บทที่ 295 ไม่ใช่เพราะเจ้า
บทที่ 295 ไม่ใช่เพราะเจ้า
ข้างในโครงกระดูกมังกร จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์กรีดร้องออกมาอย่างต่อเนื่องมันปล่อยพลังวิญญานออกมาเพื่อหวังจะเปลี่ยนสถานการณ์
ทันใดนั้น มังกรกระดูกผลึกเหมันซึ่งถูกมัดไว้ โดยห้วงจิตสำนึกของฉื่อหยาน ก็ดิ้นรนรุนแรงมากขึ้นในขณะที่พลังวิญญานของมันค่อยๆเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม พวกมันยังคงไม่เกินความสามารถของฉื่อหยาน
ตอนที่อยู่ดินแดนรกร้าง ฉื่อหยานได้ศึกษาเรียนรู้เคล็ดวิชาต่างๆจากคัมภีร์ของเผ่าเสีนงอสูร นอกจากนี้ เขายังได้ใช้พานโจวและนักรบคนอื่นๆเป็นหนูทดลองให้กับเขา. แม้ว่าความเข้าใจด้านวิญญานของเขายังไม่อาจเทียบได้อีเทียนโหมว และ ผู้นำของเผ่าเสียงอสูร แต่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวที่ได้จากคัมภีร์นั้นลึกซึ้งเป็นอย่างมาก ถ้าเปรียบเทียบกับคนธรรมดาเขาก็เปรียบเสมือนเป็นของในเผ่าเสียงอสูร
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ใครทุกคนจากเผ่าเสียงอสูรที่ได้มีโอกาศจะเรียนรู้คัมภีร์ที่แสนมหัศจรรย์นี่
อีกอย่างหนึ่ง , ฉื่อหยานได้เรียนรู้คัมภีร์วิญญานอย่างละเอียด เขาทุ่มเทความพยายามเรียนรู้เคล็ดวิชาวิญญานต่างๆของเผ่าเสียงอสูร และ อีกสิ่งก็คือวิชาห้าปีศาจในห้วงจิตสำนึกของเขานั้นมาจากแหวนสายโลหิตที่แสนจะลึกลับ มันมีพลังอำนาจที่แปลกประหลาด และอยู่เหนือกว่าที่ผู้นำของเผ่าเสียงอสูรหรืออีเทียนโหมวจะเข้าใจ
ด้วยเหตุผลข้างต้น ถ้าจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ยังคิดว่าฉื่อหยานเป็นนักรบธรรมดาอยู่หละก็ มันจะต้องได้รับความสูญเสียเป็นอย่างมากแน่นอน
" เจ้าทำได้แค่นี้รึ ! " ฉื่อหยาน ตะโกนออกมาอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาถูกส่องประกายกลิ่นอายที่เย็นยะเยือกเหมือนกับอยู่ในห้องน้ำแข็งใต้ดิน หยดน้ำแข็งเล็กๆที่เหมือนกับน้ำนมสีขาวจำนวนมากที่แผ่ออกมาจากรูขุมขนของร่างกายของเขา
มันเป็นพลังความเย็นที่เปลวเหมันเยือกแข็งถ่ายทอดเข้ามาในร่างของเขา ควันจางๆลอยอยู่รอบครอบคลุมเขา สร้างเป็นโล่น้ำแข็งตามธรรมชาติขึ้นอย่างเงียบๆ มันคอยปกป้องเขาจากการโจมตีขของจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์
ในเวลาเดียวกัน
ห้าปีศาจที่เพิ่งกลับมก็แสดงออกอย่างดุร้ายและเกรี้ยวกราด พวกมันพลันถลันไปที่น้ำมังกรกระดูกผลึกเหมันที่ถูกมัดอยู่
เป็นมังกรกระดูกผลึกเหมันที่เห็นห้าปีศาจพุ่งมาจากในห้วงจิตสำนึก พวกมันก็ดิ้นรนอยู๋ตลอดเวลาและพยายามที่จะหนีจากพันธนา
อย่างไรก็ตาม ฉื่อหยานก็ตั้งสมาธิไปที่ห้วงจิตสำนึกของเขา และควบคุมให้พันธนาการอย่างเหนียวแน่นบังคับมังกรกระดูกผลึกเหมันไม่ให้เคลื่อนไหวใดๆได้ ไม่ว่าพวกมังกรกระดูกผลึกเหมันจะดิ้นรนเท่าใดพวกมันก็ไม่สามารถหลุดรอดจากการพันธนาการนี้ได้
" ไม่ ! " จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็กรีดร้องออกมา มันต้องการที่จะลอยออกมาจากผลึกมังกรแต่ต้องติดอยู่เพราะเปลวไฟของแกนเพลิงกำลังลุกโชนอยู่รอบๆ
การโจมตีวิญญานที่น่ากลัวพุ่งออกมาจากผลึกมังกร วิญญาณเหล่านั้นอัดแน่นกันและกลายเป็นร่างของนักรบไม่กี่คนที่ส่งเสียงคำรามออกมา . มันพุ่งจู่โจมไปยังห้วงจิตสำนึกของฉื่อหยานทีละคน
ในตอนนี้เองกลิ่นอายวิญญานของ อีเทียนโหมว หยาเมิง และ คาป้า ก็ปรากฏข้างในโครงกระดูกมังกรน้ำแข็ง
เมื่อห้วงจิตสำนึกของฉื่อหยานเปิดออก เขาก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เขาเห็น อีเทียนโหมว หยาเมิง และ คาป้า ที่ใช้จิตสำนึกวิญญานของพวกเขาให้ปรากฏที่นี่ ทันทีพลังวิญญานเหล่านั้นก็ป้องกันการโจมตีทุกอย่างที่จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์โจมตีมา
ใช้โอกาสนี้ วิญญานหลักที่อยู่ในห้วงจิตสำนึกของเขาก็ใช้พลังทั้งหมดพันธนาการมังกรกระดูกผลึกเหมันอย่างรุนแรง
ฉื่อหยานเข้าใจว่ามังกรกระดูกผลึกน้ำแข็งเหล่านี้เป็นวิญญาณที่ถูกลั่นมาจาก พลังวิญญานของจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ พวกมันเหล่านี้มีพลังมหาศาลพอที่จะทำลายห้วงจิตสำนึกของเขาอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ พลังวิญญาณเหล่านี้ยังมีพลังบางอย่างที่น่ากลัวอยู่ด้วย
แต่ห้าปีศาจก็อาจจะกลืนกินพลังเหล่านี้ได้
เมื่อห้าปีศาจแสดงความแข็งแกร่งที่เกรี้ยวกราดออกมา ฉื่อหยานทันทีรู้ว่ามังกรกระดูกผลึกเหมันเหล่านี้จะต้องกลายเป็นอาหารของห้าปีศาจแน่นอนและนี่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้น เมื่อกลืนกินเหล่ามังกรกระดูกผลึกเหมัน เห็นได้ชัดว่าห้าปีศาจจะได้รับพลังที่แข็งแกร่งขึ้นและพลังวิญญาณของพวกมันก็จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นยากมากในรอบพันปี
ห้าปีศาจคำราม ออกมาและพุ่งไปจับเหยื่อของพวกมันและฉีกกระฉากร่างของมังกรกระดูกผลึกเหมัน ห้าปีศาจกลืนกินพวกมันราวกับว่าพวกมันเป็นอาหารอันโอชะ , พวกมันเพลิดเพลินเป็นอย่างมากที่ได้กลืนกินมังกรกระดูกผลึกเหมัน
ในห้วงจิตสำนึก ในขณะที่ห้าปีศาจที่หิวกระหายเหล่านั้นกำลังกลืนกินมังกรกระดูกผลึกเหมัน ร่างของพวกมันก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
ร่างเดิมของปีศาจก็เริ่มเปลี่ยนไปตอนนี้พวกมันกลายเป็นที่ชัดเจนขึ้น แม้แต่ลวดลายที่ดูดุร้ายบนร่างกายของพวกมันตอนนี้ก็สามารถเห็นได้ชัดขึ้น นอกจากนี้ยังมีแสงสีดำเคลื่อนเคลื่อนไหวอยู่ในร่างของพวกมันเหมือนกับสายลมที่น่าขนลุก แม้แต่ขนาดร่างของมันเองก็ยังใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
ห้าปีศาจก็ได้กลืนกินมังกรกระดูกผลึกเหมันทั้งหมดภายในสิบลมหายใจ
หลังจากได้กินเหล่ามังกรกระดูกผลึกเหมันแล้ว ห้าปีศาจ ก็ดูยังไม่สาแก่ใจ พวกมันบินออกไปจากห้วงจิตสำนึกอีกครั้ง และพุ่งสูงไปสิบเมตรด้วยความโกรธเกรี้ยวห้าปีศาจบินรอบๆจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ราวกับว่ากำลังหาบางสิ่ง
หลับตาลงแล้วใช้จิตสำนึกวิญญานสัมพัสไปทุกที่ ฉื่อหยานก็เห็นกลุ่มของอีเทียนโหมวทั้งสามคนกำลังร่วมมือกันเพื่อจัดการกับวิญญานร้ายของจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์
ผู้นำของตระกูลเสียงปีอสูร สมรรถภาพด้านวิญญานนั้นยอดเยี่ยมนัก แม้ว่าจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกเรียกว่าพระเจ้ายังแสดงออกอย่างหมดหนทางเมื่อเผชิญหน้ากับการป้องกันด้วยพลังวิญญานของพวกเขา
แกนเพลิงยังคงเผาผลึกมังกรอย่างต่อเนื่องทำให้จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถปลดปล่อยพลังทั้งหมดของมันได้ เส้นสายพลังวิญญานนับสิบที่กลั่นตัวกันที่เปลี่ยนเป็นมังกรกระดูกผลึกเหมันก็ถูกกลื่นกินและกวาดล้างไป
จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ได้สูญเสียพลังไปเป็นอย่างมาก และแทบจะไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป
จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ส่งเสียงร้องออกมา มันใช้พลังเพื่อโจมตีม่านพลังวิญญานป้องกันของอีเทียนโหมว หยาเมิง และ คาป้า ในเวลาเดียวกัน มันก็ต้องจัดการกับเปลวไฟของแกนเพลิง
จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ก็น่าเสียดาย จากสิ่งที่มันกำลังเผชิญอยู่ มันไม่ได้ดูราวกับพระเจ้าเลย
ในที่สุด หลังจากโจมตีอย่างต่อ เปลวไฟของแกนเพลิงก็อัดแน่นกันแล้วเปลวไฟก็ประทุขึ้นอีกครั้งโดยมีพลังของดวงตะวันกลั่นวิญญานอยู่ในเปลวไฟทำให้พลังในการเผาผลาญของมันเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง
เปลวไฟของแกนเพลิงที่ห้อมล้อมผลึกมังกรไว้ก็ร้อนขึ้นทันทีความร้อนของมันนั้นราวกับว่าเป็นเปลวไฟของดวงอาทิตย์ ด้วยการผสมผสานกันระหว่างพลังแสงอาทิตย์และเปลวไฟของแกนเพลิง
"แกร๊กก แกร๊กก "
ผลึกมังกรก็ส่งเสียงแตกแปลกๆออกมา
ของเหลวที่อยู่ในผลึกก็ค่อยๆเคลื่อนไหว และควันสีขาวก็ทะลักออกมามากขึ้น
" จริงๆแล้ว เรายังสามารถต่อรองกันได้ ถ้าเจ้าบอกว่าเข้าจะไม่ยุ่งกับข้าอีก เมื่อข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ กลิ่นอายธรรมชาติที่หนาแน่นก็จะหายไป ข้ารู้ว่ากลิ่นอายธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งสําคัญสําหรับการบ่มเพาะของเจ้า เจ้าคงไม่ต้องการให้เกาะแห่งนี้กลายเป็นเกาะแห้งแล้งหลอกนะ ? " จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์เคลื่อนไหวอยู่ภายในผลึกมังกร มันก็ค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ และค่อยๆกลายเป็นจางลง
" ห้าปีศาจกลับมา ! " ฉื่อหยานใช้จิตสำนึกวิญญาณของเขาควบคุมห้าปีศาจกลับมา พลังวิญญานของเขาไหลออกมาจากวิญญานหลักอย่างต่อเนื่องมันเป็นเส้นสายคล้ายกับหนวดมันเคลื่อนไหวไปมาในห้วงจิตสำนึก
หลังจากห้าปีศาจหิวกระหายลอยอยู่รอบๆผลึกมังกร เมื่อฉื่อหยานเรียกพวกมันกลับมา พวกมันก็แสดงออกอย่างไม่เต็มใจ แต่พวกมันก็กลายเป็นเส้นแสงสีดำและหายเข้าไปในหัวของ ฉื่อหยาน จากนั้นพวกมันก็กลับมาอยู่ในห้วงจิตสำนึกของเขาและค่อยๆกลายเป็นเงียบสงบอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าห้าปีศาจจะกลับมาแล้ว ฉื่อหยาน ก็ยังคงระมัดระวังเป็นอย่างมาก ดวงตาเที่เย็นชาของเขาจ้องมองไปที่จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ผลึกมังกรและพูดอย่างเย็นชา " อะไรกัน ? เจ้ากลัวงั้นรึ ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการจะยึดร่างของข้าหลอกรึ ? "
" ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าข้าทำไม่ได้ . " จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ถอนหายใจยาวออกมา สีหน้ากำกวมเล็กน้อยผลึกมังกรโปร่งใสก็สั่นเล็กน้อยและ มันก็รีบบอกว่า " เรียกไอ้เปลวไฟนภานี่กลับไป มิฉะนั้น หากพลังความเย็นของผลึกมังกรหมดไป ข้าจะถูกปล่อยออกมา เมื่อข้าถูกปล่อยออกมา ถึงตอนนั้น กลิ่นอายธรรมชาติทั้งหมดบนเกาะนี้ก็จะหายไป แน่นอนเจ้าคงไม่อยากให้เป็นนั้นใช่หรือไม่ ? "
" ข้าไม่สน . " ฉื่อหยาน ส่ายหัวไปมาและ บอกว่า " มากที่สุด ข้าก็แค่ย้ายไปเกาะอื่น มีเกาะอีกมากมายที่มีกลิ่นอายธรรมชาติหนาแน่น จริงๆข้าก็ไม่อยากย้ายไปที่อื่น แต่ฉันเพื่อแลกกับการทำลายเจ้าแล้วก็ไม่เป็นไร .
จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็สั่นสะท้านในขณะที่มันพูดอะไรไม่ออก
" เมื่อเร็ว ๆนี้มังกรกระดูกผลึกเหมันหลายสิบตัวที่เกิดจากการกลั่นของวิญญานของเจ้าเป็นเหมือนกับยาที่มีคุณค่ากับวิญญาน ข้าจะเผาผลึกมังกรของเจ้า แล้วรอจนกว่าจิตสำนึกของเจ้าจะปรากฏออกมา บางทีข้าอาจจะใช้เปลวไฟนภาเพื่อปรับแต่งและดูดซับวิญญานของเจ้า ข้ารู้สึกว่ามันคุ้มค่าเสียกว่าฝึกบ่มเพาะด้วยกลิ่นอายธรรมชาติเสียอีก”
ฉื่อหยานหัวเราะอย่างเย็นชา เขาไม่ได้ไม่ได้สนใจชีวิจของจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์เลย เขาทำทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ของเขา
จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็สั่นสะท้านมากขึ้น
" แกนเพลิง เผาผลึกมังกรนั่นซะ ! " หน้าฉื่อหยานก็โหดร้ายในขณะที่เขาสั่งแกนเพลิงให้ใช้เปลวไฟเผาผลึกมังกร
เมื่อได้รับคำสั่งของฉื่อหยานแกนเพลิงก็ใช้ความพยายามมากกว่าเดิมเพื่อปลดปล่อยเปลวไฟออกไปห้อมล้อมผลึกมังกร ไม่นานกำแพงน้ำแข็งที่เกิดจากพลังความเย็นของผลึกมังกรก็ค่อยๆละลาย
ถ้าสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ ผลึกมังกรจะต้องถูกทำลายในไม่ช้าแน่นอน
ทั้งสามคน อีเทียนโหมวและอีกสองผู้นำก็เข้าใจความตั้งใจของ ฉื่อหยาน เขายิ้มอย่างเย็นชาในขณะที่เพิ่มพลังของม่านพลังวิญญานป้องกัน เกิดเป็นม่านพลังหลากสีสันขึ้นหลายชั้นเพื่อป้องกันฉื่อหยาน จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็แสดงอย่างบ้าคลั่งและเสี่ยงที่จะโจมตีออกมามันทำลายก้อนหินที่เหมือนกับหยกที่อยู่รอบๆ
" ทำไมพวกเจ้าต้องกดดันข้าด้วย ข้าเพียงต้องการอยู่รอดเท่านั้น ข้าอยากเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเนื้อหนังและเลือด เนื้อที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงวิญญานที่ถูกเรียกว่าพระเจ้าเช่นนี้ ข้ไม่อยากถูกเอาเปรียบ หรือเป็นแค่สิ่งที่มีไว้ให้คนอื่นกลืนกิน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกมัน ข้าก็คงหนีไม่พ้นจากการถูกกลืนกิน ข้าก็แค่...อยากมีชีวิตรอด.
จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง พลังวิญญานที่ไหลออกมาเป็นเหมือนกับดาบที่แหลมคมก็พุ่งออกมารอบๆ
สีหน้าฉื่อหยานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่เขาปล่อยจิตสำนึกวิญญาณของเขาสัมพัสไปรอบๆอย่างเงียบๆ เขาส่งจิตสำนึกวิญญานของเขาเข้าไปใกล้กับผลึกมังกรอย่างเงียบๆ ทำให้จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่มังกรผลึกวิญญาณสั่นสะท้าน
ฉื่อหยานรู้สึกว่าหัวใจของเขาถูกแช่แข็ง ดูเหมือนเขาจะรู้อะไรบางอย่าง เขาคิดสักพักก่อนจะตะโกนว่า " เอาล่ะ เรามาคุยกันก็ได้ หรือไม่ก็ ข้าอยู่เจ้าตาย " ขณะที่พูด ฉื่อหยานก็ปล่อยจิตสำนึกวิญญานเพื่อส่งข้อความไปยังอีเทียนโหมว และอีกคนสองและค่อยๆสั่งแกนเพลิงไม่ให้ส่งพลังออกมาอีกต่อไป
คลื่นความร้อนจากแกนที่อยู่ผลึกมังกรก็ค่อยๆลดลง
ร่างวิญญานของอีเทียนโหมว และ อีกสองผู้นำก็ค่อยๆย้ายไปอยู่ข้างหลัง ฉื่อหยาน ประกอบกับม่านพลังวิญญานที่ล้อมผลึกมังกรอยู่ก็ค่อยๆเบาบางลง และกลายเป็นม่านพลังวิญญานบางๆ
ความรู้สึกที่วิตกกังวลของจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ค่อยๆสงบลง และกลับสู่ภาวะปกติหลังจากฉื่อหยาน ได้ปล่อยวาง
" เจ้าต้องการอะไร ? เจ้าไม่ได้ต้องการจะฆ่าข้าหลอกรึ ? " จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในผลึกมังกรก็สังเกต ฉื่อหยาน , " เจ้าจะหลอกให้ข้าเชื่อและ รอจนกว่าข้าจะปล่อยวาง ถึงตอนนั้นเจ้าก็จะฉวยโอกาสรอบโจมตีข้าและดูดกลืนวิญญานข้าใช่หรือไม่ ! "
ฉื่อหยาน สีหน้าไม่เปลี่ยน แต่เขาก็รู้สึกประหลาดใจอยู่ภายใน
จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์พูดอยู่ข้างในจิตใจของมัน
เมื่อจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ป้องกันอะไรแล้ว เขาก็ยอกให้ อีเทียนโหมวและแกนเพลิงให้รวมพลังกันเพื่อใช้พลังสูงสุดเพื่อพันธนาการ จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่ร่างของมันจะหายไป เขาจะทุกสิ่งมาจากมัน จากนั้นก็จะค่อยๆควยคุมวิญญานของมันเพื่อเป็นอาหารให้กับห้าปีศาจ
วิญญาณของมันแข็งแกร่งเป็นอย่างมากมันสามารถทำลายได้ทุกสิ่ง และยังสามารถสร้างเป็นหลุมดำดึงดูดวิญญานของสิ่งมีชีวิตได้
ถ้าวิญญาณของมันระเบิดและแตกสลายไป วิญญานและตัวตนของมันก็จะสูญสลายไป และไม่สามารถหาประโยชน์ใดๆจากวิญญานที่แตกสลายได้
เมื่อวิญญาณของจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์เกิดระเบิด ฉื่อหยานก็จะไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ วิญญานของเขาเองก็จะถูกดึงดูดโดยหลุมดำวิญญานที่เกิดจากวิญญานของจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอาจจะนำไปสู่อันตรายร้ายแรงที่ไม่คาดคิดได้
นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
" ในความเป็นจริง เราคุยกันอย่างสันติได้ ชีวิตของเจ้ายังมีประโยชร์สำหรับข้าอยู่ . " ฉื่อหยานก็เผยรอยยิ้ม เจายื่นแหวนสายโลหิตไปที่แกนเพลิงเพื่อเรียกกลับมา
แกนเพลิงและเขานั้นสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก ดังนั้น มันย่อมเข้าใจเจตนาของเขา หลังจากที่เขาได้สะบัดมือ แกนเพลิงทันที ก็กลับกลายเป็นแสงของเปลวไฟเข้าไปในแหวนสายโลหิต
ทันทีที่แกนเพลิงได้หายไปแล้วอุณหภูมิที่ร้อนระอุและอึดอัดภายในผลึกมังกรก็ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง
พลังความเย็นก็กลับมาปกคลุมทั่วโครงกระดูกมังกรทั้งหมดอีกครั้ง ผลึกมังกร ซึ่งไม่ได้ถูกห้องล้อมโดยเปลวไฟอีกต่อไป มันกลายเป็นโปร่งใสสวยงาม ความเย็นภายในโครงกระดูกมังกร เย็นจนอากาศกลายเป็นน้ำแข็งส่องแสงระยิบระยับเหมือนกับเกล็ดหิมะตกมาจากผลึกมังกร และพวกมันก็ถูกดูดเข้าไปในผลึกมังกร ทำให้ผลึกมังกรสดใสมากขึ้นและพลังความเย็นก็กลายเป็นแข็งแกร่งมากขึ้น
จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม มันเอาแต่เงียบและสังเกตทุกย่างก้าวของฉื่อหยาน โดยไม่กล้าที่จะละสายตา
ดูเหมือนว่ามันได้ผ่านการทรยศหักหลังมามากมายและต้องเจอกับคนชั่วช้ามาพอควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกที่เย็นชาของฉื่อหยานที่ทำให้มันรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก มันไม่คิดเลยว่าคนโหดร้ายเช่นฉื่อหยานจะมีสำนึกเช่นนี้
มันเลยสันนิษฐานว่า ฉื่อหยานจะลอบโจมตีมัน มันจึงใช้พลังทั้งหมดออกมาเพื่อป้องกันตลอดเวลา
" พวกท่านขึ้นไปก่อนเถิด " ฉื่อหยานคิดสักพักก่อนจะหันไปทางร่างวิญญาณของอี้เทียน คาป้า และหยาเมิงและสั่งพวกเขาด้วยรอยยิ้มอ่อน
" นายท่าน . . . . . . . " อี้เทียนโหมวส่งจิตสำนึกวิญญานของเขาออกมาเพื่อค้าน
" ไม่เป็นไร " หน้าฉื่อหยาน ก็สงบมาก เขาโบกมือแสดงให้พวกเขาไม่ต้องกังวล " ข้าจะระวังตัว ไม่มีปัญหา ข้ารับมือได้ "
ทั้งสามของรวมถึงอีเทียนโหมวก็ลังเลนิดหน่อย ขณะที่พวกเขามองฉื่อหยานด้วยความมั่นใจ พวกเขาก็ค่อยๆจากไป ร่างวิญญานของพวกเขาสามคนก็จางหายไป และในที่สุดก็กลายเป็นแสงหายไปที่ละร่างโดยไม่ทิ้งร่องรอย
บนยอดของภูเขามังกรเหมัน .
ร่างของ อีเทียนโหมว คาป้า และหยาเมิงก็สั่นอย่างรุนแรง พวกเขาลืมตาขึ้นพร้อมกันและถอนลมหายใจออกมา
" เป็นไงบ้าง ? " ยู่โหลวรีบถาม
ตี่ฉานเองก็ขมวดคิ้ว
ฉาวจื่อหลานกัดริมฝีปากของนาง นางค่อยๆเข้าไปใกล้กับอีเทียนโหมวทีละก้าวกด้วยดวงตาอยากรู้อยากเห็นของนาง หูของนางกระดิ่กอย่างซุกซน . นางเพ้งไปที่การตอบสนองของอีเทียนโหมว
อี้เทียนโหมวขมวดคิ้วของเขาในขณะที่เหลือบมองไปยังฉาวจื่อหลาน
ฉาวจื่อหลาน เผยรอยยิ้ม และถอยกลับมาไม่กี่ก้าว แต่นางก็ไม่ได้แสดงความกลัวใด ๆ นางระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและกล่าวออกมาแทน" ข้าเห็นถึงความสัมพันธุ์ฺระหว่างพวกท่านก่อนหน้านี้ ข้ารู้ว่ามีข้อตกลงบางอย่างระหว่างท่านและฉื่อหยาน ท่านดูราวกับนับถือเขาเป็นอย่างมากและ แม้แต่ทำตามคำสั่งของเขา
ตี่ฉานก็หลี่ตาลง , ประกายแสงเย็นชาส่องประกายออกมา สีหน้าเขากลายเป็นโกรธและไม่นานมันก็หายไป
ใบหน้าที่สวยงามของฉาวจื่อหลาน ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย นางรู้สึกหนาวเย็นจากข้างใน ร่างที่ทรงเสน่ห์ของนางก็สั่นสะท้าน นางรีบยกมือนางและได้อธิบายว่า " ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายนะ . ข้าแค่อยากเป็นเพื่อนกับเขา และข้าก็มั่นใจว่าท่านเองก็รู้เช่นกัน . " ฉาวจื่อหลาน ชี้ไปที่อีเทียนโหมว
อี้เทียนโหมวไม่มีทางลืมสิ่งที่นางเสนอให้ ฉื่อหยานแน่นอน ภายใต้การพินิจพิเคราะห์เขามองไปที่ ตี่ฉาน และ ยู่โหลว เขาพยักหน้าด้วยสีหน้าแปลก ๆแล้วบอกว่า " ผู้หญิงคนนี้ได้เสนอตัวเองที่จะแต่งงานกับฉื่อหยาน สายตาของนางเฉียบคมนักที่เห็นถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของนายท่าน”
ยูโร่วดวงตาคู่สวยพลันสว่างขึ้น นางเริ่มที่จะประเมินฉาวจื่อหลาน อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก นางมองฉาวจื่อหลาน และพยักหน้าพร้อมกันแล้วเผยยิ้มอย่างมีความหมาย " สาวน้อยไม่เพียงแต่มีหน้าตาที่สละสวย แต่ดูเหมือนนางจะเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจด้วย ความกล้าหาญของนางมีไม่น้อยเลย ไม่เลว หึ แต่ถ้าเจ้าต้องการใกล้ชิด และให้นายท่านยอมรับ เจ้าต้องพยายามมากกว่านี้ "
" โปรดชี้แนะข้าด้วย " ใบหน้าของฉาวจื่อหลานก็จริงจังและนางก็แสดงออกอย่างจริงจัง
ยูโร่วส่ายหน้าและพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ" ข้าจะดูว่าเจ้ามีพรสวรรค์เพียงใดในภายหลัง "
" บอกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นมา เมื่อนายท่านมาถึง ถ้าท่านไม่ต้องการให้นางรู้ ตอนนั้นเราก็สามารถลบความทรงจำของนางได้ " ตี่ฉานจะพูดขึ้นอย่างเย็นชาด้วยความใจร้อน " การจัดการกับนางนั้น ง่ายนิดเดียว . "
อีเทียนโหมวพยักหน้าและพูดโดยไม่ระแวงสิ่งใด " เราได้ร่วมมือกันและเกือบจะทำลายจิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้านั่นตระหนักได้ถึงสถานการณ์ที่แย่ลงมันก็ขู่จะระเบิดวิญญานของตัวเองไปพร้อมๆกับเราในตอนนั้น แต่ . . . . . . . นายท่านฉื่อหยานทันทีก็หยุดกดดันมัน เขาบอกให้พวกเรามากลับมาที่นี่และปล่อยเขาไว้เพื่อจัดการเรื่องข้างล่างลำพัง "
" เขาสามารถจัดการกับมันได้ด้วยตัวคนเดียวงั้นรึ ? " ยูโร่ว ตกใจมาก และกังวลเล็กน้อย
อี้เทียนโหมวส่ายหน้าและกล่าวว่า " ข้าก็ไม่รู้ แต่ มีหลายสิ่งแปลกประหลาดมากมายในร่างของเขา บางที . . . . . . . อาจจะไม่มีเรื่องอะไรต้องกังวลก็ได้ . อย่างไรก็ตาม จิตวิญญานพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ได้บาดเจ็บจนไม่สามารถตอบโต้อะไรได้แล้ว"
หลังจากได้ยินเช่นนี้ ตี่ฉาน และยู่โหลวก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ก็ยังรู้สึกกังวลเล็กน้อย
" ตูม ตูม ตูม "
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงระเบิดสั่นสะเทือนพื้นดินดังขึ้นมาจากใต้ภูเขามังกรเหมันอีกครั้ง
สถานที่ที่ฉื่อหยานถูกเปิดอีกครั้ง เส้นทางเชื่อมต่อปรากฏขึ้นมาอีกแข็งและหินลาวาที่แข็งแกร่งรวมถึงกลิ่นอายธรรมชาติก็กระจายออกมา
ตี่ฉาน และผู้คนอื่น ๆทั้งหมดสีหน้าก็เปลี่ยนไป พวกเขาต่างมองไปยังเส้นทางที่เชื่อมต่อที่พึ่งเปิด และมองลึกลงไปด้วยความระมัดระวัง
ร่างใหญ่ค่อยๆกระโดดขึ้นจากส่วนลึก ในเส้นทางเชื่อมต่อหินลาวาน้ำแข็งราวกับว่ามันเป็นน้ำที่ผลักดันขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ต้องออกแรงใดๆเพื่อลอยขึ้นมา
" เขาออกมาแล้ว . " อีเทียนโหมวก็ตะโกนออกมาเล็กน้อยด้วยแววตาสงสัยของเขา
ด้วยการสนับสนุนของหินลาวาน้ำแข็ง ฉื่อหยานอย่างรวดเร็วก็พุ่งออกมาโดยไม่ต้อออกแรงใดๆ เขาเผยรอยยิ้มที่ออกมาจากมุมปากของเขา อารมณ์ของเขาดูเหมือนค่อนข้างดี
" เป็นไงบ้าง ? " คาป้า ช่วยไม่ได้ที่จะรีบขยับเข้ามาใกล้และถามหลังจากรอฉื่อหยานขึ้นมา
" เรียบร้อย มันได้ตกลงที่จะให้ความร่วมมือกับเราแล้ว มันจะช่วยรวบรวมกลิ่นอายธรรมชาติบนเกาะมังกรเหมันให้และกลิ่นอายธรรมชาติเหล่านั้นก็จะกลายเป็นทรัพยากรบ่มเพาะของเรา . "
" อ่า แล้วเหตุใดมันถึงตกลงงั้นรึ ? "
" ข้าสัญญาว่าจะหาร่างที่เหมาะสมมาให้แก่มัน ก็เท่านั้น"
_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ