ตอนที่แล้วบทที่ 253 หวาดกลัวต่อศัตรูตามธรรมชาติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 255 รู้แจ้งวิญญาน

บทที่ 254 ของขวัญที่คิดไม่ถึงจากสวรรค์


บทที่ 254 ของขวัญที่คิดไม่ถึงจากสวรรค์

ในห้องโถงหินที่กว้างใหญ่

หน้าฉื่อหยานก็จริงจัง เค้านั่งลงตรงกลางของโถงหินอย่างใจเย็น . ดวงตาสดใสของเขาจ้องมองขวดหยก และกล่องหยกสองกล่องที่อยู่ด้านหน้าเขาโดยไม่กระพริบตา

เจ็ดคัมภีร์โบราณสีเหลืองเข้ม วางเป็นชั้นอยู่แถวหลังกล่องหยก

ยู่โหลวและตี่ฉานยืนอยู่เงียบๆตรงหน้าฉื่อหยาน คนหนึ่งยืนอยู่ด้านซ้าย คนหนึ่งยืนอยู่ก้านขวาของเขา

หยาเมิง คาป้า และ อีเทียนโหมวถลึงตามองคัมภีร์สีเหลืองเข้มทั้งเจ็ดเล่มอย่างไม่เต็มใจ ดูเหมือนกับว่าพวกเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาเสียใจกับการตัดสินใจนี้ และไม่ได้ต้องการที่จะมอบหนังสือของเผ่าเสียงอสูรเหล่านี้เลย . แต่มันก็ไม่มีทางเลือก

ในห้องๆหนึ่งที่อยู่ด้านในห้องโถงขนากใหญ่ . ฉาวจื่อหลาน กู่หลินหลง และ ซูหยานซิง เต็มไปด้วยความกังวลพร้อมกับมีสีหน้าที่มืดมนขณะที่พวกนางสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องโถงหิน

" ผลหยกวิญญานขาวสามารถดูดซับได้โดยตรง หลังจากกินมันเข้าไปแล้ว ก็ทำสมาธิและตั้งใจดูดซับพลังวิญญานที่อยู่ในผลนี่ เป็นวิธีที่ง่ายเป็นอย่างมาก เจ้าเพียงแค่ส่งพลังไปในสมอง พลังที่อยู่ภายในผลหยกวิญญานขาวจะช่วยขยายเส้นประสาทและเส้นเลือดในสมองของเจ้า แล้วประสามสัมพัสของเจ้าก็จะเฉียบคมขึ้น รวมทั้งช่วยให้เจ้าทำสมาธิได้ดีขึ้นอีกด้วย ถ้าเจ้าสามารถดูดซับพลังที่อยู่ในผลหยกวิญญานขาวทั้งหมดเข้าไปในสมองของเจ้าได้ มันจะมีประโยชน์มากสำหรับการบ่มเพาะ รวมทั้งเสริมสร้างสภาพจิตใจและกลั่นวิญญานของเจ้าให้บริสุทธิ์มากขึ้น มันทำให้พลังจิตสำนึกวิญญานของเจ้าเฉียบคมขึ้นเป็นอย่างมาก และเพิ่มระยะที่สัมพัสของจิตสำนึกวิญญานได้ . " สีหน้าของยู่โหลวก็ดูจริงจัง ด้วยเสียงที่อ่อนโยนของนาง นางก็ค่อยๆ อธิบายให้ฉื่อหยานฟังถึงวิธีการดูดซับและประโยชน์ของผลหยกวิญญานขาว

" ดอกบัวทมิฬง่ายยิ่งกว่า .ชิ้นส่วนของดอกบัวทมิฬนั้นดูดซับไว้เป็นจำนวนมาก เจ้าเพียงแค่ต้องซึบซับของเหลวเหล่านั้เข้าไปในร่างของเจ้าผ่านรูขุมขน ซึ่งเมื่อมันเข้าสู่ร่างกายของเจ้าและค่อยๆสร้างรอยสักบนหน้าอกของเจ้า รอยสักดอกบัวนี้สามารถเพิ่มความเร็วในการดูดซับพลังธรรมชาติที่อยู่ระหว่างท้องฟ้าและพื้นดินได้เป็นเวลาห้าปี ตราบเท่าที่รอยสักดอกบัวทมิฬไม่หายไป เมื่อฝึกบ่มเพาะ , การดูดซับพลังต่างๆของเจ้าจะรวดเร็วขึ้นถึงห้าเท่า พลังเหล่านั้นจะไหลผ่านรอยสักดอกบัวทมิฬ ผ่านรอยสักดอกบัวทมิฬ เจ้าสามารถปรับแต่งและเปลี่ยนแปลงมันได้ จากนั้นความเร็วในการโคจรและการบ่มเพาะของเจ้าก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ . " ตี่ฉานหลี่ตาในขณะเดียวกันปีกสีดำของเขาก็หดกลับ เขาขดริมฝีปากแน่น ดูเหมือนเขาจะกังวลอยู่เล็กน้อย

" น้ำพุสวรรค์เป็นสมบัติของตระกูลปีกเทา วิธีใช้ก็ง่ายๆ อืม , ถ้าเจ้าได้รับบาดเจ็บภายในหรือสูญเสียพลังปราณลึกลับไปเป็นจำนวนมาก , เจ้าเพียงแค่ดื่มน้ำพุสวรรค์นี่หยดเดียวเท่านั้น มันจะฟื้นฟูพลังปราณลึกลับของเจ้าในพริบตา และยังรักษาบาดแผลของเจ้าอย่างรวดเร็ว เจ้าไม่จำเป็นต้องใช้ตอนนี้ รอจนกว่าเจ้าจะทำลายผนึกได้เสียก่อน ถ้าตอนนั้นเจ้าเสียพลังไปมหาศาล เจ้าก็สามารถใช้น้ำพุสวรรค์นี่ฟื้นคืนได้ และพลังของเจ้าก็จะเพิ่มขึ้น . " ยู่โหลวยิ้มและพูดอย่างต่อเนื่อง " ตี่ฉาน ได้พยายามเป็นอย่างมากเพื่อโน้มน้าวตั่วหลงให้มอบน้ำพุสวรรค์สักขวดให้เจ้า เขาเกือบจะต่อสู้กับตั่วหลง ดังนั้น อย่าได้ทำให้เราผิดหวังเด็ดขาด "

ฉื่อหยานนั่งตรงเหมือนหิน สีหน้าของเขานิ่งและจริงจัง " ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าข้าได้รับสามสิ่งนี้จากพวกท่าน และยังไม่สามารถทำลายผนึกได้ พวกท่านจะทำอะไรกับข้าก็เชิญ " .

ตี่ฉานพยักหน้า แล้วมองคาป้า หยาเมิง และ อีเทียนโหมว จากนั้นก็ถามขึ้น

" แล้วพวกเจ้าหละ "

คาป้า ก็ตกใจและชี้ไปที่คัมภีร์ที่วางอยู่บนพื้น กล่าวอย่างน่าสังเวช , " คัมภีร์ทั้งหมดนั่น "

" เจ้าคิดว่าเขาสามารถเข้าใจคัมภีร์พวกนั้นได้งั้นรึ ? ถ้าพวกเจ้าไม่ให้คำแนะพวกเขา พวกเจ้าคิดจริงๆหรือว่าเขาจะสามารถเข้าใจได้จริงๆ ?"

" อ๊า... " คาป้าเกาหัว เขาไม่รู้ว่าจะตอบเช่นไร แต่แล้วเขาก็พูดว่า " ตกลง ข้าจะแนะนำเขาเอง "

" ไม่ต้อง " หยาเมิง อีเทียนโหมวพูดขึ้นพร้อมกัน

คัมภีร์ทั้งเจ็ดเล่มนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นของคาป้าคนเดียว พวกมันอีกห้าเล่มเป็นของ หยาเมิง อีเทียนโหมว ซึ่งไม่อาจให้คนอื่นรับณู้ได้ ถ้าคาป้าได้เรียนรู้เกี่ยวคัมภีร์ห้าเล่มนั้น เขาก็จะสามารถควบคุมวิญญานผู้นำทั้งสองได้

ฉื่อหยานเผยรอยยิ้มชั่วร้าย ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ภายใต้การดูแลอย่างดีจากนักรบระดับสูงทั้งสองเผ่าพันธุ์ เขาเดินอย่างมั่นใจไปที่คัมภีร์และหยิบมันขึ้นมา เขาเหลือบมองและกล่าวว่า " ไม่จำเป็นต้องรบกวนพวกท่านหลอก ข้าสามารถเรียนรู้คัมภีร์เหล่านี้ได้ด้วยตนเอง "

ห้าผู้นำการแสดงออกก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นใบหน้าของเขา

" ฉื่อหยาน เจ้าพูดว่าอะไรนะ " ยู่โหลวส่ายหน้าด้วยความสงสัย " อย่าได้มั่นใจตนเองมากไป . นี่ไม่ใช่เวลาที่จะโอ้อวด คัมภีร์เหล่านี้มาจากบรรพบุรุษของเรา มันน่าจะเป็นหลายหมื่นปีก่อน เจ้าจะรู้เกี่ยวกับพวกมันได้อย่างไร ? "

" สัมพัสเจ็ดพระเจ้า " ฉื่อหยานชี้ไปที่คัมภีร์ ที่อยู่ในมือและ มองไปที่ค้าป้าและถามว่า" ข้าอ่านชื่อถูกต้องหรือไม่ "

คาป้า ดวงตาก็ส่องประกายออกมา สีหน้าของเขาก็แปลกไป แต่เขาก็ยังคงพยักหน้าเบา ๆ " ถูกต้องแล้ว สามคำนั้นอ่านว่า สัมพัสเจ็ดพระเจ้า จริงๆ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะอ่านมันออก "

ตอนนี้ สายตาของห้าผู้นำของชนเผ่าป่าเถื่อนก็แสดงความประหลาดใจ และสงสัยออกมาในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่คิดเลยว่าฉื่อหยานจะอ่านคัมภีร์เหล่านี้ได้

" เอาหละ ในเมื่อทุกอย่างอยู่ที่นี่แล้ว ตอนนี้ข้าสมควรเริ่มต้นฝึกบ่มเพาะได้แล้ว . " ฉื่อหยาน ยื่นมือของเขาออกไปและหยิบสมบัติและคัมภีร์โบราณเหล่านั้นเข้ามา แหวนสายโลหิตที่อยู่บนนิ้วของเขาส่องแสงออกมาหลายครั้ง จากนั้นสิ่งของต่างๆก็หายไปทีละชิ้นโดยแหวนสายโลหิต

" เอ่อ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญ ก็อย่าได้รบกวนข้าเด็ดขาด " ฉื่อหยานยกศีรษะมองห้าผู้นำ

" ได้ ตกลง เจ้าตั้งใจฝึกบ่มเพาะเสียเถอะ ข้าจะเฝ้าอยู่รอบๆเอง เจ้าสามารถบอกข้าได้หากเจ้าต้องการอะไร "จักพรรดิ์นีตระกูลปีกขาวเผยรอยยิ้มที่งดงาม หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาสวยของนางก็มองไปที่หญิงสาวทั้งสามรวมถึงฉาวจื่อหลาน ที่อยู่ไกลออกไปและพูดว่า " ถ้าพวกนางทั้งสามยังไม่เพียงพอ ข้าสามารถหามาเพิ่มให้เจ้าได้ เจ้าสามารถบอกความต้องการของเจ้าได้ ตั่วหลงจับหญิงสาวมนุษย์คนหนึ่งได้ นางชื่อว่าเหอซิงเหมิน ข้าได้บอกตั่วหลงแล้ว อีกสักครู่เขาคงจะพานางมาที่นี่ "

ดูเหมือนว่า ความคิดบางอย่างจะผุดขึ้นมาในความคิดของตี่ฉาน เขาบอกว่า " นางเป็นหญิงสาวที่งดงามมาก นางจะต้องถูกใจเจ้าแน่นอน ดังนั้นเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องผู้หญิง”

" เหอซิงเหมิน ? " ฉื่อหยานสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ดวงตาของเขาก็หันไปมอง " ผู้หญิงที่ผข้าต้องการ คือหญิงบริสุทธิ์เท่านั้น พรหมจรรย์จะทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ถ้าไม่ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะน้อยเป็นอย่างมาก "

" อะไรนะ ? " ตี่ฉานก็ตกใจสักพักก่อนพูดกับยู่โหลว " เราอาจต้องกดดันเรื่องนี้กับตั่วหลง”

"ข้าคิดว่าตั่วหลงจะต้องเสียสละเล็กน้อยเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่ " ยู่โหลวมองฉื่อหยานในขณะที่เผยรอยยิ้มอ่อนออกมา หลังจากบ่นพึมพำกับตัวเอง นางก็ฝืนพยักหน้าหัวของนางและกล่าวว่า " ดังนั้น เราจะไปหารือเรื่องนี้กับตั่วหลง”

" เอ่อ ต้องรบกวนพวกท่านแล้ว  "เวลานี้สีหน้าของฉื่อหยาน ก็ตื่นเต้นและเครียดในเวลาเดียวกัน " มนุษย์ผู้หญิงจะเหมาะมากกว่า ข้าไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นหญิงสาวจากเผ่าของพวกท่านทั้งสองจะให้ผลลัพที่น่าพอใจหรือไม่ นั่นเป็นเหตุผล ข้าหวังว่าหญิงสาวที่ชื่อเหอซิงเหมินจะถูกส่งมาที่นี่โดยเร็ว ด้วยหญิงสาวทั้งสี่คนที่อยู่ในกำมือ ข้าคิดว่าก็คงไม่ต้องการอะไรแล้ว . "

" เจ้าชั่วตัวน้อย . . . " ยู่โหลวส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ นางกล่าวว่า " เอาละ เพื่อสองเผ่าพันธุ์ของเรา เราจะพาหญิงสาวคนนั้นมาที่นี่ในสภาพสมบูรณ์ อย่างที่เจ้าต้องการ " .

"แค๊ก แต๊ก , . ก็ดี . . " ใบหน้าของฉื่อหยานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง จากนั้น เขาก็รีบพูดด้วยสีหน้าร้อนรน " ตอนนี้ข้าต้องฝึกฝนแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ ขอตัว . . . . . . . "

" ไปกันเถอะ " ตี่ฉานโหมกระพือปีกขึ้น ปีกสีดำด้านหลังของเบาสะบัดไปมาจากนั้น ร่างของเขาก็ค่อยๆบินขึ้นไปและหายออกไปจากสายตาอย่างสมบูรณ์

คาป้า หยาเมิง อีเทียนโหมวจ้องฉื่อหยาน สักพักก่อนที่จะจากไปโดยไม่กล่าวอะไร

ยู่โหลว เป็นคนสุดท้ายที่ออกไป นางรอจนกระทั่งพวกเขาทั้งสี่ไปเสียก่อน จากนั้นนางก็พูดกับฉื่อหยาน " เจ้าวายร้ายตัวน้อย เจ้าต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวของเจ้าเอง ถ้าคุเจ้าไม่สามารถทำลายผนึกเพื่อช่วยเผ่าพันธุ์ทั้งสองของเราได้ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถช่วยให้เจ้ารอดได้ "

" ขอบคุณนะ " ฉื่อหยานก็พูดอย่างจริงใจในขณะที่เขามองตรงเข้าไปในดวงตาของยู่โหลว.

" ไม่ต้องขอบคุณหรอก ข้าเพียงทำเพื่อเผ่าพันธุ์ทั้งสองของเราเท่านั้น " ยู่โหลวรำพึงสักครู่ ดวงตาคู่สวย นางกระพริบไปมาและปากของนางเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ดูลึกลับ หลังจากพูดเสร็จ นางก็ค่อยๆหันหลังบินจากไป

ในที่สุด ก็มีเพียงฉื่อหยานที่อยู่ในห้องโถงหิน เขานั่งขัดสมาธลงและ เริ่มทำสมาธิ

หลังจากที่ทั้งสามคน ฉาวจื่อหลาน และอีกสองคน ดูเขาเงียบไปพักหนึ่ง พวกนางก็ค่อยๆเดินออกมาจากห้องหินแต่ยังคงรักษาระยะห่างกับฉื่อหยานไว้ พวกนางมองเขาด้วยสีหน้าสับสน เหมือนกับว่าพวกนางต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถหาพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้นออกมาได้

" เจ้าทั้งสามควรเชื่อฟังข้า ที่นี่ไม่ใช่โลกภายนอก สิ่งใดที่เจ้าเคยทำเมื่ออยู่โลกภายนอก อย่าได้ทำที่นี่เด็ดขาด " ฉื่อหยานหันหลังกลับไปมองรอบ ๆและพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ " อย่าได้รบกวนข้า และทำตามที่ข้าสั่งซะ ทาสหญิงควรปฏิบัตเช่นทาส”

" ทาสหญิง " กู่หลินหลงสีผิวก็เปลี่ยนไป นางหนาวเย็นไปถึงขั่วกระดูก นางจ้องไปที่ฉื่อหยานอย่างดุร้าย พร้อมกับหน้าอกกระเพื่อมไปมาไม่หยุด " เจ้าพูดเรื่องอะไร ? "

กู่หลินหลงก็ขบฟันของนางแน่น นางเหมือนกับเป็นเสื้อตัวเมียที่แยกเขี้ยวเล็บออกมา นางมองไปที่ฉื่อหยานด้วยความโกรธจนอยากจะฉีกร่างของเขาออกเป็นชิ้นๆ

" อย่างที่ข้าเคยบอก เจ้าทั้งสามคนก็เป็นแค่ทาสเท่านั้น ข้าจะเล่นกับพวกเจ้าเมื่อใดก็ได้ตามที่ข้าต้องการ " ฉื่อหยานหันศีรษะไปรอบๆ อย่างเย็นชา เขาเหลือบมองไปที่พวกนางทั้งสาม " ถ้าพวกเจ้าไม่ทำตัวดีๆ ข้าจะสั่งสอนมารยาทเหล่านั้นให้พวกเจ้าเอง "

" เจ้า ! " กู่หลินหลงและซูหยานซิงใบหน้าที่งดงามก็กลายเป็นซีดเซียว พวกนางโกรธจนร่างกายสั่นสะท้าน มันดูราวกับว่าพวกนางพร้อมที่จะแลกชีวิตเพื่อฆ่าฉื่อหยาน

แต่ฉาวจื่อหลาน ไม่แสดงอาการโกรธแต่อย่างใด นางรู้สึกเศร้าซึมเล็กน้อยภายในหัวใจนางเองเท่านั้น นางถอนหายใจยาวออกมา แล้วเดินไปหากู่หลินหลงและซูหยานซิงเพื่อปลอบใจพวกนาง และพูดอย่างหมดหนทาง " เราไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อต้องเผชิญกับไอ้บ้าไร้ความรู้สึกนี้ เจ้าอย่าได้พูดอะไรเลย "

กู่หลินหลงและซูหยานซิงก็ขบฟันแน่นและไม่กล้าที่จะพูดเถียงกับเขาต่อ พวกนางรู้ว่ามันเป็นเรื่องไม่สมควรที่จะรบกวนฉื่อหยานในตอนนี้

ในช่วงไม่กี่วัน เมื่อใดก็ตามที่ฉื่อหยานได้รับรำคาญโดยพวกนาง ทั้งหมดที่เขาทำก็เพียงแค่ลูบคล้ำไปทั่วร่างของพวกนางเท่านั้น

ในช่วงที่ฉื่อหยานรอคอยให้ชนเผ่าป่าเถือนทั้งสองนำสมบัติมาให้เขา เขาก็หลับตานั่งสมาธิ ดูเหมือนว่าเขากำลังทบทวนความลับทั้งหมดในการฝึกบ่มเพาะของเขา สามสาวไม่อาจทำอะไรได้นอกจากพูดดูถูกเขาและพูดสาปแช่ง และผลลัพธ์ก็น่าเศร้า มันมักจะจบลงด้วยการที่ร่างกายของพวกเขาถูกละเมิด

ยกเว้นฉาวจื่อหลาน นางนั้นเรียบร้อยที่สุดตั้งแต่ต้น นางไม่ได้ถูกละเมิดใดๆเลย ทั้งหมดมีเพียงซูหยานซิงและกู่หลินหลงเท่านั้นที่ถุกฉื่อหยานลวนลาม

สองสาวกำลังลำบากใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อใดก็ตามที่พวกนางคิดจะฆ่าตัวตาย พวกนางก็จะปวดหัวเป็นอย่างมากและไม่สามารถทำได้

เมื่อถูกลวนลามหลายครั้ง สองสาวก็ค่อย ๆเริ่มเชื่อฟังมากขึ้น พวกนางไม่กล้ารบกวนฉื่อหยานมากเกินไป พวกนางจะหยุดทันทีหเมื่อพวกนางเห็นว่าฉื่อหยานเริ่มโกรธ

" ข้ากำลังฝึกบ่มเพาะอยู่ หุบปากของพวกเจ้าสะ อย่าได้รบกวนข้า " ฉื่อหยานก็ลุกขึ้นยืน มองไปที่หญิงสาวทั้งสามอย่างมีนัยยะ หลังจากนั้นเขาก็เข้าห้องหินขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านบนขวาของห้องโถง . หลังจากปิดประตู เขาหก็ลับตาลงและเริ่มนั่งสมาธิ

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด