บทที่ 307 เจ้ากล้ามาที่นี่และเล่นน้ำกับข้าหรือไม่ ?
บทที่ 307 เจ้ากล้ามาที่นี่และเล่นน้ำกับข้าหรือไม่ ?
หลังจากนั้นไม่นาน สาวสวยพร้อมกับร่างกายที่เล็กกระทัดรัดในชุดสีฟ้าก็เดินขึ้นมาจากบันได
หญิงสาวคนนี้มีรูปร่างสวยและน่าลิ้มลอง หน้าอกเต็มไม้เต็มมือของนางไม่ธรรมดา มัน ใหญ่ แน่น และ กระเพื่อมไปมา . พวกมันค่อนข้างใหญ่กว่าของบรรดาหญิงงามที่ฉื่อหยานเคยเจอ
ผิวของนางเป็นเหมือนกับหยกสีขาวที่งดงามส่องประกายดุจอัญมณี ทันทีที่หญิงสาวคนนี้ก้าวขึ้นมา ทุกคนในร้านก็ตกใจ มองดูนางโดยไม่กระพริบตา
นางมีใบหน้าที่บริสุทธิ์และงดงามอย่างสมบูรณ์ นางก้าวเดินอย่างเรียบร้อยและปราดเปรียว พร้อมกับหน้าอกที่หนาแน่นของนาง ทุกสิ่งทุกอย่างในหัวถูกซัดกระจายออกไปเพราะนาง
แม้แต่ฉื่อหยานดวงก็ตาก็ส่องประกายเข จ้องมองหญิงสาวคนนี้พร้อมกับแอบชื่นชมนาง
เยว่จางเฟิงหันกลับไปหาหญิงสาว และขยิบตาให้ฉื่อหยาน , เพื่อแสดงออกว่าเขาไม่ควรสนใจผู้หญิงคนนี้เพราะนางอาจนำปัญหามาให้
ฉื่อหยาน ก็หัวเราะ พร้อมกับขมวดคิ้วและยกาสุราในมือขึ้นดื่ม , . จากนั้นเขาก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า " น่าเสียดายนัก " .
เยว่จางเฟิงก็งุนงง เขาเขยิบเข้ามาใกล้ๆและถามว่า "เสียดายอะไรรึ "
" กะหล่ำปลีที่สดและน่าอร่อยเช่นนี้ กลับต้องมาเป็นทุกข์เพราะคนเช่นเจ้า " ฉื่อหยานพูดอย่างเย็นชา กระแอมด้วยเสียงต่ำและพูด " ทำไมนางถึงถามหาเจ้ากัน "
" ไม่มีอะไร . . . . . . . " เยว่จางเฟิงยิ้มออกมาอย่างฝืนๆ
หญิงสาวก้าวเข้ามาในห้อง นางหันหน้าไปมาหลายครั้ง ดวงตารูปอัลมอนด์บนใบหน้าดุร้ายก็เริ่มสังเกตุไปรอบๆทุกตารางนิ้ง ไม่มีใครที่หนีรอดจากสายตานางได้
นักรบจากทะเลต่างๆก็เผยรอยยิ้มใหญ่ ยกศีรษะขึ้นเยียดหลังตรงของพวกเขา พยายามที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียง
หญิงสาวยิ้มบางๆ ด้วยสีหน้ารังเกียจบนใบหน้าของนาง หลังจากเหลือบมองทุกคนที่นี่ และเมื่อนางไม่พบคนที่นางตามหานางก็รีบหันและจากไป
" เม่ยเม่ยน้อย เจ้ามานั่งดื่มกับข้าได้หรือไม่ " ชายที่อยู่ในนภาที่สองของระดับหายนะ ที่เต็มไปด้วยราคะก็ยิ้มในขณะที่มองหญิงสาวคนนั้น แล้วนางก็เดินเข้ามาใกล้อย่างแข็งขัน
" เขาอยากตายรึ . . . . . . " เยว่จางเฟิงก็ลดหัวเล็กน้อย หายใจ เขาส่ายหัวอย่างไม่เต็มใจและถอนหายใจออกมา เขากำลังคร่ำครวญกับชะตากรรมของผู้อื่น
ฉื่อหยาน ก็ประหลาดใจ แต่แล้วทันทีที่เขาก็เข้าใจว่าทำไมเยว่จางเฟิงจึงถอนหายใจ
สาวสวยคนหนึ่งที่มีอกใหญ่ก็ลงมืออย่างอ่อนโยน นางดึงผู้ชายคนนั้น คว้าเอวของเขาและโยนเขาออกไป และนักรบระดับหายนะที่น่าสังเวชคนนี้ก็พุ่งตรงออกไปนอกหน้าต่าง ในขณะที่เขาลอยอยู่ในอากาศ หัวของเขาก็ระเบิดและเลือดก็กระจายไปทั่ว เขาตายก่อนที่จะตกลงไปในทะเลสาบ
" บูม "
หญิงสาวที่ขาวราวหิมะ ก็ค่อยๆว่างมือลงบนโต๊ะะ กลิ่นอายมหาศาลก็ปกคลุมไปทั่วโต๊ะ
ในทันทีโต๊ะไม้ก็แตกออกเป็นสี่ห้าชิ้นซึ่งแต่ละชิ้นพุ่งงออกมาเหมือนคมดาบ มันพุ่งตรงอย่างรวดเร็วไปยังนักรบระดับหายนะสามคนที่นั่งยิ้มล้อเลียนอยู่
เสียงกรีดร้องเหมือนหมูดังขึ้นและก็หยุดลง หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ทำจากผ้าไหมขึ้นมา และเช็คเหล้าที่หกรดมือนาง นางไม่ได้สนใจร่างทั้งสามที่อยู่ข้างๆนางและยังคงเดินไปข้างหน้าเพื่อหาบางสิ่งต่อไป
ด้วยสายตาที่ดุร้ายของนาง นางค่อย ๆมองทุกๆคน ร้านเหล้ากลายเป็นเงียบเฉียบปราศจากเสียงใดๆ
เสียงอึกทึกก่อนหน้าดูเหมือนจะหายไปทันที สายคาที่เกียจคร้านของผู้คนก่อนหน้านี้ก็เริ่มตื่นตระกนหก
ในเวลานี้ ร้านเงียบเป็นอย่างมาก แม้แต่เสียงเข็มตกก็ยังได้ยิน สายตาของหญิงสาวมองไปที่ทุกคนแม้แต่ ฉื่อหยาน เองก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
กลิ่นอายเลือดที่บางเบาสี่สายก็โชยมาจากทะเลสาปและโต๊ะที่แตกหัก
ฉื่อหยานจิตใจของเขาก็รู้สึกสบายเป็นอย่างมากเหมือนกับมีอาหารตกถึงตอนเวลาหิว เขาได้ฆ่านักรบระดับปฐพีไปห้าคนและได้ดูดซับพลังของพวกเขามาในวันนี้ ตอนนี้ เขาก็ได้ดูดซับพลังจากนักรบระดับหายนะอีกสี่คน เขาพอใจเป็นอย่างมากกับความสำเร็จนี้และนี่ก็ทำให้เขาเริ่มสนใจสถานที่ที่มีคนแออัดมากขึ้น
ยิ่งผู้คนมีมาก ความขัดแย้งก็ยิ่งเกิดขึ้นง่าย ซึ่งนั่นเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับจิตวิญญานต่อสู้ลึกลับของเขา
หญิงสาวก็กลอกตาของนางไปรอบๆอย่างอิสระ นางมองไปมาในร้านเหล้าซึ่งตอนนี้เงียบราวกับป่าช้า แม้ว่าดวงตาของนางจะแสดงถึงความร้อนรน นางก็ยังคงพูดออกมาด้วยเสียงนุ่มยวล " เยว่จางเฟิง ถึงแม้ว่าเจ้าจะตาย เจ้าก็ต้องออกมา อาจารย์บอกต้องการพบเจ้า "
ฉื่อหยานมองเยว่จางเฟิงที่กำลังกินต่อโดยไม่มองไปที่ผู้หญิงคนนั้น แต่ใบหน้าของเขากลับแข็งตรึงซึ้่งดูขัดกับสิ่งที่เขากำลังทำ
" อาจารย์บอกว่า ถ้าเจ้าไม่กลับไปในอีกหนึ่งชั่วโมง เขาจะฆ่าสัตว์อสูรพาหนะของเจ้า”
หญิงสาวคนนี้ทั้งกำลังค้นหาและค่อย ๆข่มขู่ออกมาในเวลาเดียว “ถ้าเจ้าไม่กลับไปอีกภายในสองชั่วโทง อาจารย์จะทำลายรูปแบบจิตวิญญานลามกสารเลวของเจ้า และถ้าเจ้ายังไม่กลับไป เขาจะทำลายกระธางทูปสามข้าศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า”
เยว่จางเฟิงยังคงยุ่งกับการกิน ขณะที่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ใบหน้าของเขาราวกับมีใครมาควบคุมโชคชะตาของเขา เขาถอนหายใจออกมาแลพูดอย่างเสียใจ " พี่สาว ส่งหินวิญญานมาให้ข้า”
สายตาของหญิงสาวที่กำลังสดใสก็เผยรอยยิ้มออกมา ดวงตาของนางหลี่ลงครึ่งหนึ่งเป็ฯ รูปร่างของเสี้ยวดวงจันทร์ใหม่ซึ้งดูน่ารักน่าเอนดูเป็นอย่างมาก " ดี อาจารย์นั้นมอบแต่สิ่งดีๆให้กับเจ้า เจ้าควรจะบอกความจริงและกลับไปได้แล้ว ท่านไม่ทำให้เจ้าลำบากหลอก "
หลังจากพูด หญิงสาวก็เดินมายืนตรงหน้าฉื่อหยาน , หยิบหินสีเงินรูปสามเหลี่ยมออกมา และส่งให้เยวาจางเฟิ่ง . หลังจากนั้น นางก็ผลักเยว่จางเฟิงไปอีกที่นั่งหนึ่ง แล้วนางก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่เขาเพิ่งเขยิบออก
" . . . "
ขวดสุราล้มลงบนพื้น หญิงสาวจ้องไปที่ฉื่อหยานและพูดว่า " เยว่จางเฟิงนั้นเป็นตัวปัญหา เจ้าไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเขา ไม่ว่เขาจะเสนออะไร เจ้าก็อย่าได้ไปยอมรับมัน ไม่งั้นคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการสูญเสียก็คือเจ้า "
หน้าฉื่อหยานก็เปลี่ยนเป็นแปลกใจ
" แค่ก แค่ก แค่ก . . . . . . . " เยว่จางเฟิงก็ไอออกมาตลอดเวลา ; หน้าของเขากลายเป็นสีแดง เขา จ้องมองไปที่นางอย่างโหดร้าย และดุว่า " หลินหย่าฉี เจ้าอย่าได้สร้างปัญหาไปมากกว่านี้ "
" ข้าก็แค่พูดความจริง " หญิงสาวยกใบหน้าของนางขึ้นและพูดเหยียดหยัน
" ฉื่อหยาน ! " เสียงตะโกนแสงพลันดังขึ้นจากโต๊ะข้างหน้า กู่หลินหลงยืนกัดริมฝีปากและจบฟันอยู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความแค้น และดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ดูเหมือนนางต้องเสี่ยงชีวิตของนางเพื่อแลกกับเขา
ซูหยานซิงก็ตะลึง นางคิดเลยว่านางจะได้พบกับฉื่อหยานที่นี่ อย่างไรก็ตาม ความลังเลก็ปรากฏในสายตาของนาง นางอยู่เงียบๆเหมือนกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง
นางไม่ได้ยืนขึ้นเหมือนกู่หลินหลง มันดูเหมือนนางกำลังกลัวอะไรบางอย่าง
ฉื่อหยานขมวดคิ้วของเขา มองไปยังทิศทางที่เกิดเสียง จากนั้นเขาก็รินเหล้าให้ตัวเองและดื่มมันต่อ และเขาก็พูดกับกู่หลินหลงด้วยรอยยิ้ม " ช่างน่าดีใจนักที่ได้เจอเจ้าที่นี่ "
" ข้าไม่ดีใจเลยสักนิด " กู่หลินหลงสีหน้าตกใจด้วยความโกรธ " คนสกปรกชั่วช่าอย่างเจ้ากล้ามาที่เกาะสุริยัน ไม่กลัวคนอื่นจะจัดการรึไง "
ฉื่อหยานยักไหล่และพูดว่า " ไม่ใช่ว่าตอนนี้ข้ายังสบายดีอยู่หลอกรึ ? "
กู่หลินหลงขบฟันของนางและทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วนักรบระดับปฐพีสี่คนที่นั่งอยู่ข้างๆนางก็ลุกขึ้นมาเดินไปที่ฉื่อหยานด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร
ทั้งสี่อยู่ในนภาแรกและนภาที่สองของระดับปฐพี ด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่งและเด่นเป็นสง่า ขณะที่พวกเขาเห็นกูหลิงหลงโกรธ พวกเขาก็ต้องการแสดงความสามารถออกมาเล็กน้อยเพื่อชนะหัวใจนาง
ผู้ชายสวมหมวกและเครื่องแต่งกายสีขาว ก่อนที่จะลงมือ เขาก็ค่อยๆถามหลินหย่าฉี " ชายคนนี้ความสัมพันธุ์อะไรกับเจ้า "
หลินหย่าฉีส่ายหน้า " ข้าไม่รู้จักเขา " .
เยว่จางเฟิงยิ้มอย่างฝืนๆ เอนตัวไปข้างหลัง ดูเหมือนเขาจะแสดงออกว่าไม่เต็มใจช่วยฉื่อหยาน เขาโบกมือและกล่าวว่า , " ถ้าเจ้าต้องการที่จะสู้กัน ก็ไปไกลๆจากข้า ถ้าเจ้ไม่โดนตัวข้า ข้าก็จะไม่ทำอะไร "
" หลินหลง " ซูหยานซิงก็ลุกขึ้นยืนในที่สุด นางจ้องกู่หลินหลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ " เจ้าอยากให้พวกเขาตายงั้นรึ "
" แมงหวี่แมงวันที่ทำให้ข้ารำคาญ พวกมันสมควรตาย " กู่หลินหลงก็ตอบด้วยเสียงเย็นชา
อย่างไม่เต็มใจ ซูหยานซิงก็กล่าว " ฮันเฟิง เจ้าอย่าได้มาสร้างปัญหาที่นี่ พวกเจ้าไม่ใช่คู่มือของเขา นอกจากนี้ ความเกลียดชังของเราไม่ใช่เรื่องของเจ้า”
ผู้ชายที่ยืนนำหน้าอยู่ก็แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา หลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ เขาก็หันศีรษะของเขามองไปที่ซูหยานซิง และกล่าวว่า " แม่นางซู เจ้าจะดูถูกเรามากเกินไปแล้ว”
" ข้าไม่ได้ดูถูกเจ้า . " ซูหยานซิงพูดต่อ " แต่พวกเจ้าไม่ใช่คู่มือของเขาจริงๆ แม้ว่าพวกเจ้าจะร่วมมือกัน สิ่งเดียวพี่พวกเจ้าจะเจอก็คือความตาย "
นักรบในร้านเหล้าต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนี้ แม้แต่หลินหย่าฉีก็จ้องและขมวด คิ้วของนางไปที่เยวาจางเฟิ่งและถามว่า "เจ้าชั่วน้อย สหายของเจ้าอันตรายขนาดนั้นเชียวรึ "
เยว่จางเฟิงส่ายหน้าและพูดพร้อมหัวเราะ " ข้าก็ไม่รู้ "
ฉื่อหยาน ก็ดื่มสุราต่อ ไม่ได้สนใจนักรบทั้งสี่ที่ยั่วโมโหเขา เขาไม่แม้แต่จะมองหลินหย่าฉีหรือเยว่จางเฟิง เขาหันหน้าไปมองออกไปยังหน้าต่างและจ้องทะเลสาป
หลังจากได้ยินคำแนะนำของซูหยานซิง ใบหน้าของนักรบทั้งสี่ ผู้ซึ่งต้องการที่จะชนะหัวใจของหญิงงามก็กลายเป็นมืดมัว พวกเขายืนอยู่ข้างหลังอย่างลังเล และกำลังพิจารณาว่าพวกเขาจะเสี่ยงดีหรือไม่
ฉื่อหยาน ก็ยังทำตัวปกติ มองไปยังทะเลสาปน้ำร้อน , มองไปยังนางเงือกที่อยู่ในทะเลสาป
ที่มุมตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบที่มีหมอกหนาแน่น เป็นร่างที่มีเสน่ห์เหมือนกับนางเงือกว่ายน้ำอยู่ หญิงสาวคนนี้ปรากฏขึ้นมาเหนือน้ำและว่างลงไป
ร่างที่งดงามนั้นปรากฏอย่างคลุมเคลือละหว่างไอน้ำ คนอื่นไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้อยากเห็น ทำให้พวกเขาอยากเข้าไปดูใกล้ๆเพื่อดูว่าร่างที่งดงามนั้นเป็นของใคร
ในน้ำสีฟ้าคราม หญิงสาวคนนั้นบางครั้งก็มองมาที่ฉื่อหยานและยิ้มราวกับว่านางภูมิใจที่เปิดเผยร่างกายที่งดงามของนาง
ข้างๆนาง มีนักรบประมาณสิบคนจากกองกำลังต่าง ๆในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด พวกเขาทั้งหมดมองนางด้วยสายตาเพลิดเพลิน แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้
ในโรงเตี๊ยม นักรบบางคนกำลังมองไปทางนางด้วยสาวตาแปลกๆ พวกเขาจ้องไปยังร่างกายที่งดงามอย่างไม่วางตา ร่างกายของนางนั้นสามารถทำให้ชายหนุ่มบ้าคลั่งได้
พวกเขาหลายคนทำท่าทางไม่สบอารมณ์และทำเสียงไม่พอใจ พวกเขาไม่พอใจที่ไม่สามารถกระโดดลงไปในน้ำได้ ทำได้เพียงชื่นชมความงามของนางเท่านั้น
" เจ้ากล้ามาที่นี่และเล่นน้ำกับข้าหรือไม่ " ภายใต้การจ้องมองของนักรบมากมาย หญิงสาวก็ยกแขนขาวจั๊วะของนางชี้ไปที่ฉื่อหยาน ในขณะที่ยิ่มอย่างยั่วยวน " ฉื่อหยาน , ถ้าเจ้ากล้าลงมาที่นี่ ข้าจะยอมเจ้าอาบน้ำข้างๆข้า " .
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ