทษข้า ประมุขชิงหมิงได้จงใจสงพลังเข้ามาในร่างกายของข้า แต่เขานั้นไม่คาดว่าจะได้พบกับเปลวไฟนภาในร่างของข้า ส่งผลให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น "

เมื่อเห็นเปลวไฟกลืนกินเก้าวิญญานหายไป ชิงหมิงก็ดึงประกายแสงสีเขียวบนหัวเขากลับมา จุดสีเขียวอ่อนที่กระจายเป็นม่านพลังบนหัวเขาก็หายไป

เมื่อฟังสิ่งที่ ฉื่อหยาน พูด ชิงหมิงก็สูดลมหายใจเข้าอย่างเย็นชาพร้อมกับดวงตาของเขาที่กลายเป็นดุร้าย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

ในขณะเดียวกันก็มี ร่างสองร่างกำลังเดินมาตีนภูเขา หนึ่งในนั้นเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาเป็นอย่างมากมากเขาเต็มไปด้วยเสน่ห์ผู้ใหญ่ ; ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงที่แสนงดงามเป็นอย่างมากนางส่งกลิ่นอายที่ทำให้ ผู้ชายที่พบเห็นสูญเสียจิตใจของพวกเขาและกลายเป็นลุ่มหลงได้ .

นางดูเป็นหญิงสาวที่โชกโชนประสบการณ์ ร่างของนางตื่นเต้นเร้าใจเป็นอย่างมากด้วยส่วนโค้งเว้าที่สมบูรณ์แบบ ; โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าอกของนาง ซึ่งมันดูราวกับว่าจะฉีกกระฉากออกมาจากเสื้อของนาง มันกลมก้อนงดงามและมีขนาดใหญ่ และกระเพื่อมทุกครั้งที่นางก้าวเดิน เช่นเดียวกับแก้มก้นซ้ายและขวาของนางที่กระเพื่อมตาม ซึ่งทำให้ผู้อื่นหลงใหลและทำให้พวกเขาไม่สามารถตื่นจากอาการลุ่มหลงได้เลย

" เจ้าวังทั้งสองของดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์มาถึงแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าแปลกใจกับคลื่นพลังสองสายก่อนหน้านี้ยิ่งนัก”

ถังหยวนหนาน ยิ้มมองเจ้าวังทั้งสอง และพยักหน้า แม้ว่าถังหยวนหนาน จะเปิดเผยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา แต่อันที่จริงแล้สเขานั้นแอบเตือนฉื่อหยานถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

ฉื่อหยาน เข้าใจทันที ว่าก่อนหน้านี้ เป็นเจ้าวังทั้งสองของดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์ ที่ลงมือในช่วงเวลาสำคัญเช่นนั้น

ในปีนั้น เมื่อเขาได้เข้าไปมาในทะเลกว้างใหญ่ เซี่ยซินหยาน และเขาก็ได้พักชั่วคราวอยู่บนเรือของดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์ เรือที่พาพวกเขาตรงไปที่ยังหลุมฝังศพที่ 93 ของนิกายซากศพ หลังจากนั้น เขาก็ได้รู้ว่านิกายซากศพและดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์มีความสัมพันธุ์ฺบางอย่างต่อกัน

คราวนี้ เมื่อกลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนได้ปิดกั้นวิญญาณของประมุขนิกายซากศพไว้ เจ้าวังทั้งสองก็ได้ใช้เคล็ดวิชาช่วยชิงหมิง . ส่งผลให้เขาได้สามารถหลบหนีจากการถูกควบคุมได้ และตอบโต้ฉื่อหยานจนบาดเจ็บ

ในถ้ำ ฉื่อหยาน หลี่ตามองกษัตริย์ปฐพี และราชินีแห่งท้องฟ้าของดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์ ด้วยสีหน้าแปลกประหลาด

" โอหังแบบนี้นี่เอง . . . " กษัตริย์ปฐพี ค่อยๆเดินมา และสังเกตุ ฉื่อหยานอย่างรวดเร็ว และหัวเราะเบาๆ " ปีนั้น จักพรรดิ์หยางเทียนยังไม่หยิ่งเท่ากับเจ้าด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นตอนนั้นตระกูลหยางรุ่นหลังก็หยิ่งยโสขึ้นเรื่อยๆ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมกองกำลังอื่น ๆถึงได้พร้อมใจกันกวาดล้างพวกเขาออกจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุด "

ราชินีแห่งท้องฟ้าก็ยิ้มออกมาอย่างเย้ายวน ขณะที่มองด้วยสายคาหวานเยิ้มไปที่และ ฉื่อหยาน กล่าวว่า " ลูกวัวแรกเกิดมักไม่กลัวเสือ ชายหนุ่มที่มีความแข็งแกร่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ ข้าชอบนะ . " เสียงของนางอ่อนโยนและหวานราวกับสามารถสลักลึกในจิตใจของผู้คน หลังจากฟังสิ่งที่นางพูดฉื่อหยานก็รู้ราวกับว่ากำลัง แช่ในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยดอกไม้นับร้อย ทุกรูขุมขนบนร่างกายของเขาเปิดอย่างคลุมเครือ และผ่อนคลาย

จู่ๆ ก็มีกระแสพลังความเย็นไหลออกมาจากแหวนสายโลหิต กระแสที่ไหลมานี้นี้เป็นเหมือนถังน้ำเย็นสาดลงบนตัวเขา ดึงเขาออกมาจากมุมแสงที่ลุ่มหลง

หัวของ ฉื่อหยาน ก็กระวนกระวาย ; ใบหน้าของเขาก็กลับมาได้สติอีกครั้ง มองอย่าลุ่มหลงไปที่ราชินิแห่งท้องฟ้าและเขาก็รู้สึกสะพรึงกลัวนางมากกว่ากษัตรย์ปฐพี

เพียงแค่พูดไม่กี่คำ หญิงสาวคนนี้ก็ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมจิตใจเขาได้ และเกือบจะทำร้ายเขา ช่างแข็งแกร่งนั้นและช่างเป็นเคล็ดวิชาควบคุมจิตใจที่น่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก ฉื่อหยานคบคิดกับตัวเอง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบติดต่อกับเปลวเหมันเยือกแข็งให้ เตือนเขาตลอดเวลา

ดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของราชินีแห่งท้องฟ้าก็มีความกลัวปรากฏขึ้น นางรู้สึกหวาดกลัวในใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของฉื่อหยาน ในสายตาของนาง ฉื่อหยานสมควรไม่สามารถทนต่อคำพูดของนางได้ อย่างไรก็ตาม เขากลับฟื้นตัวกลับมาได้สติอีกครั้งในเวลาสั้นๆ

" หวือหวือหวือ , , "

สามสายลมที่รุนแรงก็เจาะผ่านอากาศมาจากด้านหลัง หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนก็ปรากฏข้างๆฉื่อหยาน .

พวกเขาล้อมรอบ ฉื่อหยาน เพื่อปกป้องเขา อีเทียนด้วยดวงตาเย็นชาก็มุ่งตรงไปที่ชิงหมิง ในเวลาเดียวกัน พวกเขาปลดปล่อยแสงสีเทาอ่อนออกไป

หยาเมิงและค้าสีหน้ากลายเป็นดุร้าย จ้องชิงหมิงไปอย่างเกรี้ยวกราด , ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการจะโจมตีวิญญานของชิงหมิงด้วยพลังทั้งหมดของพวกเขา

ชิงหมิงดวงตาก็เย็นชาในขณะที่เขาก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เขาถอยไปยืนอยู่ด้วยกันกับกษัตริย์ปฐพีและราชินีแห่งท้องฟ้าของดินแดนหยินหยางมหัศจรรย์

กลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนที่ปรากฏขึ้น ก็เผชิญหน้ากับ ชิงหมิง ราชินีแห่งท้องฟ้า และกษัตริย์ปฐพี

ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ตรึงเครียดขึ้น

ถังหยวนหนาน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง " ทุกท่าน ที่นี่เป็นพรรคสามเทพ "

" ฉื่อหยาน อย่าทำอะไรวู่วาม เจ้าต้องการจะให้เกิดการต่อสู้ขึ้นจริงๆรึ " ถังหยวนหนาน มองกลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคน แต่จริงๆแล้วเขาแอบใช้วิญญาณของเขาที่จะส่งข้อความให้ ฉื่อหยาน " ตอนนี้เราอยู่ภายใต้การบุกลุกของเผ่าอสูร . มันคือหายนะที่กำลังจะมาถึง นี่ไม่ใช่เวลาที่จะขัดแย้งกันเอง . ถ้าเจ้าต้องการที่จะจัดการกับพวกเขา ก็รอจนกว่าเรื่องนี้จะจัดการเสร็จเสียก่อน "

" ท่านทั้งสาม ข้าคิดว่าที่ทุกคนรวมตัวกันที่นี่เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับเผ่าอสูร มิใช่รึ ? " ถังหยวนหนาน มองกลุ่มของชิงหมิงทั้งสามคน

ทั้งกลุ่มของ ฉื่อหยาน และชิงหมิง ยังคงจ้องมองกันและกันอย่างไม่เป็นมิตรแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ตอนนั้นเอง ฉาวฉื่อหลาน หมานกู่ของนิกายคนเถื่อนที่กำลังฟื้นฟูก็เดินเข้ามาใกล้พวกเขา

สีหน้าของหมานกู่ นั้นซีดเซียวแต่วิญญาณของเขายังคงปกติ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับฉื่อหยาน แต่ดูเหมือนเขาจะฟื้นฟูกลับมาแล้วด้วยเม็ดยาของฉาวจื่อหลาน

" เกิดอะไรขึ้น ? " ฉาวฉื่อหลาน ก็จ้อง มอง ฉื่อหยานด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็มองกลุ่มของชิงหมิง "เผ่าอสูรยังไม่ทันมา แต่พวกท่านก็จะต่อสู้กันเองแล้วรึ "

" แม่นางฉาว เจ้าสารเลวน้อยนี่เป็นคนลงมือก่อน " ชิงหมิงมองไปที่ ฉื่อหยาน และพูดอย่างเย็นชา " เจ้าสารเลวน้อยนี่ได้เปิดการโจมตีที่โหดร้าย หากราชินีแห่งท้องฟ้า และกษัตริย์ปฐพีไม่ปรากฏตัวขึ้นหละก็ ข้าก็คงพ่ายแพ้จากการโจมตีของเขาไปแล้ว ข้าไม่คิดว่าเขามีเจตนาร่วมมือกับเรา จัดการกับเผ่าอสูร . "

ฉาวฉื่อหลาน ก็ประหลาดใจ . นางขยับตาอย่างมีพิรุธของนางมองไปที่ฉื่อหยาน แล้วมองกลับไปที่ชิงหมิงก่อนพูด " ฉื่อหยาน ไม่สามารถรวบรวมพลังปราณลึกลับได้ เขาจะทำร้ายท่านได้อย่างไร"

นางประหลาดใจเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ที่นางได้ออกจากคฤหาสน์ นางก็ถูกปกคลุมด้วยความสิ้นหวังเรื่องของฉื่อหยาน ในสายตาของนาง เขาไม่สามารถรวบรวมพลังปราณลึกลับได้ อนาคตของเขาจะถูกจำกัด ถึงแม้ในร่างของเขาจะมีความลับบางอย่างอยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งวัน ที่ด้านข้างของภูเขานี้ ชิงหมิงเกือบจะสิ้นท่าด้วยการโจมตีที่รุนแรงของฉื่อหยาน นางไม่ได้รู้เลยว่สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

ดวงตาที่งดงามของฉาวจื่อหลานก็หลี่ลงส่องประกายแปลกประหลาสด นางเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ไม่รู้ว่า ที่ชิงหมิงพูดนั้นคือความจริงหรือไม่

" ไปกันเถอะ "ฉื่อหยานก็หันหลังและ เดินลงจากภูเขา ในขณะที่สายตาของเขายังคงสงบนิ่ง

ถังหยวนหนาน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

สามคน ชิงหมิง ราชินีแห่งท้องฟ้า และกษัตริย์ปฐพี ก็แปลกใจ พวกเขาไม่รู้ว่าทำไม ฉื่อหยานถึงกำลังเดินลงจากภูเขา

กลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนก็ ตาม ฉื่อหยานไปโดยไม่พูดอะไร

" ฉื่อหยาน " .

ถังหยวนหนาน มองไปด้วความประหลาดใจและความซับซ้อนในดวงตา

" ข้าไม่ได้สนใจสถานการณ์ใดๆของทะเลไม่มีที่สิ้นสุดมีความจำเป็นใดต้องอยู่ที่นี่ และข้าก็ไม่ได้กังวลเรื่องของเผ่าอสูรในทะเลไม่มีสิ้นสุด " ฉื่อหยานพูดอย่างโหดเหี้ยม" ต่อให้มีใครมากมายตายในทะเลไม่มีสิ้นสุด มันก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับข้า และทะเลไม่มีที่สิ้นสุดก็ไม่มีค่าพอจะให้ข้าสนใจ . ดังนั้น ท่านใช้เวลาของพวกท่านหารือแลวางแผนเกี่ยวกับการจัดการเผ่าอสูรไปเหอะ . ข้าไม่สน "

หลังจากหยุดสั้นๆ ฉื่อหยานก็หันไปรอบๆ ค่อยๆ มอง ชิงหมิง ราชินีแห่งท้องฟ้า และกษัตริย์ปฐพีและกล่าวว่า " ข้าหวังว่านิกายซากศพและดินแดนหยินหยาสงมหัศจรรย์จะ มีความสุขนะ เพราะนอกจากจะเผชิญหน้ากับเผ่าอสูรแล้ว พวกเจ้าจะต้องรับมือกับการโจมตีของพวกเรา ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะรับมือได้ "

ใบหน้าของชิงหมิง ราชินีแห่งท้องฟ้า และกษัตริย์ปฐพีก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด