บทที่ 312 บ่อน้ำไร้ก้น
บทที่ 312 บ่อน้ำไร้ก้น
บนภูเขาแสงศักดิ์สิทธิ์
ถังหยวนหนาน และผู้อาวุโสของพรรคสามเทพทั้งหมดยืนอยู่ด้วยกันบนกิ้งต้นไม้สน ร่างกายของพวกเขายืนอยู่ท่ามกลางสายลมเบา ๆราวกับว่ามันไร้น้ำหนัก
ใบหน้าของเหล่าผู้อาวุโสพรรคสามเทพแสดงออกถึงความประหลาดใจเล็กน้อย พวกเขา .มองไปที่ฉื่อหยานที่กำลังเดินไปหาเซี่ยซินหยาน พวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัย . เขาพึมพำ " แม้ว่าจิตวิญญานอมตะของตระกูลหยางจะมีประสิทธิภาพมาก มันเป็นเพียงแค่การรักษาเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าไม่เพราะความแข็งแกร่งของร่ายกายหนะนะ . " หนึ่งในผู้อาวุโสมีใบหน้ามีแผลเป็นก็พูดสักพัก แล้วกล่าวว่า " ตามที่ข้ารู้ จิตวิญญานอมตะในขั้นสุดท้ายนั้นน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่ระดับเพื่มขึ้นหนึ่งขั้น จิตวิญญานอมตะจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมนับสิบเท่า อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น นอกจากจะเพิ่มความสามารถในการฟื้นฟูแล้วยังทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย”
ผู้อาวุโสก็พยักหน้า
" ร่างกายเผ่าคนเถื่อนโบราณของหมานกู่นั้นแตกต่างออกไป ร่างกายที่ดำขึมของหมานกู่แสดงให้ถึงความแข็งแรงของร่างกายของเขา .แม้ว่าเขาจะไม่ใช้พลังปราณลึกลับ ด้วยพละกำลังจาก ' ร่างกายคนเถื่อนโบราณ ' ก็สามารถเทียบได้กับพลังเต็มที่ของนักรบระดับปฐพี ถ้าหมานกู่ใช้พลังทั้งหมดของเขา เขาจะสามารถเอาชนะนักรบระดับณู้แจ้งได้ ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวแบบนี้ เขาแทบจะไม่ต้องสูญเสียอะไรเลย"
ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็พูดขึ้น " เข้าทั้งสองคนล้วนแต่ไม่ได้ใช้สมบัติ นั่นก็เท่ากับหมานกู่ได้พ่ายแพ้อย่างแท้จริง”
ถังหยวนหนาน สีหน้ายังไม่เปลี่ยนแปลง เขากล่าวว่า " มีความลับบางอย่างในร่างกายเด็กคนนี้ . ข้าได้สังเกตเห็นว่าพลังในร่างกายของเขาปั่นป่วน ดูเหมือนว่ามีพลังที่แข็งแกร่งหลายอย่างในร่างของเขา .
" ท่านประมุข เด็กคนนี้เหมือนกับบ่อที่ไร้ก้นจริงๆ " หลังจากนั้นผู้อาวุโสคิดสักพัก เขาพยักหน้ายอมรับในความสามารถของ ฉื่อหยาน
ทุกคนดูเหมือนจะเห็นด้วย
ถังหยวนหนาน หัวเราะลั่น เขากล่าวว่า " เขานั้นยังไม่รู้วิธีใข้จิตวิญญานแห่งดวงดาว "
สายตาของทุกคนสว่าง
" ภายในจิตวิญญานแห่งดวงดาวที่รับสืบทอดมาจากเทพแห่งดวงดาวจะมีเครื่องหมายจาลึกไว้ในจิตวิญญาน เมื่อฉื่อหยานรู้วิธีใช้และเคล็ดวิชาจากข้า มันจะ . . . . . . . " ถังหยวนหนาน ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ผู้อาวุโสพรรคสามเทพขอทุกคนก็สั่นสะท้านด้วยความกลัว ใบหน้าของพวกเขาก็แปลกไป
" เรื่องนี้ รอจนกว่าเราจะไปประชุมกันที่เกาะดวงจันทร์ก่อน จากนั้นเราค่อยตัดสินใจว่าจะแต่งตั้งให้เขาเป็นเทพแห่งดวงดาวหรือไม่ " ถังหยวนหนาน พูดขึ้นหลังจากตรึกตรองมานานแล้ว
ทุกคนพยักหน้าด้วยใบหน้าสับสน
… … … … …
ในมุมที่ซ่อนอยู่ในเขตการค้าเสื้อผ้าลินดาก็เปียกโชก เส้นผมของนางแนบติดกับแก้ม ดวงตาที่สับสนของนางมองไปยังร่างที่แข็งแกร่ง
ข้างๆนาง สายตาของบริกรหญิงแห่งพรรคสามเทพก็ส่องประกายด้วยความตื่นเต้น
" ลินดา เจ้ารู้จักเขางั้นรึ ? เยี่ยม“ชื่อของผู้หญิงคนนี้คือ เจียงหลี่ ใบหน้าเล็กของนางก็กลายเป็นสีแดง มือกำแน่นขณะที่นางดูตื่นเต้นเป็นอย่างมากมาก นางรบเร้าลินดา” ไป ไปพบเขากันเถอะ "
ลินดาร่างกายบอบบางก็สั่นเทา ; ประกายความขมขื่นแสดงออกมาจากริมฝีปากของนาง นางส่ายหน้าเล็กน้อย " ไม่ "
" ทำไมหละ ? " เจียงหลี่ ไม่เข้าใจ นางกระชับกำปั้นของนางและพูดออกท่ " เจ้ารู้จักเขา เจ้าต้องใช้โอกาสนี้สิ ข้ายังไม่มีโอกาสเช่นนี้เลยถึงแม้ว่าข้าจะต้องการมันมากก็ตาม ลินดา ข้าบอกเลยว่า ชายคนนี้จะต้องกลายเป็นบุคคลสำคัญแน่ในอนาคต ถ้าเจ้าไม่คว้าโอกาสนี้เพื่อผูกมัดเขาไว้ เจ้าก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้วนะ"
" ข้าอยู่ห่างจากเขาเกินไป " ลินดาพูดออกท่ ; ใบหน้านางดูผิดหวัง นางกล่าวว่า " มีเพียงหญิงสาวที่งดงามและแข็งแกร่งเช่นฉาวจื่อหลาน หรือเซี่ยซินหยาน เท่านั้นที่สมเหมาะสมกับเขา ส่วนข้านั้น . . . . . . . "
" นั่นก็สมเหตุผล . " เจียงหลี่ เอาแต่เงียบ นางคิดสักพักก่อนพยักหน้า . นางพูดอย่างโง่เชลา " ชายคนนี้อันตรายเกินไป เฮ้อ อยู่กับคนแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นข้า เพื่อที่จะได้อยู่กับเขา ข้ายินดีทำทุกอย่าง แม้จะเป็นภรรยาน้อยของเขา ข้าก็ไม่เกรงสายตาใคร .
ในขณะที่พูด เจียงหลี่ก็เอากระจกออกมาแล้วเริ่มนับสิวบนใบหน้าของนาง หลังจากนั้นนางก็เก็บความต้องการไว้ และส่งเสียงออกมาเบาๆ " เอิ่ม.. ข้าว่าข้าเลิกคิดถึงมันดีกว่า. "
ลินดามองไปยังร่างที่แข็งแกร่งด้วยความสับสน ร่างของชายคนนั้นดึงดูดสายตานับพัน นางไม่มีความกล้าพอที่จะเดินเข้าไป นางได้แต่ยืนตรงมุมมืดอย่างเงียบๆและมองไปยังร่างที่แข็งแกร่งของฉื่อหยาน ร่างที่ที่เหมือนกับร่างของเทพเจ้า
. . .
ในพื้นที่อาบน้ำ ฉาวจื่อหลานดวงตาก็แปลกไป ในขณะที่ขดริมฝีปากของนางขึ้น นางมองดูฉื่อหยานที่เดินจากไปเงียบๆ นางเห็นเขาเผยรอยยิ้มและเดินไปที่ เซี่ยซินหยาน .
" ไม่เสียสละตนเองเพื่อผลประโยชน์บางอย่างและไม่ยอมรับข้าเพียงเพื่อต้องการพลังของตระกูลฉาว ฉื่อหยาน ข้าเริ่มจะชอบเจ้าจริงๆแล้วสิ . " ฉาวจื่อหลานพึมพำกับตัวเอง ริมฝีปากสั่นเทาเล็กน้อย และรอยยิ้มที่น่าหลงใหลก็ปรากฏขึ้น
ดูเหมือนว่านางเพิ่งได้รับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของฉื่อหยาน ตอนนี้ การแสดงออกที่นางทำก่อนหน้านี้ทำเพียงเพราะเป็นข้อเสนอ นางไม่เคยคิดกับฉื่อหยานเกินกว่าพันธมิตรในอนาคตของนาง นางต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากการแต่งงานเพื่อผูกมัดเขาโดยไม่เกี่ยวข้องกับความรัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อฉื่อหยานได้ปฏิเสธนางต่อหน้าคนมากมายอย่างเย็นชา คำพูดที่ไร้หัวใจของเขานั้นตาตรึงเป็นอย่างมาก ความรู้สึกบางอย่างได้ปลูกฝังอยู่ในจิตใจของนาง ก็รู้สึกใจสั่นอย่างประหลาด
" ดูเหมือนว่า ข้าต้องจริงจังกับเจ้ามากกว่านี้สินะ "
ฉาวจื่อหลาน เผยรอยยิ้มที่งดงามออกมา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ต่อหน้าคนมากมาย นางเอามือที่เหมือนกับหยกลูบไปที่หัวของหมานหมานกู่อย่างต่อเนื่อง แล้วนางก็เทสมุนไพรทั้งหมดภายในขวดหยกนับสิบ ลงบนร่างกายของเขา
ตอนนั้นเอง ชายหนุ่มหลายคนที่ห่มด้วยผ้าหนังรอบตัว พวกเขาก็ปรากฏยืนอยู่รอบๆหมานกู่
" รอจนกว่าเขาจะตื่น แล้วให้เขากินยาในขวดหยก " ฉาวจื่อหลาน ยืนขึ้นอย่างช้าๆ แสงที่ส่องประกายรอบๆนางค่อยๆหายไป เปิดเผยให้เห็นชุดสีฟ้าที่แสดงให้เห็นถึงส่วนที่โค้งเว้าอันน่าหลงใหลของนาง นางค่อยๆยืดไหล่ขึ้น , เปิดเผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าและหน้าอกทีอวบอิ่ม
นักรบคนเถื่อนที่ยืนอยู่รอบๆก็อ้าปากค้างและหน้าก็กลายเป็นสีแดง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะมีความคิดชั่วร้ายใดๆ .
ด้วยการที่พวกเขาเป็นหนึ่งในทะเลตูต้า พวกเขารู้ดีว่าตระกูลฉาวนั้นแข็งแกร่งเพียงใด และรู้ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของหญิงสาวผู้งดงามคนนี้ที่มาจากตระกูลฉาว . แม้ว่านิกายคนเถื่อนของพวกเขาจะทรงพลัง แต่พวกเขาก็ยังต้องเกรงเมื่อเผชิญหน้ากับตระกูลฉาว . . คนที่อยู่นอกทะเลตูต้ารู้ดีว่าตระกูลฉาวน่ากลัวเพียงใด แต่พวกเขาก็ยังไม่เคยทราบถึงความสามารถที่แท้จริงของตระกูลฉาวซึ่งมันอาจจะน่าเกรงกลัวมากกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้
นักรบจากทะเลตูต้านั้นรู้ดี แม้ว่าหมานกู่จะได้รับบาดเจ็บเพราะนาง พวกเขาก็ไม่กล้าคิดที่จะแก้แค้น
" ดูแลหมานกู่ด้วย เขาแค่บาดเจ็บภายนอก หลังจากใช้ยาของข้าแล้ว เขาจะฟื้นตัวหลังจากนี้ในเจ็ดวัน " ฉาวจื่อหลาน dHสั่งเหล่าผู้ที่มาจากนิกายคนเถื่อนราวกับเป็นคนของนาง หลังจากนั้นนางก็ขยับร่างที่ทรงเสน่ห์ของนางและจากไป
บรรดาสาวกของนิกายคนเถื่อนก็ไม่แดสงออกอย่างใดนอกจากพยักหน้าตลอดเวลา พวกเขาไม่โกรธฉาวจื่อหลานเลย เมื่อนางปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนคนรับใช้ของตระกูลฉาว
. . .
" ฮ่าๆ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะน่ากลัวเพียงนี้ "
เยว่จางเฟิงยกถ้วยสุราขึ้นจิ่บ . เขาเปิดเผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็เดินไปที่ ฉื่อหยานใกล้ๆและกล่าวว่า " ข้าดูแลผู้หญิงของเจ้าอย่างดี นางยังคงอยู่ดีไม่บุบสลายใดๆ เข้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
เซี่ยซินหยาน เขินหน้าแดง และมองไปที่เขา
เยว่จางเฟิงก็ไม่กลัว เขายังคงพูดและหัวเราะ " ไม่ต้องเขินไป เจ้าไม่กลัวแม่นางฉาวของเจ้าแย่งสามีไปรึ หากเจ้ายังไม่รุกเขาย้าง ? เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป ตอนนั้นเจ้าจะทำอะไรได้ ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผู้หญิงทุกคนล้วนมีมารยา ข้ารู้ดี . "
หลินหย่าฉีด่าเขา " นางหุบปากเน่าๆของเจ้าได้ไหม แค่พวกเขาได้พบกันก็เป็นเรื่องยากแล้ว ปล่อยให้พวกเขาพูดบางอย่างอ่อนหวานและน่าคลื่นไส้กันไปไม่ได้งั้นรึ เจ้านี่ต้องเข้าไปขัดอารมณ์ของผู้อื่นทุกที ข้าบอกเลยว่าเจ้าสนุกกับการเล่นมากเกินไปแล้ว "
" สนุกกับการเล่น " เยว่จางเฟิง ก็กระแอมออกมา " พี่สาว ท่านควรปล่อยวางบ้างเล็กน้อย ท่านยังสาว ข้าเกรงว่าข้าจะไม่สามารถช่วยท่านได้ขณะที่รู้สึกถึงอารมณ์เหล่านั้นและร้อนรุ่มอยู่ภายใน อาจารย์ต้องตำหนิข้าแน่ ข้าคงไม่สามารถช่วยท่านได้จริงๆ พี่สาว จะดีกว่าถ้าท่านไม่ฝันถึงเรื่องนี้ ข้ารู้ว่าท่านกำลังรอคอยความรักที่บริสุทธิ์ แต่ด้วยนิสัยของท่านที่ทำให้คนอื่นรู้สึกอยากอาเจียนออกมาเป็นเลือด , ก็รังแต่จะดึงดูดแต่พวกสัตว์ป่าเท่านั้น”
" เยว่น้อย นานแล้วที่นะที่เราไม่ได้สู้กัน " หลินหย่าฉีดวงตาก็หลี่ลงเป็นรูปจันทร์เสี้ยว ซึ่งภายในเต็มไปด้วยความนัยมากมาย
เยว่จางเฟิ่งใบหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขายกศีรษะมองไปบนท้องฟ้าแล้วพึมพำกับตัวเอง " โอ้ นี่ก็มืดแล้ว ดวงดาวก็ขึ้นเต็มท้องฟ้า เราไปที่พักกันดีกว่า "
หลินหย่าฉีมองไปที่เขาอย่างเย็นชา นางกระแอมออกมา แล้วเปลี่ยนความสนใจของนางไปที่ฉื่อหยานและเซี่ยซินหยาน. ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง
" ไปกันเถอะ " หลังจากมาถึง ฉื่อหยานก็เผยยิ้มและพูดกับเซี่ยซินหยาน " ข้าอยากพบกับท่านปู่ของเจ้า ข้ามีบางอย่างจะบอกกับเขา " .
เซี่ยซินหยาน ก็ยิ้มและพยักหน้า " ตกลง " .
หลังจากพูด นางก็เดินตรงออกไปโดยไม่สนใจคนอื่นที่อยู่รอบข้างนาง .
หน้าของหลินยาฉีตอนนี้เต็มไปด้วยความผิดหวัง นางกล่าวอย่างท้อแท้ " ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ . . . . . . . "
" อย่าบอกนะว่าท่านต้องการจะเห็นฉากที่เร่าร้อน " เยว่จางเฟิงหัวเราะคิกคัก . ก่อนที่หลินยาฉีจะหงุดหงิดเขาก็พูดขึ้น " พี่สาว เราก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ตามไปดูพวกเขากันเถอะ .
" เอ่อ . . . ข้าไปกับเจ้าด้วยก็ได้ . " หลินยาฉีพยักหน้าแล้วรีบกระตุ้น " ไปได้แล้ว เร็วเข้า ! ! ! "
" แน่นอน ! " เยว่จางเฟิงฝืนยิ้ม แล้วเขาก็รีบวิ่งตามฉื่อหยาน และตะโกนออกมา " พี่น้องที่แสนดี รอข้าด้วย "
. . .
อีกมุมของพื้นที่การค้า
กู่หลินหลง ฟันขาวของนางก็คบแน่น ร่างกายของนางสั่นเล็กน้อย ดวงตาของนางราวกับจะมีไฟลุกออกมา ปากนางเอาแต่สาปแช่ง ฉื่อหยานพึมพัม " ฉื่อหยาน เจ้าคนเลว เจ้สจะต้องตายโดยไร้เกียรติ ข้าขอสาปแช่งเจ้า จะเฉือนเจ้าเป็นร้อยชิ้น และบดขยี้วิญญานของเจ้าให้พังพินาศ "
นางสาปและลบล้างรอยเปื้อนบนร่างกายของนาง ร่างกายของนางทั้งหมดเปียกโชกแสดงให้เห็นถึงส่วนโค้งเว้าที่สวยงาม อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าเปียกชื้นกำลังแนบติดกับตัวนางพร้อมกับมีคราบมัน ทำให้นางดูสกปรกเล็กน้อย .
ก่อนร้านสุราจะถล่มลงมา ขณะที่นางกำลังยกมือพูดสนับสนุนหมานกู่ นางก็กระโดดออกมาจากร้านสุราเล็กน้อย นางกระโดออกมาในขณะที่ร้านกำลังถล่ม และตกลงยังพื้นน้ำที่มีเศษอาหารลอยอยู่ นั่นคือเหตุที่ทำให้นางอยู่ในสภาพนี้
แน่นอน นางโทษความทั้งหมดไปที่ฉื่อหยาน เมื่อนางได้เห็นความแข็งแกร่งของฉื่อหยานด้วยตาของนางเอง นางก็โกรธจนร่างกายสั่นสะท้าน
" หยุดร้องได้แล้ว เขาไปแล้ว "
ซูหยานซิง นั้นกลับตรงกันข้าม นางดูสะอาด ดวงตาของนางมองฉื่อหยานที่กำลังจากไปด้วยความสับสน แล้วอยู่ๆนางก็นึกอะไรขึ้นมาได้ นางหันหัวของนางไปรอบๆมองกลุ่มชายหนุ่มที่ลุกขึ้นยืนก่อนหน้านี้ นางเห็นความเศร้าปรากฏบนใบหน้า นางมองไปยังภาพลักษณ์ที่น่าสังเวชของพวกเขา ผมของพวกเขาเรียบเรียวเปียกซก และนางก็เปรียบเทียบกับใบหน้าที่เย็นชาของฉื่อหยาน แล้วนางก็รู้สึกท้อแท้
แม้ว่าฉื่อหยานจะเป็นคนนิสัยไม่ดี แต่เขาก็แข็งแกร่งกว่าไก่อ่อนเหล่านี้เป็นอย่างมาก
ซูหยานซิง คิดกับตัวเองดังนั้น ดวงตาของนางก็ระเบิดประกายแสงแปลกประหลาด ไม่อาจรู้ได้เลยว่า นางกำลังคิดอะไรอยู่
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ